"ข้าวมากิ / ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปลาดุกย่าง น้ำปลาหวาน"



ส่วนผสม
ปลาดุกเลาะก้างออกและทำความสะอาด 4 ตัว
น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วยตวง
น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
หอมแดงซอยเจียวพอประมาณ
กระเทียมซอยเจียวพอประมาณ
พริกขี้หนูแห้งทอดพอประมาณ
ผักชีเด็ดใบ
ดอกสะเดาลวก
ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก
สาหร่ายทะเล

วิธีทำ
1.นำปลาดุกที่ล้างเตรียมไว้ ย่างให้สุกหอมแล้วพักไว้
2.นำหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่า เคี่ยวให้เป็นน้ำปลาหวานพอเหนียว จากนั้นก็ชิมรสชาติให้ออกหวาน เค็ม และเปรี้ยว และพักไว้
3.นำเสื่อญี่ปุ่นมาวางบนเสื่อ วางทับด้วยสาหร่ายทะเล 1 แผ่น จากนั้นนำข้าวญี่ปุ่นมาเกลี่ยให้เต็มแผ่นเท่าๆ กัน นำปลาดุกมาวางแล้วโรยดอกสะเดาให้ทั่ว จากนั้นม้วนเสื่อให้เป็นแท่นกลมแล้วค่อยแยกเสื่อออก ตัดข้าวห่อสาหร่ายให้ได้ 8-10 ชิ้น แล้วนำมาวางเป็นชิ้นบนจานเสิร์ฟ โรงหน้าด้วยพริกขี้หนูแห้งทอด หอมแดงซอยเจียว และตกแต่งด้วยใบผักชี ราดด้วยน้ำปลาหวาน เป็นอันเสร็จพิธี

"คุทนาโฮรา" เสน่ห์เมืองมรดกโลกของสาธารณรัฐเช็ก

"สาธารณรัฐเช็ก" (Czech) อีกหนึ่งประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ตอนกลางของ ทวีปยุโรป เป็นประเทศที่ไม่มีพื้นที่ติดต่อกับทะเล มีพรมแดน ด้านเหนือติดกับ โปแลนด์ ด้านใต้ติดกับออสเตรีย ทิศตะวันออกติดกับสโลวักและทิศตะวันตกติดกับเยอรมนี...





"คุทนาโฮรา"

โดยมี "ปราก" Prague) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก และเมื่อ ค.ศ. 1992 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้ปรากเป็นมรดกโลก ปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของ ทวีปยุโรป

"คุทนาโฮรา" (Kutna Hora) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเขตเซ็นทรัลโบฮีเมีย (Central Bohemian) เป็นเมืองที่สำคัญมากที่สุดเป็นอันดับสอง(รองจากกรุงปราก) ของอาณาจักรโบฮีเมียน เนื่องจากเคยมีเหมืองเงินซึ่งเคยเปิดมาเป็นเวลา 250 ปี





"คุทนาโฮรา"

ในช่วงศตวรรษที่ 14 ประชากรของเมืองนี้มีจำนวนเท่ากับประชากรของกรุงลอนดอน แต่ในปัจจุบันเมืองนี้เป็นเพียงเมืองเล็กๆที่มีประชากร 20,000 กว่าคน มีโบสถ์สไตล์โกธิกที่สวยงามให้เห็นอยู่มากมาย เช่น โบสถ์เซนต์บาร์บารา (St. Barbara Cathedral) (1388-1565) ซึ่งเป็นหนึ่งของสิ่งก่อสร้างสไตล์โกธิกที่สวยงามมากที่สุด

และอิตาเลี่ยนคอร์ท (Vlassky dvur) ที่มีโรงกษาปณ์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยผลิตเหรียญกษาปณ์โกรสเชนที่มีชื่อเสียง ของกรุงปรากขึ้นมา (ณ เวลานั้นเป็นตัวแทนสกุลเงินแข็งของยุโรปกลาง) สโตนเฮาส์ (Stone House) และโบสถ์เซนต์เจมส์ (St. James Church) เป็นต้น





"โบสถ์กระดูก"

ในปี 1995 คุทนาโฮราถูกประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกและนับจากนั้นก็ได้รับการคุ้มครองจาก องค์การยูเนสโก ในปัจจุบันเมืองนี้ได้รับผลประโยชน์เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวและจากโรงงาน ยาสูบของบริษัทฟิลลิปมอร์ริส เซดเลกอยู่ทางเหนือของคุทนาโฮรา และในศตวรรษที่ 19 ที่เก็บกระดูกของนักบวชนิกายซิสเตอร์เชียนในเซดเลกก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ เป็นงานศิลปะแห่งความตายอันน่ากลัวของฟรานติเสค รินท์ มีโกศเก็บกระดูก โคมไฟระย้า และแม้กระทั่งลัญจกรของตระกูลชวาร์เซนเบิร์ก

สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองคุทนาโฮรานั้น สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่อยากแนะนำให้คุณไปเยือน คือ "ที่เก็บกระดูก" (Ossuary) เป็นโบสถ์สุสานเล็กๆตั้งแต่ตอนปลายของศตวรรษที่ 14 และได้ถูกสร้างใหม่ในสไตล์บารอกโดยเจบี ซานตินี กระดูกที่ใช้ตกแต่งภายในโบสถ์นี้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 มาจากสุสานที่อยู่ติดกัน





"โบสถ์กระดูก"

"โบสถ์กระดูก" ของที่เก็บกระดูกแห่งเซดเลกนี้ตั้งอยู่นอกใจกลางเมืองคุทนาโฮรา ถ้าคุณมาถึงโดยรถไฟให้เดินไปทางใต้ของสถานีรถไฟหลักเมืองคุทนาโฮราเป็นระยะ ทาง 800 เมตรเพื่อไปยังสถานที่นี้

เมื่อครอบครัวชวาร์เซนเบิร์กซื้ออารามเซดเลกในปี 1870 พวกเขาได้อนุญาตให้ช่างแกะสลักไม้ท้องถิ่นใช้ความคิดสร้างสรรค์กับกระดูกที่ กองซ้อนกันอยู่ในห้องใต้ดินมาหลายศตวรรษแล้ว แต่กระดูกเหล่านี้ไม่ใช่กระดูกที่ไร้ประโยชน์กองเล็กๆ มันเป็นซากกระดูกของคนไม่น้อยกว่า 40,000 คน





"โบสถ์เซนต์บาร์บารา"

แต่ผลลัพท์ก็น่าตื่นตาตื่นใจ มาลัยกะโหลกศีรษะและกระดูกโคนขาถูกร้อยห้อยลงมาจากเพดานทรงโค้งเหมือนของ ตกแต่งวันคริสต์มาสของครอบครัวอาดัมส์ ในขณะเดียวกันตรงกลางห้องมีโคมระย้าอันใหญ่ ที่ประกอบด้วยกระดูกอย่างน้อยหนึ่งชิ้นจากร่างกายมนุษย์ห้อยลงมา มีกองกระดูกวางซ้อนกันเป็นรูปปิรามิดยักษ์จำนวน 4 กอง

ในแต่ละมุมโบสถ์ และมีไม้กางเขน จอกเหล้าและโกศอัฐิที่ถูกใช้นำมาตกแต่งแท่นบูชา มีแม้กระทั่งลัญจกรของตระกูลชวาร์เซนเบิร์กที่ทำมาจากกระดูก – เป็นสัญลักษณ์รูปนกกาจิกดวงตาจากศีรษะของชาวเติร์กซึ่งเป็นแม่ลายอันน่า สะพรึงกลัวของครอบครัวชวาร์เซนเบิร์ก





"อิตาเลียนคอร์ท"

หลังจากนั้นขอแนะนำให้คุณไปเยือน "โบสถ์เซนต์บาร์บารา" (St. Barbara’s Cathedral) – เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกชั้นสูงตอนปลายที่ไม่เหมือนใคร การก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้เริ่มขึ้นตอนปลายศตวรรษที่ 14 โบสถ์แห่งนี้เป็นที่ตั้งของหอศิลป์ภาพจิตกรรมยุคเรอเนสซองซ์และโกธิกตอนปลาย

ต่อมาแนะนำให้คุณมุ่งหน้าไปเยือน "อิตาเลียนคอร์ท" (Italian Court) – เดิมเป็นโรงกษาปณ์กลางที่ทำการผลิตเหรียญโกรสเชนของกรุงปราก สถานที่นี้ได้กลายมาเป็นพระที่นั่งชั่วคราวของกษัตริย์หลังจากได้มีการก่อ สร้างใหม่ในตอนปลายศตวรรษที่ 14





"อิตาเลียนคอร์ท"

จากนั้นไม่พลาดไปชม "โบสถ์เซนต์จอห์นแห่งเนโพมุค" (Church of St. John of Nepomuk) – มีสไตล์บารอกช่วงปลาย ตัวอาคารออกแบบโดย ฟรานทิเสค แม็กซ์มิเลียน คันคา และถูกสร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1734 – 1754 ภาพจิตกรรมเพดานอันโดดเด่นแสดงถึงตำนานของนักบวชเซนต์จอห์นเนโพมุค มีชุดรูปปั้นที่ถูกเรียกว่า “สวรรค์แห่งเช็ก” ( Czech Heaven) เพื่อเฉลิมฉลองนักบุญผู้คอยอุปถัมภ์เช็กไว้ให้ดูด้วย

ถัดไปแนะนำให้คุณไปเยือน "โบสถ์คริสติ" (Christi Chapel) – เป็นอาคารสไตล์โกธิกที่ยังสร้างไม่เสร็จซึ่งมีมาตั้งแต่ตอนช่วงขึ้นศตวรรษ ที่ 15 มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่เก็บกระดูก โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมโกธิกชั้นสูงที่ยังคง ได้รับการรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ ที่ระเบียงของโบส์นี้สามารถมองเห็นทัศนีภาพอันน่าประทับใจของเมือง

หลังจากนั้นเดินางไปเยือน "ฮราเดค" (Hradek) – เดิมทีเป็นพระราชวังสไตล์โกธิกพร้อมด้วยลานและหอคอยที่ถูกสร้างขึ้นก่อนปี ค.ศ. 1420 ในปัจจุบันนี้ ฮรา-เดคเป็นที่แสดงนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์เช็กซิลเวอร์ (Czech Silver Museum)





"โบสถ์อัสสัมชัน"

ต่อมาแนะนำให้คุณไปชม "โบสถ์อัสสัมชัน" (Cathedral of the Assumption) – เคยเป็นของชาวซิสเตอร์เชี่ยน โบสถ์นี้เป็นหนึ่งในผลงานที่สำคัญที่สุดของสถาปัตยกรรมโกธิกของเช็กในศตวรรษ ที่ 14 โบสถ์นี้เป็นโบสถ์แรกที่สร้างขึ้นในโบฮีเมีย ซานตินีเป็นคนสุดท้ายที่ตกแต่งภายนอกโบสถ์ในสไตล์บารอกโกธิกในช่วงต้นศตวรรษ ที่ 18

สุดท้ายแนะนำให้คุณไปเยือน "บ้านแซ็งค์ทูรินอฟสกี" (Sankturinovsky House) – เดิมทีเป็นอาคารสไตล์โกธิกที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 พร้อมมีโบสถ์ที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา ในปัจจุบันบ้านนี้เป็นที่ตั้งของศูนย์ข้อมูล หอศิลป์เฟลิกซ์จีนเวนและพิพิธภัณฑ์อัลเคมี

การเดินทาง - คุทนาโฮรา ตั้งอยู่ห่างจากกรุงปรากไปทางทิศตะวันออก 65 กิโลเมตร ถ้าเดินทางโดยรถประจำทางใช้เวลา 70 นาทีจากสถานีฟลอเรนซ์ ถ้าเดินทางโดยรถไฟใช้เวลา 55 นาทีจากสถานีหลัก ค่าตั๋วรถไฟหรือรถประจำทางตกอยู่ราวๆ 70 โครูนาเช็ก หากคุณไม่ต้องการที่จะเสียเวลากับระบบขนส่งสาธารณะ ให้พิจารณา การจองทัวร์ระยะสั้นได้

ข้อมูลโดย : Prague Tourist Guide

เทรนด์ผมหลากสไตล์สำหรับสาวทันสมัย

ในช่วงเวลาที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก และไหนจะลมที่คอยพัดพาให้ผมยุ่งเหยิง ยิ่งคุณเป็นสาวผมยาวยิ่งเป็นปัญหาใช่มั้ยละคะ เพราะฉะนั้นจะออกจากบ้านแต่ละที ก็ต้องเตรียมรับมือกันไว้ก่อน ถ้าคุณยังไม่มีไอเดีย เก๋ๆ สำหรับหน้าฝนนี้ ลองมาดูทรงผมที่เรานำมาอัพเดทกันได้เลยค่ะ



รวบหางม้า

สวยซ่าส์ก๋ากั่นท้าลมฝนด้วยการเลือกทรงรวบหางม้าเป็นคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ เพราะการรวบหางม้าจะไม่ทำให้ผมของคุณพันกันยุ่งเหยิง แถมยังดูสวยปราดเปรี้ยวพร้อมลุยทุกสถานการณ์ ไม่ว่าลมจะพัด ฟ้าจะร้อง หรือฝนจะเทกระหน่ำลงมาก็ตาม ทรงผมของคุณก็ยังดูดีได้เหมือนเดิม

How to : ขั้นตอนง่าย ๆ นั้น เริ่มจากการใช้หวีปาดรวบผมไปไว้ด้านหลัง แล้วหาหนังยางมารวบสูงให้อยู่ในระดับกึ่งกลางกระหม่อมด้านหลังแล้วแบ่งปอยผม ช่อเล็ก ๆ ออกมาช่อ เพื่อพันทับรอยหนังยางให้ดูเนียนเป็นธรรมชาติ หรือจะหาที่มัดผมตามสไตล์คุณมาช่วยเสริมให้ลุคเด่นชัด อย่างเช่นที่มัดผมประดับดอกไม้สำหรับสาวหวาน หรือจะเป็นเชือกสานที่นำมามัดผมก็ทำให้ดูเป็นสาวโบฮีเมียน เปลี่ยนสไตล์กันง่าย ๆ ได้หลากหลายไม่แพ้ทรงอื่นเลยค่ะ



ทัดหูเปิดใบหน้า

พร้อมสวยด้วยทรงผมง่าย ๆ เสริมความเปล่งปลั่งให้กับใบหน้าด้วยการทัดหูโชว์รูปหน้าเรียวงาม ยิ่งเป็นฤดูกาลนี้ที่ละอองฝนมักทำให้ผมของคุณชี้ฟูไม่เป็นท่า ทำให้สาว ๆ ยิ่งเป็นกังวลกับทรงผมที่ยุ่งเหยิงไม่งามตา ขอแนะนำว่าควรสร้างวอลลุ่มให้ทรงผมดูมีน้ำหนักแล้วทัดหูด้านข้าง ดูดีเป็นธรรมชาติ เหมาะกับวันสบาย ๆ ในหน้าฝนเป็นที่สุด

How to : หลังจากสระผมเรียบร้อยแล้วต้องเช็ดให้แห้งทุกครั้งเพราะความชื้นที่กระจาย ตัวอยู่ในอากาศจะทำให้ผมคุณอับชื้นได้ง่าย ดังนั้นต้องใช้ไดร์เป่าให้แห้งสนิท และลูบไล้ด้วยออยล์ทำให้ผมไม่พ้นกัน ควรเป่าผมให้แห้งสนิทไปพร้อมกับการไดร์ผมให้เรียบเส้นกันสวยงาม เสร็จแล้วปรับให้ทรงผมของคุณดูดีด้วยดีเทลเล็กๆ อย่างการทัดหู เปิดใบหน้าด้านข้างทั้งซ้ายและขวา หรือจะเปลี่ยนให้หวานยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการปาดผมไปด้านข้าง แล้วทัดหูก็ดูน่ารักไม่เบานะคะ



หั่นผมสั้น

ถ้าอยากเป็นสาวมั่นเปรี้ยวปรี๊ด ต้องเป็นทรงผมสั้นเลนค่ะ แล้วเพิ่มดีกรีความแรงด้วยการทำสีไฮไลท์เข้าไปด้วยยิ่งทำให้ลุคของคุณมีลูก เล่นเก๋ ๆ นอกจากผมซอยสั้นจะเปลี่ยนสาวเชยเฉิ่มให้เป็นสาวมั่นได้แล้ว ยังเป็นทรงผมที่ดูแลง่ายอีกด้วย เหมาะมากสำหรับหน้าฝนนี้ เพราะไม่ต้องบำรุงอะไรมาก หลังจากสระก็แห้งเร็วทันใจ หายห่วงไปเลยค่ะกับวิธีการเซทผมที่ยุ่งยาก เท่านี้คุณก็สวยเลิศท้าลมฝนได้แล้วค่ะ

How to : ผมสั้นทันใจได้ง่ายๆ เพียงคุณเดินเข้าไปที่ร้านทำผม แล้วเลือกสไตล์ให้เหมาะกับบุคลิกและโครงหน้าของตัวคุณเอง แนะนำให้เลือกช่างทำผมที่มีความชำนาญด้วยนะ สำหรับทรงผมบ๊อบเทรนด์ซีซั่นนี้มาแรงแทบทุกแบบ จึงสามารถเลือกได้ฟรีสไตล์เลยค่ะ เพียงแค่ตัดสั้น แค่นี้ก็ไม่เอ้าท์แล้วล่ะ

















ที่มา ... Woman's Story

สวยหวานด้วยผ้าชีฟอง

ตอนนี้เสื้อผ้าที่ตัดจากผ้าชีฟองกำลังฮิตในหมู่สาว ๆ เพราะเนื้อผ้าเบาสบายเหมาะกับอากาศร้อนอย่างบ้านเรา ทั้งยังช่วยให้ผู้หญิงดูสวยหวาน อ่อนโยน และน่าทะนุถนอมอีกด้วย

สีพาสเทลหวานสดใส แมตช์กับสีครีม เบจ หรือสีเทาอ่อน ก็จะดูกลมกลืนกัน อย่างลงตัว

สีเข้มหรือสีสด เช่น สีน้ำเงิน แดง เขียวเข้ม แล้วนำมาจับคู่กับสีดำ

เดรสผ้าชีฟอง กับเข็มขัดเก๋ๆ สักเส้น ก็จะช่วยลดดีกรีความหวานลง ทำให้ดูเก๋ไก๋ และมีลูกเล่นยิ่งขึ้น

ผ้าชีฟองนั้นดูสวยหวาน เมื่อใส่กับรองเท้าบัลเลต์ หรือรองเท้าแตะสาน โดยไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าส้นสูงเลยก็ยังได้

ด้วย เนื้อผ้าที่ค่อนข้างบางและโปร่ง ควรระมัดระวังในการเลือกเสื้อสำหรับใส่ด้านในด้วย ถ้าอยากเลือกสีที่ตัดกัน ก็ควรใส่สีเนื้อหรือสีดำ จะดูปลอดภัยกว่า หากเป็นผ้าชีฟองพิมพ์ลายให้เลือกเสื้อตัวในเป็นสีที่เข้ากับลายผ้า











ที่มา ... Lisa

การขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศชาย



ปัญหาประการหนึ่งในทารกเพศชายขณะที่เติบโตขึ้นมา และเกิดอาการปัสสาวะลำบาก หรือการอักเสบติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ สาเหตุเป็นเพราะหนังหุ้มอวัยวะเพศไม่เปิด มีการสะสมของสารที่หลั่งออกมาอยู่ภายใต้หนังที่หุ้มปิด ทำให้เกิดการหมักหมม เกิดมีกลิ่นเหม็น ลักษณะเหมือนอุจจาระที่เปียกน้ำ ทำให้บางคนเรียกว่า 'ขี้เปียก'

ขี้เปียก (smegma) เป็นคราบขาวๆ คล้ายแป้งเปียก พบอยู่ที่บริเวณหัวของอวัยวะเพศที่มีหนังหุ้มคลุมไว้ เป็นส่วนผสมของเซลล์ที่ตายแล้วและมูกเมือกซึ่งมักจะติดอยู่บริเวณคอคอดใต้ ผิวหนังองคชาติ และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย เมื่อผสมกับนํ้าเมือกจากต่อมต่างๆ และเหงื่อไคลที่อยู่บริเวณส่วนปลายของอวัยวะเพศชายแล้ว จึงทำให้ขี้ไคลบริเวณดังกล่าวมีลักษณะเปียกชื้น ขี้เปียกมีกลิ่นเหม็นเฉพาะตัว และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้

เส้นสองสลึง (frenulum) เป็นเส้นเอ็นเล็ก ๆ ที่ยึดระหว่างส่วนปลายของอวัยวะเพศชาย กับหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ซึ่งเส้นนี้โครงสร้างทางกายวิภาคจะเหมือนกับเส้นที่อยู่ใต้ลิ้น บางคนเส้นสองสลึกอาจจะตึงมาก ทำให้เวลาที่มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองมากไป อาจจะทำให้เส้นสองสลึงฉีกขาดจนเลือดออกได้

การที่สามารถรูดหนังลงมาได้ก็เนื่องจากกลไกในการเจริญเติบโตของร่างกาย และการฝึกดูแลตั้งแต่เด็ก ๆ เช่นผู้ปกครองค่อย ๆ สอนให้ลูกทำความสะอาด พยายามรูดลงมาทีละนิด ๆ ทำบ่อย ๆ เป็นประจำ ก็จะทำให้รูเปิดของหนังหุ้มปลายค่อย ๆ กว้างขึ้น จนทำให้สามารถรูดพ้นบริเวณหัวของอวัยวะเพศได้ จากการศึกษาพบว่าในทารกแรกเกิดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายจะหุ้ม ไม่เปิดร่นออกมา มีเพียงร้อยละ 4 ของความยาวองคชาติเท่านั้นที่สามารถเปิดร่นได้ และจะค่อยๆ เปิดร่นขึ้นมาเอง เมื่ออายุประมาณ 3 ขวบ จะเปิดร่นได้ประมาณร้อยละ 80 เมื่ออายุ 6 ขวบ จะเปิดร่นได้ร้อยละ 90 และเมื่ออายุ 17 ปี จะมีหนังหุ้มปลายเปิดร่นได้ร้อยละ 97-99

การขลิบหนังหุ้มปลายในเด็กแรกเกิด

1. โดยปกติในเด็กแรกเกิด อวัยวะเพศชายจะมีหนังหุ้มปลายห่อหุ้มมิดมีรูเปิดออกมาเล็กน้อยให้ปัสสาวะออกได้ และเมื่ออายุมากขึ้นจะสามารถถลกได้มากขึ้น
2. การขลิบหนังหุ้มคือการเอาหนังหุ้มนี้ออกมาเสีย โดยเด็กต้องมีสุขภาพแข็งแรงหลังคลอด พ่อแม่ต้องเข้าใจถึงเหตุผลในการทำผ่าตัด ควรปรึกษาและรับคำแนะนำจากแพทย์ให้เข้าใจเสียก่อน
3. ในเด็กประมาณร้อยละ 50 ในสหรัฐอเมริกาอเมริกาผ่านการทำการขลิบ แต่ตัวเลขในเอเชียและยุโรปน้อยกว่านั้นมาก ยกเว้นในประเทศอิสลาม ซึ่งการขลิบเป็นตามหลักศาสนา
4. เวลาที่เหมาะสมที่สุด คือ ช่วง 2-3 สัปดาห์หลังคลอด แพทย์บางท่านอาจแนะนำให้ทำใน 10 วัน เพราะเมื่ออายุมากกว่านี้ อาจจะทำยาก และการดูแลแผลจะไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนใหญ่การขลิบจะทำหลังคลอดไม่นาน ถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัย
5. การศึกษาพบว่าเด็กที่ขลิบมีการเกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะน้อยกว่าอย่างชัดเจนถึง 10 เท่า พบว่าผู้ที่ไม่ขลิบเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศมากกว่าเล็กน้อย แต่ข้อมูลยังไม่มากพอที่จะแนะนำให้ทำในเด็กทุกคน เพราะการเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศ ปกติก็มีคนเป็นน้อยมากๆอยู่แล้ว
6. การผ่าตัดในเด็กมีผลข้างเคียงน้อย แต่ยังมีได้ประมาณร้อยละ 0.2-3 เช่น เลือดออก บวม หรือติดเชื้อ ทีสำคัญคือเจ็บ แม้เด็กจะบอกไม่ได้ แต่แพทย์หลายท่านจะพิจารณาให้ยาแก้ปวด และการใช้ยาชาที่มีประสิทธิภาพในการทำผ่าตัดในเด็กเล็กๆ


การเกิดโรคมะเร็ง
การศึกษาวิจัยหลายแห่งในต่างประเทศพบว่า ขี้เปียกเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง และพบว่าเมื่อเด็กชายที่มีขี้เปียกบริเวณอวัยวะเพศ หากได้การผ่าตัดขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศในวัยเด็ก เมื่อโตขึ้นและแต่งงานไปกับสตรีคู่สมรส หรือ การที่ได้ขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศแล้ว จะช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกของคู่สมรส หรือภรรยาของตนเองได้

โดยทั่วไปถ้าฝ่ายชายไม่ชำระล้างอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนมีเพศสัมพันธ์ ขี้เปียกจะตกลงไปภายในช่องคลอดของฝ่ายหญิง เมื่อตกลงไปภายในก็จะไปกองอยู่บนปากมดลูกของฝ่ายหญิง ทำให้เกิดการระคายเคืองเป็นประจำสมํ่าเสมอ นานไปๆ ก็จะทำให้เซลล์ของผิวบริเวณปากมดลูกเปลี่ยนแปลงกลายไปเป็นเซลล์มะเร็งปาก มดลูกได้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการวิจัยพบว่าตัวขี้เปียกเองก็เป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้เกิดมะเร็งอวัยวะเพศชายหรือมะเร็งองคชาติได้เช่นกัน

การติดเชื้อเอชไอวี
การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย มีส่วนช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ แม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ลดอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและโรค ติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ แต่ต้องทำควบคู่ไปกับวิธีป้องกันอื่นๆ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การมีพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัย รวมทั้งการมีสุขอนามัยที่ดีในการดูแลอวัยวะเพศชาย

การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นการตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายบางส่วนหรือทั้งหมดออกไปอย่างถาวร ตามประเพณีของบางศาสนาหรือเชื้อชาติจะตัดออกประมาณ 1-2 เซนติเมตร หรืออาจตัดออกประมาณ 4 เซนติเมตร หากทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ ทั่วโลกมีผู้ชายที่อายุมากกว่า 15 ปี ประมาณ 665 ล้านคนที่ขลิบอวัยวะเพศ คิดเป็นร้อยละ 30 ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ชาวยิว และผู้ชายอเมริกัน

การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย จะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ เนื่องจากผิวด้านในของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นบริเวณที่มีจำนวนเซลล์รับเชื้อเอชไอวีอยู่ปริมาณมาก และเซลล์จะอยู่ในตำแหน่งที่ตื้นมาก นอกจากนี้ยังสามารถฉีกขาด ถลอก ทำให้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ได้ง่าย การขลิบจะเป็นการลดบริเวณผิวด้านในของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายทำให้ลดพื้นที่รับเชื้อเอชไอวีลงได้

















ที่มา ... นพ.วรวุฒิ เจริญศิริ ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ

Facebook เพิ่มฟีเจอร์วุ้นแปลภาษาและแท็กคนที่ไม่ใช่เพื่อน

ช่วงนี้ Facebook เปิดเกมรุกอย่างหนัก ทยอยปล่อยฟีเจอร์ใหม่อยู่เรื่อยมา ล่าสุดเพิ่มฟีเจอร์วุ้นแปลภาษา In-Line Translation สามารถคลิก translate เพื่อแปลข้อความได้ภายในคลิกเดียว ทั้งหมดนี้มาจากความสามารถของ Bing Translator

ในตอนนี้สามารถใช้ ได้กับหน้า Pages เท่านั้น ยังไม่สามารถใช้ได้กับหน้า Profile ทั่วไป และผู้ดูแลต้องเปิดใช้งานความสามารถดังกล่าวเอง โดยเข้าไปที่ Settings แล้วเลือก "Allow translations from Admin, community and machine translators."


และ หลังจากการเปิดตัวปุ่ม Subscribe ไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา ตอนนี้ Facebook เปิดให้เราสามารถแท็กคนที่ไม่ใช่เพื่อนของเราได้แล้ว โดยสามารถแท็กได้ทั้งในโพสต์และคอมเมนต์

ต่อไปนี้คงสะดวกมากยิ่งขึ้นเวลาคุยกับบุคคลแปลกหน้าที่ไม่ใช่เพื่อนของเรา โดยเฉพาะในแฟนเพจและกลุ่มต่างๆ

ข้อมูลจาก :
blognone.com

ทางหลวง แนะนำเส้นทางเลี่ยงน้ำท่วม

ทางหลวง แนะนำเส้นทางเลี่ยงน้ำท่วม
ทางหลวง แนะนำเส้นทางเลี่ยงน้ำท่วม

สถานการณ์อุทกภัยล่าสุด (9 ต.ค.) ยังส่งผลให้เส้นทางการจราจรทางบกบางส่วนถูกน้ำทะลักเข้าท่วม จนไม่สามารถใช้สัญจรไปมาตามปกติ ล่าสุดทางกองบังคับการตำรวจทางหลวง (ตร.ทล.) ได้ปรับปรุงข้อมูลเส้นทางหลวงใน 15 จังหวัด ที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่จำเป็นต้องสัญจรบนถนนทางหลวงในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย

จังหวัดนครสวรรค์ 8 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิจิตร ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 4-16 ระดับน้ำสูง 70 ซม.ใช้ทาง ทช. แทน
- ทางหลวงหมายเลข 122 ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันตก ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 0-7 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 100-140 ซม. ใช้สาย 1 พยุหะคีรี-นครสวรรค์ แทน
- ทางหลวงหมายเลข 225 ปากน้ำโพ-นครสวรรค์ ท้องที่ อ.เมืองและชุมแสง ที่ กม. 1-36 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 140ซม. ใช้สาย 3004 นครสวรรค์-ท่าตะโก แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1084 ป่าแดง-บรรพตพิสัย ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 48-52ระดับน้ำสูง 135 ซม. ใช้สาย 1กำแพงเพชร-นครสวรรค์ แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1182 นครสวรรค์-บรรพตพิสัย ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 1-4 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ใช้สาย ๑ นครสวรรค์-กำแพงเพชร แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3319 โกรกพระ-อุทัยธานี ท้องที่ อ.โกรกพระ ที่ กม. 0-3 ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้สาย 3221อุทัยธานี-ทัพทัน แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3522 ทางแยกเข้าพยุหะคีรี ท้องที่ อ.พยุหะคีรี ที่ กม. 2-4 ระดับน้ำสูง 90 ซม. ใช้สาย 1 พยุหะคีรี-นครสวรรค์ แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3575 ทับกฤช-พนมรอก ท้องที่ อ.ชุมแสง ที่ กม. 0-25 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40-100 ซม. ใช้ทาง ทช. แทน

จังหวัดสุโขทัย 1 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 15 วังวน-สุโขทัย ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม.168-172 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 1272 คีรีมาศ-เมืองเก่าสุโขทัย แทน

จังหวัดพิจิตร 8 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 111 สากเหล็ก-พิจิตร ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 9-16 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้สาย 115 เลี่ยงเมืองพิจิตร แทน
- ทางหลวงสายบางมูลนาก-พิจิตร ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม.14-25 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้ทาง ทช. แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1067 บางมูลนาก-โพทะเล ท้องที่ อ.บางมูลนากและโพทะเล ที่ กม. 0-19 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30-50 ซม. ใช้สาย 1070 ตะพานหิน-ดงเสือเหลือง แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1118 ตะพานหิน-บางมูลนาก ท้องที่ อ.ตะพานหิน ที่ กม. 0-23 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15-50 ซม. ใช้สาย 11 ทับคล้อ-สากเหล็ก แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1221 พิจิตร-พิษณุโลก ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 7-8 น้ำสูง 30 ซม. ใช้สาย11สากเหล็ก-วังทอง แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1289 วังสำโรง-บางลาย ท้องที่ อ.บึงนาราง ที่ กม. 9-10 ระดับน้ำสูง 35 ซม. ใช้สาย 1070 ตะพานหิน-ดงเสือเหลือง แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1304 หัวดง-ยางสามต้น ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 2-7 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 60 ซม. ใช้สาย 111 สากเหล็ก-พิจิตร แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1313 บางมูลนาก-ตะพานหิน ท้องที่ อ.บางมูลนาก ที่ กม. 0-7 ระดับน้ำสูง 30-40 ซม. ใช้สาย 1118 ตะพานหิน-สากเหล็ก แทน

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 12 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 32 บางปะอิน-นครหลวง ท้องที่ อ.พระนครศรีอยุธยา ที่ กม. 0-26 ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้สาย 1บางปะอิน-สระบุรี แทน
- ทางหลวงสายนครหลวง-อ่างทอง ท้องที่ อ.บางปะหัน ที่ กม. 26-50 ระดับน้ำสูง 35 ซม. ใช้สาย 1บางปะอิน-สระบุรี แทน
- ทางหลวงหมายเลข 329 บางปะหัน-สุพรรณบุรี ท้องที่ อ.บางปะหัน ที่ กม. 24-43 ระดับน้ำสูง 65 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
- ทางหลวงหมายเลข 347 บางปะหัน-เจ้าปลุก ท้องที่ อ.บางปะหัน ที่ กม. 2-16 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 50 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
- ทางหลวงสายอยุธยา-บางปะหัน ท้องที่ อ.บางปะหัน ที่ กม. 50-51 ระดับน้ำสูง 65 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
- ทางหลวงหมายเลข 3196 มหาราช-บ้านแพรก ท้องที่ อ.มหาราช ที่ กม. 96-105 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้สาย 32 เอเชีย แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3267 อ่างทอง-อยุธยา ท้องที่ อ.มหาราช ที่ กม. 2-16 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 35 ซม. ใช้สาย 32 เอเชีย แทน
- ทางหลวงสายบางบาล-ผักไห่ ท้องที่ อ.บางบาล ที่ กม. 8-15ระดับน้ำสูง 100 ซม. ใช้สาย 3501 อ่างทอง-บางบาล แทน
- ทางหลวงสายโพธิ์ทอง-หน้าโคก ท้องที่ อ.ผักไห่ ที่ กม. 81-87 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 35 ซม. ใช้สาย 3501 ป่าโมก-ในเมือง แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3467 นครหลวง-ท่าเรือ ท้องที่ อ.นครหลวง ที่ กม. 0-8 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 60 ซม. ใช้สาย 32 เอเชีย แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3469 อยุธยา-บางปะอิน ท้องที่ อ.บางปะอิน ที่ กม. 0-3 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 35 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
- ทางหลวงหมายเลข 3477 บางปะอิน-อยุธยา ท้องที่ อ.บางปะอิน ที่ กม. 0-14 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 25-70 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน

จังหวัดลพบุรี 3 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 311 เลี่ยงเมืองลพบุรี ท้องที่ อ.เมืองและท่าวุ้ง ที่ กม. 8-19 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 32-165 ซม. ใช้สาย 32 เอเซีย แทน
- ทางหลวงสายลพบุรี-สิงห์บุรี ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 159-166 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 55 -85 ซม. ใช้สาย 32 เอเซีย แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3196 ลพบุรี-โพธิ์เก้าต้น ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 76-94 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 45 ซม. ใช้สาย 32 เอเซีย แทน

จังหวัดชัยนาท 4 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 1 สี่แยกเข้าชัยนาท-บ้านกล้วย ท้องที่ อ.เมือง ผนังกั้นน้ำด้านซ้ายทางชำรุด ที่ กม. 290-500 ใช้สาย 32 เอเชีย แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3183 ชัยนาท-วัดสิงห์ ท้องที่ อ.วัดสิงห์ ที่ กม. 25-28 ระดับน้ำสูง 85 ซม. ใช้ทาง อบต. แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3213 วัดสิงห์-หนองมะโมง ท้องที่ อ.วัดสิงห์ ที่ กม. 0-1 ระดับน้ำสูง 85 ซม. ใช้ทาง อบต. แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3244 ชัยนาท-ท่าหาด ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 0-2 ระดับน้ำสูง 95 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน

จังหวัดสิงห์บุรี 5 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 11 อินทร์บุรี-ตากฟ้า ท้องที่ อ.อินทร์บุรี ที่ กม. 0-15 เป็นแห่งๆ และคอสะพานขาด ที่ กม. 5 ใช้สาย 32 เอเซีย แทน
- ทางหลวงหมายเลข 311 สิงห์บุรี-ชัยนาท ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 6-9 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 35 ซม. ใช้สาย 32 เอเซีย แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3030 สิงห์บุรี-บางระจัน ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 0-1 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ใช้สาย32 เอเชีย แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3028 บางงา-บ้านหมี่ ท้องที่ อ.ท่าวุ้ง และบ้านหมี่ ที่ กม.1-24 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 3196 บ้านหมี่-ลพบุรี แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3033 บางงา-พรหมบุรี ท้องที่ อ.พรหมบุรี ที่ กม. 1-10 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 35ซม. ใช้สาย 32 เอเชีย แทน

จังหวัดสระบุรี 4 เส้นทาง
- ปิดสะพานอำนวยสงคราม (ทางเข้า-ทางออก) ท้องที่อำเภอเมือง ที่ กม. 107 ใช้สาย 362 วงแหวนรอบเมืองสระบุรี ด้านตะวันตก แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3020 พระพุทธบาท-หนองโดน ท้องที่ อ.พระพุทธบาท ที่ กม. 6-7 ระดับน้ำสูง 80 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
- ทางหลวงหมายเลข 3034 หน้าพระลาน-โรงปูนซีเมนต์ ท้องที่ อ.บ้านหมอ ที่ กม. 14-16 ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้สาย 3022 พระพุทธบาท-บ้านหมอ แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3224 แก่งคอย-แสลงพัน ท้องที่ อ.แก่งคอย ที่ กม. 9-10 ระดับน้ำสูง 50-70 ซม.ใช้ทางหลวงชนบท แทน

จังหวัดอุทัยธานี 3 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 333 อุทัยธานี-นครสวรรค์ ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 1-14 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 50-100 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน
- ทางหลวงหมายเลข 3265 ทางเลี่ยงเมืองอุทัยธานี ท้องที่อ.เมือง ที่ กม. 0-2 ระดับน้ำสูง 45 ซม. ใช้ทางเทศบาลเมือง แทน
- ทางหลวงสายอุทัยธานี-มโนรมย์ ท้องที่อ.เมือง ที่ กม. 1-7 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 50-70 ซม. ใช้ทางเทศบาลเมือง แทน

จังหวัดสุพรรณบุรี 1 เส้นทาง
-ทางหลวงสายกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี (น้ำท่วมทางขนานด้านซ้าย) ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 83 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ใช้สาย 304 สุพรรณบุรี-ตลิ่งชัน แทน

จังหวัดปราจีนบุรี 3 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 3076 บ้านสร้าง-นครนายก ท้องที่ อ.บ้านสร้าง ที่ กม. 0-5 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ใช้สาย 33 นครานายก-ปราจีนบุรี แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3293 ปราจีนบุรี-บ้านสร้าง ท้องที่ อ. บ้านสร้าง ที่ กม.0-10 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 319 ปราจีนบุรี-พนมสารคาม แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3347 ฉะเชิงเทรา-บ้านสร้าง ท้องที่ อ.บ้านสร้าง ที่ กม. 15-31 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม แทน
- ทางหลวงหมายเลข 3481 บางขนาก-บ้านสร้าง ท้องที่ อ.บ้านสร้าง ที่ กม. 26-28 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 304 กบินทร์บุรี-ฉะเชิงเทรา-บ้านสร้าง แทน

จังหวัดขอนแก่น 1 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 2361 หนองเขียด-บ้านเขื่อน ท้องที่ อ.ภูผาม่าน ที่ กม. 7-8 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ไม่มีเส้นทางทดแทน

จังหวัดมหาสารคาม 1 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลขที่ 2391 กู่ทอง-บ้านเขื่อน ท้องที่ อ.โกสุมพิสัย ที่ กม. 15 -17 ระดับน้ำสูง 60 ซม. ใช้สาย 12 ขอนแก่น-เชียงยืน แทน

จังหวัดพิษณุโลก 2 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 1293 สุโขทัย-บางระกำ ท้องที่ อ.บางระกำ ที่ กม. 31-55 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10-30 ซม. ใช้สาย 1065 บางระกำ-บ้านหนองอ้อ แทน
- ทางหลวงหมายเลข 1310 ทับยายเชียง-พรหมพิราม ท้องที่ อ.พรหมพิราม ที่ กม. 8-14 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 60ซม. ใช้สาย 1086 พิษณุโลก-วัดโบสถ์ แทน

จังหวัดตาก 1 เส้นทาง
- ทางหลวงหมายเลข 1107 สะพานกิตติขจร-เจดีย์ยุทธหัตถี ท้องที่ อ.เมือง ที่ กม. 6-41 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25-100 ซม. ใช้ทาง อบต. แทน

นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังจังหวัดที่เกิดอุทกภัน สามารถโทรสอบถามเส้นทางเลี่ยง และรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

Review Super Car : LAMBORGHINI By. Cee

Review Super Car : LAMBORGHINI
By. Cee
ของเล่นที่ใครๆ ก็อยากได้...



โจ๊กหมู

โจ้กหมู

ส่วนผสม โจ๊กหมู

  1. ปลายข้าว 1/2 ลิตร
  2. เนื้อหมู 3 ขีด
  3. ตับหมู กระเพาะหมู กระดูกหมู
  4. ขิงอ่อน 1 กำ
  5. ต้นหอม 10 ต้น
  6. กระเทียม พริกไทย น้ำปลา พริกไทยป่น

วิธีทำ โจ๊กหมู

  1. ซาวปลายข้าวให้สะอาด ต้มให้สุกเละล้างกระดูกหมู สับสั้นๆ
  2. เคี่ยวให้เป็นน้ำซุป สับเนื้อหมูให้ละเอียด ตับหมู กระเพาะหมูหั่นบางๆ
  3. ขลกกระเทียม พริกไทยให้ละเอียด นำไปคลุกเคล้ากับเนื้อหมูสับผสมน้ำปลาปอกขิงอ่อนซอยให้ละเอียด
    หั่นต้นหอมให้เป็นฝอยกรองน้ำต้มกระดูกหมู ใส่หมูสับขนาดลูกชิ้น ตับหมู
  4. กระเพาะหมู ต้มให้สุก เติมน้ำปลาตักโจ๊กใส่หม้อเล็กต่างหากใส่น้ำซุปและเนื้อหมู พอเดือดเทใส่ชาม (หากใส่ไข่ให้ตอกใส่ชามไว้ก่อน) โรยหน้าด้วยขิงอ่อน พริกไทยป่น รับประทานร้อน

หนองหาน ลงเรือเที่ยว เบิกบานกับทะเลบัวแดง

หนาวที่ผ่านมา หนองหาน - สถานที่ทางธรรมชาติอันแสนสงบแห่งหนึ่ง นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในดวงใจ นอกจากความรู้สึกว่าได้พักใจ หลีกลี้จากความวุ่นวาย "ทะเลบัวแดง"--ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ดารดาษด้วยดอกบัวแดง ยังทำให้ความรู้สึกเป็นสุขนั้นประทับอยู่ในใจ...


หนองหาน เป็น แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ จ. อุดรธานี มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลกว่า 2 หมื่นไร่ หรือราว 300 เท่าของสนามหลวง กินพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัด คือ อ. กุมภวาปี อ. หนองหาน อ. ประจักษ์ศิลปาคม และ อ. กู่แก้ว รอบหนองหานมีหมู่บ้านรายล้อมกว่า 60 หมู่บ้าน หนองหานจึงเป็นที่หาอยู่หากินของชาวบ้าน และที่สำคัญคือเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำปาว ลำน้ำสำคัญที่ไหลหล่อเลี้ยงผู้คนใน จ. อุดรธานี และไกลไปถึงคนปลายน้ำที่ อ. กมลาไสย จ. กาฬสินธุ์

หนองหาน ยังเกี่ยวโยงกับตำนานพื้นบ้าน ผาแดง-นางไอ่ ที่คนอุดรธานีรวมทั้งคนอีสานรู้จักกันเป็นอย่างดี

ผาแดง-นางไอ่-พญานาค เกี่ยวโยงกับหนองหาน


คนอุดรโดยเฉพาะคนรอบหนองหานคุ้นเคยกับตำนาน ผาแดง-นางไอ่ รวมไปถึงพญานาค อันเป็นตัวละครสำคัญที่ทำให้เกิดหนองหาน เรื่องมีอยู่ว่า นางไอ่ ธิดาของเจ้าเมืองขอม เป็นผู้มีสิริโฉมงดงามเป็นที่หมายปองของเจ้าชายเมืองต่างๆ ครั้งหนึ่งบ้านเมืองเกิดความแห้งแล้ง เจ้าเมืองขอมจึงจัดให้มีการแข่งขันจุดบั้งไฟเพื่อขอฝนจากพญาแถนผู้เป็นเจ้า แห่งฟ้าฝน หากบั้งไฟของใครขึ้นสูงที่สุด พระองค์จะยกธิดาให้ ในการแข่งขันนั้นมีเจ้าชายมาร่วมหลายเมือง รวมถึงท้าวภังคี โอรสของท้าวนาคราชในนครบาดาล ที่ปลอมตัวเป็นมนุษย์

ในที่สุดผู้ชนะก็คือท้าวผาแดงแห่งเมืองผาโพง ท้าวภังคีโอรสของท้าวนาคราชไม่พอใจผลการแข่งขัน จึงปลอมตัวเป็นกระรอกเผือกเข้ามาในสวนดอกไม้ของนางไอ่ นางไอ่ซึ่งเกิดนึกอยากกินเนื้อกระรอกเผือกก็สั่งให้นายพรานไปยิงกระรอกเผือก ตัวนั้นมา ท้าวภังคีหรือกระรอกนั้นไม่พ้นเงื้อมมือนายพราน ก่อนตายท้าวภังคีได้อธิษฐานว่า ใครที่กินเนื้อของตนขอให้จมน้ำตายในบาดาล เมื่อนางไอ่นำเนื้อกระรอกเผือกมาปรุงอาหารและแจกจ่ายไปทั่วเมือง ในคืนนั้นก็เกิดพายุฝน แผ่นดินไหว น้ำท่วมพัดพาผู้คนลงสู่ท้องบาดาล

ฝ่ายท้าวนาคราชซึ่งพิโรธที่โอรสถูกฆ่าตาย จึงพานาคจากเมืองบาดาลมาอาละวาดถล่มเมืองขอมจนพินาศสิ้น ท้าวผาแดงเห็นดังนั้นก็พานางไอ่ควบม้าหนีไปได้ทางทิศเหนือ ส่วนวิญญาณของท้าวภังคีก็วนเวียนมาทวงความแค้นกับท้าวผาแดงและนางไอ่ตลอดทุก ชาติ บริเวณเมืองขอมที่พวกนาคถล่มจนจมลงสู่บาดาลได้กลายเป็นหนองหาน เพื่อเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณชาวเมืองขอมผู้ประสบเคราะห์กรรมในครั้งนั้น ประชาชนรอบหนองหานจึงสร้างเจดีย์ วัด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้น คือพระธาตุต่างๆ ที่ตั้งอยู่ใน อ. กุมภวาปี อันได้แก่ พระธาตุดอนแก้ว พระมหาธาตุเจดีย์ และศาลท้าวผาแดง ใน ต. กุมภวาปี พระธาตุดอยหลวง ต. พันดอน พระธาตุบ้านเดียม ต. เชียงแหว และพระธาตุจอมศรี ต. แชแล

"บัวแดง" นี้บานแต่เมื่อคืน


หนองหานเป็นแหล่งน้ำที่มีพืชน้ำ นก ปลา นานาชนิด ช่วงฤดูหนาวหนองหานจะงามตระการด้วยดอกบัวแดงนับล้านที่พากันชูช่อให้เราได้ ชื่นชมความงาม มองดูราวกับผืนพรมสีชมพูปูลาดบนผิวน้ำกว้างไกลสุดสายตา บัวมี 2 ประเภท คือ "อุบลชาติ" หรือบัวสาย และ "ปทุมชาติ" หรือบัวหลวง ในแต่ละประเภทยังแบ่งแยกย่อยได้อีกหลายชนิด บัวแดงที่เห็นอยู่ในหนองหานเป็นหนึ่งในประเภทอุบลชาติ เรียกกันว่าบัวสัตตบรรณ หรือรัตตอุบล เป็นบัวสายชนิดหนึ่งที่บานในตอนกลางคืน ทั้งดอกสีแดงอมชมพูนั้นยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย การผลิบานของบัวแดงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ วันไหนแสงแดดน้อย อากาศเย็น บัวแดงจะบานอยู่นานถึงบ่ายแก่ๆ เลยทีเดียว

การชมทะเลบัวแดงครั้งนี้ เราเริ่มด้วยการเฝ้ารอพระอาทิตย์ดวงกลมโตค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้าอยู่ที่ริมฝั่งท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ก่อนลงเรือล่องหนองหานไปกว่า 7 กม. เพื่อสัมผัสบัวแดงอย่างใกล้ชิด ยิ่งไกลออกไป บัวแดงก็ยิ่งหนาแน่น บรรยากาศแสนสงบ อากาศแสนบริสุทธิ์ ณ ที่แห่งนี้ พาความอิ่มเอมและสุขใจมาสู่ทุกคนถ้วนทั่ว ขณะเครื่องยนต์ท้ายเรือกำลังทำงาน แผ่นน้ำสะเทือนเป็นระลอกคลื่น เหล่าแมลงที่เกาะอยู่ตามกอบัวต่างตกใจกระโดดหนีขึ้นเหนือผิวน้ำ ในระหว่างทางเรายังได้เห็นทั้งนกปากห่าง นกคู้ต นกอีโก้ง นกแซงแซว บินล้อเล่นกับสายลม ดูน่าเพลิดเพลิน...

การอยู่ในแวดล้อมของทะเลบัวแดงอันกว้าง ใหญ่และเงียบสงบ เป็นการสัมผัสธรรมชาติรับอรุณที่น่ารื่นรมย์ แม้ความสวยงามของบัวแดงไม่มีให้ได้ยลตลอดทั้งปี ทว่าความงามของ "ทะเลบัวแดง" ในความทรงจำของเราก็ผลิบานได้เสมอๆ

จุดลงเรือหางยาวไปชมทะเลบัวแดงอยู่ที่บ้านเดียม ต. เชียงแหว อ. กุมภวาปี บริการในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือน พ.ย.-ก.พ. เวลา 06.00-16.00 น.

สอบถามรายละเอียดที่ นายไพรสิทธิ์ สุขรมย์ ประธานกลุ่มชาวเรือชมรมทะเลบัวแดงบ้านเดียม โทร. 08-3349-5673

เรื่อง : พุทธิมน ตันติธนานนท์ ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง

[Android App] น้ำท่วม ! แอนดรอยด์ช่วยได้ !!

flood_logo.jpg

ในสถานการณ์ที่บ้านเรากำลังประสบภัยพิบัติอยู่ในขณะนี้ การรับข้อมูลข่าวสารต่างๆนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในแง่ของช่องทางการรับข้อมูลนั้นมีมากมาย วันนี้ผมจะของพูดถึงแอนดรอยด์ในแง่ของ การนำเอาระบบแอนดรอยด์มาใช้ในสถานการณ์แบบนี้กันครับ โดยเราจะมีแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการเตือนภัยมาแนะนำให้เพื่อนๆได้ลงไว้ใช้งานกันนั่นเอง มาดูกันว่ามีแอพอะไรน่าสนใจกันบ้าง เริ่มต้นที่แอพพลิเคชั่นแรกกันเลยละกัน

TVIS หรือ Traffic Voice Information Service

แอพนี้เป็นผลงานจาก NECTEC ซึ่งแอพนี้จะรายงานสภาพการจราจรบนท้องถนน โดยสามารถแสดงเป็นรูปของเส้นทางต่างๆได้ มีสีบ่งบอกว่าเส้นไหนติดอยู่ หรือโล่งวิ่งสบาย สามารถดูภาพจากกล้อง CCTV ที่อยู่ตามแยกต่างๆได้ด้วย

tvis_5.jpeg

นอกจากการรายงานการจราจรแล้ว แอพพลิเคชั่นจะรายงานสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้ เช่นน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วม ซึ่งมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ในส่วนของการรายงานข้อมูลต่างๆนั้น นอกจากจะแสดงภาพที่หน้าจอของเราแล้ว แอพพลิเคชั่นนี้ยังรายงานด้วยเสียงได้ด้วย ช่วยให้ผู้ที่สายตาไม่ค่อยดี หรือกำลังขับรถไม่สะดวกมานั่งอ่านตรงๆ ก็สามารถรับทราบข้อมูลข่าวสารได้เป็นอย่างดี รวมถึงการสั่งค้นหาถนนที่ต้องการด้วยเสียงได้เช่นกัน โดยการค้นหาเส้นทางหรือข่าวสารนั้น

tvis_7.jpegtvis_8.jpeg

สำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดในการใช้งานแอพ ก็จะมีระบบดึงตำแหน่งสถานที่ของเราให้ผ่านระบบ GPS นั่นเอง ทำให้เราสามารถรับรู้ข้อมูลที่อยู่รอบๆตัวได้โดยไม่ต้องค้นหาให้วุ่นวายด้วย แอพพลิเคชั่น TVIS นั้นเหมาะกับคนที่กำลังหาเส้นทางไปที่ต่างๆ สามารถดูเหตุการณ์รอบๆก่อนได้ว่า เส้นทางที่กำลังจะผ่านนั้น ปกติดีหรือไม่ เดินทางได้คล่องตัวหรือเปล่า ช่วยวางแผนในการเดินทางได้เป็นอย่างดี


ดาวน์โหลด TVIS ได้ที่นี่ https://market.android.com/details?id=hlt.tvis


ThaiFloods

สำหรับแอพต่อไป ThaiFloods นี้ จะเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้เราทราบถึงสถานการณ์น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยจะดึงข้อมูลมาจากเวบ www.thaiflood.com และ www.smalllightroom.com ในการแสดงผลนั้นจะแสดงผลเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย มีการแบ่งสีให้เห็นชัดเจนว่า ในขณะที่ดูนั้น จังหวัดใด ภาคใดเกิดน้ำท่วมรุนแรงขนาดไหน

thaifloods_1.jpg thaifloods_2.jpg

และยังมีส่วนของการบริจาคเงินสมทบทุนช่วยบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านบัญชี "ครอบครัวข่าว 3" ที่เป็นของทีวีสีช่อง 3 ได้แอพนี้ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลได้แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องมานั่งจำเวบอะไรให้วุ่นวาย และยังให้เราได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้อย่างสะดวกสบาย โดยการส่ง SMS ช่วยได้เพียงปลายนิ้วอีกด้วย



ดาวน์โหลด ThaiFloods ได้ที่นี่ https://market.android.com/detai ... .android.thaifloods


ThaiFlood

แอพสุดท้ายแล้วกับ ThaiFlood ซึ่งมีชื่อคล้ายกันกับตัวก่อนหน้า แต่เป็นแอพที่มีความแตกต่างกันชัดเจนครับ สำหรับ ThaiFlood นั้น จะเป็นเสมือนกับศูนย์รวมข้อมูลจาก Social Network ที่ใช้ Twitter โดยจะเป็นการนำเอาห้องที่คนใน Twitter พูดถึงเรื่องน้ำท่วมกันในชื่อว่า #thaiflood มาแสดงผลในแอพพลิเคชั่น มีส่วนของการแสดงรูปภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นในส่วน Gallery และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ

thaiflood_1.jpegthaiflood_2.jpeg

มีรายละเอียด สถานที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ขององค์กรต่างๆ ที่ช่วยเหลือทางด้านภัยพิบัติมาให้หมดแล้ว ช่วยให้เราไม่ต้องนั่งค้นหา ยามเมื่อต้องการความช่วยเหลือจากองค์กรต่างๆ สามารถเปิดดูแล้วติดต่อไปได้ทันที บนมือถือแอนดรอยด์ของเรานั่นเอง สำหรับแอพนี้ถามว่าทำไมไม่เอา Twitter ไปเลยล่ะ ส่วนตัวผมมองว่าแอพนี้ออกแบบมาให้คนที่ไม่คล่องการใช้งานแอพพลิเคชั่นมากนัก แต่ต้องการที่จะทราบข้อมูลแบบปัจจุบันทันด่วน ซึ่งจากการสังเกตจะเห็นว่าใน Twitter นั้นมีการอัพเดทที่ค่อนข้างไวต่อสถานการณ์มาก เนื่องจาก #thaiflood เป็นที่รวมให้คนมาช่วยกันกระจายข่าวสารน้ำท่วมได้นั่นเอง สำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดไอที อาจจะมึนงงกับการเข้าไปใช้งาน Twitter อาจจะต้องมาสอนวิธีการใช้งาน ทำให้เสียเวลามากขึ้น แต่ถ้าใช้แอพ Thaiflood นั้นก็สามารถเปิดดูข้อมูลได้ทันที สะดวกกว่ามากมายครับผม

ดาวน์โหลด Thaiflood ได้ที่นี่ https://market.android.com/details?id=com.hlpth.thaiflood


เป็นยังไงกันบ้างครับ กับแอพพลิเคชั่นดีๆทั้ง 3 แอพที่ได้แนะนำกัน ทุกแอพล้วนแล้วแต่โหลดฟรีทั้งสิ้น ต้องขอบคุณทีมงานนักพัฒนา ที่สร้างสรรแอพพลิเคชั่นดีๆ ให้เราได้นำมาใช้งาน ถือว่าเป็นการทำบุญเหมือนกันนะกับการทำแอพเพื่อช่วยเหลือผู้คน หรือกระจายข่าวสารที่เป็นประโยชน์ สำหรับระบบแอนดรอยด์เองนั้น ถ้ามองในมุมที่ผมนำเสนอเราก็จะได้เห็นการนำเอาแอนดรอยด์มาใช้ในอีกหน้าที่หนึ่ง นอกจากจะใช้งานต่างๆไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมเพื่อผ่อนคลาย หรือจะทำงานเอกสารต่างๆ เราจะเห็นว่าในสถานการณ์ที่กำลังเกิดภัยพิบัติ เราสามารถนำระบบแอนดรอยด์เข้ามาช่วยเหลือเราได้ด้วย เจ๋งดีใช่มั้ยล่ะ สู้ต่อไป...เจ้าหุ่นเขียว ^^


ปิดท้ายด้วยคู่มือรับสถานการณ์น้ำท่วมโดยการจัดทำของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นไฟล์ PDF ซึ่งเราดาวน์โหลดมาติดตั้งไว้ที่เครื่องแอนดรอยด์ได้เลย ทุกเครื่องจะมีแอพไว้เปิดอ่านไฟล์ PDF กันอยู่แล้วล่ะ



ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับผม http://softbizplus.com/upload/floods-handbook.pdf

สุดท้ายก็ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ด้วยดีนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยพิบัติทุกท่าน ช่วยกันกระจายหน่อยนะ ผมว่ามันน่าจะมีประโยชน์ สำหรับเพื่อนๆชาวแอนดรอยด์ ที่กำลังเจอกับน้ำท่วมอยู่ ไม่มากก็น้อยครับผม

สนับสนุนบทความโดย www.LemonGadget.com facebook.com/lemongadget

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม