ตรวจแถวดู SUV แดนปลาดิบ รุ่นใหม่


ในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 หรือ SUV ที่ได้รับการพัฒนาจากรถเก๋งขนาดคอมแพกต์ หรือ C-Segment ในตอนนี้ เรียกได้ว่าแบรนด์ญี่ปุ่นมีความเคลื่อนไหวในตลาดกลุ่มนี้มากที่สุด เพราะในปลายปีนี้ต่อไปจนถึงต้นปีหน้า ทั้งมาสด้า, ซูบารุ และฮอนด้าจ่อคิวรอเตรียมเปิดตัวของใหม่ออกสู่ตลาด ส่วนจะมีอะไรบ้าง มาดูกันได้เลย

Mazda CX-5 : คันจริงพร้อมลุยตลาด

อุ่นเครื่องกันไปแล้วระลอกหนึ่ง สำหรับ CX-5 เอสยูวีรุ่นใหม่ของค่ายมาสด้าที่เปิดตัวในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งคราวนี้นอกจากภาพด้านหน้าและด้านหลังแล้ว ทางมาสด้ายังเผยให้เห็นรายละเอียดภายในห้องโดยสาร และสเปกของเครื่องยนต์ที่จะทำตลาด ซึ่งเป็นเวอร์ชันสำหรับขายในยุโรป

CX-5 ถือเป็นผลผลิตเอสยูวีขนาดคอมแพกต์รุ่นแรกในรอบ 10 ปีและถือเป็นผลผลิตแรกที่ไม่ได้มีความข้องเกี่ยวกับฟอร์ดในการพัฒนานับตั้งแต่โปรเจกต์พี่น้องอย่างทริบิวต์ และเอสเคป โดยตัวรถได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของเก๋งไซส์คอมแพกต์อย่างมาสด้า 3 รุ่นปัจจุบันและถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกของมาสด้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี SKYACTIV ทั้งคัน ตั้งแต่ตัวถัง เครื่องยนต์ เกียร์ และระบบช่วงล่าง

หน้าตาของตัวรถคงคุ้นเคยกันแล้ว เพราะก่อนหน้านี้มาสด้านำออกเผยแพร่ตามอินเตอร์เนตก่อนที่คันจริงจะเปิดตัว เพียงแต่ว่ายังไม่มีรายละเอียดทางเทคนิค ซึ่ง CX-5 มากับตัวถังทรงเอสยูวีแบบ 5 ประตูที่มีระยะฐานล้ออยู่ในระดับ 2,700 มิลลิเมตร ซึ่งตรงนี้ส่งผลต่อความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่วางขาของเบาะด้านหลังซึ่งมีความยาวระดับ 997 มิลลิเมตร พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุระดับ 500 ลิตร ขณะที่พนักพิงของเบาะหลังสามารถแยกพับในอัตราส่วน 40 :20:40 และใช้งานง่ายตามแนวคิดของมาสด้าที่เรียกว่า KARAKURI

เมื่อเข้าสู่ห้องโดยสารอีกสิ่งที่เป็นจุดเด่นของตัวรถ คือ แนวคิด HMI หรือ Advanced Human Machine Interface ซึ่งเป็นการรวบรวมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในตัวรถให้อยู่ที่แผงควบคุมในจุดเดียวเพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยหน้าจอแบบ Touch Screen ขนาด 5.8 นิ้ว จะเป็นพื้นที่สำหรับแสดงผลและใช้ในการควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เช่น เครื่องเสียง, การเชื่อมต่อกับระบบโทรศัพท์มือ หรือระบบนำทาง

มาสด้าบอกว่าการนำแนวคิด HMI มาใช้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ทางอ้อม เพราะว่าเป็นการลดการละสายตาของผู้ขับขี่จากเส้นทางด้านหน้า โดยการควบคุมหรือเลือกคำสั่งต่างๆ สามารถทำได้ผ่านทางปุ่มที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัย และตำแหน่งของการติดตั้งหน้าจอขนาด 5.8 นิ้วนี้ก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม

แม้จะไม่ใช่คำตอบที่ตรงกับสิ่งที่กำลังจะถาม แต่ในตอนนี้ก็รู้แล้วว่าอย่างน้อย CX-5 ที่ทำตลาดจะมีเครื่องยนต์อะไร และกำลังขนาดไหนบ้าง ถึงจะเป็นสเปกสำหรับตลาดยุโรปก็เถอะ โดยทั้งหมดเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาตามแนวคิด SKYACTIV โดยมีทั้งเบนซินหรือ SKY-G แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2000 ซีซี ที่มีอัตราส่วนการอัดสูงถึง 14.0:1 และใช้ท่อร่วมไอเสียแบบ 4-2-1 เพื่อช่วยลดการชิงจุดระเบิด หรือ Knocking

โดยในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ามีกำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 21.4 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที แต่ถ้าเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติกำลังจะขยับลงมาอยู่ที่ 160 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 21.2 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที

ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซลก็เป็นเทคโนโลยี SKY-D ที่มาสด้าเผยว่ามาพร้อมกับอัตราส่วนการอัดต่ำที่สุดในโลก เพราะขณะที่ของทั่วไปตัวเลขจะวิ่งอยู่ที่ 17-18 :1 แต่สำหรับรุ่นนี้อยู่ที่ 14 :1 เท่านั้นเอง ใช้เทอร์โบแบบ Two-Stage ซึ่งในรุ่นนี้มีให้เลือก 2 เวอร์ชัน คือ Standard Power มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 38.7 กก.-ม. ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ส่วนอีกรุ่นเป็น High Power มีกำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 42.8 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที

ทุกเลือกจับคู่กับเกียร์ในแบบ SKYACTIV-DRIVE ซึ่งมีทั้งแบบธรรมดา หรืออัตโนมัติที่มีจำนวนจังหวะเท่ากันที่ 6 จังหวะ นอกจากนั้น เครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่นยังมีการติดตั้งเทคโนโลยี i-Stop ซึ่งจะดับเครื่องยนต์เมื่อจอดติดอยู่กับที่ ช่วยลดการคายก๊าซไอเสีย และลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

มาสด้าพร้อมส่ง CX-5 ลุยตลาดทั่วโลก โดยคาดว่าตลาดญี่ปุ่นน่าจะเริ่มวางขายก่อนใครเพื่อนในปลายปีนี้ จากนั้นตลาดโลกรอสัมผัสได้ในช่วงต้นปีหน้า ขณะที่บ้านเรามีการแย้มออกมานิดๆ แล้วว่าจะมีขายแน่ เพียงแต่ต้องรอคอนเฟิร์มว่าจะมาในแบบไหน ประกอบใน หรือว่าจะนำเข้าทั้งคัน

Subaru XV : เจอกันแน่ปลายปีนี้

ถือเป็นเอสยูวีอีกรุ่นที่อยู่ในกระแสความสนใจ หลังจากที่ซูบารุมีการแถลงว่าจะนำเข้ามาจากไลน์ผลิตในมาเลเซียเพื่อขายในบ้านเรา โดยมีกำหนดเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เดือนธันวาคมนี้

รหัส XV ถือเป็นการแตกไลน์ทางเลือกจากรุ่นปกติของอิมเพรซา เหมือนกับที่เลกาซี่มีเวอร์ชันเอาท์แบค หรือแลงคาสเตอร์ ซึ่งเป็นการจับเอารุ่นแวกอนมายกสูงเพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์จากรถยนต์ครอบครัวมาเป็นตัวลุย ซึ่งในกรณีของ XV ก็เช่นเดียวกัน

โดยชื่อของ XV อาจจะไม่คุ้นหูใครหลายคน แต่รหัสนี้ทำตลาดควบคู่กับอิมเพรซามานานตั้งแต่รุ่นแรกแล้ว เพียงแต่จำกัดตลาดอยู่แค่ในสหรัฐอเมริกาหรือไม่ก็ออสเตรเลีย ก่อนที่ในรุ่นที่แล้วจะมีส่งเข้ามาขายในตลาดญี่ปุ่น โดยในรุ่นแรกๆ เป็นการนำตัวถังแวกอนของอิมเพรซามาอัพเกรด แต่ในรุ่นที่แล้วตัวถังแวกอนไม่มีขาย หน้าที่นี้ก็เลยตกมาอยู่ในมือของตัวถังแฮทช์แบก 5 ประตูแทน

สำหรับ XV ใหม่ยังใช้พื้นฐานของอิมเพรซา แฮทช์แบกรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อกลางปีนี้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ในรุ่นใหม่จะไม่ใช่ชื่ออิมเพรซานำหน้า แต่จะใช้คำว่า XV เป็นชื่อรุ่นเลย เหมือนกับที่ใช้ชื่อเอาท์แบคทำตลาดแทนที่เลกาซี่ เอาท์แบคไปเลย และตำแหน่งทางการตลาดถูกวางให้ต่ำกว่าฟอเรสเตอร์ ซึ่งเป็นเอสยูวีพันธุ์แท้

ส่วนการสร้างความแตกต่าง สามารถสัมผัสได้รอบคัน เพราะรูปลักษณ์ภายนอกถูกปรับเปลี่ยนจากรุ่นปกติ โดยเฉพาะในแง่ของการสร้างความบึกบึนด้วยการเสริมโป่งซุ้มล้อทั้ง 4 ด้าน เช่นเดียวกับการออกแบบกันชนหน้าและหลังใหม่ ซึ่งนอกจากจะช่วยในแง่ของการสร้างสัมผัสที่แข็งแกร่งแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการเพิ่มมุมไต่ หรือ Approach Angle หรือมุมจาก หรือ Departure Angle เวลาเผชิญกับเส้นทางลาดชัน

คันจริงของ XV ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 ที่เพิ่งปิดฉากไปเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา และสเปกที่เปิดตัวออกมาเป็น EU Spec ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปบ้างจากสเปกอื่นๆ ที่ขายอยู่ในตลาด แต่ก็ในแง่ของเครื่องยนต์เท่านั้น ส่วนหน้าตายังเป็นรูปลักษณ์เดียวกัน

ในยุโรปมีขายทั้งหมด 3 รุ่นแบ่งเป็นเบนซิน 2 รุ่นกับขุมพลัง 4 สูบนอน 1600 และ 2000 ซีซี ส่วนอีกหนึ่งเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลในรหัส 2.0D มีความจุในพิกัด 2000 ซีซีเหมือนกัน ส่วนระบบส่งกำลังก็มีทั้งธรรมดาที่มีให้เลือกทั้งแบบ 5 หรือ 6 จังหวะ และอัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ Lineartronic

ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อตลอดเวลาแบบ Active Torque Split มี MP-T หรือ Multi-Plate transfer ซึ่งเป็นชุดคลัตช์แบบ Multi Plate ในการถ่ายทอดแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังล้อหลัง ซึ่งโดยปกติแล้วการถ่ายทอดกำลังจะอยู่ในระดับหน้า-หลัง 60-40% และมีการแปรผันไปตามสภาพการขับขี่

บ้านเรามาแน่ ดูคันจริงในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีนี้ แล้วจากนั้นประมาณเดือนมีนาคมปี 2012 ถึงจะเริ่มขาย ส่วนราคาน่าจะวิ่งอยู่ที่ 1.3-1.4 ล้านบาท

Honda CR-V Concept : อุ่นเครื่องก่อนคันจริงอีก 2 เดือน

ทิ้งระยะนานเอาเรื่องเหมือนกันหลังจากที่เปิดเผยภาพด้านหน้าของ CR-V ใหม่คันต้นแบบ (ที่ใครๆ ก็รู้ว่าใกล้เคียงกับคันขายจริง) ในตอนนี้อเมริกา ฮอนด้าจัดการเผยอีก 2 ภาพใหม่ของ CR-V Concept ออกมาแล้ว ส่วนภายในห้องโดยสารยังเป็นปริศนาอยู่

CR-V Concept คันนี้ถูกเปิดตัวในงานออเรนจ์ เคาน์ตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้โชว์ ที่เมืองอะนาไฮม์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 กันยายนที่ผ่านมา ส่วนคันจริงของ CR-V จะเผยโฉมที่แอลเอ ออโต้โชว์ กลางเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ก่อนเริ่มทำตลาดในช่วงปลายปี

จอห์น เมนเดล รองประธานบริหารฝ่ายขายของอเมริกัน ฮอนด้ากล่าวว่า ต้นแบบคันนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงทิศทางในการออกแบบที่จะนำไปสู่การทำตลาดจริงในอนาคต และสะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนบุคลิกของตัวรถโดยหันมาเน้นในเรื่องของความปราดเปรียว และพลวัตรในการขับขี่ของตัวรถที่เน้นความสปอร์ตมากขึ้น ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ฮอนด้า ซีอาร์-วี ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวอเมริกัน และกลายเป็นเอสยูวีที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดกลุ่มนี้

ในแง่ของการดีไซน์ ตัวรถยังคงเอกลักษณ์ของไฟท้ายในแบบแนวตั้ง ซึ่งถือเป็นอีกเอกลักษณ์ในด้านงานออกแบบของ CR-V นับตั้งแต่รุ่นแรกเปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 1995 ส่วนเครื่องยนต์ยังไม่มีการเปิดเผย แต่เชื่อว่า CR-V ใหม่จะยังทำตลาดกับเครื่องยนต์ 2400 ซีซี เหมือนเดิม

ใครที่สนใจก็ดูภาพไปพลางๆ ก่อน เพราะคันจริงที่มีภาพหลุดออกมาให้เห็นก็มีหน้าตาไม่ต่างจากนี้เท่าไรนัก ส่วนบ้านเรา น่าจะเข้ามาทำตลาดในช่วงปีหน้าเป็นอย่างเร็วที่สุด



0 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม