ฟอร์ดปลื้มยอดมิ.ย.เตรียมส่งเรนเจอร์ใหม่ปลายปี

ฟอร์ด ประเทศไทย รายงานผลประกอบการดีเยี่ยมด้วยยอดขายในเดือนมิถุนายนเป็นยอดขายปลีกรายเดือนที่สูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติการณ์ และเป็นยอดขายต่อเดือนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2546 เพิ่มขึ้น 306 เปอร์เซ็นต์เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่2,941 คัน

ยอดขายที่ดีเยี่ยมในเดือนมิถุนายนเป็นผลมาจากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ซึ่งยังครองตำแหน่งเป็นหนึ่งในรถยนต์ขนาดเล็กที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศไทยที่ 1,991 คัน นับเป็นยอดขายต่อเดือนในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ฟอร์ดได้เปิดตัวเฟียสต้าในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว

"ความนิยมในรถฟอร์ด เฟียสต้า ที่มียอดขายต่อเดือนสูงที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันยอดขายรถฟอร์ดในประเทศไทยให้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติการณ์ ผู้บริโภคในประเทศไทยให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยมต่อรถยนต์ที่มีจุดเด่นมากมายคันนี้ และทำให้เฟียต้าก้าวสู่การเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่างแท้จริง" นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

ทั้งนี้ ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ เป็นรถที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ทั้งด้านการออกแบบ ความปลอดภัย เทคโนโลยีที่ชาญฉลาด และอัตราการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ

นอกจากนี้ ยอดขายที่ดีเยี่ยมของฟอร์ดในเดือนมิถุนายน ยังเป็นผลมาจากยอดขายฟอร์ด เรนเจอร์ ซึ่งเป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมอย่างมากและมียอดขายในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นถึง 53 เปอร์เซ็นต์เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 621 คัน ขณะที่ฟอร์ด โฟกัส เป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่มียอดขายในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

ด้านยอดขายปลีกโดยรวมของฟอร์ดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่ 278 เปอร์เซ็นต์เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 14,803 คัน อันเป็นผลมาจากการที่รถฟอร์ดทุกรุ่นที่มียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว

"เรายังคงมีพัฒนาการที่ดีเยี่ยมจากการทำงานภายใต้แผน ONE Ford ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบริษัท เราจะยังคงเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จด้านยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ด้วยการกระตุ้นตลาดให้มีความคึกคักขึ้นอีกจากการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้" นายสาโรช กล่าว

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.ecareasy.com

Mercedes Benz B-Class 2012 – ภาพและข้อมูลเบื้องต้น

Mercedes Benz ได้ปล่อยภาพอย่างเป็นทางการของเจ้า 2012 Mercedes Benz B-Class ออกมายั่วใจแฟน ๆ กันแล้ว และข้อมูลล่าสุดถึงรถ B-Class รุ่นใหม่ที่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เครื่องยนต์ใหม่ และเทคโนโลยีที่ยัดใส่เข้าไปมากยิ่งกว่าเก่า

ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ที่มีกำลังแรงมากขึ้น แต่ประหยัดมากขึ้น ช่วยลดมลพิษดียิ่งขึ้น เทคโนโลยีที่ใส่มาเพิ่มทำให้เพิ่มความสะดวกสะบายมากขึ้น และยังมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยขนาดของรถ B-Class 2012 คันนี้เท่ากับ 4359/1786/ 1557 มิลลิเมตร (กว้าง/ยาว/สูง)

ในตอนแรกที่ Mercedes Benz จะปล่อย B-Class ออกสู่ตลาดนั้นจะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 4 แบบคือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบพร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบให้แรงม้า 121 และ 154 ตัว และเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 107 แรงม้าและ 134 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์แบบ 2.0 ลิตรเบนซินนั้นจะตามมาทีหลัง คาดว่าคงเป็นช่วงไมเนอร์เชนจ์

เทคโนโลยีที่อัดแน่เข้ามาใน B-Class 2012 คันนี้มีทั้ง ระบบปรับไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบช่วยเหลือสำหรับจุดบอดนอกรถ(คงเป็นเซ็นเซอร์) ระบบทรงตัวในเลน(Lane Keeping Assist น่ะครับ อธิบายเป็นไทยลำบากมากมาย) ระบบกำหนดความเร็ว ระบบช่วยในการจอดรถ ฯลฯ มากมายสาธยายไม่ไหวครับ ไม่อยากนึกถึงเวลาเสียหายขึ้นมาว่าจะเสียค่าบำรุงรักษาสูงแค่ไหน

ส่วนเรื่องรายละเอียดอื่น ๆ พร้อมรูปภาพที่เหลือนั้น ถ้าทาง Mercedes Benz เค้าเปิดเผยออกมาเพิ่มเติมเมื่อไหร่แล้วนั้น ทาง Getonecar.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันอีกครั้งนะครับ แต่คาดว่าคงจะเป็นช่วงเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Frankfurt Motor Show 2011 ทีเดียวเลยล่ะครับ

เปิดตัวแล้ว… Mazda MX-5 Karai Special Edition

กลับมาอีกครั้งกับข่าวสารวงการรถสปอร์ต ซึ่งคราวนี้เราจะมานำเสนอรถสปอร์ตสุดหรูจากค่าย Mazda กันบ้างครับ
ซึ่งล่าสุดทาง Thaicarlover.com ได้ข่าวมาว่า

มาสด้ากระตุ้นตลาดโรดสเตอร์รุ่นเล็กด้วยการเปิดตัวรถยนต์ Mazda MX-5 Karai หรือที่แปลว่า ‘เผ็ดร้อน’ ตกแต่งพิเศษด้วยสีเขียว Metal Green Metallic ตัดกับหลังคาแข็งสีดำ รวมทั้งกรอบกระจกมองข้าง ล้อแม็ก 17 นิ้ว และหลุมใส่สปอตไลต์ซึ่งเป็นสีดำด้วยเช่นกัน

Mazda MX-5 Karai

Mazda MX-5 Karai

ส่วนภายใน Mazda MX-5 Karai จะติดตั้งเบาะสปอร์ต เรคาโร หุ้มหนังสังเคราะห์ Alcantara สีดำตะเข็บด้ายสีขาวเช่นเดียวกับพวงมาลัยที่เปลี่ยนการตกแต่งจากเมทัลลิกเป็นสีดำเงา ส่วนเครื่องยนต์จะไม่มีไรเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2,000 ซีซี 160 แรงม้า เพิ่มทางเลือกด้วย Sport Package ประกอบด้วยชุดท่อไอเสียใหม่ สปริงโหลด และชุดพรมเฉพาะรุ่น

Mazda MX-5 Karai-Front

Mazda MX-5 Karai-Front

มาสด้า วางแผนจะผลิต MX-5 Karai ป้อนตลาดเยอรมันในจำนวนจำกัด 165 คัน โดยราคามาสด้า MX-5 คารายจะเริ่มต้นที่ 1.3 ล้านบาท

ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว

ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว

สำหรับแฟนๆ Mazda ในบ้านเราคงต้องอดใจรอไปก่อน แต่ก็ไม่แน่ที่อาจจะมีการโชว์ตัวรถยนต์ Mazda MX-5 Karai Special Editon ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้ ซึ่งอันนี้แฟนๆ มาสด้า คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

อย่าพลาดติดตามอัลบั้มรูปรถยนต์เด่น พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ

Peugeot 508 RXH ดีเซลไฮบริดน้องใหม่ ..พร้อมลุยที่แฟรงค์เฟิร์ต

ในยุคอนาคตที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แนวทางรถยนต์อนาคตแบบหนึ่งที่ดุจะได้รับการตอบสนองอย่างมากนั้นคงไม่พ้น รถไฮบริดที่มีกระแสอย่างต่อเนื่องและก้ยังมีการพัฒนาต่อไปเรื่อย ที่ล่าสุดเครื่องยนต์ไฮบริดไม่เจำเป้นต้องเป็นเบนซินอย่างเดียวเท่านั้น

Peugeot ถือเป็นค่ายรถยนต์อีกเจ้าหนึ่งจากตลาดยานยนต์ยุโรปที่สนใจในขุมพลังรุ่นใหม่และในอีกไม่นานนี้ก็จะเปิดตัวรถยนต์ดีเซลไฮบริดของค่ายกับ Peugoet 508 RHX ที่จะเป็นการนำขุมพลังดีเซลไฮบริดมาประจำการครั้งแรก

Peugeot 508 RXH

อย่างที่กล่าว Peugeot 508 RXH เป็นรถดีเซลไฮบริดรุ่นใหม่ที่มาภายใต้แพลทฟอร์ม Hybrid 4 ซึ่งค่ายรถยนต์เจ้านี้นำเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร มาปั้นแต่งเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 38 แรงม้า ที่ผนวกรวมกันแล้วรถรุ่นใหม่จากค่ายนี้จะมีพละกำลังกว่า 200 แรงม้า ใต้ฝากระโปรงพร้อมแรงบิดขนาด 332 ปอนด์-ฟุตให้ได้ใช้กัน

ไม่เพียงการประหยัดเท่านั้นที่จะมีในรถรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่ช้า แต่ Peugeot 508 RXH ยังมาพร้อมเส้นสายการออกแบบแนวใหม่จากค่ายยานยนต์สิงโต ในรูปแบบรถอเนกประสงค์ ที่สามารถตอบโจทย์การออกแบบได้ลงตัว ควบคู่ไฟ LED และ ไฟหน้า Projector พร้อมเอกลักษณ์ใหม่ Floating Grilled

Peugeot 508 RXH

ด้านในห้องโดยสารยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอะไรมากมายนัก แต่ค่ายรถยนต์รายนี้ก็ให้คำมั่นสัญญาว่า ภายใน 508 จะหรูหรา มาพร้อมวัสดุชั้นเลิศ ให้ความสบายกับเบาะไฟฟ้า และหลังคาแบบพาโนรามิครูฟจากโรงงาน ขึ้นลงง่ายด้วยระบบ Keyless ที่มาพร้อมระบบนำทาง และเครื่องเสียงชั้นนำ

ทั้งนี้ Peugeot 508 RXH จะออกสู่สายตาคนทั่วโลกครั้งแรกในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ที่มีกำหนดการในช่วงกลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งงานนี้จะเป็นเวทีสำคัญของค่ายรถยนต์จากตลาดยุโรปชั้นนำในการประชันรถต้นแบบ และรถหรูในช่วงส่งท้ายปี

Sanook! Auto Comment

ปัจจุบันรถยนต์เครื่องดีเซลเริ่มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางแล้วว่ามันอะไรมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องพละกำลังและความประหยัดที่ทำได้ยอดเยี่ยม และลองคิดดูว่าเมื่อมันรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มันน่าจะยอดเยี่ยมเพียงใด

กระบะยกพลลุยปลายปี..คิดจะซื้อควรรอสักนิด

ช่วงนี้ถ้าถามว่ากระแสข่าวอะไรที่เงียบงันแต่แรงอยู่อย่างสม่ำเสมอนั้น คงไม่มีอะไรมากกว่าการแข่งขันเปิดตัวรถใหม่ ทั้งรถนั่งและรถกระบะที่ปลายปีนี้เราจะได้เห็นกันมากมายหลายรุ่น แต่ที่อยู่ในความสนใจจริงๆนั้นคงไม่พ้นเรื่องราวของรถกระบะที่ไทยนั้นเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาคอาเซียนเลยทีเดียว

ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมากระแสกระบะในบ้านเรานั้นดูจะมาแรงอย่างมาก หลังติดตามกันมาอย่างต่อเนื่องสำหรับค่ายรถยนต์ Ford ที่การห้ำหั่นกระบะนั้นเริ่มดุเดือดมากขึ้นหลังการมาของ Nissan Navara ที่เปิดฟลอร์นิยมใหม่ของกระบะยุคโมเดิร์น ที่แม้จะโดนติเตียนจากหลายกระแสในเรื่องต่างๆ แต่ท้ายที่สุดทุกคนก็ซูฮกในเรื่องสมรรถนะการขับขี่เช่นเดียวกับเรือนร่างที่ใหญ่โตขึ้น จนท้าพิสูจน์น้ำหนักบรรทุกได้ถึง 1.5 ตัน จากเดิม 1 ตัน

Nissan Navara 2011

ความใหญ่โตนี่เองเป็นจุดแข็งของนาวาร่า ที่ทำให้ค่ายรถยนต์คู่แข่งมองตาเป็นมัน แม้ค่ายเจ้าตลาดจะทำไม่สนใจเดินหน้าเปิดรุ่นอัญมณีต่อเนื่องที่น่าจะหมดชื่อจะใช้แล้ว ส่วนอีกค่ายก็แอบสนใจในการขยายร่าง แต่เมื่อคู่แข่งไม่ขยับก็นิ่งเฉย จนกระทั่งในที่สุดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาเมื่อค่ายรถยนต์อเมริกาเปิดตัวกระบะรุ่นใหม่ ภายใต้บอดี้ t6 ก็ทำเอาตลาดกระบะลุกเป็นไฟ

All New! Ford Ranger นั้น ถือเป็นรถที่ปลุกกระแสโหมโรงกระบะเป็นอย่างดีไม่เพียงเฉพาะในไทยแต่เป็นกันทั้งโลก ที่โชว์สมรรถนะและศักยภาพต่างๆนาน ก่อนการขายจริง มีการเปิดเผยในหลากหลายเทคโนโลยีใหม่ชั้นนำ ในขณะที่ในไทยเองก็เอามาโชว์ในฐานะฐานการผลิตใหญ่เมื่อช่วงมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และจะมีการวางจำหน่ายที่ตอนแรกบอกกลางปี แต่ดูเหมือนจะรอชนปลายปีนี้กับคู่แข่งยักษ์ใหญ่

All New! Ford Ranger Wildtrak

เมื่อพูดถึงคู่แข่งยักษ์ใหญ่จากทางค่ายอเมริกันเหมือนกัน Chevrolet ก็เป็นค่ายรถยนต์อีกเจ้าที่เตรียมวางจำหน่ายกระบะใหม่กับ All new Chevrolet Colorado ที่มาเปิดตัวแบบสายฟ้าแลบเมื่อช่วงก่อนมอเตอร์โชว์ แล้วนำไปโชว์ในงาน ประชันกันระหว่าง 2 สายพันธ์กระบะอเมริกัน ที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ส่วนใครจะชอบแบบไหนก็แล้วแต่สะดวกเลย

ไหนๆ ก็พูดถึงฟอร์ด ถ้าไม่พูดถึงค่ายรถยนต์พันธมิตรอย่าง Mazda ก็ดูจะขาดๆอะไรไป เพราะ เมื่อ Ford มีโมเดลใหม่ ค่ายนี้ก็ตามติดด้วยว่าที่ Mazda BT-50 ใหม่หมดจดเตรียมพร้อมวางขายเช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวมากมายนักในไทยเรียกว่ายังเงียบอยู่อย่างต่อเนื่อง จนอาจจะเป็นไปได้ว่ามาในปีหน้า ส่วนจะใช่หรือไม่ถ้าชอบ Mazda BT-50 ก็ต้องอดใจรอสักนิด

Holden Corolado ฝาแฝด Chevrolet corolado

ด้าน 2 เจ้าตลาดกระบะในศึกนี้ทีแรกก็เงียบๆแต่เมื่อค่ายรองบุกตะลุยใกล้ถึงท้ายครัว ก็ต้องใช้สูตรเด็ด D4D VNT เทอร์โบเร่งหนี ที่ในอีกไม่นานนี้กำลังจะมีการอวดโฉมสู่สาธารณะชนกับ New! Toyota Vigo 2012 ที่จะควงมาพร้อมรถอเนกประสงค์ Toyota Fortuner ที่ยังไม่ใช่โฉมใหม่ แต่ในวงการเรียกว่า Big minor Changed ที่เปลี่ยนหน้าตาให้สอดรับและดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น พอจะต่อสูhกับคู่แข่งได้ ส่วนรายละเอียดของตัวรถนั้น อีกไม่นานเกินรอได้รู้กัน

มองอีกaากทางคู่แข่งอย่าง Isuzu ช่วงนี้ปิดปากเงียบ แต่ก็มีล่ำลืออกมาว่าจะมีการเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ โดยรถรุ่นใหม่ที่ว่านี้จะมีการแต่งหน้าทาปากหรือไม่ ยังไม่ชัดเจนนักแต่ออพชั่นหนึ่งที่ว่าจะเปิดออกมาอาจจะเป็นรุ่น Open Cab ที่ล่ำลือกันมานานพอสมควร ว่า Isuzu ให้ความสนใจหลังทุกค่ายในตลาดมีหมดแล้วทุกเจ้า ไม่เว้นกระทั่ง Tata ซึ่งทำให้ ค่ายรถยนต์รายนี้เป็นรายเดียวที่ยังไม่สามารถตอบข้อนี้ได้ แม้จะชูขุมพลังสุดประหยัดก็ตาม ทว่ามีหลายกระแสที่กล่าวมาตรงกันว่า ค่ายรถยนต์รายนี้รอรถรุ่นใหม่ที่พัฒนาภายใต้รหัส RT50 ซึ่งใกล้จะพร้อมแล้ว

2012 Mazda BT-50

อีกค่ายที่ลืมไปไม่ได้คงไม่พ้น Mitsubishi ที่ออกตัวแรงในช่วงต้นปีและเบิกฤกษ์กระบะ2.5 ที่แรงที่สุดในตลาด ขณะที่เดินหน้าปั้นภาพลักษณ์กับ ตูน บอดี้แสดลมที่ได้ใจไปครอง และล่าสุดปรับทัพส่งรุ่นสีขาวลงตลาดเพิ่มช่วยดันยอดขายอีกทาง

การปรับโฉมในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเป็นคำตอบที่ดีว่า เราคงจะไม่ได้เห็นกระบะใหม่จากค่ายนี้ในปีนี้อย่างแน่ชัด เช่นเดียวกับพันธมิตร Nissan ที่น่าจะไม่มีความเคลื่อนไหวในปีนี้เช่นกัน ทว่าจากการจับมือกันของ 2 บริษัทนี้ คาดว่าน่าจะมีความร่วมมือกันในกลุ่มกระบะ ซึ่งในตอนนี้มีการย้ายสถานที่ประกอบรถ Nissan Navara ไปยังโรงงานที่แหลมฉบัง ส่วน Mitsubishi Triton ใหม่จะมาเมื่อไร ยังไม่กำหนดแน่ชัดแต่คาดอาจจะรอยาวสักนิดหลังโหมโรงอีโค่คาร์ที่ใกล้คลอดเต็มแก่แล้ว

ทั้งหมดนี้คือความเคลื่อนไหวในตลาดกลุ่มรถกระบะในภาพรวมที่เกิดขึ้นตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา และแน่นอนว่าบทสรุปของศึกกระบะปีนี้อยู่ที่ปลายปี โดยเฉพาะงานส่งท้ายที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ต่างเตรียมลงตลาดกวาดยอด ที่มั่นใจได้เลยว่ากระบะหลากรุ้นพร้อมให้คุณจับจองเป็นเจ้าของ

Sanook! Auto Comment

ศึกตลาดกระบะในปีนี้ต้องยอมรับครับว่าน่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะปลายปีที่มีอย่างน้อย 3 รุ่นลงตลาดตามจ่าวที่ได้รับมา ซึ่งแน่นอนว่างานนี้คงจะถูกใจใครที่กำลังมองหากระบะใหม่ แต่อยากฝากสักริดครับว่า ถ้าขับในเมืองเป็นประจำจะใช้รถใหญ่ให้เทอะทะทำไม ..??

iPhone 4 ดูหนัง 3D แบบง่ายๆราคาไม่แพง

iPhone 4 ดูหนัง 3D แบบง่ายๆราคาไม่แพง

ยุคนี้อะไรๆก็ 3D กันไปเสียหมด เวลาไปดูแผนกเครื่องไฟฟ้าตามห้าง ในโซนที่ขาย TV ต่างก็เปิดหนังตัวอย่างที่เป็นหนัง 3D เพื่อล่อตาล่อใจผู้ซื้อกันยกใหญ่ อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟังเมื่อไม่นานนี้ว่า ผมเองเคยไปนั่งดูหนัง 3D บนจอ TV รุ่นใหม่ๆ แต่มันต้องใช้แว่นดูด้วย ดูแรกๆก็สนุกตื่นเต้นดี พอดูไปนานๆชักเริ่มมึนและรำคาญกับแว่นที่ต้องใช้คู่กัน สำหรับใครที่ใช้ iPhone 4 แล้วอยากดูหนัง 3D กับเค้าบ้าง ในตอนนี้มีบริษัทจีนหัวใส คิดอุปกรณ์ในการรับชมหนัง 3D บนเครื่อง iPhone 4 สำเร็จแล้ว ดูอุปกรณ์มันก็แสนธรรมดามาก แต่ปิ๊งตรงไอเดียเค้านี่แหละ ที่ทำให้คนดูหนังไม่ต้องสวมแว่น 3D อีกต่อไป

มันคือ Case สำหรับดูหนัง 3D ของ iPhone 4 ที่มีประโยชน์ทั้งสองแบบคือ เป็น case ป้องกันรอยขูดขีดตัวเครื่องได้แล้ว มันยังกระจกที่ใช้แทนแว่น 3D สวมไว้อีกชั้นเพื่อให้การรับชมหนังได้ง่ายขึ้น case ที่ว่านี้ชื่อ 3D view ครับ ราคาไม่แพง เค้าคิดเป็นเงินเยนอยู่ที่ 368 เยนเท่านั้น หรือหากคิดเป็นเงินไทยก็ตกอยู่ที่ราวๆ ร้อยกว่าบาทเท่านั้น แต่คงจะเป็นเฉพาะราคาตัวกระจก ตัวเคสอาจจะต้องซื้อต่างหาก


โดยใน เว็บไซด์เค้ามีแต่ภาษาจีนอย่างเดียว ซึ่งก็ยากที่จะเข้าใจแต่ก็พอเดาๆได้ สำหรับหนังที่ใช้ดูในตอนนี้ก็เริ่มมีหลายเรื่องแล้วครับ แต่ละเรื่องก็น่าสนุกๆทั้งนั้น หากสนใจลองเข้าไปดูเว็บไซด์เค้าได้ครับที่

http://www.testcolour.net/index.asp

เคสที่ดูธรรมดาแต่ออกแบบได้ฉลาดดี

มีแผ่นกระจกให้มาด้วย

สามารถเอา iPhone 4 ใส่ได้เหมือนเคสทั่วๆไป

สวมเข้าไปแล้วมีฝาล่างปิดอีกที

ด้านหลังเรียบๆง่ายๆ

ปุ่มต่างๆยังใช้งานได้ตามปกติ

ตัวเคสเป็นพลาสติกหุ้มด้วยยางๆให้รู้สึกกระชับมือ

ทีเด็ดคือแผ่นพลาสติกนี้

สวม ใส่ด้านหน้า ทำหน้าที่คล้ายๆ Filter คือเวลาจะดูหนังต้องพลิกฝาล่างจากด้านหลังมาไว้ด้านหน้า ซึ่งปุ่ม Home จะใช้งานไม่ได้ชั่วขณะเพราะถูกปิดด้วยฝาด้านล่าง

S! Hitech Comment

S! Hitech ต้องการเพื่อนร่วมงานด่วน มีฝีมือด้านรีวิวมือถือ กล้อง โน๊ตบุ๊ค ฝีปาก(กา)จัดจ้าน สนใจส่งประวัติมาที่ aphirak@sanookonline.co.th

หากดูจบก็สวมพลิกฝาหลังไปไว้ด้านหลัง แผ่นพลาสติกก็จะถูกเก็บไว้ด้านหลัง

แผ่นพลาสติกที่ดูธรรมดาาา แต่ใช้ในการหลอกสายตาคนดูได้

หนัง 3D ในเว็บไซด์เค้ามีให้โหลด แต่คงไม่ฟรีนะครับ

http://mobile.163.com/

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า



อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อของสองจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยและอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภูหินร่องกล้าอันเป็นพื้นที่เป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การสู้รบอันยาวนานเป็นวีรกรรมของนักรบไทย ความขัดแย้งของลัทธิและแนวความคิดที่นำไปสู่ความสูญเสียเลือด ชีวิตและน้ำตา ภาพประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตจะถูกบันทึกเก็บรักษาไว้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ทำการศึกษาถึงผลของการใช้กำลังเข้าประหัตประหาร ความสูญเสียที่ประเมินค่ามิได้ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองความแตกแยก ความสามัคคีของคนในชาติ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีเนื้อที่ประมาณ 307 ตารางกิโลเมตร หรือ 181,875 ไร่
ลักษณะภูมิประเทศ

• สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วยยอดภูเขาที่สำคัญคือ ภูแผงม้า ภูขี้เถ้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า โดยมีภูลมโลเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงประมาณ 1 ,664 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาเหล่านี้จะมีความสูงลดหลั่นลงไปจากด้านทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก และ เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยลำน้ำไซ ห้วยน้ำขมึน ห้วยออมสิงห์ ห้วยเหมือดโดน และห้วยหลวงใหญ่

ลักษณะภูมิอากาศ
• ภูหินร่องกล้ามีสภาพภูมิอากาศคล้ายภูกระดึงและภูหลวงเนื่องจากมีความสูงไล่เลี่ยกันอากาศจะหนาวเย็นเกือบตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวอุณหภูมิจะต่ำมากประมาณ 0-4 องศาเซลเซียส มีหมอกคลุมทั่วบริเวณ ส่วนฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบายฝนตกชุกในฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี ประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
• อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ 3 ชนิด คือ ป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา และป่าสนเขา ป่าเต็งรังเป็นป่าที่ขึ้นในพื้นที่ระดับต่ำบริเวณเชิงเขา พื้นที่เป็นดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์และค่อนข้างแห้งแล้ง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เต็ง รัง พยอม เหียง ตะคร้อ พลวง ฯลฯ ส่วนป่าดิบเขาจะขึ้นในบริเวณเขาสูง ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก อากาศชื้น เป็นป่ารกทึบ พันธุ์ไม้ที่พบเห็นทั่วไป ได้แก่ ก่อเดือย ก่อหัวหมู อบเชย ทะโล้ ส่วนไม้พื้นล่าง ได้แก่ หวาย ปาล์มชนิดต่าง ๆ สำหรับ ป่าสนเขาเป็นป่าบนที่ราบหลังภู มีสนสองใบและสนสามใบขึ้นปะปนกัน ส่วนใหญ่เป็นสนสองใบ บางแห่งอยู่รวมกันเป็นป่าสนกว้างใหญ่
• นอกจากนี้ยังพบกล้วยไม้ป่าดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน เช่น ม้าวิ่ง เอื้องตาหิน เอื้องคำหิน เอื้องสายสามสี ช้องนางคลี่ เหง้าน้ำทิพย์ กุหลาบขาว กุหลาบแดง ฟองหิน รวมทั้งมอส เฟิร์น ไลเคนล์ และตะไคร่ชนิดต่างๆซึ่งในช่วงปลายฤดูฝนต่อฤดูหนาวดอกไม้ป่าเหล่านี้จะออกดอกบานสะพรั่งมีสีสันงดงาม
• ในอดีตภูหินร่องกล้า เคยมีสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น เสือ กวาง เก้ง กระจง นกชนิดต่าง ๆ ครั้นต่อมาเมื่อกลายเป็นแหล่งอาศัยของคนจำนวนมาก และยังเคยเป็นสมรภูมิแห่งการสู้รบมาก่อน สัตว์ป่าต่าง ๆ จึงถูกล่าเป็นอาหาร ในปัจจุบันเหตุการณ์ต่าง ๆ สงบลง จึงมีสัตว์ป่าขนาดใหญ่ เช่น เสือ เก้ง กระจง หมี และนกหลายชนิดเข้ามาอาศัยอยู่มากขึ้น



แหล่งท่องเที่ยว
โรงเรียนการเมืองการทหาร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร มีสภาพเป็นป่ารกทึบหนาแน่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ในอดีตเคยเป็นสถานที่สำหรับให้การศึกษาตามแนวทางของลัทธิคอมมิวนิสต์ ในบริเวณโรงเรียนการเมืองการทหาร จะประกอบไปด้วยบ้านฝ่ายพลเรือน ฝ่ายพลาธิการ ฝ่ายสื่อสาร และสถานพยาบาล ส่วนเหล่านี้มีทั้งหมด 31 หลัง เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ กระจายอยู่อย่างเป็นระเบียบ ภายในบ้านแต่ละหลังจะมีแคร่สำหรับนอน และโต๊ะสำหรับเขียนหนังสือทำด้วยไม้กระดานอย่างหยาบ ๆ เศษข้าวของกระจายอยู่เกลื่อน บางหลังเริ่มผุพังเพราะถูกปล่อยให้ร้างหลังจากมวลชนเข้ามอบตัวแล้ว นอกจากนี้บริเวณตอนกลางของโรงเรียนการเมืองการทหาร มีรถแทรกเตอร์จอดอยู่ 1 คัน ซึ่ง ผกค. ทำการยึดจากบริษัท พิฆเนตร แล้วเผาทิ้งไว้
สำนักอำนาจรัฐ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานฯ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ดำเนินการปกครอง มีการพิจารณาและลงโทษผู้กระทำผิดหรือละเมิดต่อกฎลัทธิมีคุกสำหรับขังผู้กระทำความผิด มีสถานที่ทอผ้าและโรงซ่อมเครื่องจักรกล
หมู่บ้านมวลชน เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มมวลชนมีอยู่หลายหมู่บ้าน เช่นหมู่บ้านดาวแดง หมู่บ้านดาวชัย แต่ละหมู่บ้านมีบ้านประมาณ 40-50 หลัง เรียงรายอยู่ในป่ารกริมทางที่ตัดมาจากอำเภอหล่มสักลักษณะบ้านเป็นบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ไม่ยกพื้น หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้บ้านแต่ละหลังจะมีหลุมหลบภัยทางอากาศอยู่ด้วย
กังหันน้ำ อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนการเมืองการทหาร ใช้หล่อเลี้ยงคนหลายพันคนบนภูหินร่องกล้า สร้างขึ้นโดยนักศึกษาโดยใช้พลังน้ำขับเคลื่อนกังหันเพื่อหมุนแกนครกกระเดื่องตำข้าวซึ่งเปรียบเสมือนโรงสีข้าวของ ผกค.
โรงพยาบาล อยู่ห่างจากสำนักอำนาจรัฐ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นโรงพยาบาลกลางป่าที่มีอุปกรณ์ในการรักษาคนป่วยเกือบครบถ้วน มีห้องปรุงยา ห้องพักฟื้น และยาชนิดต่าง ๆ เป็นอันมาก
ลานหินแตก อยู่ห่างจากฐานพัชรินทร์ ประมาณ 300 เมตร ลักษณะเป็นหินที่มีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก รอยแตกนี้บางรอยก็มีขนาดแคบพอให้รากต้นหญ้าชอนไชไปได้เท่านั้น บางรอยกว้างพอคนก้าวข้ามได้ และบางรอยกว้างมากจนไม่สามารถกระโดดข้ามได้ ความลึกของร่องหินแตกเหล่านั้นไม่สามารถจะคะเนได้ ลักษณะเช่นนี้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลก จึงทำให้พื้นหินนั้นแตกเป็นแนวนอกจากนี้บริเวณหินแตกยังปกคลุมไปด้วยมอส ไลเคนส์ ตะไคร่ เฟิร์น และกล้วยไม้ชนิดต่าง ๆ
ลานหินปุ่ม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ริมหน้าผาลักษณะเป็นลานหินผุดขึ้นเป็นปุ่มไล่เลี่ยกัน คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหินทางเคมีและฟิสิกส์ ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นของคนไข้เนื่องจากอยู่บนหน้าผา จึงมีลมพัดเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งพักผ่อน
ผาชูธง อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 500 เมตร เป็นหน้าผาสูงชันสามารถเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะภาพวิวพระอาทิตย์ตกดินจะสวยงามไม่แพ้จุดชมวิวอื่น ๆ บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ที่ ผกค.จะขึ้นไปชูธงแดง (ฆ้อนเคียว) ทุกครั้งที่รบชนะทหารของรัฐบาล
น้ำตกหมันแดง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 32 ชั้น ปัจจุบันยังไม่มีทางรถเข้าถึง หากจะเข้าไปเที่ยวให้ติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง
น้ำตกร่มเกล้าภราดร เป็นน้ำตกฝาแฝด 2 แห่ง ที่อยู่ติด ๆ กัน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนถนนภูหินร่องกล้าประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อนถึงโรงเรียนการเมืองการทหารประมาณ 1 กิโลเมตร จากถนนสายใหญ่ จะต้องเดินตัดลงไปบนทางเท้าที่พึ่งทำขึ้นใหม่เป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร ตัวน้ำตกไม่สูงใหญ่นัก แต่สภาพแวดล้อมโดยรอบมีลักษณะเป็นป่าบริสุทธิ์อันงดงามมาก
น้ำตกศรีพัชรินทร์ ตั้งอยู่ก่อนถึงที่ทำการอุทยานฯบริเวณเชิงเขาประมาณ 4-5 กิโลเมตร ปัจจุบันยังไม่มีทางรถเข้าถึงและยังไม่พร้อมสำหรับการท่องเที่ยว
น้ำตกผาลาด และ น้ำตกตาดฟ้า ตั้งอยู่บริเวณเชิงภูหินร่องกล้าโดยแยกซ้ายจาก หมู่บ้านห้วยน้ำไซต่อไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการพลังงานไฟฟ้าห้วยขมึน อันเป็นที่ตั้งของน้ำตกแก่งลาด ขึ้นเขาต่อไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร มีทางเดินแยกซ้ายลงไปน้ำตกตาดฟ้าหรือน้ำตกด่านกอซองเป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาดใหญ่ที่สวยงาม

สิ่งอำนวยความสะดวก มีบ้านพัก ร้านอาหารและสถานที่กางเต้นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว
การเดินทาง

• จากตัวเมืองพิษณุโลก โดยสารรถยนต์ไปตามเส้นทางพิษณุโลก - หล่มสัก ระยะทางประมาณ 68 กิโลเมตร ถึงสามแยกบ้านแยง เลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอนครไทย เป็นระยะทาง 29 กิโลเมตร จากนั้นเดินทางต่อโดยรถสองแถว อีกประมาณ 31 กิโลเมตร จะถึงหน่วยบริการนักท่องเที่ยวและที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
• จากเมืองเพชรบูรณ์ไปอำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า บ้านวังบาน บ้านโจ๊ะโหวะ จนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ระยะทางประมาณ 115 กิโลเมตร
การติดต่อ
• ขอรายละเอียดและสำรองที่พักได้ที่ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 61 ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.10900 โทร. 0-2579-7223 , 0-2561-2919 หรือติดต่อที่อุทยานแห่งชาตภูหินร่องกล้า ตู้ ปณ. 3 อ.นครไทย จ.พิษณุโลก 65120 โทร. 0-5523-3527



ขอบคุณ oceansmile / teeteawthai

Microsoft ประกาศ Windows 7 ขายได้แล้วกว่า 400 ล้าน Licenses ทั่วโลก






งานประชุม Microsoft Worldwide Partner Conference เป็นประจำทุกปีโดยปีนี้ที่จัดขึ้นที่ Los Angeles ในช่วงวันที่ 10-14 กรกฏาคม มีหลากหลายหัวข้อน่าสนใจแต่ปีประเด็นสำคัญของการประชุม Microsoft Partner ในครั้งนี้ Steve Ballmer เปิดเผยว่า Windows 7 มียอดขายทะลุ 400 ล้าน Licenses แบบถูกต้องตามลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการแล้วจนถึงวันนี้ (วันที่ 10 ที่ประกาศ) เช่นเดียวกับ Internet Explorer 9 ก็มียอดสูงตามไปด้วยจากผู้ใช้งานบัญชีรายชื่อเดียวกับ Windows 7 ถึงเดือนมิถุนายน 2011 และเมื่อวิเคราะห์ระบบของ Windows 7 แล้วพบว่าตอนนี้ทำงานเกี่ยวร่วมกับพีซีแล้วกว่า 27.13% ของพีซีทั้งหมดทั่วโลก และของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows 7 ในสหรัฐอเมริกามีคนนิยมใช้ Internet Explorer 9 อยู่ใน 17% ของ Windows 7 เครื่องพีซีทั่วโลก

Steve Ballmer และ Tami Reller รองประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Windows และ Windows Live กล่าวประเด็นสำคัญระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นทั่วโลกของ Microsoft โดยเน้นว่า Windows 7 เป็นเส้นทางที่พาไปยัง Windows 8 ในอนาคตที่พวกเขาเชื่อว่าเราจะเห็นสภาพแวดล้อมของการทำงานร่วมกันของ Windows 8 อุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นต่างๆร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์และแอพพลิเคชั่นที่ ใช้งานบน Windows 7 ได้ด้วยกันเป็นอย่างดีอีกด้วย

ที่มา:Microsoft Windows / www.veedvil.com

10 ประเด็นที่ทำให้คนไทยล้าหลัง # ในมุมมองของ วิกรม กรมดิษฐ์



1. คนไทยรู้จักตัวตนของเราเองต่ำมาก กล่าว คือ รู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะมีสำนึกต่อสังคมส่วนรวมสูงมาก ของเราจะไม่คำนึงถึงส่วนรวม แต่จะเป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา จนทำให้เกิดวัฒนธรรมสืบทอดกันมายาวนาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจทุกระดับชั้น จนมีคำพูดว่า ธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ทุกคนแสวงหาอำนาจเพื่อจะตักตวงเพราะความไม่รู้จักตัวตน ไม่รู้จักประเทศของตัวเองเช่นนี้แล้ว ทำให้ประเทศชาติของเราล้าหลังไปเรื่อย ๆ

2. การศึกษาของไทยยังไม่ทันสมัย สอนให้คนเห็นแก่ตัวมากกว่า ขาดจิตสำนึกต่อสังคม แม้แต่ภาษาคนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้เราขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ประเทศอื่น ๆ รู้จักคนไทยน้อยมาก เพราะคนไทยไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น เพราะคุณภาพการศึกษาของเราไม่ทันสมัย จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า

3. คนไทยมองอนาคตไม่เป็น เท่าที่สังเกตเห็นว่าคนไทยกว่า 70% ทำ งานแบบไร้อนาคต แบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวัน ๆ น้อยนักที่จะวางแผนให้ตัวเองอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายที่ชัดเจนในอนาคต สะสมความสำเร็จไปอย่างเป็นลำดับ หรือเป็นเพราะไม่กล้าฝัน หรือไม่มีความฝันก็ไม่แน่ใจ และชอบพึ่งสิ่งงมงาย โชคชะตา พอใจทำงานแบบตำข้าวสารกรอกหม้อ ทำให้ประสิทธิภาพของเราไม่ทันกับการแข่งขันระดับโลก

4. คนไทยไม่ค่อยจะจริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การรับปากของเรามักทำแบบผักชีโรยหน้า หรือเกรงใจ แต่ทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จากประสบการณ์ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติจะพบว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ญี่ปุ่น หรือยุโรป คนเขาจะให้ความสำคัญกับสัญญาข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้ ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตในการเชื่อถือด้านนี้ลงไปเรื่อย ๆ

5. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประเทศของเรากระจุกตัวความเจริญเฉพาะในเมืองใหญ่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกล จะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน ในต่างประเทศ การสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ห่างไกล แต่มีองค์ประกอบอื่น ๆ สนับสนุนเขาก็ลงทุน การสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค จะเป็นประโยชน์ ทำให้เป็นการลดต้นทุนในการดำเนินการทางธุรกิจอย่างมาก ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม

6. การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็งและดำเนินอย่างไม่ต่อเนื่อง สังคมไทยชอบทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง อาจได้ยินกรณีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารก็ตาม จะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง

7. สังคมไทยชอบอิจฉาตาร้อน ไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ และชอบเลี่ยงเป็นศรีธนญชัย เมื่อจนตรอก ในวงการเราจะพบกระแสของคนประเภทนี้ปะปนมากขึ้น จะเพราะเป็นเพราะสังคมเรายอมรับ หรือยกย่องคนที่มีอำนาจ มีเงิน แต่ไม่มีใครรู้ภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอดหน้าตาเฉย คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ายเสียอีก เพราะทำความเสียหายต่อบ้านเมืองมากกว่า และจะเป็นประเภทดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทำให้คนดีไม่กล้าจะเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว

8. เอ็นจีโอบ้านเราค้านลูกเดียว ทำให้เราเสียโอกาสในการพัฒนา เพราะเอ็นจีโอบางกลุ่มที่อิงผลประโยชน์อยู่ ถ้าจะพูดกันแบบมีเหตุผล ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เอ็นจีโอดี ๆ ก็มี แต่บ้านเรามีน้อย กรณีน้ำท่วมเพราะไม่มีเขื่อนรองรับเพียงพอ พอเกิดน้ำท่วม พวกที่ค้านจะแสดงความรับผิดชอบด้วยหรือเปล่า บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน

9. คนไทยอาจจะไม่พร้อมในเวทีโลก เพราะไม่ถนัดภาษาอื่น ที่ไม่ใช่ภาษาตัวเอง ทำให้โลกภายนอกไม่รู้จักคนไทยเท่าที่ควร และการจัดการตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลก ของเราขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี ทำให้เราสู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้

10. คนไทยเลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบันเด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่ สอนให้ลูกช่วยตัวเอง ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเอง ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม คุณวิกรมแสดงความเห็นว่า การอบรมเยาวชนมาจาก 3 ทาง หนึ่งภายในครอบครัว สองจากโรงเรียน และสามจากสังคม หรือสื่อสารมวลชน




FW

เมื่อวาน + วันนี้ = พรุ่งนี้



บางครั้งถ้าชีวิตดูมืด ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ถ้าอัดอั้นตันใจก็ให้นึกถึงสูตร เมื่อวาน + วันนี้ = พรุ่งนี้

พรุ่งนี้ก็คืออนาคต ถ้าดูมืดมนเต็มที ลองหาที่นั่งเงียบๆ สบายๆ ไม่มีใครรบกวน พิจารณาดูว่า "วันนี้" ซึ่งก็คือปัจจุบัน ทำไมถึงเป็นอย่างนี้


ถ้ารู้สึกว่า "ทำไมถึงเป็นแบบนี้" ก็แสดงว่าชีวิตที่ผ่านมาคงจะมีอะไรบกพร่อง จึงควรจะมองไปที่ "เมื่อวาน" ซึ่งก็หมายถึงอดีต


มองย้อนไปให้ดี ๆ อาจจะรู้สึกสว่างวาบขึ้นมาทันที เราอาจจะมองอะไรๆ ผิดไปหลายอย่าง เมื่อพลาดหลาย ๆ ครั้ง ชีวิต "วันนี้" จึงเป็นอย่างนี้ ถ้าพบข้อบกพร่อง ต้องถือว่าเป็นบุญเหลือหลาย พบปัญหาแล้วก็แก้ปัญหานั้นเสีย และเมื่อมีวิธีแก้ก็ต้องรีบทำรอไม่ได้


การแก้ไขบางครั้งก็ต้องใจแข็ง ต้องตัดใจทำให้ได้ "วันพรุ่งนี้" หรือ "อนาคต" จึงจะสว่างไสว มีชีวิตชีวาขึ้นมา


หลายคนอาจจะพูดว่า "ไม่ง่ายอย่างนี้หรอก เพราะชีวิตไม่ได้เป็นไปตามสูตร จะมาบอกว่าวันนี้เกี่ยวข้องกับเมื่อวานนี้ได้อย่างไร เมื่อวานชีวิตเราสดใส แต่จู๋ ๆ โชคชะตามันบิดเบือน เราเกือบจะกลายเป็นขอทาน การจะให้พรุ่งนี้กลับมาสดใสเหมือนเมื่อวานนี้เป็นไปได้"


เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ เคยได้ยินมั้ย? ตอนเศรษฐกิจตกต่ำแบบเศรษฐกิจฟองสบู่ เศรษฐีบางคนที่ร่ำรวยเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ชื่อดังวต้องล่มจม กลายเป็นคนเร่ขายขนมปังข้างถนน ก็ยังกลับเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้


ขึ้นมาได้อย่างไร? เพราะเขารู้และไม่ยอมแพ้ เมื่อวานเป็นเศรษฐี วันนี้จน พรุ่งนี้ก็กลับเป็นเศรษฐีใหม่ได้ นี่แหละ เมื่อวาน + วันนี้ = พรุ่งนี้ ล่ะ


เราลองทำใจให้เยือกเย็น และไม่เข้าข้างตัวเอง จะเห็นความผิดพลาดทั้งในด้านความคิดและการกระทำ ทำผิดตรงไหน แก้ตรงนั้น ทำทันที และบวกกำลังใจที่จะต่อสู้เข้าไปด้วย ก็คงจะดี?

ขอบคุณที่มา :: share.psu.ac.th

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม