รวมวิธีเอารถยนต์ "หนีน้ำ" ในวิกฤติน้ำท่วม 2554




รวมวิธีเอารถยนต์ "หนีน้ำ" ในวิกฤติน้ำท่วม 2554
โดย ณัฐนันทน์ แนวมาลี

(ความเห็นส่วนตัว: ไม่สนับสนุนให้สมาชิกจอดรถบนทางด่วนกันนะครับ)

"ในหลวง"รับสั่ง ไม่กั้น"วัง" ทุกพื้นที่-เท่าเทียมกัน



"ประยุทธ์"เผยในหลวง รับสั่งกังวลประชาชนเดือดร้อนให้ดูแลทุกพื้นที่ทั่วถึง

ให้น้ำเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องเฝ้าระวังเขตพระราชฐานเป็นกรณีพิเศษ "ปู"ยังกังวล ตรวจดูแผนป้องกันพระบรมมหาราชวัง และร.พ.ศิริราช พอใจแนวป้องกัน และระบบน้ำ-ไฟ บางพลัดยังอ่วม ปิดพนังกั้นยังไม่ได้ น้ำเอ่อคลองบางกอกน้อยท่วมอรุณอมรินทร์อีก สายไหมท่วมร.ร.ฤทธิยะ 2 แล้ว 30 ซ.ม.

ส่วนดอนเมืองยังท่วมมิดรันเวย์ แต่ยังเปิดให้ลงจอดฉุกเฉินได้ น้ำลามถึงหลักสี่แล้ว ผอ.ดอนเมืองเผยเร่งสูบน้ำออกถนนพหลโยธิน นายกฯ ยังไม่ย้ายศปภ. ลั่นไม่ใช่กลัวเสียหน้า หรือเรื่องการเมือง ชี้อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ รับอีกกทม.ท่วมแน่ แต่ลดหลั่นกันไปตามพื้นที่ ผู้ว่าฯ กทม.ประกาศเขตเฝ้าระวังเพิ่ม ลาดพร้าว-วังทองหลาง หวั่นน้ำถึงคืน 26 ต.ค. เหตุประตูน้ำคลอง 2 ล้น แต่อุ่นใจน้ำเหนือเริ่มลดแล้ว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

สัมผัสเสน่ห์เกาะพะงันที่ "อ่าวศรีธนู"



"อ่าวศรีธนู"

"อ่าว ศรีธนู" อีกหนึ่งอ่าวที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในชาวไทยและชาวต่าง ประเทศ ของตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอ่าวที่มีชายหาดที่สวย งาม เป็นอันดับสามของเกาะพะงัน

โดยบริเวณชายหาดนั้นมีหาดทรายละเอียดสีสม่ำเสมอมีหาดหินบางบริเวณ เช่นบริเวณที่จอดเรือประมง ชายหาดมีสงบเงียบหาดหนึ่ง ซึ่งสามารถลงเล่นน้ำได้ตลอดแนวหาด ยามเย็นยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามแห่งหนึ่งของเกาะพะงัน

อ่าวศรีธนู เป็นหาดที่เดินทางสะดวกมีถนนเลียบหาดถัดจากอ่าวศรีธนูไปเป็นอ่าวหินกอง และอ่าววกตุ่ม ได้สะดวก การเดินทางมาสามารถนั่งรถสองแถวจากอ่าวท้องศาลาได้ ราคา 40 บาทเหมาะแก่การไปดำน้ำชมปะการังและเล่นน้ำทะเลได้ เป็นพื้นที่ปลอดมรสุม

นอกจากนี้แล้ว อ่าวศรีธนู ยังถือว่าเป็นอ่าวที่เรือประมงใช้เป็นที่จอดพัก หลบมรสุม ซ่อมแซมเรือ พร้อมทั้งเป็นที่ขึ้นเรือของชาวประมง แต่ถ้าเป็นหน้า มรสุมคลื่นลมจะแรงมาก และไม่สามารถลงเล่นน้ำได้

ข้อมูลโดย : กรมการท่องเที่ยว

Lexus GS350 F Sport รุ่นปี 2013

กลับมาอีกครั้งกับข่าวสารวงการยานยนต์ วันนี้ทาง Thaicarlover.com มีข่าวจากค่ายรถยนต์ Lexus มาเฝากเพื่อนๆ กันครับ โดยล่าสุด…

หลังจากเปิดตัวไปแล้วครั้งหนึ่งที่เมืองโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ล่าสุด Lexus ขอส่ง Lexus GS350 F Sport รุ่นปี 2013 ไปอวดโฉมที่งาน SEMA Motor Show ในต้นเดือนพฤศจิกายน อีกครั้ง เพราะดูแล้วกลุ่มเป้าหมายจะตรงกว่า แถมมีขนาดของตลาดใหญ่กว่ามาก โดยรถรุ่นนี้แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานด้วยการใช้กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังแบบตาข่าย สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง และติดตั้งดิฟฟิวเซอร์

Lexus-GS350-F-Sport

Lexus-GS350-F-Sport

นอกจากนี้ ในเรื่องของการควบคุมรถ ได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการติดตั้งแอนตี้โรลบาร์ที่หนาขึ้น เบรคหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้น มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน AVS (Adaptive Variable Suspension) และล้ออัลลอยลายพิเศษขอบ 19 นิ้ว ส่วนห้องโดยสารภายในได้รับการหุ้มหนังเจาะรูระบายอากาศในส่วนของเบาะนั่ง เพดานใต้หลังคาสีดำ แป้นคันเร่งอัลลอย พวงมาลัยเป็นแบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งภายในด้วยวัสดุอลูมิเนียม

ด้านข้าง Lexus-GS350-F-Sport

ด้านข้าง Lexus-GS350-F-Sport

ส่วนเครื่องยนต์จะเป็นเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร ขนาด 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.7 วินาที ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสำหรับการขับในเมือง และนอกเมืองเท่ากับ 20 และ 27 ไมล์/แกลลอนตามลำดับ (รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง) ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ตัวเลขจะอยู่ที่ 18 และ 25 ไมล์/แกลลอน สำหรับการขับในเมือง และนอกเมือง ตามลำดับ

ภายใน Lexus-GS350-F-Sport

ภายใน Lexus-GS350-F-Sport

สุดท้ายนี้เว็บ Thaicarlover.com อยากให้เพื่อนๆ ช่วยเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ประสบปัญหาอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หรือกำลังเตรียมการรับมือกับน้ำท่วม และน้ำท่วมรถ ด้วยครับ และถ้าเพื่อนๆ สามารถช่วยเหลือสิ่งใดได้ก็ขอให้ช่วยเหลือตามกำลังความสามารถครับ

สำหรับแฟนๆ Lexus ในบ้านเราอาจจะต้องรอลุ้นว่าเจ้ารถคันนี้จะมาอวดโฉมที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้ หรืองานมอเตอร์โชว์ 2012 (Motor Show 2012) ในต้นปีหน้าหรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ เล็กซัส ต้องติดตามกันต่อไปครับ

ทีมกรุ๊ป ประเมินพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมกรุงเทพฯ ล่าสุด


เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภากประกอบจาก TEAM Group

ทีมกรุ๊ป (TEAM Group) ออกคำเตือนฉบับที่ 4 เผยมีน้ำค้างทุ่งกว่า 1.2 หมื่นล้านลบ.ม. คาดใช้เวลาระบายออก 45 วัน พร้อมประเมินพื้นที่เสี่ยงล่าสุดในกรุงเทพทุกเขต

ถือเป็นอีก 1 แหล่งข่าวที่กำลังได้รับความสนใจในช่วงน้ำท่วมกรุงเทพ 2554 นี้ สำหรับ บริษัททีมกรุ๊ป (TEAM Group) ผู้จัดทำแผนที่น้ำท่วมกรุงเทพ 2554 ออกมาได้อย่างค่อนข้างแม่นยำและน่าเชื่อถือ ล่าสุด ทีมกรุ๊ป ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 ล่าสุด ลงวันที่ 27 ตุลาคม เตือนถึงความรุนแรงของน้ำท่วมและการเตรียมพร้อมรับมือ โดยระบุว่า

1. สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่ดีขึ้น แม้ปริมาณน้ำไหลเข้าสู่ทุ่งเจ้าพระยาจะลดลงจนน้อยกว่าปริมาณน้ำที่ระบายลงสู่ทะเลแล้ว แต่ปริมาณน้ำในทุ่งดังกล่าวยังมีมากกว่า 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 45 วันในการระบายน้ำออกสู่ทะเล หากไม่สามารถเพิ่มช่องทางการระบายน้ำลงสู่ทะเลให้มากขึ้นกว่าในปัจจุบันได้

2. พนังกั้นน้ำบนคันคลองรังสิตประยูรศักดิ์ด้านตะวันตกของประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ยังรั่วอยู่ และพนังกั้นน้ำบนคันคลองรังสิตประยูรศักดิ์ใกล้ตลาดรังสิตยังมีน้ำไหลล้นจำนวนมาก ดังนั้นผู้ที่อยู่ใกล้คลองเปรมประชากร คลองประปา ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน และผู้ที่อยู่สะพานใหม่ บางบัว บางเขน เกษตร ลาดพร้าว โชคชัยสี่ สายไหม เฉพาะที่อยู่ในที่ลุ่มใกล้คลองถนน คลองบางบัว คลองลาดพร้าว และคลองสาขาที่เคยเกิดน้ำท่วมขัง ให้เก็บของขึ้นที่สูง ระดับน้ำท่วมจะทรงตัวอยู่จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน

3. ผู้ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเหนือคลองบางกอกน้อย และเหนือทางรถไฟสายใต้และบริเวณด้านตะวันออกของคลองบางกอกใหญ่ และผู้ที่อยู่ในอำเภอพุทธมณฑล นครชัยศรี สามพราน กระทุ่มแบน และเมืองสมุทรสาคร ที่อยู่ในบริเวณด้านตะวันตกของถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนสาย 3310 รวมถึงผู้ที่อยู่ใกล้แม่น้ำท่าจีน คลองมหาชัย คลองสนามชัย คลองจินดา คลองดำเนินสะดวก และคลองสุนัขหอน ที่อยู่ทางตะวันออก ของถนนสาย 3097 ขอให้ย้ายของขึ้นที่สูงมากกว่า 1.5 เมตร และให้เอารถไปจอดไว้ที่สูง ระดับน้ำจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงหลังวันที่ 5 พฤศจิกายน แล้วทรงตัวอยู่ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน หลังจากนั้นจึงจะเริ่มลดลง

4. ผู้ที่อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 15 เซนติเมตร พนังกั้นน้ำมีโอกาสจะพัง จะทำให้น้ำไหลเข้าท่วมแรงและเร็วมาก ขอให้เพิ่มความแข็งแรงและเสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้พนังกั้นน้ำพัง ให้ระวังจนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 ส่วนพื้นที่อื่น ๆ น้ำจะทรงอยู่จนถึง 15 พฤศจิกายน 2554 ขอให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด


5. พื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะถูกน้ำท่วม เพิ่มเติมจาก TEAM Group เตือนภัยน้ำท่วม ฉบับก่อนนี้ ได้แก่

5.1 พื้นที่ด้านเหนือของถนนบรมราชชนนี จากคลองบางกอกน้อย ถึงถนนวงแหวนรอบนอก

5.2 พื้นที่ด้านตะวันออกของคลองบางกอกใหญ่ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา

5.3 พื้นที่เหนือถนนแจ้งวัฒนะทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ด้านเหนือถนนสรงประภา เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการท่วมฉับพลัน น้ำไหลแรงและเร็ว หากมีการพังของพนังกั้นน้ำบนคลองรังสิตประยูรศักดิ์ บริเวณด้านตะวันตกของประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

5.4 พื้นที่เหนือถนนงามวงศ์วานทั้งหมด

5.5 พื้นที่เหนือคลองบางเขนทั้งหมดและพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับคลองบางเขน

5.6 พื้นที่เหนือคลองบางซื่อตั้งแต่คลองเปรมประชากร ถึงคลองลาดพร้าว และพื้นที่ใกล้คลองลาดพร้าวและคลองสาขา

5.7 พื้นที่เหนือถนนรามอินทราทั้งหมดจากที่ทำการเขตบางเขนไปจนถึงเขตมีนบุรี รวมถึงพื้นที่ด้านตะวันออกของถนนวงแหวนรอบนอกที่อยู่เหนือคลองแสนแสบ


6. การเตรียมการรับสถานการณ์น้ำท่วม ขอให้ทุกท่านร่วมกันปฏิบัติดังนี้

6.1 ตรวจตราพนังกั้นน้ำในแต่ละพื้นที่ให้มีความมั่นคงแข็งแรง และให้มีระดับเพียงพอที่จะกั้นน้ำได้ หากพบรอยรั่วให้ช่วยกันวางกระสอบทรายซ่อมแซม หรือพบว่ามีน้ำรั่วลอดใต้พนังกั้นน้ำให้ใช้กระสอบทรายกั้นเป็นคอกล้อมไว้ โดยให้กระสอบทรายมีระดับสูงกว่าระดับน้ำ ขอให้จัดเวรยามคอยตรวจตราเฝ้าระวังพนังกั้นน้ำอย่างเข้มแข็งอย่างน้อย จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554

6.2 ขอให้ดูแลระบบไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ไม่ให้ถูกน้ำท่วม ขอให้สร้างพนังกั้นน้ำที่แข็งแรงและสูงเพียงพอกั้นล้อมรอบอุปกรณ์ที่สำคัญ รวมทั้งระบบไฟสำรองที่อยู่ในระดับต่ำ และ จัดเวรยามดูแลอย่างใกล้ชิด

6.3 ขอให้แต่ละชุมชนจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนดูแลทรัพย์สินของแต่ละชุมชน อย่าให้มีการลักขโมยทรัพย์สิน

