ทัศนคติแปลกๆ (ผิดๆ) กับรถใช้แก๊ส ที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ..แชมป์เอฟวัน เวทเทล...ขับรถติดแก๊ส


รถสปอร์ต :: รถแรงติดแก๊สได้ด้วยเหรอ ไม่พังหรือไง, รถเล็ก :: เครื่องเล็กติดแก๊สไม่ต้องติดแก๊สหรอก, รถหรูคันละหลายล้านใช้แก๊ส :: ไม่มีเงินเติมน้ำมันหรือไง, ติดแก๊สไว้ขับเรื่อยๆ :: พอจะอัดก็สลับเป็นน้ำมัน, ติดแก๊สแล้ว :: แรงเหมือนน้ำมันเลย, ติดแก๊สแล้ว :: จะเหม็นไหม

ทัศนคติแปลกๆ (ผิดๆ) กับรถใช้แก๊ส

► แท็กซี - ประหยัด น่าจะเพราะ 2 คำนี้ที่ทำให้ทัศนคติเกี่ยวกับรถใช้แอลพีจีและเอ็นจีวีผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงและชาวโลก ในหลายประเทศผู้คนทราบดีและมีมุมมองว่าการใช้แก๊ส 2 ชนิดนี้ ทำให้รถปล่อยมลพิษน้อยลงกว่าการใช้น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซล รวมถึงการมีพลังงานใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซิน แอลพีจีสูสีหรือทำให้แรงกว่าน้ำมันเบนซินก็ยังได้ ส่วนเอ็นจีวีก็แพ้เพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์

► เลือกใช้แก๊สเพราะ... ประหยัด ! เป็นสำคัญ แล้วก็เข้าใจไปเองว่า แท็กซีใช้แล้วรถก็โทรม-คนขับก็โทรม

► แม้หลายคนใช้รถติดแก๊สแล้วประทับใจในสมรรถนะที่ไม่เป็นรองน้ำมันและความประหยัด แต่ลึกๆ ก็คิดว่าแก๊สทำร้ายเครื่องยนต์ ตามที่เคยพบเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วที่แก๊สโซฮอล์ลิตรละ 16 บาท แต่แอลพีจีลิตรละ 11 บาท เอ็นจีวีกก.ละ 8.5 บาท รถที่ติดแก๊สกลับวิ่งแบกถังแก๊สแล้วใช้แต่น้ำมัน

► ทัศนคติลบต่อการใช้แก๊สในรถ มีให้เห็นในชีวิตประจำวันง่ายๆ เมื่อนำรถเข้าไปเติมแก๊สหรือเปิดฝากระโปรงหลัง ถ้าเป็นรถสปอร์ตหรือราคาแพง ผู้คนก็จะตั้งคำถามว่า ติดแก๊สได้ด้วยเหรอ หรือติดแล้วไม่พังหรือไง รวมถึงมีเงินซื้อรถราคาแพงแล้วติดแก๊สให้โทรมทำไม หรือเขี้ยวลากดินนี่หว่า ขับรถแพงแล้วยังงกค่าน้ำมันอีก

► เจอในชีวิตจริงได้แน่ๆ เมื่อนำรถสปอร์ตหรือรถที่ดูหรูเข้าไปเติมแก๊ส แม้แต่คนที่ใช้รถติดแก๊สเหมือนๆ กัน หรือคนอื่นที่ผ่านมาเห็น บางคนถึงขั้นชี้นิ้วเลยว่า เฮ้ย...รถสปอร์ตติดแก๊ส หรือรถเบนซ์สืดแก๊ส (ว่ะ-ฮ่าๆๆๆ)

ทัศนคติแปลกๆ (ผิดๆ) กับรถใช้แก๊ส

► ไม่ใช่เรื่องสมมุติ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบ่อยๆ หลายคนรู้สึกขัดเขินเสมอเมื่อต้องเปิดฝากระโปรงหลังรถที่คนทั่วไปคิดว่าไม่จำเป็นต้องติดแก๊ส หรือขับเข้า-ออกปั๊มแก๊สแล้วมีคนมองแบบแปลกๆ

► โดยรวมก็คือ หลายคนมองว่า แก๊สเป็นสิ่งที่รถใช้กินได้ แต่ไม่ดีเท่าน้ำมัน ใช้เพราะเด่นเฉพาะความประหยัด แต่ก็คิดไปเอง หรือเข้าใจผิดว่าต้องแลกกับข้อเสียอีกหลายอย่างโดยเฉพาะความโทรมของเครื่องยนต์และสมรรถนะที่ด้อยลง

► บทความนี้ไม่ได้ชักชวนให้ใครนำรถไปติดแก๊ส แต่อยากนำเสนอความจริงสั้นๆ ถึงการใช้แก๊สทั้ง 2 ชนิดว่าเป็นคนละด้านกับที่หลายคนเข้าใจ

► แอลพีจีมีค่าออกเทน 105-108 ตามแต่ส่วนผสมของโพรเพนและบิวเทนในแต่ละล็อตหรือแหล่งกำเนิด

► เอ็นจีวีมีค่าออกเทน 115-120 ตามแต่แหล่งกำเนิด

นิสสัน ซิลเวีย เอส15 ติดแอลพีจีใช้งานจริง ใช้น้ำมันแค่ตอนสตาร์ทเมื่อเครื่องยนต์เย็น

► ชัดเจนว่าค่าออกเทนยิ่งสูง ยิ่งต้านการน็อกหรือเขกของเครื่องยนต์ สามารถเลือกทำอัตราส่วนการอัดได้สูง ดังนั้นเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91-98 หากเจอออกเทนสูงๆ อย่างแก๊ส ก็ไม่มีเหตุผลใดว่าใช้แก๊สแล้วจะพัง เพราะเครื่องยนต์แรงๆ จะพังได้ก็เพราะเกิดการชิงจุดระเบิด-เขก หรือส่วนผสมบาง (ซึ่งถ้าพังเพราะบาง ต้องโทษคนจูน ไม่ใช่แก๊สที่ออกเทนสูงกว่า 105) ดังนั้นเครื่องยนต์แรงๆ ก็ยิ่งต้องชอบแก๊สเพราะออกเทนสูงกว่า ยิ่งเครื่องยนต์เทอร์โบยิ่งดี ตั้งบูสต์หนักขึ้นยังได้ เพราะใช้แก๊สแล้วเกิดการเขกยากกว่า

ค่าความร้อนที่ส่วนผสมพอดี (แลมบ์ดา 0.85 หรือ 1.0) แอลพีจีมีความร้อนรวม (ไม่ใช่ต่อกรัม) ใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซิน จะมาก-น้อยกว่าบ้างก็ขึ้นกับแหล่งกำเนิดหรือสัดส่วนของโพรเพน-บิวเทน ส่วนเอ็นจีวีแพ้น้ำมันเบนซิน 5-10 เปอร์เซ็นต์ขึ้นกับแหล่งกำเนิดหรือปริมาณคาร์บอนฯ แต่อย่าลืมว่ามีค่าออกเทน 120 ถ้าจะทำให้ให้มีอัตราส่วนการอัดสูงๆ ชดเชยกัน โดยรวมแล้วอาจไม่แพ้การใช้น้ำมันฯ

ทัศนคติแปลกๆ (ผิดๆ) กับรถใช้แก๊ส ทัศนคติแปลกๆ (ผิดๆ) กับรถใช้แก๊ส

► ใช้แก๊สแล้วไอเสียสกปรกน้อยกว่าใช้น้ำมัน แอลพีจีสกปรกน้อยกว่า แล้วเอ็นจีวีก็น้อยลงไปอีก ผู้ใช้ทั่วไปกลับเข้าใจสวนทางว่าแก๊สสกปรกหรือเหม็นกว่า เพราะเคยได้กลิ่นแอลพีจีออกจากปลายท่อไอเสียรถแท็กซีอยู่เสมอ ทั้งที่นั่นเป็นเพราะการใช้ระบบดูดหรือมิกเซอร์ ซึ่งไม่มีการควบคุมการจ่ายแก๊สแบบละเอียดอย่างระบบหัวฉีด แก๊สจึงหนาๆ -บางๆ จนเผาไหม้ไม่หมด ยืนยันว่าใช้แก๊สแล้วไอเสียสกปรกน้อยกว่าใช้น้ำมัน ถ้าไม่เชื่อไปหาข้อมูลจากมุมไหนของโลกก็จะพบว่าจริง

► ส่วนความประหยัดที่สนใจกันเป็นหลัก จริง เพราะราคาต่อลิตรต่อกิโลกรัมถูกกว่า จะรถเล็กเครื่องยนต์เล็กหรือใหญ่ ใช้แล้วก็ย่อมประหยัด มอเตอร์ไซค์หลายคันก็ติดแก๊สใช้งานจริงทั้งที่ใช้น้ำมันก็ประหยัดอยู่แล้ว

ทัศนคติแปลกๆ (ผิดๆ) กับรถใช้แก๊ส

เวทเทล แชมป์โฟล์ค ซีร็อคโค อาร์-คัพ ซีเอ็นจี ปี 2010

► รถแรงๆ จากหลายสำนักแต่งในยุโรปใช้แอลพีจีด้วยความเข้าใจที่ดี เช่น AC Schnitzer กับบีเอ็มฯ ซีรีส์ 3 อี92 หรือ G-Power กับเอ็ม5 ในต่างประเทศมีมานานแล้วกับรถแข่งใช้แก๊สในหลายประเภททั้งทางตรงระยะสั้นหรือเซอร์กิต ปลายปี 2010 แชมป์โลก นักขับรถเอฟวัน รถแข่งเซอร์กิตที่เร็วสุดในโลก เซบาสเตียน เวทเทล ไปขับรถแข่งในโฟล์ค ซีร็อคโค อาร์-คัพ รถแข่งพลังซีเอ็นจี แล้วได้แชมป์ในเยอรมนี เวทเทล...กลายเป็นแชมป์โลกรถเอฟวัน...ขับรถติดแก๊ส ! แบบเดียวกับรถแท็กซีในไทย !

ที่มา http://auto.sanook.com/




0 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม