นมัสการพระเกศาของพระพุทธเจ้าที่ "พระธาตุจอมแจ้ง"



"พระ ธาตุจอมแจ้ง" อีกหนึ่งศาสนสถานที่มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวของวัดพระธาตุจอมแจ้ง ตำบลแม่สรวย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ถูกสร้างเมื่อพ.ศ.1331 ไม่ ปรากฎชื่อผู้สร้าง องค์พระธาตุจอมแจ้งสีทอง สูง 29 เมตร ฐานกว้าง 10 เมตร เดิมเรียกว่า พระธาตุจวนแจ้ง

เนื่องจากสมัยที่พระพุทธองค์เสด็จถึงสถานที่นี้จวนสว่างพอดี ต่อมาเพี้ยนเป็นจอมแจ้ง เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า ที่นี่มีศาลาเรียกว่า พิพิธภัณฑ์ตำบลป่าแดง หรือ พิพิธภัณฑ์ของจังหวัด รวบรวมสิ่งของโบราณที่หาดูได้ยาก

การเดินทาง จากเวียงป่าเป้า ย้อนกลับขึ้นไปทางเหนือทางหลวงหมายเลข 118 (ถนนเชียงใหม่ – เชียงราย) สู่อำเภอแม่สรวย ผ่านปากทางเข้าโรงงานเชียงรายไวน์เนอร์รี่ ศาลสมเด็จพระนเรศวร, โรงพยาบาลแม่สรวย ข้ามสะพานแม่น้ำลาว ตีนสะพานมีซอยเลี้ยวซ้ายเข้าสู่พระธาตุจอมแจ้งอีก 200 เมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 40 กิโลเมตร

ข้อมูลโดย : กรมการท่องเที่ยว

นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณเกิดอุบัติเหตุที่ 192 ก.ม/ช.ม.



อุบัติเหตุถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และมันเป็นเรื่องแห่งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่คุณตัดสินใจมือยื่นจับพวงมาลัยเท้าเหยียบคันเร่งเพื่อทำความเร้ว และไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สิ่งหนึ่งที่อุบัติเหตุเตือนสติเราเสมอคือความสุญเสียที่ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ ไม่ว่าจะต่อชีวิตหรือทรัพย์สินก็ตาม

ทุกครั้งที่เราพูดถึงความปลอดภัยที่มีมากขึ้นในรถยนต์ปัจจุบันนั้น เรามักจะกล่าวถึงการทดสอบความปลอดภัยหรือที่เราเรียกว่าทดสอบชนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะมาตรฐานที่สูงลิ่วอย่าง Euro NCAP ก็ยังไม่อาจจะตอบโจทย์ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในถนนได้ แม้จะมีการให้คะแนนที่เทียบเป็นดาวเพื่อบอกว่ารถคันนั้นปลอดภัยมากน้อยเพียงใด

แม้การทดสอบที่เห็นนี้จะไม่ใช่การทดสอบที่เป็นทางการอะไรมากมายนัก แต่ใครที่รักความเร็วมักจะพูดถึงความเร็วที่มีให้ความสนุกสนานในการขับขี่โดยเฉพาะตัวเลข 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และต่อไปนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อคุณขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุที่ความเร็ว 192 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เราอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าเอาเพียงคะนองบาทาเท่านั้น

ที่มา Youtube

แปลงโฉมสาว 'โบโฮชิค' สวย-เท่อย่างไรให้อินเทรนด์

แปลงโฉมสาว 'โบโฮชิค' สวย-เท่อย่างไรให้อินเทรนด์

เทรนด์การแต่งตัวของสาว ๆ ที่หวนกลับมาแรงกันอีกครั้งเห็นได้จาก แฟชั่น “เชือกคาดผม” ที่กำลังได้รับความนิยมจากสาว ๆ อย่างแพร่หลาย ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการแต่งตัวแนวโบฮีเมี่ยน การแต่งตัวแนวนี้หลายคนมองว่าอาจเหมาะกับสาว ๆ ที่หุ่นดีเพราะเนื้อผ้าที่พลิ้วลมไม่เหมาะกับสาวเจ้าเนื้อ แต่จริง ๆ แล้วถ้ามีการปิดจุดด้อยและเพิ่มจุดเด่นของตนเองย่อมสวมใส่กันได้ไม่เป็น ปัญหา


bohemian

ณัฐสุภา เจริญยิ่งวัฒนา หัวหน้าภาควิชาการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.กรุงเทพ กล่าวว่า หลาย คนให้ความเห็นถึงจุดเริ่มต้นเริ่มจากกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรโบฮีเมีย สาธารณรัฐเช็ก โดยโบฮีเมี่ยนแทนความหมายกลุ่มคนที่รักแนวคิดอิสระ ไม่แต่งตัวตามขนบดั้งเดิมของยุโรป ซึ่งยุค ค.ศ. 1800 หมายถึงกลุ่มชนพื้นเมืองในฝรั่งเศสตอนใต้ และชนพื้นเมืองในยุโรป เช่น พวกยิปซีเร่ร่อน

ปัจจุบันโบฮีเมี่ยน หมายรวมถึง ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต จึงถูกนำไปใช้ในการแต่งบ้านและเครื่องประดับต่าง ๆ แต่สำหรับแนวการแต่งตัวของคนกลุ่มนี้เน้นสบาย ๆ มีกลิ่นอายของชนพื้นเมือง ภาพลักษณ์นักดนตรี บางส่วนดูรุ่มร่าม เน้นลวดลายธรรมชาติ ทรงผมปล่อยยาว ถ้าดูภาพวาดของจิตรกรโบราณจะเห็นถึงการแต่งตัวดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์

สำหรับปัจจุบันแนวการแต่งตัวแบบโบฮี เมี่ยนกลับมาฮิตอีกครั้ง จึงมีการปรับแต่งเทรนด์ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นจนเรียกกันว่า “โบโฮชิค” มีการผสมแนวทางการแต่งตัวแบบเก่ากับแบบใหม่ เช่น มีการนำกางเกงยีนมาใส่ให้เกิดความคล่องตัว หรือใส่รองเท้าบู๊ตและเสื้อหนัง


การแต่ง “โบโฮชิค” ให้เข้ากับตน เองต้องรู้ถึงจุดเด่นและจุดด้อยของตนเองก่อน โดยคนที่ร่างอ้วนเตี้ยถ้าใส่กระโปรงยาวกรอมเท้าแบบดั้งเดิมไม่เหมาะสม ควรใส่กระโปรงให้สั้นเพื่อให้ดูมีความสูงเพิ่มขึ้น และใส่กับรองเท้าส้นสูงจะช่วยให้ดูดีเพราะโดยหลักแล้วคนเตี้ยไม่ควรใส่ กระโปรงยาวเนื่องจากจะทำให้รูปร่างเตี้ยเข้าไปอีก

ขณะที่ลวดลายบนเสื้อผ้าส่วนใหญ่เป็นแนวธรรมชาติอ่อนช้อย สำหรับคนอ้วนไม่ควรใส่ลวดลายที่มีความใหญ่จนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้คนที่มองเกิดภาพลวงตาขึ้น ทำ ให้รูปร่างดูใหญ่ขึ้นไปอีก และต้องหลีกเลี่ยงลายขวาง และไม่ควรใส่ลายที่เป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ สำหรับหุ่นประเภทอื่นสามารถสวมใส่ได้ตามความชอบบนพื้นฐานความเข้าใจในสัด ส่วนของตนเอง

แนวเสื้อผ้าเทรนด์นี้ดูไม่มีเอวหรือถ้าทำให้ดูมีเอวจะอยู่สูงใต้ราวนม ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับคนที่มีหุ่นอวบ ดังนั้นทางแก้คือพยายามใส่เข็มขัดที่เป็นเส้นใหญ่เพื่อทำให้ดูมีเอวมากขึ้น ไม่ควรใส่เข็มขัดเส้นเล็กเพราะจะทำให้ส่วนเอวไม่โดดเด่น เท่าเข็มขัดเส้นใหญ่

สำหรับเครื่องประดับ เป็นส่วนเสริมให้เกิดความกลมกลืนในการแต่งตัว ซึ่งไม่มีผลต่อหุ่นมากนัก แต่การเลือกสีหรือลวดลายของเครื่องประดับจำเป็นอย่างมาก โดยต้องสำรวจสีของเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ใส่อยู่ไม่ให้เกินสี่สี เพราะถ้าเกินแต่ละสีจะแย่งความโดดเด่น ขณะเดียวกันสีแต่ละสีที่เลือกใส่ไม่ควรให้โดดออกจากสีอื่น ๆ

“ตุ้มหูคนที่แต่งแนวนี้ส่วนใหญ่จะระย้าดูยาว ๆ หน่อย ซึ่งคนหน้ารูปไข่สามารถใส่ตุ้มหูแนวไหนก็ได้เพราะสมส่วนดีแล้ว แต่สำหรับคนที่หน้ายาวไม่ควรเลือกตุ้มหูที่ดูยาวเกินไป เพราะจะทำให้หน้าดูยาวขึ้น แต่ควรเลือกที่ยาวปานกลางแต่ไม่ใช่ติดหูเลยเสียทีเดียว”

สำหรับการแต่งแนว “โบโฮชิค” เพื่อ ไปงานที่เป็นทางการควรเน้นใส่กระโปรงเป็นหลัก หรือใส่ชุดยาวแบบเดรสก็ดูเก๋ไม่เบา ส่วนผมเกล้าไปด้านหลังให้ดูเรียบ ๆ แต่มีเอกลักษณ์ ด้วยความที่การแต่งตัวแนวนี้เน้นความสบายอาจเป็นที่ล่อแหลมเพราะเนื้อผ้าที่ บาง อาจต้องมีแจ๊กเกตและผ้าคลุมไหล่เสริมเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยมากขึ้น

โบโฮ

ในส่วนของเครื่องประดับผมส่วนใหญ่ใช้ผ้าโพกผม หรือใช้ผมถักเป็นเปียมาวนรอบเป็นที่คาดผม ขณะ ที่แบบซึ่งได้รับความนิยมคือ ใช้เชือกถักและสายหนังประดับด้วยขนนกและดอกไม้ โดย วัสดุที่ใช้มาประดับไม่ควรมีขนาดใหญ่จนเกินไปในคนที่มีรูปหน้ากลมหรืออ้วน เพราะจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างหน้ากับวัสดุที่ตกแต่ง เช่นเดียวกับสีของวัสดุที่ใช้คาดส่วนใหญ่ใช้สีเนื้อ,ครีม,ชมพู เพราะทำให้ดูกลมกลืนกับสีผม ถ้าใช้สีอื่นอาจดูเด่นมากกว่าใบหน้าของผู้แต่งได้

“สำหรับการแต่งหน้าส่วนใหญ่แนวนี้จะไม่แต่งจัด แต่จะปล่อยเปลือย ๆ มีการกรีดตาให้ดูเก๋ ๆ ก็เพียงพอ สำหรับคนที่จะเริ่มแต่งขอให้มีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งคนแต่งจะรู้ว่าส่วนไหนคือจุดด้อย แล้วพยายามสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดจุดเหล่านั้น แค่นี้คุณก็สามารถแต่งตัวได้ทุกแนวแล้ว”

ข้อควรระวังสำหรับแนวทางการแต่งตัวกระโปรงยาวอาจทำให้ไม่สะดวกในการวิ่ง หรือขึ้นรถเมล์ ผู้แต่งเองควรมีแนวทางว่าวันนี้จะแต่งตัวประเภทไหนหากต้องเดินทั้งวันอาจใส่ กางเกงยีนแทนได้ เพียงเราพยายามแต่งตัวให้เป็นแนวทางของตัวเองซึ่งเหมาะกับการใช้ชีวิตแต่ละ วันจะทำให้การทำงานต่าง ๆ สะดวกขึ้น

’โบโฮชิค“ ถือเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ซึ่งผู้แต่งต้องเลือกให้เหมาะสมกับหุ่นและการใช้ชีวิตของตนเองด้วยเช่นกัน.

“การแต่ง ‘โบโฮชิค’ ให้เข้ากับตนเองต้องรู้ถึงจุดเด่นและจุดด้อยของตนเองก่อน โดยคนที่ร่างอ้วนเตี้ยถ้าใส่กระโปรงยาวกรอมเท้าแบบดั้งเดิมไม่เหมาะสม ควรใส่กระโปรงให้สั้นเพื่อให้ดูมีความสูงเพิ่มขึ้น และใส่กับรองเท้าส้นสูงจะช่วยให้ดูดี”

ที่มา นสพ.เดลินิวส์

Siri คืออะไร (สิริ)

Siri คืออะไร (สิริ)

มองสิริแล้วย้อนมองตัวเอง
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ถ้าไม่นับเรื่องน้ำท่วมแล้ว ในแวดวงไอทีมีข่าวใหญ่ ๆ เกิดขึ้นหลายข่าวด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว iPhone 4s หรือข่าวการเสียชีวิตของสตีฟ จอบส์ อดีตซีอีโอของแอปเปิล

ความสามารถพิเศษของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมไอโฟนรุ่นล่าสุดที่แอปเปิลใช้เป็นจุดขาย ที่ฮือฮากันพอสมควรก็คือ การฝังเอเจนต์โต้ตอบอัจฉริยะที่ชื่อ สิริ (Siri) ลงไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการนี้ด้วย

สิริเป็นใคร ทำไมถึงน่าสนใจ?

แรกเริ่มเดิมทีสิริเป็นผลิตภัณฑ์ของเครือบริษัทสิริ (Siri Inc.) ที่ไม่ใช่ของแอปเปิล แต่ในท้ายที่สุดแอปเปิลได้ซื้อสิริ แล้วผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไอโอเอสรุ่นใหม่ที่สามารถ “ฟัง” คำถามจากมนุษย์ได้เข้าใจ และสามารถตอบโต้ออกมาเป็นการกระทำในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สามารถค้นหาข้อมูลสภาพอากาศ ประมวลผลเพื่อหาคำตอบ แล้วตอบออกมาเป็นเสียงพูด เพื่อสื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างน่าประทับใจ

ไม่ใช่แต่เพียงสิริเท่านั้นที่เปิดตัวได้อย่างน่าทึ่ง เพราะก่อนหน้านี้หลายเดือน ทางฝั่งกูเกิลได้ฝังความสามารถทางด้านการโต้ตอบด้วยเสียงแบบเดียวกับสิริลงไปในแอนดรอยด์โอเอสของตัวเอง กูเกิลตั้งชื่อความสามารถพิเศษนี้ว่า Voice Actions ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและใช้ผ่านแอพพลิเคชั่นวอยซ์เสิร์ช (Voice Search)

คุณสมบัติทั้งสองจากไอโฟนและแอนดรอยด์จัดอยู่ในกลุ่มเอเจนต์อัจฉริยะ ที่หมายถึง การสร้างส่วนจำเพาะของระบบ (หรือเรียกว่า มอดูล-Module) ให้ทำงานบางอย่างได้อย่างอัตโนมัติภายในสิ่งแวดล้อมที่กำหนด แนวคิดนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น สร้างเอเจนต์ในรูปแบบระบบฝังตัวเพื่อคอยตรวจวัดอุณหภูมิทั้งในรถยนต์เพื่อใช้ในการควบคุมการทำงานของพัดลมระบายความร้อน หรือใช้เป็นตัวคอยปรับอุณหภูมิภายในห้องสำหรับกรณีเครื่องปรับอากาศ สร้างเป็นเอเจนต์โต้ตอบระหว่างผู้ขับกับอุปกรณ์ภายในรถยนต์ที่มีอยู่ในรถหลาย ๆ รุ่น หรือแม้กระทั่งสร้างเอเจนต์คอยตรวจการพิมพ์เพื่อแก้ไขให้เป็นภาษาที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นผลงานจากโครงงานของนิสิตภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (http://www.rightlang.com) เป็นต้น

ย้อนกลับมาที่เอเจนต์เท่ ๆ อย่างสิริและวอยซ์เสิร์ชกันครับ

แน่นอนว่า ในตอนเปิดตัวคุณสมบัติทั้งสองอันนี้ยังไม่สนับสนุนภาษาไทย และคงอีกนานกว่ามันจะสนับสนุนภาษาไทยได้เหมือนที่ทำได้ในภาษาอังกฤษ

ผู้ใช้หลายท่านอาจจะขมวดคิ้วตั้งคำถามว่า แล้วต้องรออีกนานขนาดไหน ถึงจะสามารถใช้ภาษาไทยในสิริกับวอยซ์เสิร์ชได้

ซึ่งก่อนที่จะตอบคำถามว่า “อีกนานขนาดไหน” ได้ เราลองมาพิจารณาดูก่อนว่า มัน “ยาก” มากไหมที่จะสร้างให้สิริกับวอยซ์เสิร์ชรองรับภาษาไทยได้

สิ่งที่ต้องทำเพิ่มเพื่อให้สามารถใช้งานภาษาไทยได้นั้นมีหลายอย่างด้วยกัน เช่น การ “ฟัง” ภาษาไทย (หรือที่เรียกว่า การรู้จำเสียงภาษาไทย) การแปลภาษาไทยเป็นอังกฤษและอังกฤษกลับเป็นไทย (ในกรณีที่ใช้กลไกภายในทั้งหมดของสิริและวอยซ์เสิร์ช) การสรุปความภาษาไทย และการสังเคราะห์เสียงหรือการแปลงข้อความกลับเป็นเสียง

หลายคนมองสิริอาจจะรู้สึกทึ่ง ตื่นเต้น อยากใช้หรืออื่น ๆ อีกมากมาย แต่ลองมองย้อนกลับมาที่ตัวเรา เราจะพบความจริงที่น่ากลัวว่า คือ ในบรรดาสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมตามที่อธิบายในย่อหน้าด้านบนนี้ เราต้องการแรงงานคนในระดับปริญญาตรี โท และเอก รวม ๆ แล้วไม่ต่ำกว่าร้อยคน (อาจถึงหลายร้อยคน) ซึ่งต้องเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในระดับสูงถึงสูงมากเสียด้วย และสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้น คือ ความจริงที่ว่า ในปัจจุบันเราสามารถผลิตคนในระดับนี้ได้เพียงปีละไม่ถึงสิบคน

จากทรัพยากรที่เรามีอย่างจำกัด ทำให้เรามีสามทางเดินให้เลือกเดิน หนึ่ง ยอมจำนนไม่ใช้ภาษาแม่ของเราและหันไปใช้ภาษาอังกฤษ สอง ยอมให้ต่างชาติใช้แรงงานคนและเงินที่มีมากกว่าเราสร้างสรรค์งานเกี่ยวกับภาษาของเราแล้วนำมาขายเรา หรือสาม ตระหนักถึงความอ่อนแอของกำลังคนในด้านไอทีและทำให้มันเข้มแข็งมากขึ้น

“คุณเลือกข้อไหนครับ?”

แฟชั่น กันหนาว กับผ้าพันคอบิ๊กไซส์

หลังจากแนะนำแฟชั่นฤดูหนาว หมวกไหมพรม หลากสีไปแล้ว ก็ถึงคราวของ ผ้าพันคอ สีสวยๆ บ้างค่ะ หนาวนี้เลือกไซส์ใหญ่ๆ จะได้เด่นมาไกลๆ นะค้า

แฟชั่น กันหนาว กับผ้าพันคอบิ๊กไซส์

แฟชั่นกันหนาว

แฟชั่นกันหนาว

แอปเปิ้ล 3 ลูกที่เปลี่ยนโลก



ลูกแรกคือลูกที่อดัมกับอีฟกินเข้าไปทําให้พระเจ้าโกรธที่ไม่ยอมเชื่อฟังคําสอนและไล่มาอยู่บนโลกอย่างยากลําบาก



ลูกที่สองคือลูกที่หล่นใส่หัวของเซอร์ไอแซค นิวตัน ทำให้เขาค้นพบแรงโน้มถ่วงของโลก



แอปเปิ้ลลูกที่สาม คือ แอปเปิ้ลของ ''สตีฟ จอบ" ผู้ที่นําโลกทั้งใบไว้ในกํามือ

credit: http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=28974

ตรวจสอบรูปข่าวลือง่าย ๆ ด้วย Google Image Search

 Google Image Search



เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก @Mhafai

การไหลมาของมวลน้ำจำนวนมหาศาลที่พร้อมจะทะลักเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้ชาวกรุงตื่นตระหนกไม่น้อย และยิ่งเหตุการณ์ทำท่าจะวิกฤติมากขึ้นเท่าไหร่ การโพสต์และแชร์ข่าวผ่านช่องทางออนไลน์ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

แต่ทว่าข่าวสารจำนวนมากนั้น ก็ยังแฝงด้วยข่าวลวง ข่าวลือ หรือรูปภาพที่หยิบยกขึ้นมาประกอบสถานการณ์ โดยอ้างว่าเป็นภาพในเหตุการณ์ขณะนี้ ทั้งที่ความจริงเป็นภาพที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวเลย แต่ถูกหยิบขึ้นมาสร้างความตื่นตระหนก และความรู้สึกต่าง ๆ นานา ให้เกิดขึ้นกับชาวกรุง

ดังนั้นแล้ว หากคุณได้รับการแชร์ภาพถ่ายอะไรที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นภาพในเหตุการณ์นี้จริงหรือไม่ หรือเป็นภาพตัดต่อเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด เราควรตรวจสอบก่อนที่จะเชื่อภาพนั้น โดยเรามีวิธีดี ๆ จากเว็บไซต์ mhafai.com มาช่วยคุณตรวจสอบภาพต้องสงสัยนั้นอย่างง่าย ๆ ดังนี้


ตรวจสอบรูปข่าวลือง่าย ๆ ด้วย Google Image Search โดย mhafai.com

พักนี้ใน Social network อย่าง Facebook และ Twitter มีคนแบ่งปันรูปพระราชกรณียกิจของในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ โดยบางรูปมีการเติมคำอธิบายด้วยการใส่วันที่ใหม่เข้าไป และล่าสุดก็เป็นรูปนายกยิ่งลักษณ์ถือมือถือ Blackberry ทำหน้ายิ้มแย้มถ่ายรูปอยู่บนเฮลิคอปเตอร์แล้วก็ด่าว่าสถาณการณ์นี้ยังถ่ายรูปมือถือเล่นอีกเหรอ

อยากให้หลาย ๆ คนหยุดคิดสักนิดนึงและหาว่าภาพพวกนี้มีที่มาเป็นอย่างไร ใช่ที่พวกเราคิดกันหรือเปล่า วิธีหาก็ง่าย ๆ ยิ่งเป็นรูปภาพด้วยแล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ Google เพิ่มการรองรับการค้นหาด้วยรูปด้วยไม่นานมานี้โดยให้ไปที่ http://www.google.com/imghp แล้วเราจะเห็นรูปกล้องถ่ายรูปอยู่ในช่องค้นหาลองคลิกขึ้นมา

 Google Image Search



ให้เราใส่ url ของรูปหรืออัปโหลดไฟล์รูปภาพที่เรามีอยู่เข้าไป แค่นี้ Google ก็จะแสดงผลการค้นหาให้เราได้แล้ว ขอยกตัวอย่างสองรูปคือ รูปสมเด็จพระเทพฯ ประทับอยู่บนรถ GMC กับรูปนายกยิ่งลักษณ์ถ่ายรูป

วิธีการเอาลิงก์ของรูปภาพก็ง่าย ๆ แค่คลิกขวาแล้วเลือก คัดลอกที่ตั้งภาพ (อาจแตกต่างกันไปในแต่ละเบราว์เซอร์)

 Google Image Search



ดูจากวันที่นะครับ ภาพข่าวของสมเด็จพระเทพฯ เป็นภาพที่ท่านเสด็จไปช่วยน้ำท่วมที่โคราชเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว

 Google Image Search



ส่วนรูปนายกฯ เป็นภาพที่ถ่ายขึ้นตอนกำลังหาเสียงเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนก่อนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 Google Image Search


เห็นไหมครับว่าแค่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นกันสักนิด หาที่มาของรูปนั้นกัน เราก็ไม่ต้องมาหลงเชื่อข่าวลือผิด ๆ แล้วก็ด่ากันไปมาไม่รู้จักหยุดหย่อน ก่อนจากกันขอแปะโพสต์ที่แปะไว้บน Facebook และ Google+ ของผมหน่อย

หลายคนคงเคยเห็นโฆษณานี้มันช่างเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ยิ่งนัก

เผยแพร่กันเข้าไปสิ ภาพพระราชกรณียกิจเก่า ๆ เมื่อหลายปีที่แล้วเติมวันที่ใหม่เข้าไป ทั้งที่ท่านไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องเกี่ยวข้องแล้ว ทำอย่างนี้อาจถูกติดคุกไม่รู้ตัว

เผยแพร่กันเข้าไปสิ รูปนายกฯ เดินสะพานไม้ ใส่รองเท้าบูท แล้วเอามานินทาด่ากันให้สนุกปากไปวัน ๆ ขอให้กูได้ด่าเป็นพอ ทั้งที่เราไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

และอื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน

ณ วินาทีนี้เราต้องมาแบ่งปันข้อมูลว่าจุดไหนน้ำท่วมบ้าง และวิธีการป้องกันหรือเอาชีวิตรอดในยามน้ำท่วม ใครมีเงินก็บริจาค ใครมีแรงก็ไปทำงานอาสา (ใจหล่อ,สวยมาก) ถ้ามัวแต่เถียงแต่ด่าแต่นินทากันอย่างนี้ คงได้ ชิบ หาย ตามโฆษณาเป็นแน่แท้



รับมือกับปัญหานอนกรน

นอนกรน


เรื่องของคนนอนกรน (คู่หูเดินทาง)


เสียงกรนที่ดังผิดปกตินั้นอาจเป็นอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายอื่น ๆ ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามอาการดังกล่าว เราจึงมีวิธีแก้อาการนอนกรนมาบอกกัน

แนะนำให้นอนตะแคง หรือหนุนหมอนให้สูงขึ้นกว่าเดิม 2-3 นิ้ว อาการกรนจะดีขึ้นและน้อยลง

แผ่นแปะรั้งจมูกจะช่วยรั้งให้รูจมูกที่เล็กกว่าปกติห รือรูจมูกที่ตีบตันกว้างขึ้น จึงแก้ไขอาการกรนที่เกิดจากการหายใจทางปากได้

ลองไปพบทันตแพทย์ เพราะที่ครอบฟันจะช่วยรั้งขากรรไกรล่างและลิ้นมาด้านหน้าทำให้หายใจได้คล่องขึ้น

หากกรนเสียงดังมาก ลองไปพบอายุรแพทย์หรือเข้ารับการตรวจจากคลินิกการนอนหลับดู

แต่ถ้าคนที่นอนข้าง ๆ คุณเป็นคนกรน แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้

เข้านอนเป็นคนแรกจะได้หลับสนิทก่อนที่เขาจะเข้านอน

ที่อุดหูอาจช่วยให้ค่ำคืนของคุณเงียบลงได้ ลองหาซื้อที่อุดหูจากร้านยาใกล้บ้าน

ทางออกสุดท้ายก็คือการแยกห้องนอนเสีย หากคุณทั้งสองคนเข้าใจกันดี การแยกห้องจะไม่ส่งผลร้ายต่อความสัมพันธ์ของคุณ






ขอขอบคุณข้อมูลจาก

แต่งหน้าฮาโลวีน สไตล์แวมไพร์สุดเซ็กซี่



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก taaz.com

ย่างเข้าปลายเดือนตุลาคมเมื่อไหร่ สาว ๆ หลายคนก็คงจะนั่งค้นหาข้อมูลรูปภาพเกี่ยวกับไอเดียการแต่งหน้าฮาโลวีนกันจนแทบจะเลือกไม่ได้แหง ๆ แหมก็การเนรมิตหน้าตาให้เป็นผีมันมีเยอะแบบหลายสไตล์เลยนี่นา แต่สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีคอนเซ็ปท์การแต่งหน้าแบบผีสาวพราวเสน่ห์แบบเบา ๆ ที่ไม่ต้องถึงขั้นพึ่งซิลิโคน เยื่อกระดาษ หรือฉีดเลือดปลอม มาทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปแต่งหน้าแนวแวมไพร์สาวสุดเซ็กซี่ เป็นผีสาวสวยคมกันค่ะ ว่าแล้วก็เตรียมอายชาโดว์และลิปสติกโทนสีม่วง แดง ดำ แล้วเริ่มแต่งหน้าตามขั้นตอนต่อไปนี้เลยค่ะ

1. ใช้รองพื้นสีอ่อนถึงขาว แม้ว่าเวลาแต่งหน้าปกติสาว ๆ จะเหมาะกับรองพื้นสีเฉดเดียวกับใบหน้า แต่สำหรับการแต่งเป็นแวมไพร์ ต้องขอให้ใช้รองพื้นสีอ่อนถึงขาวเท่านั้นค่ะ เพราะผิวจะได้ออกมาซีดเหมือนผีดิบนั่นเอง อ๊ะ แล้วอย่าลืมเก็บรายละเอียดบริเวณไรผมเลยนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นสีรองพื้นจะตัดกับสีผิวจริงบริเวณไรผมนี่แหละค่ะ จากนั้นก็ลงไพรเมอร์และแป้งสีขาวให้เรียบร้อย

2. เขียนคิ้วด้วยดินสอสีเทา หรือสีน้ำตาลอ่อน เพราะนางเอกสำหรับงานนี้คือดวงตาคมสวยค่ะ อย่าเน้นคิ้วให้โดดเด่นขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งเชียว ดังนั้นใช้สีอ่อน ๆ เป็นพอ

3. ทาอายชาโดว์สีม่วงลงไปตามแนวขอบตา จากนั้นค่อย ๆ เกลี่ยออกจากบริเวณแนวขอบตาให้อ่อนลงเรื่อย ๆ อาจใช้สีม่วงดำเพื่อให้เห็นเป็นเหมือนรอยช้ำ จะดูสมจริงเลยทีเดียว

4. ทาอายชาโดว์สีดำสนิทลงบริเวณขอบตาทั้งบนและล่าง จากนั้นเกลี่ยออกไปเช่นเดียวกับอายชาโดว์สีม่วง แต่เกลี่ยให้เพียงนิดหน่อยอย่าให้เกินพื้นที่ของอายชาโดว์สีม่วงที่เกลี่ยลงไป

5. กรีดอายไลเนอร์ที่ขอบตาทั้งบนและล่าง โดยให้เส้นอายไลเนอร์ขอบตาด้านบนหนาเลยรอยพับตาไปเล็กน้อย ส่วนขอบตาด้านล่าง กรีดเป็นเส้นหนากว่าที่เคยกรีดตามปกติ 2 เท่า

6. เกลี่ยอายชาโดว์สีขาวบริเวณใต้หางคิ้ว ให้ดูมีมิติและโดดเด่นขึ้น

7. ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูม่วงบาง ๆ บริเวณใต้โหนกแก้มใกล้ ๆ กับหู เอาแค่บาง ๆ นะคะ เพราะอย่างที่บอกงานนี้ดวงตาจะเด่นที่สุด

8. ใช้ลิปสติก 2 สี คือสีดำ (หรือม่วงเข้ม) และแดง โดยแบ่งเรียวปากตามแนวนอนออกเป็น 3 ส่วน จากนั้นเว้นตรงส่วนกลางไว้ แล้วใช้สีดำหรือม่วงเข้มทาบริเวณส่วนแรกและส่วนที่ 3 ส่วนสีแดงให้ทาจากตรงกลางเกลี่ยออกไปบริเวณขอบปากให้กลมกลืนกับลิปสติกสีดำที่ทาไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นลงลิปกลอสเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนค่ะ

คราวนี้ สาว ๆ ก็จะแปลงร่างเป็นแวมไพร์สาวเจ้าเสน่ห์แล้ว อ๊ะ แล้วอย่าลืมลงแป้งอีกรอบนะคะ เพื่อทำให้ทุกอย่างติดทนนานขึ้นค่ะ

เปิดเส้นทางเลี่ยงหนีน้ำขึ้นเหนือ-อีสาน

ข่าวน้ำท่วม เส้นทางน้ำท่วม
ข่าวน้ำท่วม เส้นทางน้ำท่วม




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังจังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องตรวจสอบเส้นทางให้ดี เพราะในเส้นทางหลัก สายพหลโยธิน และสายมิตรภาพ ถูกน้ำท่วมหลายจุด เราจึงมีเส้นทางเลี่ยง เพื่อจะเดินทางไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาบอก ดังนี้

เส้นทาง "เชียงใหม่-กรุงเทพฯ" ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 พหลโยธิน ลำปาง-ตาก- กำแพงเพชร ก่อนถึงนครสวรรค์มีทางเลือก 2 ทางที่ "แยกหนองเบน"

เส้นทางแรก จากหนองเบนไปตามทางหลวงหมายเลข 1 เข้าจังหวัดนครสวรรค์ ผ่านสะพานเดชาติวงศ์ แต่การจราจรติดขัด ถนนเป็นคอขวด ตรงไปถนนสายเอเชีย หมายเลข 32 เข้าสิงห์บุรี เลี้ยวขวาเข้าบางระจัน ถึงแยกนางบวชเลี้ยวซ้ายไปทางสุพรรณบุรี เข้าถนนหมายเลข 340 จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 321 เข้า อ.อู่ทอง ผ่านกำแพงแสนมุ่งหน้านครปฐม เกาะเส้นทางหมายเลข 4 เข้านครชัยศรี ทะลุถึงกรุงเทพฯ

เส้นทางที่ 2 จากหนองเบนเลี้ยวขวาเข้า อ.ลาดยาว ทางหลวงหมายเลข 1072 ไปทาง อ.สว่างอารมณ์ ทัพทัน หนองฉาง เข้าทางหลวงหมายเลข 333 ผ่าน อ.บ้านไร่ เข้าสุพรรณบุรี ที่ อ.ด่านช้าง จากนั้นมุ่งหน้าเข้า อ.ดอนเจดีย์ ผ่านอู่ทอง วิ่งเกาะทางหลวงหมายเลข 321 ถนนมาลัยแมน ผ่านกำแพงแสน เข้านครปฐม ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งหน้านครชัยศรี ทะลุกรุงเทพฯ

เส้นทาง "น่าน-กรุงเทพฯ" ใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่านแพร่ เด่นชัย ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านอุตรดิตถ์ อ.วังทอง จ.พิจิตร อ.หนองบัว ตากฟ้า เลี้ยวขวาเข้าตาคลี ถึงทางหลวงหมายเลข 32 สายเอเชีย เลี้ยวซ้ายไปอินทร์บุรี สิงห์บุรี เข้าสุพรรณบุรี เข้านครปฐม นครชัยศรี เดินทางต่อถึงกรุงเทพฯ

เส้นทาง "เลย-กรุงเทพฯ" เริ่มต้น ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 เข้าเพชรบูรณ์ เกาะทางหลวงหมายเลข 21 ผ่าน อ.บึงสามพัน ชัยบาดาล เฉลิมพระเกียรติ ใช้ทางเลี่ยงเมืองสระบุรี เข้าทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ไป อ.หนองแค ถึงแยกหินกองเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 33 วิหารแดง บ้านนา นครนายก ตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 305 นครนายก องครักษ์ รังสิต ธัญบุรี ลำลูกกา เข้ากรุงเทพฯ

เส้นทาง "หนองคาย-กรุงเทพฯ" หนองคายมุ่งหน้าโคราช จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 304 โคราช ปักธงชัย กบินทร์บุรี ฉะเชิงเทรา เข้ากรุงเทพฯ

เส้นทาง "บุรีรัมย์-กรุงเทพฯ" ใช้ทางหลวงหมายเลข 218 บุรีรัมย์ นางรอง เข้าโนนดินแดง วัฒนานคร เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 33 สระแก้ว กบินทร์บุรี เลี้ยวซ้ายเข้าหมายเลข 304 มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ

หรือจากบุรีรัมย์ใช้ถนนหมายเลข 218 บุรีรัมย์ นางรอง จากนั้นเข้าหมายเลข 24 นางรอง ปักธงชัย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 304 โคราช มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม