Toyota FT-86 II Concept

Toyota FT-86 II Concept นี่ คือภาพของความหวังของคนกระเป๋าไม่หนาแต่อยากขับรถสปอร์ตทรงซุปเปอร์คาร์ มันคือ Toyota FT-86 II Concept ที่ไปอวดโฉมในงาน Frankfurt Motor Show ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดของรถรุ่นนี้เราได้นำเสนอไปหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้เหลือลุ้นอย่างเดียวว่า Toyota ยังจะยืนยันราคาที่เคยประกาศในญี่ปุ่นเมื่อหลายเดือนก่อนที่ 2.5 ล้านเยนหรือประมาณ 8 แสนบาทในตอนที่ขายจริงๆหรือไม่ เพราะต่อให้นำเข้ามาในไทยที่ต้องบวกภาษีไปอีกประมาณ 3 เท่าตัวก็ยังถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจของคนกระเป๋าหนักปานกลางอยู่ดี!

Toyota FT-86 II Concept  รูปที่ 1

Toyota FT-86 II Concept  รูปที่ 2

Toyota FT-86 II Concept  รูปที่ 3

Toyota FT-86 II Concept  รูปที่ 4

Toyota FT-86 II Concept  รูปที่ 5

ขอบคุณเนื้อหาจากToyota FT-86 II Concept  รูปที่ 6

เซลส์ขายรถเก่า2


__fwdDer.com__-134457658-2_Vintage_Car-Pre_1940.jpg


__fwdDer.com__-134457682-35RCALNFTQGCAC2JMNDCAXCY5PNCAOPU2MBCA4O7ZBICAANZ2L5CAJZZGNHCAKWPB3WCAGAAI82CAPP9Q03CAR42STACAGQOZ9GCASWSVRPCA6X7D11CACOM4CJCAU5IVD4CA55JZZHCARQ2BC1CALUWZKG.jpg


__fwdDer.com__-134457684-103_9593.jpg


__fwdDer.com__-134457689-classic_cars2_010.jpg


__fwdDer.com__-134457708-COPY_O~1.JPG


__fwdDer.com__-134457727-dsc_0225.jpg


__fwdDer.com__-134457776-Image(196).jpg


__fwdDer.com__-134457795-qwb_image2352550123740.jpg

Chevrolet Camaro ZL-1 สปอร์ตคาร์ตัวจี๊ดมาพร้อม 580 ม้า

ถ้าถามถึงรถยนต์อเมริกันคลาสสิคคาร์ รถรุ่นหนึ่งที่ต้องติดโผในกลุ่มรถสปอร์ตคาร์ชั้นนำน้นคงไม่พ้น Chevrolet Camaro ที่ล่าสุดเพิ่งจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในกลุ่มสปอร์ตคาร์ในปัจจุบันในอเมริกากัน

Chevrolet Camaro ZL-1 นั้น เป็นรถสปอร์ตใหม่ล่าสุดจากค่าย Chevrolet ใต้ปี General motor ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เราหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาพอสมควรในภาพยนต์เรื่อง Transformer ที่ครั้งนี้ เป็นการเปิดตัวเตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายปีนี้

Chevrolet Camaro ZL-1

เรือนร่างของ Chevrolet Camaro ยุคใหม่อบอวนด้วยความสปอร์ตที่ครังนี้ ZL-1 ถูกจับแต่งหน้าทาปากให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เรือนร่างคล้ายกับบรรพบุรุษแต่ดูมีเสน่ห์แบบรถปัจจุบัน ตั้งแต่ใบหน้าที่มีพร้อมความสปอร์ตและสัญลักษณ์โบว์ไทน์ ลงตัวด้วยเรือนร่าง 2 ประตู และบั้นท้ายที่ลงตัวแบบทันสมัยควบไฟท้าย LED

ใต้ฝากระโปรง Chevrolet Camaro ZL-1 ยังมาพร้อมความดุดันสไตล์อเมริกันกับเครื่องยนต์ V8 6.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 580 แรงม้า เรียกแรงบิดได้มากถึง 754 นิวตันเมตร ที่ให้พละกำลังมากสุดของตระกูล Camaro ที่ครั้งนี้มันสามารถเทียบชั้นซุปเปอร์คาร์ชั้นนำ Ferrari หรือ จะเป็น Aston martin ได้

เคล็ดลับความแรงนั้นมาจากซุปเปอร์ชาร์จเจอร์แบบ root type ขนาด 1.9 ลิตร พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดย่อมให้เครื่องยนต์ V8 อลูมิเนียมบล็อคมีกำลังมากขึ้นเช่นเดียวกับระบบปั้มพวงมาลัยพาวเวอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่กินกำลังเครื่องยนต์น้อยกว่าให้สมรรถนะการขับขี่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเกียร์แบบใหม่ที่ทำงานได้ดีและตอบสนองได้ว่องไวมากยิ่งขึ้นด้วย

Chevrolet Camaro ZL-1

ในระบบเกียร์ธรรมดา Chevrolet Camaro ZL-1 เลือกใช้เกียร์รหัส Tremac TR6060 "MG9"ให้การส่งแรงบิดนั้นดีขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับ Camaro SS ซึ่งมาจากการพัฒนาราวเกียร์ให้แข็งแกร่งขึ้นมาพร้อมซิงโครเมด 3 ตัวต่อหนึ่งอัตราทด คลัทช์ 2 แผ่น และฟลายวีลแบบ Dual -Mass ช่วยให้เข้าเกียร์ได้นิ่มนวลแต่ยังแรงเหมือนเดิม

ด้านระบบเกียร์อัตโนมัติ GM เลือกระบบเกียร์ Hydra-Matic 6L90 มาจับฝูงม้าที่ครั้งนี้ให้สมรรถนะดีขึ้นทั้งบนถนนและในสนามแข่ง มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ที่ตอบสนองได้อย่างทันใจ ในโหมดแรก Drive นั้น ระบบเกียร์ใหม่ล่าสุดนี้สามารถตอบสนองได้ในหลากความสามารถทั้งการออกตัวเกียร์ 2 เพื่อสมรรถนะความประหยัดมาที่สุดให้การขับขี่ที่ลื่นไหล ในขณะที่ sport นั้นให้การขับขี่ที่สนุกสนานยิ่งขึ้นเน้นการให้สมรรถนะเต็มอารมณ์ทุกการขับขี่ และท้ายสุด Manual ชีวิตเลือกเองได้ให้อารมณ์แบบเดียวกับระบบเกียร์ธรรมดา

นอกจากนี้ Chevrolet Camaro ZL-1 ยังมาพร้อมลงสนามด้วยระบบหล่อเย็นน้ำมันเครื่องและเฟืองท้ายจากโรงงาน ที่ยังมีระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงสมรรถนะสูง ช่วยให้เข้าโค้งมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นในทุกสภาวะการขับขี่

Chevrolet Camaro ZL-1

เรื่องระบบกันสะเทือนก็นับเป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับรถสปอร์ต และครั้งนี้ Chevrolet ได้แนะนำระบบ Magnetic Ride Control หรือ MRC มารับการซับแรงกระแทกเพิ่มการทรงตัวของรถ ด้วย Magnetic Rheological fluid นำโมเลกุลเหล็กมาสังเคราะห์มาสกัดเป็นของเหลวและบรรจุอยู่ในโช๊คทุกตัวควบคุมด้วย Coilภายในที่สามารถทำโช็คซับแรงกระแทกได้ดีทุกสภาวะถนน และสามารถรับได้สูงสุด 1000 ครั้ง / วินาที

ไม่เพียงเท่านี้ Chevrolet Camaro ZL-1 ยังมาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัวสมรรถนะสูง Performance Traction Management (PTM) เอกสิทธิ์หนึ่งเดียวของ General Motor ซึ่งจะทำงานร่วมกับ Magnetic Ride Control ,Launch Control Traction Control และระบบควบคุมการทรงตัว ให้สามารถขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาวะถนน ไม่ว่าจะบนทางหลวงหรือในสนมแข่งขันก็สามารถมั่นใจได้

ทั้งนี้ Chevrolet Camaro ZL-1 เป็นหนึ่งในสปอร์ตคาร์ยุคใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมาอย่างเป็นทางการจาก Chevrolet แต่เชื่อว่าจะวางจำหน่ายก่อนสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน




10 อันดับสุดยอดรถยนต์จากงาน Frankfurt motor show 2011

ไม่ว่าเศรษฐกิจยุโรปจะง่อนแง่นอย่างไร แต่งานมอเตอร์โชว์แห่งนครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในงาน Motor show ที่มีชื่ออันดับต้นๆ ของโลก ก็ยังมีมนต์ขลังเสมอ ค่ายรถยนต์ใหญ่น้อยต่างนำรถยนต์ของตนเข้าร่วมเปิดตัวกันงานอย่างคับคั่ง ส่งผลให้บรรยากาศภายในงานคึกคักสวนกระแสสภาพเศรษฐกิจยุโรปไปด้วยรถยนต์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ



10. BMW M5 2012
ด้วย ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว บวกกับความแรงของเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4400 ซีซี รีดความแรงออกมาได้ถึง 560 แรงม้า ที่ 6,000-7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 69.3 กิโลกรัม-เมตร ที่ 1,500-5,750 รอบต่อนาที ทำอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาแค่ 4.4 วินาที แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ รถยนต์ BMW M5 2012 ติดอันดับเข้ามาอย่างไม่ยากเย็น




9. Ford Evos Concept 2012
ด้วย ความสวยที่ออกไปในแนวรถสปอร์ตมากยิ่งขึ้น และการออกแบบที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ที่จะเป็นต้นแบบให้กับรถในยุคใหม่ของฟอร์ด และที่สำคัญทาง ford บอกว่าอาจจะสามารถผลิตรถรุ่นนี้วางจำหน่ายในตลาดจริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ยิ่งทำให้ Ford Evos Concept ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก




8. Mazda CX-5
ทาง มาสด้าออกรถคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นนี้เพื่อมาแทน Mazda Tribute จุดเด่นของ Mazda CX-5 คือ ใช้เครื่องยนต์ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Skyactiv ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ่นกว่าเดิม มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน จะเป็นขนาด 4 สูบ 2000 ซีซี 165 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซลมีให้เลือกสองขนาดความแรง คือ 150 แรงม้า กับ 170 แรงม้า นอกจากนี้ Mazda CX-5 ยังถูกออกแบบตามแนวทาง KODO ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบใหม่ของทางมาสด้าอีกด้วย




7. Volkswagen Polo R WRC
เป็น หนึ่งในรถรุ่นใหม่ที่ทาง Volkswagen ขนมาโชว์ตัวที่งานนี้ ด้วยความที่เป็นรถแข่งแรลลี่ World Rally Championship ที่มีสนามโหดๆ อย่าง Dalar Rally และมีกำลังขนาด 300 แรงม้าที่มาพร้อมกับเทอร์โบขนาด 1.6 ลิตร ทำให้ Volkswagen Polo R WRC รุ่นใหม่นี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ชมงาน




6.Lamborghini Gallardo Super Trofeo Stradale
รถ สปอร์ตพันธุ์ดุคันนี้ ผลิตในจำนวนจำกัดแค่เพียง 150 คันเท่านั้น และถือเป็นรถรุ่นปรับโฉมสุดท้ายของซีรีย์ Gallardo แล้ว โดยมีข่าวลือว่าทาง Lamborghini จะผลิต Lamborghini Cabrera ออกมาแทน สำหรับรถ Lamborghini Gallardo Super Trofeo Stradale คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V10 ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังขนาด 570 แรงม้า ทำอัตตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาแค่ 3.4 วินาที




5.BMW i3 & BMW i8 Concepts
อันดับ นี้มากันเป็นคู่ ทางค่าย BMW เผยให้เห็นถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งจะเริ่มผลิตออกมาจำหน่ายในปี 2013 ผ่านรถยนต์สองคันนี้ เริ่มที่ BMW i3 เป็นรถกระทัดรัดแต่ภายในกว้างขวาง ออกแบบสวยเหมาะกับการขับขี่ในเมือง ให้กำลัง 170 แรงม้า ทำอัตตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 8 วินาที ใช้เวลาเติมพลังงานได้ถึง 80% ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ส่วน BMW i8 เป็นรถที่ไม่สูงนักและมีฐานที่กว้าง ออกแบบใด้เฉียบล้ำหน้ากว่าค่ายรถยนต์รายอื่นๆ ให้กำลัง 223 แรงม้า ทำอัตตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 5 วินาที กินน้ำมันเพียง 2.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเท่านั้น




4.Mercedes-Benz C63 AMG Black Series Coupe
Mercedes-Benz ได้ติดตั้งชุดแต่งที่เรียกว่า AMG Track และ AMG Aerodynamic เสริมเข้ามา ทำให้เจ้า Mercedes C63 AMG Black Series Coupe มีหน้าตาที่สวยดุดันและสปอร์ตมากยิ่งขึ้นจนดูเด่นสะดุดตาขึ้นมาทันที สำหรับขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6200 ซีซี ให้พละกำลัง 510 แรงม้า สามารถทำอัตตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 4.1 วินาที




3.Kia GT Concept
Kia GT Concept มาในมาดรถสปอร์ตซาลูนสไตล์คูเป้ 4 ประตู 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อนล้อหลัง เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบขนาด 3300 ซีซี ให้ความแรง 395 แรงม้า มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ด้วยความเฉียบคมของการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน และขุมพลังที่ลงตัวทำให้ Kia GT Concept ขึ้นมายืนอยู่ที่อันดับที่ 3 เลยทีเดียว




2.Jaguar C-X16 Concept
Jaguar C-X16 Concept เป็นรถสปอร์ตคูเป้ขนาด 2 ที่นั่งสุดหรู ระบบไฮบริด Push to Pass ที่สามารถควบคุมการใช้งานผ่านการกดปุ่มบนพวงมาลัย ขับเคลื่อนล้อหลัง ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 3000 ซีซีพร้อมซูเปอร์ชาร์จ ให้กำลังสูงสุดที่ 375 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร สามารถทำอัตตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 4.3 วินาที ถือเป็นคู่แข่งของ คู่แข่ง Porsche Cayman ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งครับ




1.Porsche 911 Carrera S 2012
มา ถึงอันดับหนึ่งกันแล้วนะครับ ซึ่งอันดับนี้ตกเป็นของรถสปอร์ตชาติเจ้าภาพ อย่างเจ้ารถ Porsche 911 Carrera S 2012 รถสปอร์ตแรง ทันสมัย ที่ยังแผงความคลาสสิก สนนราคาประมาณ 14 ล้านบาท ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3800 ซีซี รีดพลังออกมาได้สูงสุดถึง 400 แรงม้า หากติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่าง Sport Plus Package สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาแค่ 4.1 วินาทีเท่านั้น แต่เห็นแรงๆ อย่างนี้ ทางปอร์เช่ได้ปรับแต่งให้มีอัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงไปกว่าเดิมถึง 14% เลยทีเดียว



ที่มา
http://www.toptenthailand.com/

เปิดตัว… Toyota Avensis 2012 ไมเนอร์เชนจ์

Toyota ได้เปิดตัวรถยนต์ Toyota Avensis รุ่นปี 2012 ไมเนอร์เชนจ์ ที่งานแฟรงค์เฟิร์ท มอเตอร์โชว์ 2011 (Frankfurt Motor Show 2011) โดย Avensis รุ่นล่าสุดนี้มีมิติของตัวเท่ากับรุ่นก่อน ใน 2 สไตล์ตัวถังคือ ซีดาน และวากอน ซึ่งทาง Toyota ได้เผยว่ารูปลักษณ์ และเส้นสายของตัวรถจะดูบึกบึนและมีความประณีตมากขึ้นกว่าเดิม

Toyota Avensisa 2012 ไมเนอร์เชนจ์

Toyota Avensisa 2012 ไมเนอร์เชนจ์

โดยแว้บแรกที่เห็นอาจจะทำให้หลายๆ คนนึกถึงการนำเอาด้านหน้าโดยเฉพาะเค้าโครงไฟคู่หน้า และด้านข้างของ Chevrolet Cruze มาผสมเข้ากับบั้นท้าย/ไฟท้ายของ BMW 7-Series แต่เส้นสายแบบนี้มีมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว ซึ่ง Toyota ยืนยันว่าดีไซน์ในส่วนของด้านหน้าถือว่าเป็นรูปโฉมใหม่ของรถในตระกูลนี้ โดยไฟหน้าถูกปรับให้แคบลงโดยมาพร้อมกับไฟวิ่ง Daytime LED ส่วนแผงกระจังหน้าชั้นล่างมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้รถดูมีความดุดันมากขึ้น ส่วนล้อมีให้เลือกทั้งล้อเหล็ก 16 นิ้ว หรือล้ออัลลอยขนาด 17-18 นิ้ว

ด้านหลัง Toyota Avensisa 2012 ไมเนอร์เชนจ์

ด้านหลัง Toyota Avensisa 2012 ไมเนอร์เชนจ์

ด้านขุมกำลัง โตโยต้า อเวนซิส 2012 ใหม่นี้ จะมีให้เลือกระหว่างเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น และเครื่องยนต์เบนซิน 1 รุ่น โดยเครื่องยนต์ดีเซล D-4D ขนาดความจุ 2.0 ลิตร ที่มี 2 ระดับกำลังคือ รุ่น 122 แรงม้า (91 กิโลวัตต์) และรุ่น 146 แรงม้า (109 กิโลวัตต์) โดยรุ่นแรกมีอัตราการปล่อยไอเสีย CO2 อยู่ที่ระดับ 119 กรัม/กิโลเมตร น้อยกว่าเครื่องยนต์รุ่นก่อนถึง 20 กรัม/กิโลเมตร โดยเครื่องทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีดซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับเครื่องยนต์เบนซินจะเป็ย Valvematic 1.8 ลิตร สามารถเรียกแรงม้าได้ที่ 143 ตัว (107 กิโลวัตต์)

ภายใน Toyota Avensisa 2012 ไมเนอร์เชนจ์

ภายใน Toyota Avensisa 2012 ไมเนอร์เชนจ์

ด้านภายในห้องโดยสารได้รับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยเฉพาะในส่วนของคอนโซลกลางที่ทำให้การเข้าเกียร์ทำได้ง่ายขึ้น ไฟแบ็คไลท์ของปุ่มควบคุมอุปกรณ์ภายในได้กลายเป็นสีขาวจากเดิมที่เป็นสีแดง ห้องโดยสารได้รับการบุด้วยหนัง และวัสดุที่มีคุณภาพสูงขึ้นในจุดที่มีการใช้งาน หรือถูกสัมผัสมากเป็นพิเศษเช่น มือจับประตู หัวเกียร์ และคอนโซลกลาง

เบาะนั่ง Toyota Avensisa 2012 ไมเนอร์เชนจ์

เบาะนั่ง Toyota Avensisa 2012 ไมเนอร์เชนจ์

ด้านสิ่งที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่างสำหรับ Avensis ตัวใหม่นี้ก็คือ ระบบมัลติมีเดียชุดใหม่ที่มี 3 เวอร์ชั่นคือ Touch, Touch & Go และ Touch & Go Plus โดยทุกเวอร์ชั่นจะใช้จอแสดงผลระบบสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว รองรับ Bluetooth มีกล้องช่วยมองหลัง ระบบแสดงข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ ระบบวิทยุ ระบบแสดงสถานะรถยนต์

ซึ่งระบบเหล่านี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดย 2 เวอร์ชั่นหลังจะมีฟังค์ชั่นพิเศษเพิ่มเข้ามาเช่น ระบบแผนที่นำทาง ระบบแจ้งเตือนระดับความเร็วรถ ระบบ SMS ชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 11 จุด เป็นต้น

อย่าพลาดติดตามอัลบั้มรูปรถยนต์เด่น พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ

เปิดตัว Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

กลับมาอีกครั้ง สำหรับข่าวสารวงการรถยนต์ คราวนี้ทาง Thaicarlover.com เอาใจคนที่ชื่นชอบรถยนต์จากค่ายมะกันอย่าง Ford กันบ้างครับ
ซึ่งล่าสุดทาง Thaicarlover.com ได้ข่าวมาว่า

Ford ได้เปิดตัวรถตระกูล Focus ST อย่างเป็นทางการที่ Frankfurt เยอรมันนี ซึ่งรถรุ่นนี้เป็นรุ่น production ของ Concept Car ที่เคยอวดโฉมมาแล้วก่อนหน้านี้ มาพร้อมชุดแต่งตัวถังแบบแอโรไดนามิก ระบบกันสะเทือนสไตล์สปอร์ตโหลดเตี้ย และล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Goodyear Eagle F1 โดยจะมีสไตล์ตัวถังทั้งแบบ แฮทช์แบ็ค 5 ประตู และวากอน (เฉพาะในยุโรป)

Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

ด้านภายในห้องโดยสาร Ford เลือกใช้ที่นั่งสไตล์สปอร์ตของ Recaro แป้นเหยียบคันเร่งอลูมิเนียมและตกแต่งด้วยวัสดุสีเมทัลลิก โดยมีอ็อปชั่นเสริมเป็นเบาะหนังพร้อมระบบทำความอุ่น ระบบควบคุมอุณหภูมิภายในแบบ Dual Zone และไฟหน้าไบซีนอน

ภายใน Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

ภายใน Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

ด้านขุมพลังของ Ford ST จะเป็นเครื่องยนต์ EcoBoost 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร รีดแรงม้าออกมาได้ 247 ตัว ทำแรงบิดสูงสุดได้ที่ 360 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังนั้นเป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะซึ่งรับประกันความแรงด้วยการ “พุ่ง” ในทุกครั้งที่เข้าเกียร์และเหยียบคันเร่ง

ด้านหลัง Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

ด้านหลัง Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ที่น่าสนใจอื่นๆ อีก เช่น ระบบ Torque Steer Compensation ที่ช่วยลดอาการแหกโค้ง ระบบ Torque Vectoring Control ที่ช่วยทำให้เข้าโค้งได้ดีขึ้น และ ระบบ Electronic Stability Program ซึ่งจะช่วยควบคุมการทรงตัวของรถได้โดยมี 3 โหมดการทำงานให้เลือก

พวงมาลัย Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

พวงมาลัย Ford Focus ST 2012 เวอร์ชั่นสปอร์ต

โดยงานนี้ Ford จะทำตลาด Ford Focus ST ใน 40 ประเทศทั่วโลก

แฟนๆ Ford Focus ST 2012 ในบ้านเราคงจะต้องอดใจเอาไว้รอดูภาพคันจริงแบบเต็มๆ ก่อน แต่ก็ไม่แน่ที่อาจจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้ ซึ่งอันนี้แฟนๆ ฟอร์ด โฟกัส ในบ้านเราคงต้องติดตามกันต่อไปครับ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม