10 อันดับ “เทศกาล – ประเพณี”อันตรายจากทั่วโลก


New Years Dive – Siberia, Russia
ประเพณีดำน้ำปีใหม่ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ประเพณีนี้เริ่มขึ้นในปี 1982 โดยนักดำน้ำรัสเซียมักปฏิบัติกันในการดำน้ำทะเลสาบไบคาล ที่ไซบีเรียซึ่งมีความลึกถึง 5,390 ฟุต โดยพวกเขาจะตัดหลุมน้ำแข็งที่คลุมด้านบนออกและก็ดำน้ำลงไป เพื่อนำต้น ปีใหม่มาปลูก และนักดำน้ำจะเต้นรำรอบๆ ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายแต่ความจริงแล้วทะเลสาบนี้เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดใน โลกที่อยู่ ภายใต้น้ำแข็ง และเราคงไม่ต้องสารยายความเย็นของมัน และนักดำน้ำต้องว่ายน้ำ โดยต้อง แบกอุปกรณ์ที่หนักร่วม 100 กก. ลงใต้น้ำ มันช่างเป็นนรกเยือกแข็งชัดๆ

Polar Bear Plunge
“หมีขั้วโลกกระโดด” เป็นงานที่จัดขึ้นในช่วงฤดู หนาว โดยผู้เข้าร่วมจะต้องลงกระโดดลง ในน้ำที่มีอุณหภูมิติดลบ ความจริงงาน นี้จัดขึ้นทั่วโลก แต่จัดยิ่งใหญ่สุดอยู่ที่สวนสาธารณะ Sand Point รัฐแมรี่ แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกาประจำทุกปี เพื่อนำเงินสมทุบองค์กรการ กุศล โดยผู้ ร่วมสมัครจะต้องเขียนสัญญา “หากตายจะไม่ฟ้อง” เนื่อง จากการลงในน้ำที่เย็น จัดอาจทำให้คนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส เช่นเป็น ตะคริว หรือภาวะอัมพาต หรือตายได้ แต่ กระนั้นก็มีคนบางคนกล้าทำแบบนี้

ถ้าคุณคิดว่าโบสถ์น่าเบื่อละก็ ขอบอกว่าคุณคิดผิด อย่างน้อยก็ไม่ใช้คนใน เกาะชิออส ในประเทศกรีซแน่นอน เกาะเล็กๆ แห่งนี้มีประเพณีที่สุดแสนเร้า ใจ โดยทุกปีเมื่อถึงเทศกาล อีสเตอร์ของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ จะเตรียม การป้องกันบ้านเรือนของพวกเขาด้วยการ นำแผ่นโลหะมาปิดบังหลังคาและตัว บ้าน เพื่อป้องกันพลุไฟนับร้อยๆ ลูกที่อาจจะตกใส่บ้าน ของพวกเขา เพราะเมื่อ ถึงเวลาใกล้เที่ยงคืนของวันเสาร์ ก่อนถึงวันอีสเตอร์ของชาวออร์โธดอกซ์ ชาว บ้าน ที่โบสถ์ เซนต์มาร์กอส และโบสถ์ พานาเกีย เอริเธียนี่ จะระดมยิงพลุที่ เตรียมไว้นับหมื่นลูก ใส่กันและกัน โดยระยะห่างระหว่างโบสถ์ประมาณหนึ่ง กิโลเมตร เป้าหมายของพวกเขาคือ หอระฆังของโบสถ์ฝ่ายตรงข้าม แต่พลุที่พุ่งไป นั้นก็กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ แม้ว่าภาพที่เห็นจะดูน่าตื่นตาตื่นใจจาก แสง พลุในยามค่ำคืน แต่ก็มีอันตรายมาก บ่อยครั้งที่พลุตกในพุ่มไม้หรือบ้าน เรือน จนทำให้เกิด ไฟลุกลาม ด้วยเหตุนี้ หน่วยดับเพลิงต้องเตรียมพร้อมตลอด คืน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ฉุกเฉิน ประเพณีนี้มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ยุคที่ กรีซอยู่ในอาณาจักรออตโตมันเมื่อ ศตวรรษที่ 19 ตำนาน หนึ่งเล่าขานกัน ว่า กลาสีเรือได้ยิงปืนใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ทำให้ ทหาร ออตโตมันสั่งยึดปืนใหญ่ทั้งหมด เพราะเกรงว่าชาวบ้านจะใช้ปืนใหญ่มาใช้ ก่อการกบฏ ชาว บ้านจึงต้องหันไปใช้พลุยิงเฉลิมฉลองแทน ในอดีตเทศกาลนี้ทำให้ เกิดไฟไหม้ได้สร้างความ เสียหายต่อบ้านเรือนและมีแม้กระทั้งคนเสียชีวิต แต่ ประเพณียังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าโบสถ์ ทั้งสองแห่งจะถูกถล่มด้วยพลุจำนวน มาก แต่ภายในโบสถ์ก็ยังคงประกอบพิธีมิสซากันตาม ปกติ ส่วนตำรวจก็ต้องปิด เส้นทางถนนระหว่างโบสถ์ทั้งสองไว้ เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน และนักท่อง เที่ยวที่เดินทางมาชมเทศกาลนี้ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ ยังไม่มีผู้ใด ได้รับ บาดเจ็บจากสงครามพลุบนเกาะไคออส เพราะทางการวางมาตรการรักษาความ ปลอดภัย ค่อนข้างรัดกุม รวมทั้งมีการเปิดสัญญาณไซเรนในพื้นที่ ก่อนที่การ ยิงพลุจะเริ่มขึ้น เพื่อเตือน ให้ทุกคนหลบอยู่แต่ในที่ปลอดภัย (แนะนำให้ดู คลิปเพราะอย่างกับสงครามโลกอย่างงั้นแหละ)

;เทศกาลโยนทารก” เป็นเทศกาลของชาวอินเดียในเมืองโชลาปูร์ ประเทศ อินเดีย โดยชาวฮินดูและชาวมุสลิมจัดพิธีกรรมโยนเด็กๆ อายุประมาณ 2 ขวบ รวบ มือและเท้า เขย่า ตัวในอากาศก่อนโยนลง จากที่สูงจากชั้นบนของหลังคาสุเหร่า บาบา อูเมอร์ ดูร์กา ซึ่งมีความ สูงกว่า 15 เมตร ลงมายังผ้าที่มีเหล่า ผู้ใหญ่ชายหนุ่ม 14 คน ขึงรับอยู่ด้านล่าง ซึ่งเป็นประเพณี ที่ปฏิบัติกันมา นานเกือบ 700 ปี ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้เด็กสุขภาพดี และนำโชคดีมาสู่ ครอบ ครัว ทั้งยังเป็นการแก้เคล็ดเนื่องเด็กอินเดียมีอัตราเสียชีวิตสูง โดยเด็ก แต่ละคนกรีดร้องเสียงหลงอย่างเสียขวัญ ด้านผู้จัดงานครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ มีเด็กคนใด ได้รับบาดเจ็บแต่นักสิทธิมนุษยชนเห็นว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นล้ม เหลวอย่างสิ้นเชิงที่จะป้องกัน การกระทำนี้ที่เสี่ยง ต่อสุขภาพของ เด็ก ปล่อยให้ชาวบ้านทำเรื่องที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล

Hill Cheese-Rolling - Gloucester, England
เทศกาลกลิ้งชีส (ดูแล้วเหมือนเทศกาลกลิ้งคนมากกว่า) เป็นเทศกาลที่จัดบนเนิน เขาคูเปอร์ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองเชลเท่นแฮม และกลูเชสเตอร์ ในประเทศ อังกฤษ ในวันจันทร์สุดท้ายของ เดือนพฤษภาคม ตอนเที่ยง โดยเทศกาลนี้มี ประวัติเก่าแก่ถึง 200 ปี โดยพวกเขาจะกลิ้งชีส ก้อนกลมโตที่เรียก ว่า Double Gloucester Cheese ลงมาจากบนเนินเขา โดยคนที่วิ่งตามลง มาเก็บ ได้ก่อนจะได้รับชีสนั้นกลับบ้านไปเป็นรางวัล ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่ความจริง มันไม่ง่าย เลย เพราะว่าชีสที่กลิ้งลงเขานั้นเร็วมากประมาณ 70 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง ทำให้ไม่มีทางเลย ที่คนจะวิ่งลงเขาจะเก็บชีสนี้ได้ทัน ดังนั้นวิธี ที่เอาชนะได้ก็คือ วิ่งตามชีสจนถึงตีนเขา และเก็บมันเท่านั้นถึงจะเป็นผู้ ชนะ อีกทั้ง การวิ่งลงเนินเขานั้นมันก็ไม่ง่ายเลย ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะ กลิ้งลงมาจากเนินเขาอย่างทุลัก ทุเล บางคนถึงกับตีลังกาหลายสิบตลบก็มีกว่า จะมาถึงตีนเขา แม้มีคนกลิ้งลงเขาจะบาดเจ็บ แต่กระนั้นก็ไม่มีรายงานผู้เสีย ชีวิต อย่างมากก็ข้อเท้าเคล็ด และกระดูกหักนิดหน่อย ปัจจุบันเทศกาลนี้โด่ง ดังมากจนนักท่องเที่ยวหลายประเทศต่างเข้าร่วมหลายร้อย คนมา ท้าทาย

Onbashira - Japan
เทศกาลเสาเกียรติยศหรือเทศกาลแห่งความกล้าหาญ เป็นเทศกาลในนากาโนะ ประเทศ ญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในรอบหกปี (ในปีขาลและปีวอกตามปฏิทิน ราศีของจีน) ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมและครั้งที่สองในเดือนเมษายน โดย ส่วนที่เป็นอันตรายของ เทศกาลคือชาวบ้านจะเข้าไปในป่าแล้วตัดต้นไม้ใหญ่มา จากภูเขาแล้วใช้เชือกมัด กับต้นไม้ จากนั้นพวกเขาก็ลากเชือกพร้อมต้นไม้ลง จากภูเขา เพื่อสร้างอนุสรณ์รอบๆ ทั้ง 4 มุมของ ศาล เจ้า Suwa Taisha Shrine โดยเทศกาลนี้มีเหล่าคนหนุ่มซึ่งมีความกล้าหาญ จาก 6 หมู่บ้านในแถบเมืองซุวะ ร่วม 210,000 คน เข้าร่วมงานเทศกาลศักดิ์ สิทธ์แห่งนี้ ส่วนที่มาของเทศกาลนี้ไม่มีใครทราบ แต่จากหลักฐานจากภาพวาด เขียนไดเมียวจินซุวาโกะในสมัยมุโรมาชิ พบว่าจักรพรรดิในสมัย เฮ อัน (ปี 781-806) ได้มีรับสั่งให้สร้างศาลเจ้าในปีเสือและวอก จึงว่ากันว่า เป็นต้นกำเนิด ของเทศกาลซึ่งหลายคนบอกว่านี้เป็นเทศกาลแห่งความกล้าหาญ แต่ ก็มีรายงานผู้ได้รับ บาดเจ็บและเสียชีวิตในขณะเข้าร่วมเทศกาลมากมายหลายราย

Christmas Trees
หลายคนทั่วโลกที่นับถือคริสต์มักจัดเทศกาลคริสต์มาสในเดือนธันวาคมด้วย การ ซื้อต้นไม้ สดหรือต้นไม้เทียมเพื่อจัดตกแต่งงานคริสต์มาสในบ้านของพวก เขา จนกลายเป็นสัญลักษณ์ ที่ขาดไม่ได้ในวันสำคัญนี้ไปเสียแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2003-2006 มีกรณีถึง 240 ราย ที่ไฟไหม้บ้านซึ่งเกิดขึ้นทุกปีโดยต้น เพลิงมาจากต้นคริสต์มาส โดยจากสถิตของสมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติพบ ว่า โดยเฉลี่ยมีผู้เคราะห์ร้าย 16 ราย เสียชีวิตเพราะไฟไหม้ และ 25 รายได้ รับบาดเจ็บในแต่ละปี แม้ว่าโอกาสที่จะเกิดไฟลุก ต้นคริสต์มาสจะยาก แต่เมื่อ เกิดขึ้นก็ก่อให้เกิดหายนะอย่างใหญ่หลวงที่ยากจะป้องกันได้

Female circumcision
การขริบอวัยวะเพศหญิง หมายถึง การตัดส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด หรือทำ อันตราย ต่ออวัยวะเพศภายนอกของสตรีไม่ว่าจะเป็นการกระทำตามขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เพื่อการรักษาพยาบาล โดย ประเทศที่มีประเพณีนี้ก็มีอียิปต์ ซีดาน มาลิ และเอธิโอเปีย โดยมีความเชื่อ ที่ว่าผู้หญิง ที่ไม่ได้ขริบอวัยวะเพศอาจมีอารมณ์ทางเพศเมื่อออกไปข้าง นอก จนอาจไปขืนใจผู้ชายได้ จึงต้องตัดต้นตอจุด ที่ถือว่าไวต่อความรู้สึกทาง เพศนั้นทิ้งเสีย ขั้นตอนเหล่านี้ กระทำโดย การเฉือนอวัยวะเพศด้านนอกบาง ส่วน หรือทั้งหมด และเย็บรวมไว้ด้วยกัน โดยเหลือช่องเล็กๆ ไว้สำหรับให้ เลือดประจำเดือน และปัสสาวะไหลออกมาได้เท่านั้น วิธีการเหล่านี้ทำให้นำไป สู่ความตายจากความเจ็บปวดสุดแสนสาหัส หรือเลือดตกในมากไป เนื่องจากไม่มีการ ใช้ยาชา นอกจากนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ผ่านการขริบอวัยวะเพศมักจะมีปัญหา ด้าน สุขภาพหลายประการ รวมถึงการการตกเลือดอย่างรุนแรงถึงขั้นตายได้ โดยจากการ คาด การขององค์การอนามัยโลกพบว่าผู้หญิงที่ผ่านพิธีนี้ 1/3 จะตายเนื่องจาก ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

Running of the Bulls - Pamplona, Spain
เทศกาลซานเฟอร์มิน เป็นเทศกาลที่เริ่มจัดขึ้นในปี 1910 ที่เมืองปามโป ลน่า ประเทศสเปน เป็นที่รู้จักในชื่อเทศกาลวิ่งวัวกระทิง จัดขึ้นเป็นประจำ ตั้งแต่วันที่ 7-14 กรกฎาคมของทุกปี ใน 8 วันของเทศกาล 9 วัน จะมีผู้คน จำนวนมากทั้งใน และต่างประเทศเดินทางมาเข้าร่วม แออัด ในถนนของเมืองถูก สร้างสิ่งกีดขวางไว้ คนที่ร่วมแข่งขันแต่งชุดพื้นเมืองสีขาว ผูกผ้า คลุมเอว และผ้าพันคอสีแดง เพื่อรอสัญญาณเตรียมวิ่งหนีการไล่ขวิดของวัวกระทิงที่ถูก ปล่อย ออกมาหกตัว ให้วิ่งอุตลุดไปตามถนนแคบๆ การแข่งขันกินเวลา เพียง 2-3 นาที แต่ในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บเป็นร้อย และมีผู้เสียชีวิต เกิน โหลทุกวัน จะมีการปล่อยวัวกระทิงไปจนถึงวันสุดท้ายของเทศกาล และระยะ ทางการวิ่งจะอยู่ ที่ประมาณ 846 เมตร โดยมีเวลาวิ่งเฉลี่ยตั้งแต่จุดเริ่มไป จนถึงเส้นชัยประมาณสามนาที วัวจะ วิ่งจากคอกไปจนถึงสนามสู้วัวกระทิงที่พวก มันจะต้องสู้กับนักสู้วัวกระทิงใน ตอนบ่ายวันเดียว กัน และปัจจุบันมีกลุ่ม คนที่ต่อต้านเทศกาลนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมองว่าเป็นการทารุณ กรรม สัตว์

College Hazing
ประเทศไทยมักพูดบ่อยๆ ว่าประเพณีรับน้องโหดๆ นั้นประเทศเรามีเจ้าเดียวในโลก ที่ทำแบบ นี้และโหดที่สุด ก็ขอบอกว่าผิดครับ ประเพณีรับน้องโหดนี้มีอยู่ ทั่วโลก เราเรียกประเพณีเหล่านี้ ว่า College Hazing มีความหมายว่าพิธีกรรม หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ล่วงละเมิดหรือทำให้ผู้เข้า ร่วม อัปยศอด สู่ เช่น เปลือยกาย โดยพิธีกรรมเหล่านี้พบในรูปแบบแตกต่างกันในสังคม กลุ่ม เช่น คลับ, ทีมกีฬา, หน่วยทหาร, สถานที่ทำงาน, สถานศึกษา พบมากใน อเมริกาและแคนาดา เชื่อว่าประเพณีการรับน้องมี รากเหง้ามาจากทวีปยุโรปใน สมัยกลางประมาณ 700 ปีก่อน โดยเชื่อว่าน้องใหม่ที่เข้ามาเรียน ใน มหาวิทยาลัยยังขาดการศึกษาไม่เป็นอารยะชนต้องผ่านการขัดเกลาด้วยความ ลำบาก ก่อน ที่จะได้รับชีวิตใหม่ที่ดีในมหาวิทยาลัย เพื่อให้รู้จักประพฤติ ตัวให้เหมาะสมก็จะถูกบังคับให้ใส่ ชุดแปลกๆ ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกเล่นตลกที่ หยาบคายหรือรีดไถเงินหรืออาหารมื้อเย็น สองร้อยปีต่อมาระบบนี้ก็ได้รับการ ยอมรับอย่างเป็นทางการตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วยุโรป แต่ว่าเป็นระบบที่ อันตราย มีการบันทึกในเรื่องคนเจ็บ และคนตายจนผู้ปกครองนักศึกษา หวาดกลัว ประเพณีนี้มาก ปัจจุบันพิธีกรรมเหล่านี้ผิดกฎหมาย เนื่องจากทำให้ผู้เข้า ร่วม กิจกรรมเกิดอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจ ส่วนภาพข้างบนคือภาพพิธีรับ น้องใหม่ที่บังดุง ประเทศอินโดนีเซีย


เครดิต http://www.c2phuket.com/detail.php?post_id=42656




0 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม