“เวสป้า”ฉลอง 65 ปี เปิดตัวรุ่นพิเศษลิมิเต็ดเอดิชั่น


โฉมหน้าของรุ่นพิเศษ “ซิกตี้ไฟว์ แอนนิเวอร์ซารี่ ลิมิเต็ด เอดิชั่น” สำหรับ “เอส 150 ไออี” (ซ้าย) และ “แอลเอ็กซ์ 150 ไออี” (ขวา)
ข่าวในประเทศ-“เวสป้า” สกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาเลียนฉลองครบรอบ 65 ปี เปิดตัวรถรุ่นพิเศษ “ซิกตี้ไฟว์ แอนนิเวอร์ซารี่ ลิมิเต็ด เอดิชั่น”สำหรับ “เอส 150 ไออี” และ “แอลเอ็กซ์ 150 ไออี” โดยผลิตเพียง 265 คันทั่วโลก ราคา 117,500 บาท และ 114,000 บาท ตามลำดับ และมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมรวบรวมคาราวานเวสป้าและพิอาจิโอครั้งประวัติศาสตร์และยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ในวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามม้านางเลิ้ง

พรนฎา นิวาตวงศ์
พรนฎา นิวาตวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ นำแบรนด์เวสป้ากลับมาทำการตลาดใหม่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สามารถบุกตลาดรถจักรยานยนต์จนมียอดขายเป็นที่น่าพอใจ โดยรถที่ขายดีที่สุดคือ เวสป้า และ พิอาจิโอ ตามลำดับ และล่าสุดเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 65 ปีของแบรนด์เวสป้า จึงได้เปิดตัวรถรุ่นซิกตี้ไฟว์ แอนนิเวอร์ซารี่ ลิมิเต็ด เอดิชั่น (Vespa 65th Anniversary Limited Edition) 2 รุ่น คือ เวสป้า เอส 150 ไออี (Vespa S 150ie) และเวสป้า แอลเอ็กซ์ 150 ไออี (Vespa LX 150ie) โดยทั้ง 2 รุ่นผลิตขึ้นมาเพียง 265 คันทั่วโลก และมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

“จุดเด่นของ 2 รุ่นนี้คือ สีกรีน มัสชิโอ (Green Muschio) ซึ่งเป็นสีเขียวคลาสสิกผลิตขึ้นเป็นพิเศษในคอนเซปต์อาร์ต เท่ เรโทร (Retro) พร้อมชื่อรุ่นที่เป็นเพลทเหล็กลิมิเต็ดเอดิชั่น และสติ๊กเกอร์ 65 ติดอยู่ตรงด้านหน้าและด้านข้าง โดยเพิ่มลูกเล่นด้วยเบาะทูโทนสีครีม-น้ำตาล สำหรับรุ่น แอลเอ็กซ์ 150 ไออี ดีไซน์แบบไฟกลม ราคา 114,000 บาท ผลิตเพียง 150 คัน ซึ่งแตกต่างจากรุ่น เอส 150 ไออี ที่ดีไซน์โฉมใหม่ไฟเหลี่ยมและเบาะสีครีม ราคา 117,500 บาท ผลิตเพียง 115 คัน และคาดว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ จะจำหน่ายหมดภายในสิ้นปี เนื่องจากผลิตมาเอาใจตลาดเดิมของสาวกเวสป้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย”

เอส 150 ไออี ดีไซน์โฉมใหม่ไฟเหลี่ยม ราคา 117,500 บาท ผลิตเพียง 115 คัน
สำหรับ เวสป้า รุ่น เอส 150 ไออี และแอลเอ็กซ์ 150 ไออี ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกัน ขนาด 151 ซีซี สูบเดียว 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเลคทรอนิกส์ สตาร์ทไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยสายพานแบบออโตเมติก มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่กำลังสูงสุด 8.9 กิโลวัตต์ หรือ 11.9 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 11.8 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที สำหรับรุ่น เอส 150 ไออี ส่วนรุ่นแอลเอ็กซ์ 150 ไออี ให้กำลังสูงสุด 8.6 กิโลวัตต์ หรือ 11.5 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 11.2 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที

พรนฎา นิวาตวงศ์ กล่าวว่า ปีนี้ทางบริษัทฯ คาดการณ์ว่าน่าจะปิดยอดขายได้เกิน 4,000 คัน ซึ่งตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วนั้นมาจากการขยายดีลเลอร์ไปตามจังหวัดต่างๆ รวมถึงหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งในขณะนี้มีดีลเลอร์ทั้งหมดจำนวน 42 แห่ง แบ่งออกป็น 18 แห่งในกรุงเทพฯ และอีก 24 แห่งกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ แต่ภายในปีนี้จะเพิ่มให้ได้ครบจำนวน 50 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายวัยทำงาน แบ่งเป็นในต่างจังหวัดประมาณ 65% กรุงเทพฯ 35% โดยพฤติกรรมการใช้รถของกลุ่มลูกค้าค่อนข้างที่จะเปลี่ยนไปจากเดิมที่มีการซื้อเพื่อสะสมและความชอบโดยส่วนตัว แต่ในปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเวสป้าไปใช้ขับขี่จริงมากขึ้น

“ปีนี้ทั่วโลกและอิตาลีได้จัดงานเฉลิมฉลองครบ 65 ปีของเวสป้า ซึ่งก็นับเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่จะได้ร่วมจัดงานเฉลิมฉลองครั้งนี้ด้วย เพราะเวสป้าเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 50 ปี เราจึงต้องการจัดกิจกรรมดีๆ ให้กับสังคมไทย ด้วยแคมเปญฉลองครบรอบ 65 ปี เวสป้า ในวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ณ สนามม้านางเลิ้ง และนับเป็นครั้งแรกที่รวบรวมคาราวานเวสป้าและพิอาจิโอครั้งประวัติศาสตร์และยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียจากคนรักเวสป้าทุกสารทิศ พร้อมร่วมทำกิจกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม สำหรับคนที่ขี่เวสป้าและพิอาจิโอมา เข้างานฟรีทันที และยังมีโอกาสร่วมทำบุญอีกด้วย เพราะบริษัทฯ จะร่วมบริจาคหมวกกันนิรภัยให้กับเด็กและเยาวชนผ่านโครงการของกรุงเทพมหานคร ในปริมาณเท่ากับจำนวนรถเวสป้าและพิอาจิโอที่เข้าร่วมงาน นอกจากนี้สำหรับบุคคลทั่วไปสามารถซื้อบัตรได้จากหน้างาน ในราคา 200 บาท โดยรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะนำไปซื้อหมวกนิรภัยมอบเป็นการกุศลให้กับเด็กและเยาวชนต่อไป” พรนฎา กล่าวปิดท้าย

แอลเอ็กซ์ 150 ไออี ดีไซน์แบบไฟกลม ราคา 114,00 บาท ผลิตเพียง 150 คัน




แคมเปญฉลองครบรอบ 65 ปี เวสป้า เจอกันแน่ในวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามม้านางเลิ้ง



0 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม