กิเลสกับความดี มักจะมาคู่กันเสมอ




กิเลสกับความดี มักจะมาคู่กันเสมอ


ถาม : (กิเลส) บางทีก็บางมาก จนจับไม่ได้ว่าเป็นกิเลส

ตอบ : มีอยู่สมัยหนึ่ง พระท่านทำภาพให้ดู กิเลสบางตัวเราไม่นึกว่าจะมีอยู่ แต่ก็มี เพียงแต่ว่าบางมากจนเราสาวไปไม่ถึง ท่านก็เมตตาทำให้ดู แหม..เหมือนกับหนูซุกอยู่ในรู ไม่กระดุกกระดิกอะไร เงียบอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วกิเลสนั้นยังไม่ตาย ยังอยู่เต็มๆ เลย แต่ว่าไปแอบซ่อนอยู่อย่างมิดชิด พร้อมที่จะอาละวาดทันทีที่เราเผลอ..!

ถาม : บางทีกิเลสบางตัวหน้าตาคล้ายๆ เรา

ตอบ : อาตมาเคยเล่าให้ฟังว่า กิเลสกับความดีนั้นก้าวซ้อนมารอยเดียวกัน หน้าตาเหมือนกันเลย เพียงแต่สำคัญตรงก้าวสุดท้าย ว่าจะพาเราไปทางไหน ?

เคยยกตัวอย่างชัดที่สุดก็คือ เรื่องของการถวายสังฆทาน สมัยที่อาตมาอยู่วัดท่าซุง พอได้ปัจจัยมาจากการที่โยมถวายหรือการสวดมนต์ก็ดี ถึงเวลาก็จะรวบรวมไปถวายหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นสังฆทาน

สังฆทานที่วัดท่าซุง จะมีชุดละ ๑๐๐ บาท ชุดละ ๕๐๐ บาท ชุดละ ๑,๐๐๐ บาท ชุดละ ๒,๐๐๐ บาท หลวงพ่อท่านจะมอบวัตถุมงคลให้ตามราคา อาตมาตั้งใจว่าถ้าได้เงินมาจะเอาไปถวายสังฆทาน พอรวมแล้วได้เกิน ๑๐๐ บาท ก็คิดว่า เดี๋ยวรอให้ถึง ๕๐๐ บาท ค่อยเอาไปถวายชุดที่ใหญ่กว่า

แทนที่จะได้ ๕๐๐ บาท กลับเป็น ๗๐๐-๘๐๐ บาท เออ..ได้ชุดละ ๑,๐๐๐ บาท ค่อยไปถวาย เป็นอย่างนี้หลายครั้งด้วยกัน จนวันนั้นบังเอิญไปเห็นหน้าตากิเลสเข้า ใจหายวาบเลย ที่ใจหายวาบก็คือ ถ้าเราตายเสียก่อน แม้แต่ชุดละร้อยเดียวก็ไม่ได้ถวาย กิเลสหลอกเราได้ขนาดนั้น..!

กิเลสกับความดีจะขี่คอกันมาเลย เพียงแต่ว่าก้าวสุดท้ายกิเลสจะดึงเราลง ส่วนความดีจะพาเราขึ้น แค่นั้นเอง ทั้งๆ ที่การทำความดีแบบนั้นกิเลสยังหลอกเราได้

ถาม : เป็นกิเลสประเภทไหน เป็นโลภะกลายๆ หรือเปล่า ?

ตอบ : มีทั้งส่วนของ โลภะ และ โมหะ ด้วย โลภะ คือ อยากได้บุญมากขึ้น โมหะ คือ รู้ไม่เท่าทัน ให้กิเลสหลอกเราได้..สุดยอดจริงๆ กิเลสกับความดีหน้าตาเหมือนกันทุกอย่างเลย โดยเฉพาะหน้าตาเหมือนกับเรานี่แหละ..!

ถาม : แล้วเราจะรู้ทันได้อย่างไร ?

ตอบ : ซักซ้อม สติ สมาธิ ปัญญาให้มากๆ ไว้ จะรู้เท่าทันกิเลสได้เร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นมักจะถูกพาไปหลายกิโลกว่าที่เราจะรู้ตัว


สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔





ขอบคุณบทความจาก วัดท่าขนุน



0 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม