เปิดตัว… Kia Picanto Hatchback 3 ประตูที่อังกฤษ

กลับมาอีกครั้งแล้ว สำหรับข่าวสารวงการรถยนต์ คราวนี้ทาง Thaicarlover.com เอาใจคนที่ชื่นชอบซิตี้ คาร์ นำข่าวจากค่าย Kia มาฝากพี่ๆ น้องๆ กันครับ
ซึ่งล่าสุด…

ที่ประเทศอังกฤษ Kia ได้เปิดตัวรถยนต์เวอร์ชั่นแฮทช์แบ็ค 3 ประตูของ Picanto ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในการใช้ตัวถังรูปทรงนี้กับ Picanto โดยในส่วนของรูปโฉมก็มีการสร้างความแตกต่างให้ดูมีเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น ทั้งกระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้นกว่าเวอร์ชั่น 5 ประตู ส่วนกันชนหน้าก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูกว้าง และเตี้ยลงเพื่อความเป็นรถสปอร์ตมากขึ้น

Kia Picanto 2012 - 3 Doors Hatchback-ด้านหน้า

Kia Picanto 2012 - 3 Doors Hatchback-ด้านหน้า

โดย Kia จะเริ่มจำหน่าย Picanto เวอร์ชั่นนี้ในสหราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่จะถึงนี้เป็นต้นไป โดยราคา เกีย พิแคนโต้ แฮทช์แบก 3 ประตู จะเริ่มต้นที่ 7,795 ปอนด์สำหรับรุ่น Base เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า 1 และรุ่น 1 Air ที่ได้รับการติดตั้งระบบปรับอากาศในราคา 8,395 ปอนด์ ส่วนรุ่น Halo ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.25 ลิตร ที่มาพร้อมระบบ EcoDynamics มีราคาเพิ่มขึ้นมาอีกพอสมควรโดยเริ่มต้นที่ 11,695 ปอนด์ เท่ากับรุ่น Equinox

Kia Picanto 2012 - 3 Doors Hatchback-ด้านข้าง

Kia Picanto 2012 - 3 Doors Hatchback-ด้านข้าง

ส่วนรุ่นที่มีราคาสูงสุดคือรุ่น Halo เกียร์อัตโนมัติ ซึ่งใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.25 ลิตรเช่นกัน มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 12,295 ปอนด์

ภายใน Kia Picanto 2012 - 3 Doors Hatchback

ภายใน Kia Picanto 2012 - 3 Doors Hatchback

ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานที่มีใน Picanto 3 Door ทุกรุ่นได้แก่ Trip Computer เบาะนั่งปรับระดับความสูงได้ แกนพวงมาลัยปรับได้ ระบบวิทยุ RDS พร้อมเครื่องเล่น CD/MP3 ระบบควบคุมการทรงตัง ESC ระบบเบรค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD และช่วยเบรคฉุกเฉิน BAS โดยรุ่น Halo และ Equinox จะมีช่อง USB และ AUX สายต่อเชื่อม iPod ปุ่มควบคุมระบบเสียงบนพวงมาลัย ล้ออัลลอย ระบบ Bluetooth พร้อมฟังค์ชั่นสั่งการด้วยเสียง ไฟอัตโนมัติ ไฟวิ่ง LED และไฟท้าย LED

แฟนๆ Kia ในบ้านเราคงจะต้องอดใจไปก่อน แต่ก็ไม่แน่ที่ Kia Picanto Hatchback 3 ประตูจะมาอวดโฉมให้ชมกันในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2012) ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งอันนี้แฟนๆ เกียคงต้องติดตามกันต่อไปครับ

อย่าพลาดติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถใหม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ได้ใหม่ครับ

Volvo S80 2.5 FT Sport อัพเกรดความเร้าใจ

S80 2.5 FT Sport สปอร์ตซีดานขุมพลัง E85 เสริมชุดแต่งสปอร์ตเต็มพิกัด พร้อมเพิ่มสมรรถนะด้วย Polestar Performance Tuning Kit ตอบสนองทันใจกว่าเดิมด้วยการอัพเกรดแรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 258 ตัว พร้อมกับการปรับปรุงสมรรถนะช่วงล่างใหม่ให้ขับสนุกตอบรับสมรรถนะการทรงตัวดียิ่งขึ้น ด้วยราคา 2.989 ล้านบาท

หลังจากการเปิดตัวในรุ่น 2.5 FT Business ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการปรับแพ็กเก็จอุปกรณ์ต่างๆของตัวรถใหม่ ให้สอดคล้องกับการใช้งานของลูกค้าในกลุ่มองค์กรธุรกิจ หรือเรียกง่ายๆ ว่าปรับหน้าตาให้ดูหรูหราตามแบบฉบับของชายหนุ่มภูมิฐาน แต่คราวนี้ขอสลัดคราบหนุ่มนักธุรกิจ ด้วยการแต่งตัวสปอร์ต แต่งองค์ทรงเครื่องเสริมมาดแมนให้ดูดุดันขึ้น

แน่นอนว่าภาพลักษณ์ภายนอกยังคงความสวยสง่างามสไตล์สแกนดิเนเวียน แต่เพิ่มพลังร้อนแรงสไตล์สปอร์ตด้วยชุดแต่งรอบคัน ทั้งสปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง ท่อไอเสียแบบแยก 2 ท่อ ล้ออลูมิเนียม 18 นิ้วดีไซน์ใหม่

ส่วนขุมพลัง E85 แบบ 5 สูบ 2,500 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศ ถูกเพิ่มพละกำลังด้วย ชุด Polestar Performance Tuning ที่มีแรงม้าเพิ่มขึ้นจากเดิม 200 แรงม้า เป็น 258 แรงม้า และมีแรงบิดเพิ่มเป็น 36.63 กก.-ม. สามารถเร่งความเร็วเต็มสมรรถนะจาก 0-100 ก.ม. ใน 7.3 วินาที เมื่อทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รวมทั้งการปรับช่วงล่างเพิ่มเสริมสมรรถนะการทรงตัวให้สอดรับกับความแรงที่เพิ่มขึ้น

มาพร้อมนวัตกรรมความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบแจ้งเตือนและป้องกันการชนพร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถให้โดยอัตโนมัติ (Collision Warning with Auto Brake - CWAB) ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบสามารถตั้งแวลาและระยะห่างจากรถคันหน้าได้ (Adaptive Cruise Control - ACC) กล้องดิจิตอลในกระจกมองข้าง พร้อมระบบสัญญาณไฟเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับของสายตา (Blind Spot Information System - BLIS) และ ไฟหน้าแบบ แอ็คทีฟ เบนดิ้ง ปรับซ้ายขวาตามพวงมาลัยรถยนต์และปรับระดับสูง/ต่ำโดยอัตโนมัติ

นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย กับคุณภาพ ที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง ทั้งยังเสริมสมรรถนะความแรง และความปลอดภัย ที่ทั้งหมดมูลค่ากว่า 3 แสนบาท ด้วยค่าตัว 2.989ล้านบาท

Sanook! Auto Comment >>> หากมองถึงรถยนต์ที่ปลอดภัยแล้ว ชื่อ Volvo อาจจะนำโด่งมาในตลาดรถยนต์ยุโรปที่ขึ้นชื่อลือชามานานมากแล้ว แต่ว่ากลับกันทางด้านความสปอร์ตแล้วค่ายนี้เขาก็มีดี ไม่แพ้ค่ายอื่นๆ เช่นกันฟ

Cadillac ELR Coupe ..อีกหนึ่งไฟฟ้าจากเทคโนโลยี Volt

หลังจากห่างหายไปนานกับกระแสรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ที่ใกล้เวลางาน Frankfurt auto showก็ยิ่งมีข้อมูลออกมามาก และครั้งนี้เป็นคิวของรถยนต์ไฟฟ้าที่เตรียมยกเอาเทคโนโลยีจากฝาแฝดมาใช้เพื่อสานให้มันกลายเป็นจริง

อาจจะผ่านมาเกือบ 2 ปี แล้ว สำหรับอีกหนึ่งรถต้นแบบที่รอวันกลายเป็นจริงกับรถสปอร์ตคูเป้สุดเท่ห์ผลงานจากค่าย Cadillac ที่ความหรูหราถูกสอดประสานลงตัวด้วยความสปอร์ตในสไตล์นั่งทรงสปอรืต 2 ประตู ที่เคยนำมาโชว์เมื่องาน Detroit auto show ปี 2009

Cadillac ELR Coupe

ข่าวคราวที่เงียบหายทำให้เราคิดว่ารถคันนี้น่าจะถูกพบใส่ลิ้นชักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ดูเหมือนว่า ล่าสุดค่ายรถยนต์รายนี้จะสนใจอีกครั้ง เมื่อมีการเปิดเผยออกมากลายๆ ว่า Cadillac ELR จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนจากพี่น้อง Chevrolet Volt ที่ยิ่งทำให้มันน่าสนใจยิ่งขึ้น

ถึงแม้ตอนนี้เราจะยังไม่มีรายละเอียดอะไรมากมายนักที่พอจะบอกว่า Cadillac ELR จะใช้อะไรขับเคลื่อนอย่างจริงจัง แต่ดูเหมือนค่ายรถยนต์สุดหรูจะต้องการระบบส่งกำลังไฟฟ้า ที่อาจจะมีการอัพเกรดเล็กน้อย และมันน่าจะมาพร้อมเครื่องยนตื 4 สูบแถวเรียงที่ยังไม่ทราบขนาดที่จะมารับบท Range extender ให้ระบบมอเอตร์ไฟฟ้าในรถ

อย่างไรก็ดี ชื่อ ELR ของรถรุ่นนี้มาจากข้อความ Electric Luxury Ride ซึ่งตะวจริงๆจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตาม แต่นี่คือภาพและวีดีโอที่เคยถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้




2012 Kia Picanto 3 Doors ...สปอร์ตยิ่งกว่าในคราบสุดซิ่ง

ถ้าพูดถึงบ้านเรากับรถยนต์จากประเทศเกาหลีแล้วไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรนั้น ก็ดูเหมือนว่าค่ายรถยนต์จากแดนกิมจิจะยังไม่สามารถชนะใจคนไทยได้ แม้ความคุ้มค่าของรถยนต์จากประเทศน้องใหม่นี้จะมีดีพอตัว แต่ด้วยความเก่าที่เคยมี ทำให้วันนี้ไทยยังเป็นโจทย์ที่ยากอยู่

เมื่อช่วงมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ในขณะที่กระแสรถยนต์ Honda Brio กำลังมาแรงในแบบฉบับน้องใหม่จากค่ายยอดนิยมนั้น แต่ห่างกันเพียงไม่กี่บูธท่ามกลางงานมอเตอร์โชว์นั้น ค่ายรถยนต์เกาหลีนาม KIA ก็นำรถซิตี้คาร์น้องใหม่มาอวดโฉมกับ Kia Picanto K1 ที่วันนี้ โฉม 5 ประตูตัวจี๊ดก็เพิ่มทางเลือกมากขึ้นในตลาดยุโรปกับเวอร์ชั่น3 ประตู

2012 Kia Picanto 3 Doors

ในบ้านเรานั้น รถ 3 ประตู อาจจะไม่ค่อยมีให้เห็นกันมากมายนัก ถ้าไม่นับรถยนต์ Proton Neo ปัจจุบันตลาดรถบ้านเราก็แทบไม่มีจำหน่ายเลยก็ว่าได้ ทว่าที่ยุโรปนั้นรถกลุ่มแฮทช์แบ็คนั้นขายดีทั้ง 5 ประตู และ 3 ประตู และ Kia ก็เสริมทัพรับกระแสดีด้วย Picanto 3 Doors

Kia Picanto 3 Doors มาพร้อมการปรับเปลี่ยนที่ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในคราบ 5 ประตูนั้น รถรุ่นนี้ก็ชูจุดเด่นในเรื่องสมรรถนะการขับขี่และการออกแบบที่ก้าวล้ำในโลกความสปอร์ตนั้น มาเป็นตัวชูโรงที่สำคัญ และมันก็ถูกถ่ายทอดสู่เรือนร่างของ Kia Picanto 3 Doors โดยเฉพาะเรือนร่างที่แตกต่างและเส้นสายความสปอร์ตที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น กระจังหน้าเบิกกว้างกว่ารุ่น 5 ประตู กันชนใหญ่ และทำให้รถดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ในขณะที่ 2 รุ่นระดับบนยังมาพร้อม ล้ออัลลอยลายพิเศษ

2012 Kia Picanto 3 Doors

ในห้องโดยสาร Kia Picanto 3 Doors ยังคงมีความยาวตัวถังเท่ากับรถโฉม 5 ประตู ยาวเพียง 3.6 เมตรแต่การตบแต่งนั้นให้ความพิเศษมากยิ่งขึ้น ด้วยการตบแต่งภายในสีดำในรุ่นเริ่มต้น แต่ในรุ่นที่สูงขึ้นมีสไตล์การตบแต่งที่ใช้ชื่อว่า "Halo" มาพร้อมสีเทาดำให้ความคมเข้มดูมีระดับมากกว่าเดิม และ "Equinox" สีแดงสดปรี๊ดให้ความร้อนแรงที่ทำให้รถดูมีสไตล์เป็นของตัวเอง

ใต้ฝากระโปรง Kia Picanto 3 Doors ยังมาพร้อม2 ตัวเลือก เครื่องยนต์เช่นเคยกับขุมพลัง 1.0 ลิตร และ 1.25 ลิตร จากตระกูล Kappa โดยในรุ่น 1.0 ลิตรนั้นตอบสนองการขับขี่ 68 แรงม้า แต่ในรุ่นใหญ่เพิ่มดีกรีจัดจ้านให้ถึง 84 แรงม้า พร้อมแรงบิด 121 นิวตันเมตร ที่ยังประหยัดด้วยอัตราซดน้ำมันเฉลี่ยที่ 25 กิโลเมตรต่อลิตร และเทคโนโลยี Start/Stop เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ให้ขับง่ายยิ่งขึ้น

2012 Kia Picanto 3 Doors

ส่วนการการเกาะถนนสามารถวางใจได้ได้กับระบบช่วงล่างแม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า และด้านหลังเรียกใช้ระบบทอร์ชั่นบีมเพิ่มความนิ่งสนิทตามฉบับรถเล็ก และยังให้หลากความปลอดภัยมากมายพกมาตั้งแต่ระบบเบรคป้องกันล้อล็อค ABS กระจายแรงเบรค EBD แต่ที่น่าสนใจที่สุดนั้นคือระบบควบคุมการทรงตัว (ESC) มาพร้อมกันด้วยในรถทุกรุ่น และในห้องโดยสาร ยังปกป้องด้วยถุงลมนิรภัยด้านหน้า-ด้านข้างและม่านนิรภัย เป็นมาตรฐานที่หายากในรถขนาดนี้

ทั้งนี้ 2012 Kia Picanto 3 Doors จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปในอีกไม่ช้านี้ ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่มันให้ความสปอร์ตที่น่าสนใจ ส่วนไทยนั้นคงต้องรอผู้แทนจำหน่ายค่ายนี้มองตลาดอีกทีหนึ่ง ..แต่ยอมรับว่ายาก

ภาำพประกอบจาก Netcarshow.com

Sanook! Auto Comment >>> ต้องยอมรับครับว่าบ้านเรารถ 3 ประตูนั้นไม่ค่อยมาจำหน่าย ด้วยเหตุผลที่ค่ายรถมองว่าคนไทยเพื่อนเยอะไม่ค่อยเหมาะ แต่ความจริงแล้วรถ 3 ประตู ก็มีประโยชน็ในเรื่องดีไซน์ความคล่องตัวที่มากกว่า และถ้าคุณไม่ได้ไปไหนมาไหนหลายคนมา มันก็ช่วยให้คุณปลอดภัยขึ้นไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาจี้ปล้นยามคุณเผลอไม่ล็อครถ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม