Toyota Innova : กระตุ้นตลาด ด้วยออฟชั่นใหม่

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย สร้างความเคลื่อนไหวอีกครั้งให้กับ อินโนวา ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ ตามแบบฉบับแต่งหน้าทาปาก ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์พื้นฐานกระตุ้นตลาดช่วงปลายปี ภายใต้แนวคิด The Happiness on Board ที่ต้องการสื่อถึงความเป็นรถครอบครัวมีสไตล์ มาพร้อมความสะดวกสบายที่มากขึ้น

โตโยต้า อินโนวา มีการปรับปรุงภายนอกที่บริเวณชุดไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้าใหม่ที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้ ลงตัวยิ่งขึ้น มาพร้อมชุดแต่งดีไซน์ใหม่รอบคัน และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต

ส่วนภายในมีการปรับปรุงรายละเอียดในส่วนต่างๆ ทั้ง แผงคอนโซล แผงประตู หัวกียร์ และพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 4 ก้านตกแต่งด้วยลายไม้และเมทัลลิก พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง เรือนไมล์ ดีไซน์ใหม่ โดดเด่นด้วยรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ ออกแบบให้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน

ส่วนชุดเอนเตอร์เทนเมนท์ มีทั้งเครื่องเล่นวิทยุ DVD 1แผ่น พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย สำหรับผู้โดยสารด้านหลังมีจอ LCD ขนาด 10.2 นิ้ว พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB, iPod และ AUX

ด้านขุมพลังและระบบส่งกำลัง ยังคงเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VVT-i รหัส 1TR-FE ขนาด 2,000 ซีซี กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 18.54 กิโลกรัม-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ สำหรับรุ่น G และ V พร้อมทางเลือกเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะสำหรับรุ่น E

ระบบเสริมความปลอดภัยเป็นมาตรฐานด้วยถุงลมนิรภัย SRS ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบเปิด / ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม โครงสร้างนิรภัย GOA พร้อมคานเหล็กนิรภัยกันกระแทกด้านข้าง พวงมาลัยและแป้นเหยียบเบรกแบบยุบตัวได้ พร้อมวาล์วตัดน้ำมันอัตโนมัติ ในกรณีฉุกเฉิน สีสันภายนอกมี 3 เฉดสี ให้เลือกเป็นเจ้าของทั้ง ขาว ซุปเปอร์ ไวท์ II ,เงิน ซิลเวอร์ เมทัลลิก และ ดำ ไมก้า

2.0V A/T ราคา 1,079,000 บาท

2.0G Option A/T ราคา 984,000 บาท

2.0G A/T ราคา 939,000 บาท

2.0E M/T ราคา 844,000 บาท

ทันทุกข้อมูลก่อนใครบน FB..แค่คลิ๊กที่นี่เลยถ้าเพื่อนๆ คนใดคลิ๊กแล้วไม่ต้องคลิ๊กซ้ำนะครับ

ฮอนด้าเปิดตัว Honda City 2012 วันที่ 22 ก.ย.นี้

ฮอนด้า ซิตี้
ฮอนด้า ซิตี้ ตัวปัจจุบัน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก honda.co.th

เป็นที่น่าจับตาทีเดียวสำหรับ Honda City Minor change 2012 หลังจากที่มีข่าวลือว่าบริษัทฮอนด้าเตรียมวางแผนจะส่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวออกสู่ตลาดภายในเร็ววันนี้แล้ว เพื่องัดข้อกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า

ตามรายงานข่าวระบุว่า ทางค่ายฮอนด้า จะเปิดตัว Honda City Minor change 2012 ในวันที่ 22 กันยายนนี้ โดยหวังจะโค่นบริษัท โตโยต้า คู่แข่งเจ้าตลาด ที่ยังครองแชมป์รถนั่งขนาดเล็กจากโตโยต้า วีออส (Toyota Vios)

สำหรับออพชั่นใหม่ที่คาดว่าจะมีมาใน Honda City Minor change 2012 นั้นเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนไฟหน้าและไฟท้าย รวมทั้งกันชนหน้า-หลังและกระจังหน้าให้ทันสมัยยิ่งขึ้น รวมถึงมีการแนะนำสีใหม่เพิ่มเติม ซึ่งมีกระแสว่าจะเป็นสีแดงใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ที่อาจจะรวมถึงการเพิ่มซันรูฟ ส่วนภายในเชื่อว่าจะมีการเพิ่มระบบ Bluetooth และความสามารถการเชื่อมต่อ Ipod ได้อีกด้วย

ส่วนภายในห้องโดยสาร คาดว่าจะมีการปรับเบาะให้สามารถปรับขึ้น-ลงได้เพื่อเพิ่มความสามารถในด้านทัศนวิสัยให้กับผู้ขับขี่ รวมถึงน่าจะมีการเพิ่มคุณภาพวัสดุ อีกทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้ามาตรฐานใหม่ และจะมีการปรับเครื่องยนต์ให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ แม้ข้อมูลที่ออกมาจะยังไม่เป็นทางการ แต่มีการคาดการณ์ไม่นานเกินรอ Honda City Minor change 2012 จะวางตลาดอย่างแน่นอน สำหรับคนที่คิดจะออกรถใหม่ Honda City Minor change 2012 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียวเลยล่ะค่ะ ;)



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

Sangyong SUT 1 ...ปิคอัพหน้ามลจากค่ายเกาหลี

หากพูดถึงค่ายรถยนต์จากเกาหลีที่บ้านเราคุ้นเคยกันดีแล้ว ค่ายรถยนต์ชื่อSangyong นับว่า เป็นค่ายรถยนต์รายหนึ่ง ที่อยู่คู่บ้านเรามานาน ถึงแม้จะไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่หลังเมื่อต้นปีค่านรถยนต์รายนี้ตัดสินใจโชว์รถกระบะ ที่ล่าสุดในงาน Frankfurt auto show ค่ายรถยนต์รายนี้ก็เผยข้อมูลใหม่ที่ทำให้มันน่าสนใจมากขึ้น

Sangyong SUT1 ยึดพื้นที่ในงานที่เยอรมันในการโชว์ตัวเป็นครั้งแรก ที่มันมาพร้อมการดัดแปลงเอาจากเรือนร่างของความเป็นอเนกประสงค์ ทำให้ลุคของรถคันนี้แม้จะเป็นกระบะแต่มีสไตล์สปอร์ตเป็นของตัวเอง ลงตัวกับใบหน้าที่ดูแข็งแกร่ง ดุดัน เรือนร่างภ ประตู และมีการตอบโจทย์ทางด้านการบรรทุกที่บั้นท้าย และยังลงตัวกับล้อขอบ 18 นิ้ว ในรุ่นท๊อป ส่วนทั่วไปเป็นขอบ 16 นิ้ว

ในห้องโดยสาร Sangyong SUT 1 เปี่ยวด้วยความหรูหราที่ทำให้มันน่าสนใจ เพราะในขณะที่ค่ายรถยนต์กระบะเชิงพาณิชย์ไม่เน้นความหรูอะไรมากนัก แต่รถคันนี้กลับใส่มาเต็มเหนี่ยว เริ่มจากเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พวงมาลัยหุ้มหนัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กระจกไฟฟ้า มาพร้อม Cruise control และเครื่องเสียงชั้นนำแบบ 2 DIN ให้ปรับได้จากปลายนิ้วสัมผัสที่พวงมาลัย

ไม่เพียงเท่านี้ Sangyong SUT 1 ยังพกความปลอดภัยมาอีกเพียบ ยาวเป็นหางว่าว ตั้งแต่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า มาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัว ESP และเตือนการถอยหลัง มาพร้อมสรรพกับดิสก์เบรก 4 ล้อ จากโรงงาน

ขุมพลังใต้ฝากระโปรง Sangyong ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 2.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า เรียกแรงบิดได้สุงสุดที่ 360 นิวตันเมตร ในรถทุกรุ่น ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ part time ทว่าทั้งหมดนั้นจับคู่กับระบบเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ 6 สปีด

Sangyong เคลมว่า Sangyong SUT 1 นี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 171 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรถทุกรุ่นทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ ส่วนอัตราประหยัดนั้นทำได้เฉลี่ยที่ 13 กม,/ลิตร

All New Mazda3 (2.0L) แรงจัดได้ใจขับได้อารมณ์

หนึบเกาะโค้ง! คือจุดเด่นที่ทำให้ Mazda3 ครองใจผู้ใช้มานาน ล่าสุดกับ All New Mazda3 (2.0L) ภายใต้แพลตฟอร์มเดิม แต่ไฉไลขึ้นกับการทดสอบขับกว่า 400 กม. (กทม.- กบินทร์-กทม.) ในแบบซูม..ซูม ทั้งรุ่นซีดานและแฮทช์แบ็ก

Testdrive All new Mazda 3 2.0


รูปทรงสวยแจ่มใกล้เคียงกันทั้งสองรุ่น แต่รุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ไบซีนอนเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟท้าย LED กุญแจ Smart Keyless Entry เปิด-ปิดประตูโดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือรีโมท ซันรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ระบบควบคุมการทรงตัว DSC ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว ภายในรุ่นแฮทซ์แบ็ก เน้นโทนสีดำแซมเมทาลิก คอนโซลรูปทรงโค้งมน เบาะนั่งคนขับนั่งสบายปรับสูงต่ำได้ตามใจชอบ พื้นที่ใช้สอยภายในไม่แตกจากรุ่นก่อน เบาะหลังให้ความสบายเช่นเดิม ระบบแอร์อัตโนมัติ มาตรวัดวงกลมตัวเลขสีเฉดสีส้ม Hoodless Design เครื่องยนต์เบนซิน MZR 1,999 ซีซี (บล็อกเดิม) DOHC 4 สูบ 16 วาล์วแบบแปรผัน S-VT 147 แรงม้า 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 18.6 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบต่อนาที แต่ขับสนุกกว่า เพราะเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติจาก 4 สปีดมาเป็น 5 สปีดใหม่แบบ Activematic สเปกเดียวกับ Mazda RX8

Testdrive All new Mazda 3 2.0


พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นให้แฮนเดอรริ่งดี พร้อมโหมดควบคุมเครื่องเสียง ควบคุมความเร็วและโหมดเปลี่ยนเกียร์ด้วยปลายนิ้วสัมผัส Paddle Shift แต่ที่ถูกใจเป็นพิเศษจนต้องยกให้เป็นพระเอกคือ "ปุ่ม DOWN" บนก้านพวงมาลัย จัดวางไว้เหมาะเหม็งตรงนิ้วโป้งขวาหรือ "Driect Mode" ช่วยให้ขับขี่ได้อารมณ์มากขึ้น ทั้งเร่งแซงหรือต้องการความฉับไว กดปุ๊บ! โหมดจะสั่งการณ์เรียกรอบเครื่องให้กระชากกำลังม้ามาเต็มความเร็วได้ดั่งใจ

ช่วงขับขึ้นเขาเลาะโค้งแถววังน้ำเขียว ช่วงล่างใหม่ที่เซ็ทมาให้หนึบ แต่ลดความกระด้างลงกว่าเดิม เพื่อหวังจับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงมากขึ้น ทำงานผสานระบบเกียร์อันชาญฉลาดทั้ง Paddle Shift และ "ปุ่ม DOWN" ช่วยเต็มเติมโดนใจจริงๆ จะเชนจ์หรือเติมเกียร์ก็อย่างราบลื่น ห้องโดยสารจัดว่า เก็บเสียงดี

Testdrive All new Mazda 3 2.0

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันไม่ถูกใจนัก วิศวกรมาสด้าแคลมว่า จากการทดสอบ (เมืองนอกในเมืองเฉลี่ย 12.2 กม.ต่อลิตร) แต่ที่ทดสอบเองหวดกันแบบยาวๆ 140-180 กม.ต่อชม. บนทางไฮเวย์ จนถูกตำรวจทางหลวงจับ และขับไม่ต่ำกว่า 120 กม.ต่อชม. (ขับทั่วไป) มาตรวัดอัจฉริยะโชว์ (ลิตรต่อ 100 กม.) เฉลี่ยที่ 8 กม.ต่อลิตร แต่ถ้าพูดถึงภาพโดยรวมแล้ว All New Mazda3 ทั้งรุ่นซีดานและแฮชท์แบ็ก สนนราคาค่าตัว 1.064 ล้านบาท เด่นทั้งหน้าตา ช่วงล่างและสมรรถนะการขับขี่

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.ecareasy.com

ทันทุกข้อมูลก่อนใครบน FB..แค่คลิ๊กที่นี่เลยถ้าเพื่อนๆ คนใดคลิ๊กแล้วไม่ต้องคลิ๊กซ้ำนะครับ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม