ไก่เลมอน


ส่วนผสม

- อกไก่สับ 150 กรัม
- เนื้อกุ้งสับ 50 กรัม
- มันหมูสับ 50 กรัม
- แห้วสับ 30 กรัม
- รากผักชีสับ 3-4 ราก
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1 ช้อนชา
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- เผือกซอยเส้น 30 กรัม
- ซวงเจียว( พริกหอม) คั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย


วิธีทำ


- นำเครื่องปรุงทั้งหมดมาคลุกเคล้า ตีปั่นและนวดให้เข้ากัน นำไปใส่ลงในแม่พิมพ์สีเหลี่ยมแล้วนำไปนึ่งให้สุก
- จากนั้น นำมาทอดให้พอกรอบพักให้เย็นก่อนหั่นเป็นชิ้นๆ จัดใส่จานราดด้วยน้ำสลัดเลมอน เสิร์ฟพร้อมผักคะน้าซอยฝอยทอดกรอบ

แต่งห้องทำงาน เก๋ๆ The Pallet Project








แฉซัมซุงก๊อปรูปหน้าจอ iPhone ไปใช้โฆษณา Galaxy Player

เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อนาย Jeremy Phillippe (@raruler) ได้ทวิตข้อความฟ้องบล็อกเกอร์คนเดิมนาย John Gruber ว่ารูปแผนที่ที่ใช้ในโฆษณา Galaxy Player 50 นั้นดูละม้ายคล้ายคลึงกับแผนที่บน iPhone อยู่พิกล

จากนั้นนาย Gruber ก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจนพบว่าภาพนี้เป็นภาพที่จับจากหน้าจอ iPhone ของ Laura Scott (รูปใน flickr) ซึ่งเธออัพโหลดไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2008 (iPhone 3G) และภาพแผนที่ดังกล่าวก็มาปรากฏซ้ำในโฆษณา Galaxy Player 50 นี้ในตำแหน่งที่เหมือนกันราวกับแกะ


เมื่อ เดือนที่แล้วซัมซุงก็เพิ่งมีคดีเอาโลโก้ App Store ไปแต่งซุ้มในร้านมา งานนี้คงไม่อาจโทษซัมซุงได้เสียทีเดียว แต่เป็นความผิดพลาดของทีมทำแผนโฆษณามากกว่า

ข้อมูลจาก : blognone.com

อาการเจ็บตัวจากเซ็กซ์ที่ประมาทและพลาด



แม้สุดท้ายของเซ็กซ์คือความสุขสุดยอดที่ทุกคนใคร่ปรารถนา แต่ระหว่างกลางทางรักก็อาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันมาขวางทางความสุข ที่ทำเอาคุณเจ็บตัวปวดกายเสียก่อน จนเซ็กซ์ที่ควรมีความสุขกลับกลายและจบลงกลางคันแบบไม่มีใครถึงไคลแมกซ์

รอยถลอกจากการเสียดสี

การเสียดสีเป็นสาเหตุธรรมดาประการหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยแผลขึ้น ที่ผิวหนังบริเวณท่อนซุงความเป็นชาย ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมแดง ผื่นคันหรือรอยถลอก การเจ็บปวดบริเวณอาวุธประจำกายแบบนี้อาจเป็นที่ขบขันของคนอื่นๆ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะหัวเราะไม่ออก อันที่จริงผิวหนังที่ปกคลุมอยู่ทั้งร่างกายนั้นเราเคยคิดว่าบริเวณที่บอบบาง ที่สุดคือหนังตา แต่จริงๆ แล้วคือที่ผิวหุ้มความเป็นชาย และผิวบริเวณอวัยวะเพศสตรี รอยแผลที่เกิดขึ้นที่อวัยวะเพศยังเป็นอันตรายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ เกิดจากการร่วมเพศ อาการเจ็บป่วยของอาวุธประจำตัวยังเกิดจากการจับต้อง ถู หรือกระตุ้นอามณ์ตนเองเป็นเวลานานๆ ซ้ำๆ ถ้ามีการร่วมรักเป็นเวลานาน ผิวหนังบริเวณความเป็นชายจะบาง บวม เพราะเนื้อเยื่อบริเวณนี้ขยายตัว จะมีสีแดงคล้ำและมีอาการคันร่วมด้วย เนื่องจากการใช้งานมากเกินไป อาการเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง

หากคุณเป็นคนที่ชอบร่วมรักแต่ละครั้งเป็นเวลานานๆ ครั้งต่อไปควรทาเจลป้องกันไว้ก่อน เพื่อลดการเสียดสีโดยไม่มีน้ำน้ำหล่อลื่น เนื่องจากการร่วมรักของคนเราไม่ได้ใช้เพียงอวัยวะเพศเพียงอย่างเดียว ส่วนประกอบในการสร้างอารมณ์ยังมีอวัยวะอื่นๆ ร่วมด้วย

รับเชื้อจากการบอกรักทางปาก

ปากก็เป็นอวัยวะที่ให้ความรู้สึกแก่คนทั้ง 2 ฝ่ายอย่างมาก โอกาสที่จะติดโรคทางปากมีมากมาย ยิ่งถ้าเป็นแผลในปากซึ่งอาจเป็นแค่แผลร้อนใน การได้รับน้ำลายของฝ่ายตรงข้ามก็อาจเป็นการแลกเชื้อโรคซึ่งกันและกัน นอกจากนั้นการร่วมรักของคนเรายังใช้ปากกับอวัยวะอื่นๆ บางครั้งใช้น้ำลายช่วยให้เกิดการหล่อลื่นที่อวัยวะเพศ การทำรักด้วยปากและลิ้นที่อวัยวะเพศของอีกฝ่ายล้วนเป็นการแพร่เชื้อได้ทั้ง สิ้น นอกจากเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำลายของอีกฝ่ายจะแพร่ไปยังอีกฝ่ายหนึ่งด้วยการจูบ กันแล้ว ยังสามารถรับเชื้อโณคจากอวัยวะเพศของอีกฝ่าย หากมีรอยแผลหรือการอักเสบในช่องปากและลิ้น โดยเฉพาะจากการทำรักนั้นใช้ปากกับอวัยวะเพศหรือช่องทวารหนักของอีกฝ่าย เชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายเหลือเกิน
การใช้ลิ้นของฝ่ายชายเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้หญิงด้วยการชอนไชกับกลีบเนื้อ ของเธอ ทางแพทย์เห็นว่าเป็นการเสี่ยงต่อการเกิดโรค ในขณะที่ความพยายามนั้นอาจใช้เวลา แน่นอนการปวดเมื่อยและเสียดสีที่ลิ้นย่อมเกิดขึ้นด้วย การแก้ไขอาการปวดเมื่อยที่ลิ้นคงทำลำบาก นอกจากใช้เวลาให้มันผ่อนคลายด้วยตัวของมันเอง แต่คุณผู้ชายสามารถให้เธอถึงสวรรค์ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อโรคอย่างนั้น หากใช้นิ้วหรืออวัยวะเพศของคุณผู้ชายเองบรรเลงเพลงรักให้เธอ

บาดแผลที่เกิดจากการสัมผัสมือ

มือก็เป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่ใช้ในการร่วมรัก และเกิดการเมื่อยปวดได้ นิ้วทั้ง 5 ของคุณหากต้องสาละวนอยู่กับการช่วยตัวเอง โดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ บางครั้งเล็บของคุณอาจเกี่ยวเข้ากับผิวหนังหรืออวัยวะสำคัญของฝ่ายตรงข้ามก็ เกิดบาดแผลได้เหมือนกัน

เหน็บชาที่เกิดจากการทำท่ารักนานๆ

การร่วมเพศแบบปกติธรรมดาอาจทำให้กล้ามเนื้อขาเป็นเหน็บ โดยเฉพาะบริเวณขา ผู้ชายบางคนสารภาพว่าขาของพวกเขาเป็นเหน็บทุกครั้งหลังจากการหลับนอน อาการอย่างนี้เกิดขึ้นเพราะการบีบเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก เมื่อฝ่ายชายนอนเหยียดอยู่เหนือร่างของฝ่ายหญิง กล้ามเนื้อจะเกิดอาการกระตุกเพราะการเหยียดเกร็งเกินไป อาการเหน็บชาที่เกิดจากการร่วมเพศเกิดได้ทั้งชายและหญิง และถือเป็นเหตุการณ์ธรรมดาๆ กล้ามเนื้อบริเวณเชิงกรานจะใช้มากกว่าปกติ แต่ในผู้ชายเนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่ได้ใช้มากเท่าผู้หญิง จึงเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกและก้นมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในขณะหลั่งน้ำรักออกมา

อาการเช่นนี้แก้ได้ด้วยการออกกำลังกายให้มากขึ้นเพื่อให้กล้ามเนื้อสะโพก แข็งแรง นอกจากนี้สะโพกยังเกร็งจากการใช้งานประจำวันไม่ว่าจะเป็นการยืนหรือนั่งใน ท่าเดียวมากเกินไป และหากไม่มีการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว มันจะยืดขยายมากเกินไปเมื่อต้องมาเกร็งในการร่วมรัก

นอก จากนี้ยังเคยพบผู้ป่วยที่ขาดออกซิเจนในเลือด อันเกิดจากการที่เขาทำมาสเตอร์เบทบ่อยๆ อาการตื่นเต้นเมื่อเล่นกับตนเองจะเป็นภัยแก่หัวใจหากออกซิเจนไม่เพียงพอ และยังเกิดอันตรายแก่อวัยวะเพศที่ต้องการเลือดไปหล่อเลี้ยงมากกว่าปกติ ในช่วงเวลาที่อารมณ์ถึงขีดสุดอีกด้วย การร่วมเพศในท่าแปลกๆ พิสดารอาจเป็นทางเลือกเพื่อหลีกหนีความซ้ำซากจำเจ แต่ท่าที่ดีคือท่ามิชชันนารีที่ผู้ชายอยู่บนร่างผู้หญิง และการพักผ่อนให้เพียงพอหลังจากกิจกรรมทางเพศเป็นเรื่องจำเป็น โดยปกติแล้วอาการปวดเมื่อยจะหายไปได้เองโดยใช้เวลา และออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ก็จะทำให้ชีวิตเซ็กซ์ของคุณยืนยาวต่อไป อย่าลืมว่าการดูแลเอาใจใส่ร่างกายและจิตใจ รวมทั้งการประพฤติในทางสายกลาง ไม่หักโหม ก็จะไม่เกิดอันตรายใดๆ แก่คุณและคนที่คุณรัก











ที่มา ... Live

อยากให้คนเหลียวมองต้องกล้าลงสีสัน



อยาก สวยให้คนเหลียวมองต้องกล้าลงสีสันให้สวยเริ่ด ... ใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกแต่งตาสีอะไร ปัดแก้มสีอะไร ทาปากสีอะไรในซีซั่นนี้ดี หรือรู้สึกว่าอยากสวยเด่นมากกว่านี้ ลองเลือกเติมเต็มลุคของคุณให้เพอร์เฟ็กต์กว่านี้ด้วยสีสันที่กำลังอินเทรนด์ ดูสิ

Electric eyes

หากสาวคนไหนที่ต้องการความโดดเด่นให้ดวงตา เมคอัพอาร์ติสต์ ชื่อดัง อย่าง Romy Soleimani มีผลงานให้กับแบรนด์ดังต่าง ๆ มากมาย แนะนำว่า Lime green หรือสีเขียวมะนาวเป็นสีที่สร้างความน่ารักให้กับผู้หญิงได้อย่างน่าประหลาด ใจ เพราะมันดูไม่เป็นสีนีออนที่เรืองแสง หรือเป็นสีที่เปรี้ยวฉูดฉาดจนเกินไป เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการลุคที่สดใส ร่าเริง บวกกับความเปี้ยวเก๋ แต่บางครั้งอาจมีหนักมือกับอายแชโดว์จนเกินไป เลยทำให้ได้ตาที่เขียวเหมือนนกแก้วแทนที่จะได้ดวงตาที่แสนจะสดใส ก่อนที่จะลงอายแชโดว์ ควรทา loose powder ที่เปลือกตาก่อน เพราะ Loose powder เป็นเหมือนเบสที่ดีเลยทีเดียวและก็จะทำให้อายแชโดว์ติดทนนานยิ่งขึ้น

Roes-gold cheeks

สำหรับสาวที่ชอบผิว (แต่งหน้า) ที่ดูมีสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ Rose-gold เป็นสีที่มาแรงที่จะทำให้ผู้หญิงดูสวยเพอร์เฟ็กต์แบบเป็นธรรมชาติ เพียงแค่ปัดแก้มด้วยสี Rose-gold เรายังสามารถใช้สีนี้เพิ่มไฮไลท์ให้ใบหน้าและช่วยให้ดูไบรท์อีกด้วย เพราะสีนี้เป็นสีที่ช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้น โดยปัดแก้มเบา ๆ ให้ทั่วใครที่อยากให้ใบหน้าดูเรียวยาว ให้ปัดที่บริเวณโหนกคิ้วเล็กน้อย ก็จะทำให้ใบหน้าดูยาวขึ้นสมใจ

Peach Lip

ลิปสติกสามารถเติมเต็มใบหน้าที่ดูซีดให้ดูสดใส และแลดูสุขภาพดีขึ้น ลิปสติกเฉดสีนี้ดูเริ่ดเหมาะกับซีซั่นนี้ที่สุดแล้ว สีพีชเป็นโทนสีอบอุ่นที่ทำให้สาว ๆ ดูน่ารักมากยิ่งขึ้น หรือถ้าอยากได้ลุคแบบสาวเท่สีพีชก็สามารถจัดให้คุณได้เหมือนกัน แค่แต่งตาให้เข้มหน่อย แต่ก็ไม่ต้องถึงขั้นแต่งเข้มเป็นสาวอีโม แล้วก็เติมลิปสติกสีพีช แค่นี้ก็ทำให้ได้ลุคสาวเท่แล้ว ถ้าอยากให้สีลิปสติกอยู่บนเรียวปากเราไปนาน ๆ โดยไม่ต้องเติมบ่อย ๆ ทาลิปสติกครั้งแรกเสร็จแล้วให้ซับด้วยทิชชูแล้วทาทับอีกครั้ง

Tip

เรา ควรเก็บผิวสวยของเราไว้ในการแต่งหน้าครั้งต่อไปด้วยการเช็ดและล้างเครื่อง สำอางออกให้สะอาด ก่อนอื่นขนมาให้หมด อุปกรณ์ที่ใช้เช็ดล้างเครื่องสำอาง ทั้ง Eyes Remover Cleanser Toner ฯลฯ และควรจะใช้เวลากับการเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดจด มิฉะนั้น คราบเครื่องสำอางจะทำให้รูขุมขนอุดตัน และเป็นการสะสมของริ้วรอยอีกด้วย



















ที่มา ... APPEAL

หลงเสน่ห์ป่าเขาและลมหนาวที่ "กิ่วแม่ปาน-อ่างกาหลวง"



"เส้น ทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน" และ "เส้นทางหลวงศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง" คือ อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูหนาวของอุทยานแห่ง ชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบนความสูง 2,565 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง

โดยมี "ยอดดอยอินทนนท์" คือ จุดสูงสุดของเทือกเขาถนนธงชัยและของประเทศ ด้วยระดับความสูงสภาพภูมิอากาศ และเป็นเขตต่อเนื่องจากเทือกเขาหิมาลัย ทำให้เกิด ลักษณะอันน่าสนใจของพืชพรรณและสัตว์ป่าในพื้นที่เป็นอย่างมาก

อีกทั้งยังถือว่าเป็นห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รวมกันถึง 301,500 ไร่ มีสนสามใบขึ้นปะปนกับไม้ชนิดอื่น ภาพบางส่วนของความอุดมสมบูรณ์ในอุทยานแห่งชาติดอย อินทนนท์ได้ถูกนำเสนอผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติสายสั้นๆ 2 เส้นทาง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถทำความรู้จัก และเรียนรู้จากห้องเรียนธรรมชาติแห่งนี้ได้โดยใช้เวลาไม่มากนัก ได้แก่

เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ปากทางอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 42 ของเส้นทางสู่ยอดดอยเส้นทางระยะ 3 กิโลเมตรผ่านป่าและภูมิประเทศอันหลากหลาย เริ่มจากป่าดิบเขา อันเต็มไปด้วยเฟิร์นและมอสส์หนาแน่นตามลำต้นของไม้ใหญ่ ผ่านทุ่งหญ้าบนสัน (กิ่ว)แม่ปาน

ซึ่งในฤดูหนาวจะปกคลุมไปด้วยหมอกเมฆพลิ้วไหวผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา จากนั้นจึงเข้าสู่ดงกุหลาบพันปี อันเป็นพืชพรรณเด่นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติสายนี้แล้วกลับเข้า สู่ป่าดิบเขาก่อนจะสิ้นสุดเส้นทาง

เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง ปากทางอยู่ ณ ยอดดอยอันเปรียบเสมือนปากประตูสู่หิมาลัย ระยะทาง 300 เมตร มีป้ายสื่อความหมายธรรมชาติตลอดเส้นทาง ความโดด เด่นอยู่ที่บริเวณน้ำท่วมขัง ซึ่งนับเป็นพรุน้ำจืดบนระดับความสูงที่สุดในประเทศ ก่อให้เกิดลักษณะทางนิเวศวิทยาอันน่าทึ่ง บนเส้นทางตามพื้นดินจะพบข้าวตอกฤๅษี มอสส์ขนาด ใหญ่ที่สุดในโลก

ม้าเทวดา 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีรายงานการพบเห็นกวางผา หรือม้าเทวดา สัตว์ป่าสงวนสถานะใกล้สูญพันธุ์บนสันกิ่วแม่ปานหลายครั้ง แสดงให้เห็นถึงสภาพความอุดมสมบูรณ์ ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นอย่างดี นอกจากนั้นเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานยังเป็นแหล่งดูนกสำคัญอีกแห่ง หนึ่งของประเทศอีกด้วย

ข้อมูลท่องเที่ยว :
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ - จากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงยอดดอยอินทนนท์ 100 กม. ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-จอม ทอง) ไปประมาณ 55 กม. ก่อนเข้าอ.จอมทอง ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวง 1009 ประมาณ 8 กม.จะพบด่านตรวจของอุทยานฯ

ข้อมูลโดย : โครงการ 7greens - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เว็บไซต์ : http://7greens.tourismthailand.org/

รู้จักระดับน้ำท่วม ขนาดไหน ที่คุณต้องช่างใจ...เมื่อขับรถ

กลายเป็นกระแสที่ทำให้หลายตื่นตกใจ เกี่ยวกับเรื่องราวของน้ำท่วม ที่วันนี้กำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร น่าจะภายในวัน 2 วันนี้ และจะเป็นตัววัดว่า เราจะรอดจากเหตุภายน้ำท่วมหรือไม่

ที่ผ่านมาเราได้พูดถึง การขับรถลุยน้ำท่วมกันไปพอสมควรแล้ว และที่ผ่ามาก็มีหลายคนยังดับกลาง กลับมาต่อว่าต่อขานเรา ว่าคำแนะนำไม่สามารถใช้ได้จริง ทว่าเรายินดีน้อมรับคำติชมเหล่านั้น และเมื่อกลับมามองถึงการขับรถลุยน้ำท่วม ตามที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ เราจึงอยากจะพาเพื่อนๆไปรู้จักการประเมินระดับน้ำ ที่ถือว่ามีส่วนสำคัญที่สุดในการขับรถลุยน้ำท่วม

ขับรถลุยน้ำท่วม

การเประเมินระดับน้ำท่วมนั้น นับว่า มีส่วนสำคัญมาก อาจจะเป็นเพียงทางเลือกระหว่างไปหรือไม่ ในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งการสังเกตระดับน้ำนั้น ให้ใช้จุดอ้างอิงต่างๆที่เราสามารถสังเกตุได้ เช่น รถยนต์ที่สวนทางมา เสาไฟฟ้า ต้นไม้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถือว่าเป็นตัวชี้วัดได้อย่างดี และคุณควรตัดสินใจให้ดีก่อนทำการลงน้ำ

ขับรถลุยน้ำท่วม

1. ระดับน้ำ 5-10 เซนติเมตร ระดับน้ำนี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น และไม่สามารถส่งผลต่อการเดินทางของรถ และระดับน้ำระดับนี้มักเจอเป็นประจำเมื่อพบน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งระดับนี้ เป็นระดับที่ปลอดภัย สามารถผ่านได้ ทั้งรถเก๋งและรถกระบะ ไร้ปัญหา

2. ระดับน้ำ 10 - 20 เซนติเมตร ในกรณีเราเจอน้ำท่วมขังในพื้นที่มากในระดับน้ำประมาณครึ่งฟุตนี้ ถือว่ายังไม่สามารถทำอะไรรถยนต์ได้ ยังสามารถผ่านไปได้ตามปกติ ทั้งรถเก๋งและรถกระบะ โดยในส่วนของรถเก๋ง อาจจะมีปัญหาเล็ก เพราะคุณอาจจะได้ยินเสียงน้ำนั้น กระเพื่อมอยู่ที่ใต้ท้องรถบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ปัญสามารถเดินเครื่องไปต่อได้เรื่อยๆ และในกรณีขับรถส่วนกันก็อาจจะมีคลื่นที่สูงบ้าง แต่ไม่มากมายนัก ตรงนี้ยังปลอดภัย

3.ระดับน้ำ 20 -40 เซนติเมตร ตรงนี้รถเก๋งอาจจะเริ่มมีปัญหา เรานี่คือระดับขอบประตูรถเก๋งเกือบแทบทุกรุ่นในปัจจุบันที่มีระยะสูงจากพื้น 150-170 ม.ม. เท่านั้น ระดับที่ท่วม 3 ใน 4 ของล้อรถนั้น ส่งผลให้ท่อไอเสียนั้นจะจมนั้นอยู่เกือบตลอดเวลา แต่ก็ยังพอไปได้ถ้าทางนั้นไม่ยาวมากนัก แต่ถือว่าเริ่มเสี่ยงมาก อาจจะมีได้พรมแฉะกันบ้างล่ะ โดยเฉพาะรถกลุ่มซิตี้คาร์ ส่วนรถกระบะทั่วไปสามารถผ่านได้ ยกสูง ขับ 4 ยังสบายใจได้ยู่

4.ระดับน้ำ 40 -60 เซนติเมตร ระดับนั้นประมาณ 2 ฟุตนั้น ถือเป็นอันตรายสำหรับรถเก๋ง ทุกรุ่นทุกประเภท ไม่สมควรผ่านอย่างยิ่งหาทางเลี่ยงนับว่าจะเป็นวิธีการที่ดีสุดครับ ในระดับเดียวกันนี้ รถปิกอัพทั่วไปนั้น ก็เริ่มมีลุ้นพอสมควร แตุ้าเดินเครื่องไปเรื่อยๆ ยังสามารถ เพียงแค่ต้องระวังเรื่องของคลื่นน้ำ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างฉับพลัน และอาจะเข้าเครื่องได้ ระดับน้ำขนาดนี้ต้องปิดระบบปรับอากาศขับเท่านั้น ส่วน รถกระบะยกสูงทั่วไปนั้นสามารถผ่านได้ ไม่มีปัญหา แต่ก้ต้องระวังเรื่องคลื่นเช่นกัน

ขับรถลุยน้ำท่วม

5.ระดับน้ำ 60-80 เซนติเมตร ระดับน้ำขนาดนี้เป็นเรื่องอันตรายกับรถทุกประเภท ไม่เว้นกระทั่งรถใหญ่ทั้งหลาย เพราะน้ำนั้นอาจจะมีสิทธิไหลเข้ากรองอากาศได้ง่ายกว่า ยิ่งเจอคลื่นนั้นอาจจะสุงถึงระดับ 1 เมตร ที่สามารถทำให้เครื่องยนต์หยุดชะงักและสร้างความเสียหายต่อระบบต่างๆได้ การลุยน้ำท่วมระดับนี้ ต้องใช้ความชำนาญการเป็นพิเศษพอตัว ที่สำคัญ พยายามอย่าปะทะคลื่นโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางอากาศ และอย่าใช้ความเร้วสุงนัก

6 ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 เซนติเมตร รดับน้ำที่มากที่สุดที่รถเดิมๆจากโรงงานจะสามารถผ่านได้และก็ไม่ใช่ทุกรุ่นเสียด้วย ตามปกติ ระดับน้ำ 80 ซ.ม. นั้นหมายถึงน้ำขึ้นถึงฝากระโปรง ท่วมไฟหน้ามิดสิ่งสำคัญคือปิดระบบไฟต่างๆ เพื่อป้องกันการลัดวงจรเดินเครื่องอย่างต่อเนื่องอย่าหยุด แต่ถ้าอยากให้ปลอดภัย น้ำระดับนี้ ควรมากับรถลุยที่มีการปรับแต่งยกสูงจากปกติประมาณ 2-4 นิ้ว จะมั่นใจกว่า

ทั้งนี้อย่างที่บอกไปในเบื้องต้นว่าการประเมินระดับน้ำนั้นต้องอาศัยสิ่งที่ช่วยอ้างอิง และที่สำคัญ ต้องรู้จักรถเราอย่างดี ว่าระดับไหนที่ปลอดภัย อย่าฝืน มิฉะนั้น อาจจะตายกลางทางได้

หลากวิธีป้องกันน้ำท่วมเข้าบ้านอย่างได้ผล

ข่าวน้ำท่วม

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์, คุณ ทองกาญจนา, คุณสะใภ้อินเตอร์

น้ำทะลัก! คันกั้นน้ำแตก! ตลิ่งพัง! น้ำจ่อท่วม ...เวลานี้คงจะต้องติดตามข่าวสารอุทกภัยกันนาทีต่อนาที เพราะสถานการณ์น้ำดูจะเลวร้ายขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับใคร ที่บ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม มวลน้ำยังมาไม่ถึง แต่ส่อเค้าหรือเริ่มมีน้ำส่งสัญญาณมาบ้างแล้วนั้น คงจะนิ่งนอนใจไม่ได้อีกต่อไป เพราะถ้าช้า...ไม่แน่ว่า บ้านของเราอาจจมน้ำภายในพริบตา!!!

สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้สำหรับผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัย นอกจากการเตรียมอาหาร และเก็บข้าวของเตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อแล้ว หากยังพอมีเวลาเราสามารถป้องกันน้ำท่วมบ้านได้ ซึ่งวันนี้เรามีวิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล จากคุณ ทองกาญจนา ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์น้ำท่วมบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ และอีกแนวคิดดี ๆ ในการป้องกันน้ำท่วมบ้านโดยไม่ใช้กระสอบทรายจาก คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ มาบอกต่อ ... นอกจากนี้ยังมีวิธีดี ๆ และได้ผลของคุณสะใภ้อินเตอร์ ที่ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมมาตลอด 4 ปี แต่ปีนี้มีวิธีป้องกัน และน้ำไม่ท่วมเข้าบ้านมาฝากกันจ้า


วิธีป้องกันน้ำท่วมให้อยู่หมัด หลังน้ำท่วมมา 4 ปี by คุณสะใภ้อินเตอร์


คุณสะใภ้อินเตอร์ผู้ที่ผ่านประสบการณ์น้ำท่วมมาถึง 4 ครั้ง น้ำได้ไหลทะลักเข้าไปในตัวบ้านจนข้างของเสียหายมาหลายครั้ง วิธีป้องกันน้ำท่วมหลายต่อหลายวิธี คุณสะใภ้อินเตอร์ก็ได้ลองทำมาหมด ไม่ว่าจะเป็นตั้งกระสอบทราย หรือดินน้ำมัน แต่วิธีเหล่านั้นก็ไม่สามารถป้องกันน้ำไม่ให้ไหลทะลักเข้ามาได้ ... มาวันนี้ จากประสบการณ์ 4 ปีที่เคยผ่านน้ำท่วมมา คุณสะใภ้อินเตอร์ จึงมีวิธีป้องกันน้ำท่วมอย่างอยู่หมัดมาฝากกันค่ะ


สระว่ายน้ำก่อนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553


สระว่ายน้ำก่อนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553




สระว่ายน้ำก่อนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553


สภาพน้ำตอนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553


สภาพน้ำตอนถูกน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว 2553


ปีนี้เลยกั้นเหล็กให้สูงขึ้น



และหาวิธียึดให้ติดกำแพงเพื่อป้องกันแรงกระแทกของน้ำจากรถที่วิ่งผ่านโดยจะใช้วิธีทำเป็นเหล็กยันไว้


แล้วยึดด้วยกลอนสองชั้น



วิธีเข้าบ้านต้องเข้าแบบนี้ (อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ)


ภายในบ้านในน้ำแผ่นพลาสติกอันซิลิโคนตามร่อง


จะเห็นได้ว่า น้ำไม่สามารถเข้าบ้านได้


อย่าลืมอัดซิลิโคนที่ประตูหลังด้วย


ภาพด้านซ้ายคือ ภาพรถที่ไม่ได้ป้องกันน้ำท่วม ส่วนภาพด้านขวาเลยหาคันยก และยกให้สูงขึ้น






การอัดซิลิโคนตามร่อง


ภาพน้ำท่วมเมื่อปีก่อน ๆ ใช้ดินน้ำมันอุด แต่ไม่สามารถกั้นน้ำได้


ส่วนภาพนี้ใช้กระสอบทราย ซึ่งก็มีน้ำไหลซึมตลอดเวลา




วิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล by คุณทองกาญจนา

ข่าวน้ำท่วม

เตรียมการก่อน

ประสบการณ์ จากน้ำท่วมเมื่อครั้งที่แล้ว พบว่าถึงแม้จะกั้นกระสอบทรายไว้ที่ประตูรั้ว แต่ก็ไม่สามารถกั้นน้ำเข้าบ้านได้ เพราะ (1) บริเวณสนามหญ้าและลานอิฐบล็อกภายในบริเวณบ้านจะมีน้ำปุดทะลุพื้นดินขึ้นมา (2) กระสอบทรายไม่มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอ เมื่อถูกคลื่นที่เกิดจากรถยนต์วิ่งฝ่าเข้ามาในถนนที่น้ำท่วม จะมีแรงดันมหาศาลทำให้กำแพงกระสอบทรายพัง และน้ำไหลเข้าบริเวณบ้านได้ในที่สุด

จากประสบการณ์ดังกล่าวผมได้เตรียมการไว้หลังจากน้ำลดครั้งที่แล้ว ดังนี้

(1) ปรับปรุงพื้นรอบ ๆ บริเวณบ้านใหม่ โดยทำพื้นให้เรียบและเทพื้นด้วยคอนกรีตซีแพ็คลงไปจนเต็มชิดรั้วทุกด้าน

(2) ทำบานเหล็กสำหรับกั้นน้ำพร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง โดยทำกรอบรางเหล็กสำหรับสวม ติดถาวรไว้ที่ประตูรั้วบ้านทั้งซ้ายและขวา ส่วนบานเหล็กและเสาค้ำยันถอดออกได้ เพื่อให้สามารถใช้ประตูบ้านได้ในยามปกติ

(3) ซื้อเครื่องสูบน้ำชนิดแช่ขนาดเล็กที่เรียกว่า ไดรโว่ ราคาประมาณ 1,500-2,000 บาท เครื่องสูบน้ำชนิดนี้จะขาดตลาดทันทีที่เกิดน้ำท่วม จึงต้องซื้อเก็บไว้ล่วงหน้า แล้วก็ไม่ลืมสายไฟพร้อมปลั๊กที่จะใช้ต่อพ่วงมาจากตัวบ้านจนถึงประตูรั้ว

(4) ดินน้ำมันจำนวนหนึ่ง ใช้สำหรับอุดในช่องว่างที่ประกอบบานเหล็กกั้นน้ำเข้ากับประตูรั้วบ้าน

น้ำมาแล้ว

เสียง ประกาศเตือนภัยจาก อบต. ตั้งแต่เช้า แจ้งว่าน้ำคงจะเข้าท่วมหมู่บ้านในช่วงบ่าย ขอให้ประชาชนเตรียมป้องกันทรัพย์สินของตนเอง ผมนำรถยนต์ออกจากบ้านไปจอดไว้ยังที่ปลอดภัยนอกหมู่บ้าน กลับเข้ามาก็เริ่มติดตั้งบานเหล็กเข้ากับประตูรั้วบ้าน ติดตั้งเสาค้ำยัน ใช้ดินน้ำมันอุดตามรอยต่อระหว่างบานกับกรอบรางเหล็ก นำเครื่องสูบน้ำไดรโว่มาวางไว้ใกล้ประตูรั้วในตำแหน่งที่คาดว่าน้ำจะซึมเข้า มาและท่วมขังอยู่ ต่อสายไฟพร้อมใช้งาน แล้วรอน้ำที่กำลังเริ่มไหลเข้ามาในหมู่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ

เวลา ประมาณ 16.00 น. น้ำท่วมถนนภายในหมู่บ้านทุกถนนแล้ว มีน้ำซึมผ่านบานเหล็กที่ประตูรั้วเข้ามาในบ้านของผมปริมาณหนึ่ง แต่เมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำก็สามารถควบคุมระดับน้ำไม่ให้สูงจนเกิดความเสีย หายได้ เมื่อน้ำในถนนลดลง ผมไม่ต้องลำบากในการทำความสะอาดบริเวณบ้าน ที่มีดินโคลนตกค้างจากน้ำท่วมขัง เหมือนน้ำท่วมเมื่อครั้งก่อนอีกแล้ว

ภาพบรรยากาศ

ติดตั้งบานเหล็กเข้ากับเสาประตูรั้วบ้าน พร้อมติดตั้งเสาค้ำยัน

ข่าวน้ำท่วม

เข้า-ออก จากบ้านต้องใช้เก้าอี้บันไดตัวนี้ สังเกตระดับน้ำภายนอกบ้านเริ่มสูงมากแล้ว

ข่าวน้ำท่วม

ขณะที่ถนนด้าน นอกระดับน้ำสูงถึง 60 ซม. แต่ภายในบ้านมีน้ำรั่วซึมเข้ามาเพียงเท่านี้ และเมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำ น้ำก็จะแห้งภายใน 5 นาที

ข่าวน้ำท่วม

ลุยน้ำออกไปถ่ายจากนอกบ้านเข้ามา สภาพประตูกั้นน้ำจะมีลักษณะนี้

ข่าวน้ำท่วม

บ้านข้าง ๆ ก็ติดตั้งบานประตูกั้นน้ำเช่นเดียวกัน

ข่าวน้ำท่วม

อีกภาพหนึ่ง

ข่าวน้ำท่วม

หวัง ว่าบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่มีบ้านในหมู่บ้านจัดสรร ที่น้ำเคยท่วมแล้ว จะได้เป็นแนวทางในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับบ้านแสนรักในครั้ง ต่อไปได้บ้างตามสมควรครับ


วิธีป้องกันน้ำเข้าบ้านง่าย ๆ แบบไม่ใช้กระสอบทราย by คุณอนันต์


จากวิกฤติน้ำท่วมอย่างร้ายแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยปีนี้ สร้างความสูญเสียให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และหลังจากที่มีข่าวมาว่า หลายเขื่อนรองรับน้ำอย่างเต็มพิกัดแล้ว ประกอบกับสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ก็คงทำให้คนในพื้นที่เฝ้าระวังต่าง ๆ รวมถึงคนในกรุงเทพฯ ล้วนตื่นตัว และไม่รอช้าที่จะเตรียมรับมือเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันเหตุน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ด้วยเหตุนี้ ของที่สำคัญในการป้องกันน้ำท่วมอย่าง "กระสอบทราย" รวมถึงอิฐบล็อกต่าง ๆ จึงขาดตลาด แต่เพื่อน ๆ ก็ไม่ต้องหนักใจไป เพราะในวันนี้เรามีวิธีป้องกันน้ำเข้าบ้าน แนวคิดดี ๆ จากคุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ที่จะใช้วัสดุง่าย ๆ ในการป้องกันน้ำท่วม แบบไม่ต้องใช้กระสอบทราย มาแนะนำกันค่ะ











จำนวนการดูหน้าเว็บรวม