6.4 ขอให้เตรียมยาอย่างน้อยตามที่ นพ.พรชัย มูลพฤกษ์ ได้แนะนามาดังนี้

(1) ยารักษาโรคที่ใช้ประจำ

(2) ยาสามัญประจาบ้าน เช่น Paracetamol เกลือแร่

(3) ยาทาแผล Betadine solution

(4) พลาสเตอร์ปิดแผล

6.5 ขอให้ระวังสัตว์มีพิษต่าง ๆ เช่น งู ตะขาบ เป็นต้น ที่อาจจะเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน

6.6 สำรองอาหารและน้ำดื่มให้เพียงพอประมาณ 3 วัน


7. รายละเอียดระดับความสูงของพื้นที่สามารถตรวจสอบได้ที่ teamgroup.co.th และ เฟซบุ๊ก TEAMGroupConsulting และขอให้ติดตามข้อมูลต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ

8. ในส่วนของน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่เมื่อใด ระดับเท่าใด ขอให้รับฟังประกาศของทางราชการ และติดตามข่าว SMS เตือนภัยจากพนักงานของกลุ่มบริษัททีม (TEAM Group) อย่างใกล้ชิด

แข็งจริง!!! Ranger 2012 คว้า 5 ดาวจาก Euro NCAP

ก่อนอื่นทาง Thaicarlover.com ต้องขอแสดงความยินดีกับค่ายรถยนต์ Ford ที่ล่าสุดได้คว้าเรตติ้ง 5 ดาว จาก Euro NCAP จากการทดสอบการชนของ ฟอร์ด เรนเจอร์ 2012

All-New Ford Ranger ได้สร้างเซอร์ไพรซ์ให้กับวงการรถกระบะอีกครั้ง ด้วยการเป็นรถกระบะรุ่นแรกที่ผ่านการทดสอบในด้านความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP โดยได้รับคะแนนสูงถึง 89% ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่รถยนต์ที่ได้รับคะแนนสูงสุด แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในรถที่ได้คะแนนสูงสุดของ Euro NCAP

Ford-Ranger-EURO_NCAP

Ford-Ranger-EURO_NCAP

ที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีกก็คือ การได้คะแนนในระดับสูงสุดในด้านความปลอดภัยของคนเดินถนนเท่าที่เคยมีการทดสอบมาโดย Euro NCAP ตั้งแต่มีการก่อตั้งขึ้นในปี 1997 ด้วยคะแนนสูงถึง 81%

Michiel van Ratingen เลขาธิการของ Euro NCAP เปิดเผยว่า Ford Ranger รุ่นใหม่นี้ได้ยกมาตรฐานในด้านความปลอดภัยของรถกระบะให้สูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ Adam Frost หัวหน้าวิศวกรของ Ford ประจำ Asia Pacific และ Africa เสริมว่า ทาง Euro NCAP ได้จำลองการทดสอบ All-New Ranger มากกว่าการทดสอบครั้งใดๆ ที่เคยทำมา เพื่อให้มั่นใจว่าทุกชิ้นส่วนของรถรุ่นนี้จะได้มาตรฐานทางด้านความปลอดภัยในระดับสูงสุด

Ford-Ranger

Ford-Ranger

ทางฝั่งวิศวกรของ Ford ได้อ้างว่า ทีมงานได้ทำการทดสอบการชนแบบเสมือนจริงมากกว่า 9,000 ครั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุดที่จะนำมาใช้ในการออกแบบโครงสร้างและระบบความปลอดภัย ก่อนที่จะทำการทดสอบการชนจริงๆกว่า 110 ครั้ง และทดสอบการชนแบบสไลด์อีก 410 ครั้ง โดยการใช้รถต้นแบบของ All-New Ford Ranger 2012

สำหรับผลการทดสอบในเรื่องความปลอดภัยของคนเดินถนน ทีมงาน Ford เผยว่า เคล็ดลับอยู่ที่กันชนหน้าที่มาพร้อมกับวัสดุดูดซับแรงกระแทก และโครงสร้างใต้ฝากระโปรงแบบ hexageneous ของ Ford ที่ช่วยลดการบาดเจ็บของคนเดินถนนเมื่อเกิดการชน ส่วนรายละเอียดของผลการทดสอบของ Euro NCAP สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ภาพด้านล่างนี้ครับ

Ford-Ranger-EURONCAP-results-01

Ford-Ranger-EURONCAP-results-01

Ford-Ranger-EURONCAP-results-02

Ford-Ranger-EURONCAP-results-02

สุดท้ายนี้เว็บ Thaicarlover.com อยากให้เพื่อนๆ ช่วยเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ประสบปัญหาอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หรือกำลังเตรียมการรับมือกับน้ำท่วม และน้ำท่วมรถ ด้วยครับ และถ้าเพื่อนๆ สามารถช่วยเหลือสิ่งใดได้ก็ขอให้ช่วยเหลือตามกำลังความสามารถครับ

สำหรับแฟนๆ Ford ในบ้านเราอาจจะต้องรอลุ้นว่าจะมีโปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ โดนๆ ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้ หรืองานมอเตอร์โชว์ 2012 (Motor Show 2012) ในต้นปีหน้าหรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ ฟอร์ด ต้องติดตามกันต่อไปครับ

เกี๊ยวกรอบใส่เห็ดสับ

เมนูนี้จะเป็นแบบลูกผสมใบเกี๊ยวแบบจีนแต่ใส่แบบฝรั่ง ถึงใครจะไม่ชอบรสนมเนยแต่สำหรับสูตรนี้อร่อยค่ะ

ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่

* ผักโขมเด็ดใบลวก 150 กรัม
* กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
* ครีมนม 1/2 ถ้วย
* ชีสเชดด้าขูด 50 กรัม
* เห็ดฟางสับหยาบ 100 กรัม

* แผ่นเกี๊ยว 50 กรัม
* น้ำมันมะกอก
* เกลือ
* พริกไทยเล็กน้อย

วิธีทำ

1. ผัดกระเทียมกับน้ำมันมะกอกพอหอม ใส่ผักโขมและเห็ดสับ ผัดให้เข้ากันอีกครั้งแล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ตามด้วยครีมนมและชีส ผัดต่อจนส่วนผสมข้นและแห้ง พักให้เย็นลง
2. จากนั้น ตักส่วนผสมที่พักไว้ใส่ลงในแผ่นเกี้ยว โดยใช้น้ำเล็กน้อยแตะรอบริมใบเกี๊ยวแล้วพับให้เรียบร้อย นำไปทอดจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสจิ้มรสจัดตามชอบ

เวลาในการปรุง 15 นาที
ส่วนผสมราคาประมาณ 180 บาท

ซื้อแบรนด์เนมอย่างไรไม่ให้ถูกต้ม!

สอนเคล็ดลับง่ายๆ การเลือกซื้อแบรนด์เนมของแท้

เราขอนำเสนอเคล็ดลับในการป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกหลอกให้ซื้อของแบรนด์เนม แฟชั่นลอกเลียนแบบ

"การซื้อของแบรนด์เนมปลอมถือเป็นการลดคุณค่าของแบรนด์เนมแท้และส่งผลกระทบทางด้านลบต่อเศรษฐกิจโลก"


1. ซื้อของแบรนด์เนมจากร้านค้าหรือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์นั้นๆ เท่านั้น

หรือเลือกซื้อจากห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อ เสียงเป็นที่รู้จัก ถ้าต้องการจะซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีขายสินค้าคละแบรนด์ก็ให้เลือก เว็บไซต์ที่ไว้ใจได้ อย่าง netaporter.com ในกรณีที่ไม่สามารถซื้อสินค้าได้จากเว็บไซต์ของเจ้าของแบรนด์โดยตรง ก็ให้ลองตรวจสอบรายชื่อตัวแทนจำหน่ายจากเว็บไซต์นั้นว่าร้านค้าไหนบ้างที่ ได้รับการอนุญาตให้ขายสินค้านั้นอย่างถูกต้อง

Joanna Douglas บรรณาธิการจากเว็บไซต์ shine.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์แหล่งรวมความสนใจของผู้หญิงกล่าวเตือนว่า อย่าซื้อสินค้าแบรนด์เนมจากข้างทางหรือเว็บไซต์ที่ไม่รู้จักโดยเด็ดขาด Search engine ต่างๆ ไม่อาจช่วยคุณสกรีนได้ว่าเว็บไซต์ไหนที่ขายของแบรนด์เนมปลอม และภาพที่คุณเห็นโชว์หราอยู่บนหน้าเว็บไซต์ ก็อาจจะต่างจากของจริงที่คุณจะได้รับไปคนละเรื่องเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นให้ค้นคว้ามาให้ดีก่อนว่าสินค้าที่คุณจะซื้อมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร

Tip: ถ้าผู้ขายบอกว่ารับเฉพาะเงินสดเท่านั้น ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่จะเตือนคุณว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลบางอย่าง!

นอกจากนี้ เมื่อตกลงใจซื้อไปแล้วก็ให้เก็บใบเสร็จให้ดี และการจ่ายด้วยบัตรเครดิตก็จะทำให้คุณสามารถจดบันทึกการชำระเงินได้ด้วย

2. ถามถึงการรับประกัน
Bukisa.com บอกว่าผู้ขายควรรับประกัน ให้ลูกค้าได้ว่าสินค้าของตัวเองเป็นของแท้แน่นอน ถ้าคุณไม่เห็นข้อมูลเหล่านี้ออนไลน์ ก็ให้ติดต่อไปที่เว็บไซต์เพื่อถามถึงการรับประกันความแท้ของสินค้า การรับประกันควรจะรวมถึงนโยบายที่ยอมให้ลูกค้านำสินค้ามาคืนได้ภายในระยะ เวลาจำกัด และไม่ควรจะซื้อจากบุคคลที่สาม หรือถ้าต้องการจะซื้อจากบุคคลที่สามจริงๆ ก็ให้ถามเกี่ยวกับการรับประกันและนโยบายการคืนสินค้าไว้ด้วย


3. ตรวจสอบฉลาก ป้าย การเย็บ การบุ วัสดุ และบรรจุภัณฑ์ด้วยตัวเอง
Bridget P. Allen จาก ArticleSet บอกว่า ถ้าวัสดุของผลิตภัณฑ์นั้นดูราคาถูก หยาบ ย้อมสีไม่เท่ากัน หรือตัดเย็บมาอย่างไม่ปราณีต ผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นก็อาจจะเป็นของปลอมได้ ถ้าจะดูให้ละเอียดกว่านั้น ก็ให้ตรวจสอบตะเข็บ กระดุม ซิป หรือส่วนประกอบอื่นๆ ที่จะช่วยบอกได้ว่าสินค้าชิ้นนี้เป็นของปลอมหรือไม่

Tip: สำหรับกระเป๋าและรองเท้า ให้ดูที่คุณภาพของหนัง การบุผ้าข้างในกระเป๋าจะช่วยบอกได้ว่ากระเป๋าใบนั้นมีคุณภาพแค่ไหน เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมเปิดกระเป๋าแล้วสำรวจข้างในด้วย


4. คิดตามหลักเหตุและผล
ถ้าราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ ก็ให้ระวังไว้ก่อนได้เลย บรรณาธิการของ wikiHow บอกว่า กระเป๋าแบรนด์เนมตั้งราคาไว้สูงเพราะว่าเป็นสินค้าที่ทำขึ้นมาอย่างปราณีตและเป็นตัวบ่งบอกถึงสถานะด้วย

แม้ว่าการซื้อของลอกเลียนแบบที่ทำมาอย่าง ดีจะเป็นไอเดียที่ดูยั่วยวนสักเพียงใดก็ตาม แต่ Douglas ก็ย้ำว่า สินค้าลอกเลียนแบบเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และเป็นสินค้าที่ทำมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของคนงานที่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการทำงานที่แย่และไม่ยุติธรรม เพราะฉะนั้นการที่คุณเลือกซื้อของแบรนด์เนมปลอมถือเป็นการลดคุณค่าของแบรนด์ เนมของแท้และส่งผลกระทบทางด้านลบต่อเศรษฐกิจของโลก อุตสาหกรรมผลิตของแบรนด์เนมเลียนแบบทำให้เงินหายไปจากระบบเศรษฐกิจมากถึงหก แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี

นี่ยังไม่ได้พูดถึงความรู้สึกตื่นเต้น ดีใจที่สูบฉีดไปทั่วร่างเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้เป็นเจ้าของแบรนด์เนมของแท้ ที่มีการรับประกันอย่างถูกต้อง


5. ใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการวางแผนเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม
แบรนด์ที่ถูกลอกเลียนแบบมากที่สุดประจำปี 2010 จากข้อมูลของ SiteJabber คือ

1. UGGs
2. กระเป๋า Coach และสินค้าเครื่องหนัง
3. Tiffany's
4. เสื้อกีฬา
5. น้ำหอม
6 รองเท้ากีฬา Nike (โดยเฉพาะ Air Yeezy และ Air Jordans)
7. Ed Hardy และ Juicy
8. นาฬิกา (เช่น Rolex Omega และ Tag Heuer)
9. North Face
10. DVDs (โดยเฉพาะละครโทรทัศน์ที่มาเป็นเซ็ทกล่อง)

ถ้าไม่แน่ใจว่าสินค้าที่จะซื้อเป็นของแท้ หรือของปลอม ลองเข้าไปเซิร์ชหาวิดีโอบนยูทูปที่มีผู้รู้นำมาโพสต์เอาไว้ได้ โดยมีครอบคลุมแทบจะครบทุกแบรนด์


Source : AFP Relax News

แต่งหน้าวิ้งๆโดนใจด้วยกากเพชร

สิ่งหนึ่งที่จะทำให้การแต่งหน้าดูโดดเด่นในลุควาวๆนั้นก็คงหนีไม่พ้นการใช้กลิตเตอร์ หรือ เรียกง่ายๆว่า กากเพชร ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในค่ำคืนปาร์ตี้ที่จะทำให้คุณน่าสนใจ ปกติเครื่องสำอางของคุณสาวๆคงจะมีส่วนผสมของชิมเมอร์ ทั้งอายแชโดว์ บรัชออน อยู่แล้ว

เกร็ดดี้คิดว่าเพียงเท่านี้ยังไม่พอถ้าคุณสาวๆอยากจะสวยเจิดจรัสทรามกลางแสงไฟระยิบระยับ ควรเพิ่มกากเพชรเข้าไปในการแต่งหน้าแบบปกติที่เคยแต่ง ทำได้อย่างไรมาดูกันเลย...


- ดวงตาที่สวยถือว่าเป็นสิ่งแรกที่จะทำให้ผู้คนที่พบเจอรู้สึกได้ว่าคุณมีเสน่ห์ การทากลิตเตอร์ควรทาเมื่อแต่งตาด้วยอายแชโดว์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้ใช้เจลกริตเตอร์ทาบางๆแล้วค่อยแตะกากเพชรทับจะทำให้กลิตเตอร์ติดทนนานยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังอย่าทาเยอะเกินไป ถ้าเศษของกลิตเตอร์เข้าไปในตาจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ อ่อ....อย่าลืมติดขนตาปลอมแบบหนาแน่นด้วยนะคะ
- โหนกแก้ม ส่วนนี้ไม่จำเป็นจะต้องทากากเพชรคะ เพียงแค่คุณนำไฮไลท์มาทาเป็นรูปตัว C ไล่ตั้งแต่โหนกแก้มขึ้นไปบนกึ่งกลางของคิ้ว เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติ
- ริมฝีปาก การเลือกสีบรัชออนและสีลิปสติก ไม่ควรเลือกสีโดดเด่นแย่งซีนดวงตา ควรใช้สีส้มอิฐ ชมพูพาสเทล สีโอโรสหรือสีนู้ด เมื่อทาลิปสติกสีที่ชอบตามด้วยลิปกรอสแล้วใช้กากเพชรแตะบริเวณกึ่งกลางของปากล่างจะทำให้ปากของคุณดูอวบอิ่มขึ้นคะ

- กากเพชรทาตัว เดี๋ยวนี้มีแบบครีมออกมาใช้อย่างสะดวกขึ้น ถ้าคุณไม่ชอบความเหนียวของครีมให้ทาทับด้วยแป้งผสมชิมเมอร์ ยิ่งคุณสาวๆชุดที่ใส่เป็นแบบโชว์เนื้อหนังด้วยละก่อนรับรองว่าเกิดแน่นอน แต่ถ้าคุณที่ไม่ได้ใส่ชุดโชว์ผิวทาแค่แป้งที่ผสมชิมเมอร์ก็พอจะได้ดูไม่ตั้งใจมากไปคะ


- เล็บ เมื่อคุณคิดที่จะเด่นทางด้านกากเพชรแล้ว เกร็ดดี้แนะนำให้คุณสาวๆทากากเพชรบริเวณปลายเล็บด้วยจะดูเข้ากันอย่างไม่มีที่ติดีเลยทีเดียวคะ

สำหรับคุณสาวๆที่แต่งหน้าไปทำงานแต่อยากวิบวับบ้าง เกร็ดดี้แนะนำให้เปลี่ยนจากกากเพชรเป็นอายแชโดว์เนื้อชิมเมอร์ที่มีกลิตเตอร์เล็กๆผสมอยู่ก็ดูดีน่ามองแล้วคะ ไว้จะไปปาร์ตี้คริสต์มาสหรือปีใหม่ค่อยจัดเต็มกับกากเพชรกันนะคะ...

เรียบเรียงโดย : เกร็ดดี้

ขอบคุณภาพประกอบจาก : glamour

10 อันดับ ลางบอกเหตุฮาร์ดดิสก์ใกล้ตาย

10 อันดับ ลางบอกเหตุฮาร์ดดิสก์ใกล้ตาย

ทีมงาน Toptenthailand.com ขอเสนอ "10 อันดับ ลางบอกเหตุฮาร์ดดิสก์ใกล้ตาย" ห้ามพลาดสำหรับท่านที่ใช้อมพิวเตอร์ทำงานบ่อยๆนะครับ จะได้รู้ทันก่อนจะเสียงานที่สำคัญไป

10 สร้างพาร์ทิชันไม่ได้

สัญญาณอันตรายในข้อสุดท้ายนี้ค่อนข้างรุนแรงครับ ถ้าคุณเผอิญกำลังประสบอยู่ละก็ ขอบอกเลยว่าอาจจะต้องทำใจเอาไว้ด้วย ถ้าอาการที่ว่านี้เกิดกับฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่แกะกล่องคงไม่ต้องซีเรียสอะไร เพราะยังไงก็เคลมได้ชัวร์ๆ แต่ถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์ที่หมดประกันไปแล้วล่ะ สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้เวลาที่ไม่สามารถสร้างพาร์ทิช ันขึ้นมาได้เลย ไม่ว่าจะใช้โปรแกรมใดๆ ก็ตาม การตีความหมายไม่ควรอยู่ในวงแคบๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์พังแน่ ๆ หรือมันเพิ่งหล่นมาใช้ไหมนี่ ปัญหาอาจจะมาจากแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์เสียหาย ซึ่งหากคุณหาอะไหล่ที่เป็นรุ่นเดียวกันมาถอดเปลี่ยนเข้าไปใหม่ ก็สามารถใช้งานฮาร์ดดิสก์ได้แล้ว แต่ถ้าแผ่นจานเสียหายละก็หมดสิทธิ์ทันทีครับ ต้องกินยาทำใจอย่างเดียว

9 สั่งดีแฟรกแต่ไม่ฉลุย

ดีแฟรก หรือการจัดเรียงข้อมูลหรือไฟล์ที่ไม่ต่อเนื่องซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทั่ว ฮาร์ดดิสก์ให้กลับมาเป็นระเบียบเร ียบร้อยเหมือนเดิม เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วให้ก็จริง แต่ถ้าการดีแฟรกไม่ผ่านฉลุยหรือไม่ยอมจบสิ้นซักทีล่ะ ปัญหาจะมาจากไหนได้ นอกจากฮาร์ดดิสก์นั่นเอง ถ้าคุณพบอาการที่ว่านี้ในระหว่างการดีแฟรกฮาร์ดดิสก์ นั้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ถึงสุขภาพฮาร์ดดิสก์ของคุณเริ่มไม่ดีแล้ว ความเป็นไปได้ของปัญหามีอยู่สองอย่างครับ อย่างแรกมาจากตัวอุปกรณ์เองที่อาจชำรุดเสียหาย และอย่างที่สองมาจากโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลเกิดความเสียหายใน ระดับซอฟต์แวร์ ตรงนี้เราไม่สามารถใช้การดีแฟรกมาช่วยได้นอกจากต้องสร้างพาร์ทิชันและฟอร์ แมตโครงสร้าง FAT ขึ้นมาใหม่

8 สแกนดิสก์ไม่ผ่าน

การตรวจสุขภาพฮาร์ดดิสก์ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ก็คือ สแกนมันให้ทั่วทั้งจาน ไม่ว่าคุณจะใช้บริการจากยูทิลิตีบนวินโดวส์เอง หรือโปรแกรมจากเธิร์ดพาร์ตี้ก็ตาม หากสแกนไม่ตลอดรอดฝั่งแล้วละก็ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานได้เลยว่าฮาร์ดดิสก์กำลังมีปัญหา เกิดขึ้น สาเหตุก็มีทั้งโครงสร้าง FAT เสียหาย รวมถึงตารางพาร์ทิชันที่อาจเสียหายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ หากฮาร์ดดิสก์มีแบดเซกเตอร์ ตรงจุดสำคัญๆ ก็จะส่งผลให้การสแกนฮาร์ดดิสก์ตรงตำแหน่งพื้นที่นั้น ๆ ไม่ผ่านด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่ค้างนิ่งไปเลยก็มีให้เห็นด้วย

7 ฮาร์ดดิสก์ตีกลอง

สำหรับอาการที่ว่านี้มีความแตกต่างจากข้อที่ 1 โดยสิ้นเชิง ถ้าคุณได้ยิ้นเสียงรัวกลองดังกึกก้องมาจากฮาร์ดดิสก์ และไม่ยอมหยุดซักที อาการแบบนี้บอกได้อย่างเดียวว่ามันจะขอลาแล้วละครับ เสียงดังที่คล้ายกับการตีกลองนั้นมาจากหัวอ่านไปกระทบกับจานอย่างจัง หรือแม้แต่หัวอ่านเลื่อนหลุดออกจากตำแหน่งล็อก จนไปกระกบกับแผ่นจาน ถ้าเป็นแบบนี้ข้อมูลทั้งหมดในอาร์ดดิสก์อาจได้รับความเสียหายจนถึงขั้นกู้ ไม่ได้เลย ดังนั้น ถ้าเสียงกลองเพิ่งเริ่มรัวให้คุณรีบพาฮาร์ดดิสก์ไปซ่อมด่วนเลยนะครับ!

6 ไฟติด แต่ไฟล์ดับ!

ถ้าคุณต่อสายสัญญาณไฟแสดงสถานะของฮาร์ดดิสก์ในเมนบอร์ดถูกต้อง หลอด LED ด้านหน้าเคสต้องแสดงอาการให้เห็นเวลาที่มีการเขียนอ่านข้อมูลเกิดขึ้น หลอดไฟดวงเล็ก ๆ นี้ช่วยให้คุณสังเกตความผิดปกติของฮาร์ดดิสก์ได้เช่น กัน ยกตัวอย่าง ถ้าในระหว่างที่มีการเขียนข้อมูลหรือไฟล์ลงฮาร์ดดิสก์ หลอดไฟย่อมกะพริบอยู่ตลอด แต่หลังจากคุณกลับเข้าไปดูข้อมูลที่เขียนหรือโอนถ่าย ลงไปกลับพบว่าทุกอย่างว่างเปล่า ไม่มีอะไรถูกเขียนลงไปในฮาร์ดดิสก์เลย แล้วทำไมหลอดไฟถึงได้กะพริบแบบนั้น ตรงนี้บอกอะไรเราได้บ้าง อย่างแรกเลยคือ เกิดความผิดพลาดในระดับโครงสร้างการจัดเก็บไฟล์ ปัญหาที่ว่านี้อาจมาจากระบบ FAT หรือแม้แต่โครงสร้างพาร์ทิชันเสียหาย ไฟที่กะพริบแสดงถึงการโอนข้อมูลไปยังตำแหน่งของเซกเตอร์ที่ใช้เก็บข้อมูล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเขียนลงไปได้สำเร็จจริงๆ ยิ่งถ้าคุณปิดหน้าจอไว้ในระหว่างที่มีการโอนไฟล์ใหญ่ ๆ หลอดไฟที่กะพริบอาจทำให้คุณเข้าใจว่าระบบกำลังทำงานอยู่ ตรงนี้ถ้าไม่เปิดดูหน้าจอจะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

5 โปรแกรมค้างบ่อยๆ

สำหรับโปรแกรมที่กำลังพูดถึงนี้ ผมเหมารวมไปถึงระบบปฏิบัติการด้วยนะครับ เวลาที่คุณเปิดโปรแกรมสักตัวขึ้นมาแล้วมันหยุดนิ่งหรือค้างไปเฉยๆ นั้น หนึ่งในข้อสันนิษฐานที่อยากให้ทุกท่านได้ใส่ใจก็คือ ปัญหาที่ว่าอาจมาจากฮาร์ดดิสก์โดยตรง ถ้าฮาร์ดดิสก์ของคุณมีแบดเซกเตอร์ (Bad Sector) กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งฮาร์ดดิสก์ ผมกล้าฟันธงได้เลยว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โปรแกรมห รือแม้แต่ระบบปฏิบัติการค้างได้ เป็นสัญญาณเตือนภัยที่คุณสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด

4 ทำไมมันร้อนเร็วจัง

หลังจากที่คุณเปิดสวิตช์เครื่องคอมพ์ได้ไม่นาน และพบว่าฮาร์ดดิสก์ของคุณมีอุณหภูมิขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ แต่ยังคงทำงานต่อไปได้ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงความผิดปกติที่พบขึ้นมาทันที อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะฮาร์ดดิสก์จะร้อนขึ้นเมื่อมีการเริ่มเขียน-อ่าน ข้อมูลอย่างจริงๆ จังๆ แค่เปิดเครื่องแล้วอยู่ๆ ก็ร้อนขึ้นขนาดนี้ไม่ดีแน่ครับ อาการที่ว่านี้มาจากอุปกรณ์ภายในโดยตรงที่ส่งความร้อนออกมา มอเตอร์อาจได้รับแรงดันไฟมากเกินไปหรือไม่เสถียรพอจน ทำงานผิดพลาด นอกจากนี้หากมีชิ้นส่วนในแผงวงจรเกิดชำรุดเสียหายขึ้ นมาก็สามารถแสดงอาการแบบนี้ได้เช่นกัน

3 เครื่องแฮงก์บ่อยๆ

ปัญหาเครื่องคอมพ์ค้างนั้น มีหลายสาเหตุครับ นอกจากซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ Error แล้ว อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ก็สามารถทำให้เครื่องค้างหรือหยุดนิ่งไม่ไหวติงได้เช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ฮาร์ดดิสก์ นั่นเอง ทำไมฮาร์ดดิสก์ถึงค้างได้ เป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ยากครับ อย่างแรกเลยก็คือ กำลังไฟที่จ่ายไม่เพียงพอ ถ้าเครื่องของคุณมีอุปกรณ์ต่อพ่วงมาก มีฮาร์ดดิสก์และไดรฟ์ออปติคอลหลายตัว แต่เพาะเวอร์ซัพพลายใช้ของราคาถูก จ่ายไฟไม่พอ แบบนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ฮร์ดดิสก์ค้างได้เลย และอย่างที่สองมาจากอุปกรณ์ภายฮาร์ดดิสก์ในทำงานผิดพลาด ซึ่งตรงจุดนี้ตัวระบบปฏิบัติการเองสามารถส่งผลต่อเนื่องมายังฮาร์ดดิสก์ได้ โดยตรง เพราะยังไงเสียระบบปฏิบัติการก็เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ นั่นเอง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับส่วนหนึ่ง ย่อมส่งผลไปยังส่วนที่เหลือได้ไม่ยาก

2 ไฟดับบ่อยๆ ไม่ดีกับฮาร์ดดิสก์

เครื่องคอมพ์ที่ไม่มี UPS มีโอกาสเสี่ยงที่อุปกรณ์ภายในจะเสียหายเร็วขึ้นถ้าหากมีไฟดับบ่อย ๆ โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์นั้น เวลาที่ไฟฟ้าดับอย่างรวดเร็วหัวอ่านข้างในอาจจะยังไม่กลับสู่บริเวณที่ ปลอดภัย หรือบางทีหัวอ่านอาจจะไปกระแทกกับแผ่นจานในช่วงที่ไฟ ฟ้ากระชากขึ้นมาทันที ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่ นอกจากนี้หากไฟตกบ่อย ๆ แล้วดับลงก็ไม่เป็นผลดีเช่นกัน เพราะฮาร์ดดิสก์จะพยายามทำงานตามหน้าที่หากมีกำลังไฟ เพียงพอ แต่ถ้าในระหว่างนั้นไฟค่อยๆ ตกลงและดับไป ตำแหน่งของหัวอ่านจะยังไม่กลับที่เดิมแน่ ดังนั้น ควรติดตั้ง UPS ไว้จะปลอดภัยทั้งฮาร์ดดิสก์เองและอุปกรณ์ทั้งหมดด้วย เช่นกัน

1 เสียงดังติ๊กๆ อย่านึกว่าเป็นเข็มนาฬิกา

ฮาร์ดดิสก์ทุกตัวในโลกนี้ไม่เคยติดตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ข้างใน และถ้ามันเป็นปกติดีก็ไม่ควรจะมีเสียงดังติ๊กๆ ให้ชวนระทึกขวัญด้วย เสียงดังที่ว่านี้ ถ้าจะให้พิจารณากันอย่างละเอียดคุณต้องเอาหูแนบกับฮาร์ดดิสก์ว่าเสียงมาจาก ส่วนใด เพราะการวิเคราะห์หาสาเหตุจะทำได้ตรงจุดจริงๆ ถ้าเสียงมาจากตรงกลางให้สันนิษฐานว่ามาจากชุดขับเคลื่อนมอเตอร์ที่อาจเกิด ความผิดพลาดหรือชำรุดขึ้น แต่ถ้าเสียงดังมาจากรอบ ๆ นอกในรัศมีของกล่องฮาร์ดดิสก์ ให้สันนิษฐานว่าปัญหามาจากหัวอ่านติดขัด ซึ่งอาจจะกำลังเคาะกับแผ่นจานอยู่ก็เป็นได้ ตรงนี้อันตรายมากเพราะทำให้ข้อมูลเสียหายได้ทั้งลูกเลย


หมาย เหตุ ข้อมูลทั้งหมดที่ทาง Toptenthailand.com นำเสนอได้มาจากการสำรวจความคิดเห็นเชิงสถิติ ด้วยขั้นตอนที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของหัวข้อนั้นๆ ทางเว็บไซต์ Toptenthailand.com มิได้มีเจตนาที่จะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเพื่อชี้นำ หรือ ก่อให้เกิดความแตกแยกใดๆ ในสังคมทั้งสิ้น เราและทีมงานเพียงแต่ต้องการนำเสนอข้อมูลทางสถิติที่เรารวบรวมเพื่อเป็นสาระ และเป็นการสะท้อนอีกด้านหนึ่งของสังคม ให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต และประชาชนทั่วไปรับชมเท่านั้น (โปรดใช้วิจารณญาณในการชม และบริโภคข้อมูลจาก Toptenthailand.com) และหรือในบางกรณี www.Toptenthailand.com จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการรวบรวม และนำเสนอข้อมูลในการจัดอันดับที่มีอยู่แล้วในสื่อต่างๆ ทั้งทาง Internet และสิ่งพิมพ์ โดยเราจะอ้างอิง ให้เครดิต ถึงแหล่งที่มาในทุกๆ ครั้งไป

วิธีสำรองน้ำดื่ม-น้ำใช้ ในสภาวะน้ำท่วม




เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Muay RainbowWoo

เพราะสถานการณ์น้ำท่วมดูจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมิอาจหยุดยั้งได้ง่าย ๆ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อมรับมือ ยอมรับ และเรียนรู้วิธีที่จะดำรงชีวิตในช่วงที่ยากลำบากนี้ให้ได้ ซึ่งในสภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ สินค้าทุกอย่างขาดแคลน ไม่เว้นแม้กระทั่งน้ำดื่ม หรือน้ำใช้ อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต...

และวันนี้เรามีเคล็ดลับพิเศษในการเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมจาก คุณ Muay RainbowWoo มาฝากกัน..เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เรามีน้ำดื่ม น้ำใช้ ในยามที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมเช่นนี้นะคะ

แนะ นำให้ทุก ๆ คนสำรองน้ำดื่ม และน้ำใช้นะคะ..แต่เนื่องจากถังที่บ้านมีอยู่อย่างจำกัด หรือ ถ้าไปหาซื้อใหม่ก็แทบจะหาซื้อไม่ได้แล้ว หรือถ้าหาซื้อได้ก็จะมีราคาแพงกว่าปกติมาก เรา จึงอยากแนะนำวิธีการสำรองน้ำของเรา คือ การนำน้ำดื่ม และ น้ำใช้ กรอกใส่ถุง (ขอแนะนำให้ใช้ถุงร้อน) ขนาด 16 x 26 นิ้ว(สามารถบรรจุน้ำได้ 15 ลิตร ต่อ 1 ถุง)

อุปกรณ์ก็มีแค่...

1. ถุงพลาสติกร้อน ขนาด 16 x 26 นิ้ว

2. หนังยาง (แนะนำให้ใช้หนังยางเส้นใหม่ที่ไม่เคยผ่านการใช้มาก่อน)

โดยวิธีการคือ...

1. นำถุงมาซ้อนกัน 2 ชั้นและกรอกน้ำดื่ม หรือ น้ำใช้ ลงไปในถุง เต็มที่ก็แค่ 15 ลิตรพอนะคะ เพราะเดี๋ยวจะมากเกินไป
2. มัดหนังยางถุงใบที่ 1 (ถุงชั้นใน) ให้ปลายถุงโผล่ และจากนั้นก็มัดหนังยางถุงใบที่ 2 (ถุงชั้นนอก) ให้ปลายถุงโผล่เช่นกัน มัดให้แน่นๆนะคะ (การมัดหนังยางก็ขอแนะนำว่ามัดอย่างน้อย 3 เส้น ต่อ 1 ถุง)
3. จัดเรียงโดยวางถุงตั้งขึ้นให้เรียบร้อยและเขียนกำกับแยกว่าเป็น "น้ำดื่ม" หรือ "น้ำใช้"

ปล.

1. ถุง 500 กรัม ถ้าเราจำราคาไม่ผิดน่าจะอยู่ที่ 35 บาท มีทั้งหมด 30 ใบ (นำมาบรรจุน้ำไว้ได้ 15 ถุง)

2. ตอนนี้น้ำดื่มหาซื้อยากมาก จึงอยากแนะนำให้ไปหาตู้หยอดน้ำราคาลิตรละ 1 บาท หรือ 0.50 บาท แทนนะคะ

3. น้ำที่ถูกบรรจุไว้ในถุงเมื่อไว้หลายวันอาจมีระเหยบ้าง อย่าตกใจนะคะ เพราะอาจจะมีน้ำซึมออกมา แต่ไม่มากคะแค่ชื้นๆเท่านั้น (เราสามารถหาผ้าเช็ดที่พื้นได้คะ) ขอแนะนำให้จัดสถานที่โล่ง ๆไว้วางน้ำที่ใส่ถุงเรียบร้อยแล้ว และเก็บให้พ้นแสงแดดค่ะ

จากโลตัสสู่รถบ้านอย่างโปรตอน

เรื่องหนึ่งที่มักจะถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องและถูกใช้เป็นประเด็นหลักที่ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ชูเป็นจุดเด่นทางการตลาด คือ เรื่องของการทำ Motorsport Campaign ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลอยู่เสมอในทุกยุคทุกสมัย

ชัยชนะในสนามแข่ง สามารถถูกนำมาอนุมานได้ระดับหนึ่งถึงความยอดเยี่ยมทางด้านเทคโนโลยีที่ผู้ผลิตรถยนต์รายนั้นๆ มีอยู่ในมือ เพราะสนามแข่ง คือ สังเวียนและพื้นที่ชั้นดีในการทดสอบสมรรถนะในด้านต่างๆ ของเทคโนโลยียานยนต์ในชนิดที่สุดขั้ว ดังนั้น การขึ้นรับรางวัลบนโพเดี้ยมจึงสามารถถูกตีความหมายได้ถึงความยอดเยี่ยมและความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีอย่างไม่ต้องสงสัย

การนำแนวคิดที่ว่า ‘เทคโนโลยีจากสนามแข่ง’ มาใช้เป็นคำโปรยกับรถยนต์ที่ขายอยู่ในตลาดถือเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความน่าสนใจต่อตัวผลิตภัณฑ์ และสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากคำว่า ‘เทคโนโลยีจากสนามแข่ง’ ได้เป็นอย่างดี และแนวคิดนี้ก็มีการนำมาใช้อย่างต่อเนื่องในปัจจุบันด้วย โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์ยังวนเวียนอยู่กับการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอย่างฟอร์มูลา วัน หรือ F1

สำหรับโปรตอน ผู้ผลิตรถยนต์จากมาเลเซีย ก็มีส่วนร่วมในการแข่งขันประเภทนี้ด้วยเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมโดยตรงก็ตาม แต่เป็นการส่งผ่านทางบริษัทในเครืออย่างโลตัส คาร์ ซึ่งในปัจจุบันได้สนับสนุนทีมแข่งกับเรโนลต์ และลงแข่งภายใต้ชื่อโลตัส เรโนลต์ จีพี

งานนี้โปรตอนได้เชิญสื่อมวลชนชาวไทยได้ไปร่วมสัมผัสความเร้าใจในการแข่งขันฟอร์มูลา วัน รายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเป็นการแข่งแบบ Night Race รายการเดียวของ F1 พร้อมกับปิดถนนเพื่อสร้างสนามแข่ง Marina Bay ขึ้นมาในการประลองความเร็ว

สำหรับสนามมาริน่า เบย์ เซอร์กิต เป็นสตรีทเซอร์กิต ที่มีระยะทางต่อรอบอยู่ที่ 5.073 กิโลเมตร และในรายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์มีการแข่งขันจำนวน 61 รอบสนาม รวมระยะทาง 309.316 กิโลเมตร พร้อมกับโค้งที่มีมากถึง 23 โค้งใน 1 รอบสนาม โดยนักแข่งที่ทำเวลาต่อรอบที่สนามแห่งนี้ดีที่สุดคือ คิมิ ไรก์โคเนน ทำเอาไว้ในปี 2008 ด้วยเวลา 1 นาที 45.599 วินาที

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบส่องสว่างที่ทำให้สนามนี้มีความสว่างมากพอสำหรับการแข่งขันในตอนกลางคืนได้ เพราะรถแข่ง F1 ไม่มีไฟหน้า ดังนั้น การใช้ระบบส่องสว่างตามทางตลอดระยะ 5 กิโลเมตรกว่าๆ ถือเป็นงานที่ไม่ธรรมดาเลย

วิตาลี เปตรอฟ


บรูโน่ เซนน่า
ทางด้านนักแข่งของทีมโลตัส เรโนลต์ จีพี มีอยู่ 2 คนคือ วิตาลี เปตรอฟ เป็นนักแข่งชาวรัสเซีย ซึ่งในตอนนี้มีคะแนนสะสมอยู่ในอันดับที่ 9 ทำได้ 34 คะแนน ส่วนอีกคนเพิ่งจะมาลงแข่งได้ไม่กี่สนาม นั่นคือ บรูโน่ เซนน่า ซึ่งเป็นหลานชายของไอร์ตัน เซนน่า แชมป์โลก 3 สมัยชาวบราซิลที่ล่วงลับไปแล้ว

บรูโนเป็นนักขับทดสอบในทีมตอนช่วงต้นซีซั่น แต่ถูกดันเข้ามาแทนที่นิค ไฮด์เฟลด์ ซึ่งได้ถูกถอดออกจากการเป็นนักแข่งของทีม โดยเขาลงแข่งรายการแรกที่เบลเยี่ยม และในตอนนี้ทำได้ 2 คะแนนจากการเข้าอันดับที่ 9 ในรายการอิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ พร้อมกับได้รับการจับตามองว่าเขาจะสามารถวัดรอยเท้าอันยิ่งใหญ่ของน้าชายของเขาได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในสนามนี้ทั้งเปตรอฟ และบรูโนจะไม่สามารถทำผลงานได้ดี เพราะเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 17 และ 15 โดยตามหลังเซบาสเตียน เว็ตเทลผู้ชนะเลิศในสนามนี้ถึง 2 รอบสนาม แต่ทว่าตลอดการแข่งขันรถแข่งของโลตัส เรโนลต์ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันกับทีมระดับชั้นแนวหน้า และมีความทนทานในการแล่นจนจบการแข่งขันได้

แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการนำเทคโนโลยีจากสนามแข่ง F1 มาใช้ในการประยุกต์และต่อยอดกับการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ได้จริงกับรถยนต์บนท้องถนน เพื่อสร้างจุดเด่นในด้านสมรรถนะ ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับโปรตอน แม้จะไม่ได้รับมาโดยตรง แต่ในฐานะที่เป็นแบรนด์ที่มีความเกี่ยวพันกับโลตัส และได้รับการสนับสนุนในด้านเทคโนโลยีรวมถึงการปรับเซตในเรื่องของระบบช่วงล่างจากแบรนด์รถสปอร์ตชั้นนำรายนี้ เชื่อว่ารถโปรตอน ก็ได้รับองค์ความรู้เหล่านี้มาปรับใช้กับตัวรถ…ไม่มากก็น้อย

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม