Ford เริ่มผลิตรถยนต์ Ford Focus Electric 2012 แล้ว

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา Ford ได้ประกาศเดินสายการผลิตรถยนต์ ฟอร์ด โฟกัส อิเล็คทริค (Ford Focus Electric) รถไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นแรกของบริษัทฯ หลังจากที่ได้เปิดตัวรถไฟฟ้าทั้งคันอย่าง Transit Connect Electric ในเดือนเดียวกันนี้เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา
โดยรถรุ่นนี้จะถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่รัฐมิชิแกนของ Ford ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทฯ อ้างว่า Focus Electric เป็นรถยนต์นั่งไฟฟ้าขนาด 5 ที่นั่งรุ่นแรกในโลก โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 2.3 ลิตร/100 กิโลเมตร
Ford Focus Electric
Ford Focus Electric
โดย Ford คุยว่า Focus Electric ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มความจุเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น จากแหล่งจ่ายไฟขนาดแรงดัน 240 โวลต์ หรือใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับเวลาที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ของ Nissan Leaf
ด้านหลัง Ford Focus Electric
ด้านหลัง Ford Focus Electric
Derrick Kuzak รองประธานบริหารฝ่าย Global Product Development ของ Ford เผยว่า ไม่ว่าลูกค้าต้องการรถชนิดใดๆทั้ง Hybrid, Plug-in Hybrid หรือรถไฟฟ้า 100% ที่ใช้แบตเตอรี่ Ford มีรถทุกแบบให้เลือกซื้อ และ Ford Focus Electric ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของ Ford ในการผลิตรถประหยัดน้ำมันของโลก
พอร์ตชาร์จ Ford Focus Electric
พอร์ตชาร์จ Ford Focus Electric
โดยในช่วงแรก Ford จะทำการผลิต Focus Electric ออกมาในจำนวนจำกัดเพื่อป้อนตลาดในรัฐแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ค และนิวเจอร์ซี่ โดยจะเริ่มขยายไปยังอีก 15 รัฐทั่วอเมริกาภายในปี 2012
เครื่องยนต์ Ford Focus Electric
เครื่องยนต์ Ford Focus Electric
สำหรับแฟนๆ ฟอร์ด ในบ้านเราอาจจะต้องรอลุ้นว่าจะมีอะไรเด็ดๆ มาเปิดตัวที่งานงานมอเตอร์โชว์ 2012 (Motor Show 2012) ในต้นปีหน้า หรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ Ford ต้องติดตามกันต่อไปครับ
อย่าพลาดติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถใหม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ได้ใหม่ครับ

Hyundai I-oniq คอนเซปต์คาร์คันใหม่ เตรียมเจอที่เจนีวา

ใกล้ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กันเต็มทีและในปีนี้ที่จะผ่านพ้นไปก้เริ่มมีการเผยถึงโครงการในปีหน้า ซึ่งค่ายรถยนต์เกาหลีก็ไม่รอช้า ที่จะเปิดเผยความพร้อมในการส่ง Hyundai i-oniq เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Geneva Motor Show 2012
Hyundai I-Oniq ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆออกมา แต่จากการแถลงการณ์ของค่ายรถยนต์ Hyundai นั้นเจ้าคอนเซปต์คาร์คันใหม่นี้จะใช้เส้นสาย Fluid Sculpture แนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุดของค่ายรถยนต์ Hyundai ยังไม่ได้รับการเปิดเผยว่าเจ้าคอนเซปต์คาร์คันนี้จะเป็นรถประเภทใด
Hyundai i-oniq
อย่างไรก็ดี จากภาพที่ Hyundai ได้ให้ มาพร้อมกัน Hyundai I-Oniq น่าจะเป็นรถสปอร์ตรุ่นใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นสปอร์ต 4 ประตู ตามที่เคยได้มีการล่ำลือไปก่อนหน้านี้ ถึงโครงการใหม่ของค่ายรถยนต์โสมขาว แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ออกมา จนกว่าน่าจะช่วงใกล้งาน Geneva Motor Show

2011 American Car&Truck of the year คุ้มค่าน่าใช้ถูกใจคนมะกัน

เมื่อวานใครที่ติดตาม Sanook! Auto เป็นประจำนั้น คงจะรู้เกี่ยวกับการจัดอันดับ 10 รถ คุ้มค่าแห่งปี 2011 ไปแล้ว ซึ่งปีนี้ มีรถมากมาย แม้จะไม่เยอะตามกระแสที่เราคาดการณ์กันไว้ แต่ปีนี้ก็ยังมีรถยนต์หลายรุ่นที่น่าซื้อหาเหมือนกัน
การจัดอันดับของเรานั้น เป็นการเปิดรถยนต์ในประเทศ แต่ที่อเมริกาเหนือนั้น ก็มีการโหวตจากนักข่าวสายยานยนต์ทุกปีจากกว่า 50 สื่อ ทั่วประเทศ ทั้งจากสิ่งพิมพ์ และสื่อกระจายเสียงในด้านต่างๆ ที่ปีนี้จากรายชื่อที่ยาวเหยียดก็ได้ 6 รถยนต์ที่คุ้มค่า ปี 2011 กับ ท๊อป 3 ในกลุ่มรถนั่ง และรถยนต์กระบะทั้งหลาย

Best Top 3 Cars

ก่อนอื่นเรามาดูกลุ่มรถนั่งกันก่อนที่ปีนี้ในตลาดอเมริกาก็มีรถยนต์มาก มายหลายรุ่นเข้ามาทำตลาด โดยเฉพาะจากค่ายรถยนต์เกาหลีที่ตีบทแตกกระจุย และนี่คือรถ 3 รุ่น ที่ดีที่สุดแห่งปี 2011

อันดับที่ 3 Volkswagen Passat
2011 American Car&Truck of the year
ซีดานกลางจากอีกหนึ่งค่ายเยอรมันรายนี้ มีดีด้วยการออกแบบที่ลงตัว สมรรถนะที่ไม่ได้เป็นสองลองใคร ทั้งความทันสมัยและหรูหร าที่กลมกลืนอย่างลงตัวในฐานรถนั่งขนาดกลางที่ขายดีกันมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งดูโฆษณาที่น่ารักๆ กับเจ้าหนูดาร์ท เวเดอร์ มันก็ยิ่งทำให้เราสนใจรถรุ่นนี้ขึ้นไปอีก

อันดับที่ 2 Hyundai Elentra
2011 American Car&Truck of the year
ได้ข่าวว่าจะเข้ามาบ้านเราในปีหน้า ทีแรกก็เตรียมเปิดตัวแล้ว แต่น้องน้ำมา พาเอาเปิดตัวไปปีหน้า กับ คอมแพ็คคาร์ชั่นนำ Hyundai Elentra ที่จะเข้ามาเขย่าวงการคอมแพ็คคาร์ของบ้าน ซึ่งรถรุ่นนี้ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของค่าย Hyundai เขาเลยทีเดียว ยังไงรอติดตาม และมันน่าสนใจ ที่สามารถมีชัยเหนือ civic 2012 รุ่นใหม่ด้วยล่ะ

อันดับ 1 Ford Focus
2011 American Car&Truck of the year
คันนี้มาแน่ปีหน้าที่บ้าน เราได้รับการยืนยันมากลายๆแล้ว กับ New! Ford focus รุ่นใหม่ และในอเมริกา ด้วยการดีไซน์ที่ให้เส้นสายทันสมัย เครื่องยนต์ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะการขับขี่ และความทันสมัยในห้องโดยสาร ที่ดูมันจะเป็นแนวทางใหม่ของค่ายรถยนต์รายนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่มันรั้งอันดับ 1 รถยอดเยี่ยม 2011 ที่อเมริกาโน่น

Top Best Truck

ดูรถนั่งกันมาพอเราก็มาดูกลุ่มรถบรรทุกกัน บ้าง ที่ปีนี้ ท๊อปทรีดูจะเป็นรถอเนกประสงค์ทุกรุ่น ส่วนจะมีรุ่นไหนดีๆ น่าใช้บ้างนั้นมาดูเลยดีกว่า

อันดับที่ 3 Land Rover Evoque
2011 American Car&Truck of the year
รถอเนกประสงคสุดหรูคันนี้มีดีกว่าที่คิดด้วยกำลัง 240 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เป็นอะไรที่แทบจะเรียกว่าไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ลง ตัวได้ และกลับทำได้ดีเสียด้วย เรือนร่างรถคันนี้ เป็นรถที่ย่อขนาดลงมาจากรุ่นพี่ แต่ก็ในขณะที่มันขาดความหรูหรา ความสปอร์ตก็ตอบโจทย์ได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ

อันดับที่ 2 Honda CR-V
2011 American Car&Truck of the year
รุ่นใหม่มาแล้ว และในขณะที่ Honda อาจจะปิ๋วตัวคอมแพ็คคาร์นั้น ในรถอเนกประสงค์ ก็ยังได้รับคำชมเชย แม้จะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากอย่างที่ให้เป็น แต่แนวคิดเรื่องการปรับเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น ก็ช่วยให้มันประหยัดยิ่งขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคงถูกใจหลายคน ส่วนบ้านเรา ต้องรอดูคันจริงกันต่อไป

อันดับที่ 1 BMW X3
2011 American Car&Truck of the year
คุ้มค่าที่สุดไม่มีใครเกินคันนี้แล้ว กับ BMW X3 น้องเล็กรถอเนกประสงค์ BMW ด้วยค่าตัวที่พอสามารถจับต้องได้ บวกกับเรือนร่างที่ดูภูมิฐานหลากเทคโนโลยี และสมรรถนะจากค่ายตราพัดฟ้าที่ไว้วางใจได้นั้น ก็ทำให้รถอเนกประสงค์ค่ายนี้เข้ายืนในตำแหน่งนี้อย่างไม่ยากเย็น

จริงอยู่รถยนต์ที่ได้อันดับ 1 ทั้ง รถยนต์นั่งและรถอเนกประสงค์ปีนี้ แลดูอาจจะไม่ใช่รถที่คนไทยนิยม แต่อย่างที่เรามักย้ำนักย้ำหน้าเรื่องการซื้อรถว่า รถที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นที่นิยม แต่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้สูงสุด เท่านั้น ก็น่าจะพอเพียง

Volvo V60 D6 ดีเซลไฮบริดพร้อมพิชิตตลาดยุโรป

คงจะได้ยินกันมาสักพักใหญ่แล้ว กับเครื่องยนต์ไฮบริดที่นำระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาพ่วง่ชวยเพิ่มการประหยัด น้ำมันให้สามารถตอบสนองได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยหลังจากที่เมื่อต้นปีค่าย Volvo ดชว์ผลงาน ดีเซลไฮบริด ไปที่งาน Geneva Motor show ในช่วงส่งท้ายปีนี้รถยนต์คันนี้ก็พร้อมที่จะลงทำตลาดในยุโรปปีหน้า
Volvo V60 D6 เป็นผลงานชิ้นล่าสุดของค่ายรถยนต์สวีดิช ที่ออกมาตอบโจทย์ทั้งเรื่องสมรรถนะการขับขี่เช่นเดียวกับความประหยัด และอาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่า นี่คือรถยนต์ดีเซลไฮบริดคันแรกของโลก ที่จะมีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการราวๆ 45,000-50,000 ปอนด์สเตอร์ริง
Volvo V60 D6 diesel  Hybrid
เรือนร่างที่อาจจะดูไม่ต่างจาก Volvo V60 ที่จำหน่ายทั่วโลกมากนัก นอกจากการใส่ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว เช่นเดียวกันกับ ท่อคู่จากโรงงาน และตราโลโก้ ที่ทำมาจากโครเมี่ยม บ่งบอกความแตกต่างที่ภายในตัวตน
ในห้องโดยสาร Volvo จัดการในเรื่องการเติมความทันสมัย ทั้งหมดตบแต่งด้วยหนังลัดเลาะกับไม้โทนสีเทาดำให้เสน่ห์ที่นุ่มลึกและลงตัว คันเกียร์สามารถบอกตำแหน่งเกียร์ที่ใช่ที่มือจับ มาพร้อมเซนเซอร์ถอยหลัง เบานั่งปรับไฟฟ้า และความบันเทิงชั้นนำ ขับกล่อมด้วยชุด DVD พร้อมแอมป์ขนาด 80 W ขับลำโพง 4 ตัว จาก 8 ตัวที่อยู่ในห้องโดยสาร ที่ยังมีจอสัมผัส 7 นิ้วคอยให้ความบันเทิงไปพร้อมกัน
จิตวิญญาณที่แตกต่างถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญใต้ฝากระโปรงรถคันนี้ พกเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล5 สูบ 2.4 ลิตร ให้กำลัง 215 แรงม้า เรียกแรงบิดสุงสุด 440 นิวตันเมตร ติดตั้งพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ในตำแหน่งเพลาหน้า ในขณะที่ด้านหลังนั้น Volvo ยัดมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด70 แรงม้า ที่รับไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ลิเธียมไออน ที่วางไว้ด้านหลัง
Volvo V60 D6 diesel  Hybrid
Volvo V60 D6 สามารถขับเคลื่อนได้ตามความต้องการของผู้ใช้ โดยสามารถเลือกได้ตามความต้องการถึง 3 โหมด โดยโหมด "hybrid" นั้นเน้นการเสริมสมรรถนะในการขับขี่สุดประหยัดระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ ไฟฟ้า สามารถวิ่งได้ไกลถึง 999 กิโลเมตร และปล่อยไอเสียงเพียง 49 กรัมต่อกิโลเมตรในการขับขี่
ในโหมด "Pure" ซึ่งใช้การขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วนนั้น Volvo V60 D จะขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งสามารถไปไกลถึง 52 กิโลเมตร แต่ถ้าตั้องการความสนุกสนานในการขับขี่ต้อง โหมด "Power" ที่ให้บ้าพลังเต็มพิกัดกับการผสานแรงบิดและแรงม้า ทั้งจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ผลคือให้กำลัง 285 แรงม้า และแรงบิด 640 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ใน 6.2 วินาที เท่านั้น
แน่นอนว่ารถ Volvo V60 D6 นั้น อาจจะยังห่างไกลจากบ้านเรามาก แต่การวางจำหน่ายในตลาดยุโรปนั้นก็ยังมีผู้โชคดีเพียยง 1000 คันเท่านั้น ที่จะได้สัมผัสสมรถนะของดีเซลไฮบริด ในขณะที่รถจะมีวางจำหน่ายเพียงสี Electric Silver แต่ Volvo เชื่อว่าในปี 2014 VolvoV60 D6 จะขายดี จนมียอดจำหน่ายถึง 4000-600 คัน 

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/nvP6Bj3WSuE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม