รถยนต์เฟียต 500 คว้ารางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบระดับโลก

เฟียต 500 ได้รับรางวัล Compasso d'Oro ADI (ADI Golden Compass) ชนะเลิศ ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบอันทรงเกียรติและเก่าแก่ที่สุดของยุโรป Arturo Dell'Acqua Bellavitis ประธานกรรมการจัดงานระดับนานาชาติ พร้อมผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจยานยนต์ได้เลือกให้รางวัลกับเฟียต 500 พร้อมทั้งมอบรางวัลให้แก่คุณ Roberto Giolito ผู้อำนวยการด้านการออกแบบของเฟียต งานฉลองไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2554 จัดขึ้นในกรุงโรม ณ Pelanda Museo Macro del Testaccio

รถยนต์เฟียต 500 คว้ารางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบระดับโลก รูปที่ 1

รางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับ เป็นการรับรองที่ยกให้เฟียต 500 เป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดที่ผลิตจากอิตาลี ทั้งจากการผลิตที่ผสมผสานรูปแบบดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทัน สมัยด้านความปลอดภัย รวมถึงความสะดวกสบายขณะขับขี่ มากไปกว่านั้นยังรวมถึงการยอมรับจาก 5-star EuroNCAP และรางวัลที่เป็นเครื่องยืนยันกว่า 40 รางวัลในระดับนานาชาติ นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2007 เป็นต้นมา ให้การยอมรับว่าเฟียต 500 เป็นรถยนต์รุ่นประหยัดขนาดกะทัดรัดที่เหมาะกับการจราจรย่านธุรกิจ โดยตัวถังของรถนั้นผลิตได้มาตรฐานการผลิตของเฟียต ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

รถยนต์เฟียต 500 คว้ารางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบระดับโลก รูปที่ 2

งานดังกล่าวถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 และถือเป็นครั้งที่ 2 สำหรับรางวัล Compasso d’Oro ADI ที่เฟียตได้รับ ตั้งแต่ปี 2004 ที่เฟียตได้เปิดตัว Fiat Panda และได้รับการยอมรับจากบุคคลทั่วไป รางวัลทั้ง 2 ครั้งที่ได้รับถือเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจยานยนต์ ระดับนานาชาติ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในระบบการผลิตสูงสุดของอิตาลี ที่ควบคู่ไปพร้อมการออกแบบที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีในอนาคตของธุรกิจยานยนต์ ระดับโลก

รถยนต์เฟียต 500 คว้ารางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบระดับโลก รูปที่ 3

Fiat 500C ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร 100 แรงม้า 16 วาล์ว ที่ 6,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 131 Nm (13.4 kgm) ที่ 4,250 รอบต่อนาที มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และได้มาตรฐานของ ยูโร 5 อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 11 วินาที อัตราสิ้นเปลือง 6.1 ลิตร/100 กิโลเมตร

รถยนต์เฟียต 500 คว้ารางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบระดับโลก รูปที่ 4

ราคาล่าสุด แท็บเล็ตในประเทศไทย ใครกำลังมองหาแทบเลตซักเครื่องพลาดไม่ได้!

ราคาล่าสุด แท็บเล็ต ในประเทศไทย ใครกำลังมองหาแทบเลตซักเครื่องพลาดไม่ได้!

ปัจจุบันมีแท็บเล็ตมากมายหลายค่าย หลายระบบให้เลือกสรรกัน ทั้งที่วางตลาดแล้ว และยังไม่ได้วางจำหน่าย แต่วันนี้ทาง TechXcite ได้รวบรวมข้อมูล สเปคอย่างคร่าวๆ และราคาปัจจุบันของแทบเลตที่วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย สำหรับใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ต และมีแฟนที่จะซื้อในเร็วๆ นี้ครับ

มาที่ตัวแรกเลยครับสำหรับ Motorola Xoom
แท็บเล็ตแอนดรอยด์ตัวแรงจากทางฝั่งค่ายสหรัฐเขา มาพร้อมหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1280x800 พิกเซล มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb (สามารถอัพเกรดได้ แต่ตอนนี้ยังไม่เปิดครับ) ใช้ชิปประมวลผล1GHz dual-core แรม 1GB หน่วยความจำภายใน 32GB มีกล้องหน้าหลัง

ราคาปัจจุบัน 19,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 23,900 บาท สำหรับรุ่น 3G

BlackBerry PlayBook
แท็บเล็ตจากค่าย Research In Motion มาพร้อมหน้าจอขนาด 7.1 นิ้ว ความละเอียด 1200x600 พิกเซล ใช้หน่วยความจำ 1GHz dual-core processor พร้อมกล้องหน้าหลัง (ใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะของ Blackberry เอง แต่สามารถลงแอพเพื่อให้ใช้ Android ได้) รองรับ Flash แต่ไม่มี 3G และมีข่าวลือว่าประมาณปลายเดือนนี้ BlackBerry PlayBook จะได้ตัวอัพเดตภาษาไทยแล้ว

ราคาปัจจุบัน 16,990, 18,990, และ 21,990 บาท สำหรับรุ่น 16GB, 32GB และ 64GB ตามลำดับ

HTC Flyer
แท็บเล็ตรุ่นเล็กจากค่าย HTC มาพร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Magic Pen ที่สามารถเขียนตัวหนังสือ แทนการพิมพ์ได้ ใช้ชิปประมวลผล 1.5GHz Qualcomm Snapdragon ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingerbread

ราคาปัจจุบัน 21,500 บาท



Acer Iconia Tab
Acer
ได้ส่งแท็บเล็ตลงสู่ตลาดมากมายหลายรุ่น แต่รุ่นที่จะดูน่าสนใจสุดน่าจะเป็นเจ้า A500 นี่และครับ โดยเจ้านี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติ การ Android Honeycomb OS การออกแบบแน่นหนา และก็หนากว่าคู่แข่งด้วยครับ ใช้ชิปNVIDIA Tegra 2 1GHz dual-core มีหน้าจอ 10.1 นิ้ว แรม 1GB ไม่มี 3G ครับ (ใครที่สนใจ 3G ให้ไปมอง Acer Iconia Tab A501 ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานนี้ครับ)

ราคา 14,900 บาท และ 15,900 สำหรับรุ่น 16GB และ 32GB

และตัวสุดท้าย ไม่พูดถึงไม่ได้ Apple iPad 2
ต้นตำรับความแรงของแท็บเล็ตในยุคปัจจุบัน จาก Apple มาพร้อมกับหน้าจอสุดทนทาน Gorilla Glass และแอพเด็ดๆ อีกมากมายใน App Store หน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว ใช้ชิป dual-core A5 มีกล้องหน้าหลัง แบตเตอรี่ทนสุด ใช้งานได้10 ชม. มีทั้งรุ่น Wi-Fi และ 3G

ราคาเริ่มต้นที่ 15,900, 18,900, 21,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi 16GB, 32GB, และ 64GB และ 19,900, 22,900, และ 25,900 บาท สำหรับรุ่น 3G 16GB, 32GB, และ 64GB

จริงๆ แล้วยังมีแท็บเล็ตอีกหนึ่งตัวที่ถือได้ว่าแรงที่สุด สำหรับแทบเลต Android เลยครับ นั่นก็คือ Samsung Galaxy Tab 10.1 แต่ตอนนี้สำหรับในประเทศไทยคงต้องรอกันอีกนิดหนึ่ง เพราะคนที่จองแท็บเล็ตเครื่องนี้ไว้ กว่าจะได้ก็ประมาณปลายเดือนสิงหาคมนี้ครับ

By Kittipong TechXcite


ข้อมูลเล็กน้อยของ Porsche รุ่นต่อไป

Porsche 918 Spyder Concept

นี่ไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการนะครับ แต่เป็นข้อมูลที่ทางสื่อต่างชาติที่ชื่อว่า Car and Driver ที่เป็นผู้สอบถามไปยังผู้บริหารของทาง Porsche ถึงเรื่องโครงการเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่อไปของค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมันค่ายนี้

โดยข้อมูลคร่าว ๆ นั้นระบุว่าจะเป็นรุ่นที่อยู่เหนือระดับของ Porsche 911 แต่จะต่ำกว่า Porsche 918 Spyder Concept ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วในงานมอเตอร์โชว์ที่เจนีวา โดยจะตั้งใจให้เป็นผู้พิชิตเจ้า Ferrari 458 Italia เลยทีเดียว

เรื่องราคานั้นอาจจะอยู่ราว ๆ 4 แสนดอลล่าสหรัฐ ด้านเครื่องยนต์นั้นคาดว่าจะสร้างให้สามารถผลิตม้าออกมาได้มากกว่า 600 ตัว และควรจะทำความเร็วได้มากกว่า 220 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 352 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับอัตราเร่งจาก 0 – 100 นั้นจะทำได้ไม่เกินไปกว่า 3 วินาทีครับ

นี่ก็แค่ข้อมูลคร่าว ๆ ล่ะครับ ชื่อรุ่นยังไม่ทราบกันเลย ซึ่งทาง Porsche นั้นไม่ได้ผลิตรถยนต์ระดับสูงมากออกมาจำหน่ายนานแล้ว หลังจาก Carrera GT โดยในตอนนี้คิวการเปิดตัวรถรุ่นต่อไปของ Porsche นั้นก็อาจจะเป็นซุปเปอร์คาร์รุ่น 918 Spyder ก็เป็นไปได้ครับ ซึ่งในช่วงหลัง ๆ มานี้ทางค่ายนี้ไม่ค่อยมีข่าวอะไรหวือหวาออกมาเลย นอกจากข่าวเกี่ยวกับ 911 ตัวใหม่ และของเล่นจาก Porsche Design เท่านั้นเอง


Nissan March DIG-S ตัวประหยัดพันธุ์แรงเผยราคาแล้วที่อังกฤษ

หลังจากเปิดตัวออกมาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในที่สุดค่ายรถยนต์ nissan ก็ได้ฤกษ์เขย่าตลาดรถเล็กกับเวอร์ชั่นพิเศษด้วยขุมพลังเบนซินแต่ประหยัดเหมือนดีเซล ที่ตอบโจทย์ให้คอประหยัดหลายคนต้องพอใจ

Nissan March DIG-S ตอบสนองด้วยการขับขี่ที่ตอบสนองทันใจด้วยเรือนร่างไม่ต่างจากพี่น้อง แต่หัวใจนั้นแรงกว่าด้วยการพ่วงระบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์เข้าไปในรถรุ่นใหม่ และแน่นอนว่ามันย่อมมีราคาแพงกว่า โดยต่างจากรุ่นธรรมดาประมาณ 1,000 ปอนด์ หรือ ประมาณ 50,000 บาท เท่านั้น

Nissan March DIG-S

เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ซุปเปอร์ชาร์จนั้นให้ความน่าประทับใจด้วยพละกำลัง 98 แรงม้า แต่ให้อัตราประหยัดน่าทึ่งที่เคลมไว้ที่ 27 กิโลเมตรต่อลิตร ในขณะที่การปล่อยไอเสียจิ๊บๆ เพียง 95 กรัม ต่อ กิโลเมตร และสูงสุดที่ 99 กรัมต่อกิโลเมตร ในขณะที่ไดชาร์จยังทำงานอย่างอัจฉริยะในการชาร์จแบตเตอร์รี่เมื่อเครื่องไม่ได้ใช้กำลังในการขับเคลื่อน โดยยังมีฟังชั่น Start/Stop ในการ ช่วยในการประหยัดน้ำมันอีกด้วย

อย่างไรก็ดี Nissan March DIG-S ได้มีการเปิดเผยราคาออกมาโดยมีราคาเริ่มต้นที่ 11,500ปอนด์ และสูงสุดเพียง 13,650 ปอนด์ ท่านั้น



เปิดตัว… Ford Thunderbird 2012

กลับมาอีกครั้งกับข่าวสารวงการรถยนต์ ซึ่งคราวนี้เราจะมานำเสนอรถยนต์จากค่าย Ford กันบ้างครับ
ซึ่งล่าสุดทาง Thaicarlover.com ได้ข่าวมาว่า

Ford ได้เปิดตัวรถยนต์ Ford Thunderbird 2012 ใหม่จากตระกูลฟอร์ด ที่ทั้งเท่ห์หรู ดูดี ทุกจังหวะการขับขีj มาพร้อมเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเครื่องยนต์ DOHC V8 ขนาด 3.9 ลิตร 32 วาล์ว พลัง 280 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่เร่งได้แรงถึงใจ พร้อมพลังประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วน ทั้งภาพและเสียงที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณไม่เหงา และเพลิดเพลินไปกับทุกการเดินทาง

Ford Thunderbird 2012_01

Ford Thunderbird 2012_01

สำหรับ ราคา ฟอร์ด ธันเดอร์เบิร์ด 2012 ใหม่ตัวนี้ ยังไม่เปิดเผยออกมาให้ทราบแน่ชัด แต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับรถจากตระกูลฟอร์ดในปี 2012 เพราะนอกจากความสวยหรูแล้ว ยังมีระบบเครื่องเล่น CD 8 ลำโพง 180 วัตต์ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะจากฟอร์ด ให้คุณมั่นใจได้ทุกการขับขี่ และทุกเส้นทางการเดินทาง

Ford Thunderbird 2012_02

Ford Thunderbird 2012_02

สำหรับแฟนๆ Ford ในบ้านเราคงต้องรอลุ้นว่า Ford Thunderbird 2012 จะเข้ามาอวดโฉมที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้หรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ ฟอร์ด คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

Ford Thunderbird 2012_03

Ford Thunderbird 2012_03

อย่าพลาดติดตามอัลบั้มรูปรถยนต์เด่น พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ

มือสองน่าสน : Nissan Cefiro A32-A33 ..ตัวหรูสุดแจ่ม ในราคาเบาๆ

ในช่วงเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่เราเริ่มทำคอลัมน์ มือสองน่าสนมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันพุธนั้น หลายครั้งที่เราแนะนำรถเก่าที่ยังน่าใช้ราคาดีไม่แพง และคุณจับต้องได้ โดยเฉพาะ เมื่อรถเหล่านี้อาจจะเหมาะกับคนที่มีเงินไม่มาก ต้องการรถที่มากกว่าแค่การตอบโจทย์ในเรื่องราคา แต่เป็นการใช้งานที่ต้องรองรับได้ตามความเหมาะสมด้วย

ที่ผ่านมาเราได้แนะนำรถยนต์ไปหลายรุ่น โดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นรถใช้งานกลุ่มซิตี้คาร์และคอมแพ็คคาร์ที่มีทั้งใหม่และเก่า แต่บางครั้งก็ต้องยอมรับครับว่ารถอาจจะให้อะไรได้มากกว่า โดยเฉพาะ ถ้าคุณเองอาจจะกำลังมองหายานยนต์ที่ตอบโจทย์ได้ในเรื่องความสะดวกสบายแต่ไม่อยากจ่ายแพง รถหรูตัวเก๋าอาจจะเป็นทางออกที่เหมาะสม

Nissan Cefiro A33

แม้ต้องยอมรับว่า Nissan จะไม่ใช่แบรนด์ที่หวือหวามากในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่รถยนต์ค่ายนี้ก็มาพร้อมฟังชั่นการขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะสมรรถนะที่เต็มเปี่ยม และมันมีอยู่ใน Nissan Cefiro ที่ในรุ่นแรกนั้นคือ โฉม A31 ยอดฮิตนำไปแต่งของวัยรุ่นไทย ทว่าเรากำลังพูดถึงตัวหรู ที่อาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนักแต่ก็ใช่ว่าจะไม่น่าสนใจเลย

Nissan Cefiro A32-A33 นั้นเป็นรถที่ถูกผู้ซื้อรถยนต์ส่วนใหญ่มองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยความที่มันเป็น Nissan บวกกับทรวดทรงที่ดูแล้วอาจจะแก่ไปนิด ที่มาพร้อมเรือนร่างของซีดานขนาดกลางตอบสนองความหรูหรามีมากมายหลายเวอร์ชั่น รวมถึงรุ่นแต่งพิเศษที่งามหยดที่สุดในยุคนั้นตั้งแต่ออกมาจากโรงงาน

Nissan Cefiro A32

Cefiro A32 นั้นเป็นรถที่สืบทอดเจตนารมย์ของค่าย Nissan ที่หวังในรถซีดานกลางคันนี้เปลี่ยนจาก Premium Compact มาสู่รถนั่งสำหรับผู้ใหญ่อย่างแท้จริงสำหรับผู้บริหาร เริ่มแนะนำสู่ตลาดในญี่ปุ่นปี 1995 และปลดระวางไปเมื่อ 1998

เวลาเพียง 3 ปี ที่มาเร็วไปเร็วทำให้หลายคนงงเป็นไก่ตาแตกว่าทำไมจะไวขนาดนั้น แต่นั่นเป็นเพราะ แนวออกแบบใหม่ถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วและแนะนำในปี 1999 ผ่านCefiro A33 ที่หรูหรายิ่งกว่าโดยเฉพาะรถคันไหนที่มาพร้อมสีดำจากโรงงานนั้นถือว่ากินขาดกว่ารุ่นอื่นๆที่มีในตลาด ก่อนโดนค่ายรถยนต์ยอดนิยมตลบหลังด้วยรุ่นใหม่ ทำให้หลายครั้งที่ดูเหมือน Cefiro a33 ดูเป็นรถที่ล้าหลังไป

ทรวดทรงที่งดงามมาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่วางใจได้ ด้วยระบบช่วงล่างที่มาในสไตล์นุ่มนวลแต่หนึบแน่นมั่นคงทุกเส้นทาง โดยเฉพาะเบรคที่เซทมาสั่งได้ดั่งใจ แต่ที่โดดเด่นสุดก็ไม่พ้นขุมพลังใต้ฝากระโปรงรหัสVQ เครื่องยนต์ V6 ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมายทั่วโลก มีให้เลือกตั้งแต่ 2.0 ,2.5 และ 3.0 ลิตร ที่ทนทานมากดูแลง่ายให้แรงม้าพอดีๆเริ่มต้นที่ 155 แรงม้า และ 3.0 ให้ถึง 220 แรงม้า แต่ที่เป็นข้อเสียเดียวของมันคืออาจจะกินน้ำมันไปหน่อยโดยเฉพาะยิ่งถ้าคุณใช้งานมันในเขตเมือง

อย่างไรก็ดีถ้าคุณมีโอกาสออกต่างจังหวัดบ่อยเครื่องยนต์ V6 นี้ก็สามารถตอบสนองได้ดีตลอดเส้นทาง มีอัตราประหยัดที่ถือว่าพอไปวัดไปวาได้ตามนิสัยของเครื่องยนต์บล็อกกลางที่ชอบทางไกล แต่ต้องรู้จักขับสักนิดอย่าใช้วิธีคิกดาวน์บ่อยค่อยเร่งสบายๆรับรองอาจจะประหยัดกว่าที่คิด แถมแก๊สโซฮอลล์ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา ส่วนถ้าคิดจะเอาไปดมแก๊สนั้นไม่ค่อยแนะนำเท่าไร

ขุมพลังพันธ์แกร่งหนึ่งเดียวที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลกกับ VQ

ในตลาดตอนนี้ค่อนข้างมี Nissan Cefiro ทั้ง A32-A33 มีอยู่มากมาย โดยจุดที่แตกต่างของรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นสามารถดูได้ที่เรือนร่างที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย A33 จะมาพร้อมกระจังหน้าโครเมี่ยม และไฟหน้า-ท้ายที่ดูทันสมัยกว่า ส่วน A32 จะออกแนวเหลี่ยมๆ ตามสมัยนิยม แต่ก็ไม่ขี้เหร่มากมายอะไรนัก

ด้านราคาจำหน่ายตามผู้จัดจำหน่ายรถยนต์มือสองนั้น Nissan Cefiro A32 มีราคาเริ่มที่ 2 แสนบาทต้นๆ ไปจนถึง 3 แสนบาทกลางๆ ส่วนA33 นั้นเริ่มตั้งแต่ 2 แสนบาทปลายๆไปถึง 4 แสนบาทกลางๆ โดยทั้ง 2 รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งเครื่อง 2.0 และ 3.0 ลิตร ส่วนถ้ารถคันไหนเป็น 2.5 ลิตร แสดงว่ามีการเปลี่ยนเครื่องยนต์มาแล้ว ยังไงตรวจสอบให้ดี แต่บอกได้เลยว่ารถสภาพสวยยังมีเยอะพอสมควร

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

รถ Nissan Cefiro นั้น อาจจะไม่ใช่รถที่อยู่ในสายตาของใครหลายคนเว้นตัว A31 ที่ยังขายดีแม้จะ 20 ปีแล้ว ทว่าสาเหตุหนึ่งที่A32 และ A33 ไม่ค่อยได้รับความนิยมนั้นเพราะอัตราประหยัดที่ไม่น่าประทับใจยิ่งเทียบกับรถช่วงเวลาเดียวกันแต่ด้วยความหรูที่เหนือชั้น บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ถ้ากำลังต้องการรถหรู

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม