วันแปลก ๆ ของญี่ปุ่น

01. วันแห่งภาพยนตร์ (映画の日 : Eiga No Hi)

ตรงกับวันที่ 1 ของทุกๆเดือน สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนไปดูภาพยนตร์


02. วันแห่งการจราจรปลอดภัย (交通安全の日 : Koutsuu Anzen No Hi)

ตรงกับวันที่ 1 ของทุกๆเดือน สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนขับรถอย่างปลอดภัย ไม่ขับรถด้วยความเร็ว

03. วันแห่งข้าว (お米の日 : Okome No Hi)

ตรงกับวันที่ 8 และ 28 ของทุกๆเดือน สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา ระลึกถึงข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวญี่ปุ่น


04. วันแห่งความรัก , ความปรารถนา และความกล้าหาญ (愛と希望と勇気の日 : อ่านว่า Ai To Kibou To Yuuki No Hi)

ตรง กับวันที่ 14 มกราคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เมื่อ 14 มกราคม 1959 เป็นวันที่เฮลิคอปเตอร์ที่บินออกจากเรือสังเกตุการณ์ขั้วโลกใต้ที่ชื่อ Souya (宗谷) ได้บินจอดถึงฐานทัพโชวะ และพบว่าสุนัขทหารที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ที่ฐานทัพเมื่อปีก่อนหน้าจำนวน 15 ตัว มีชีวิตรอเพียง 2 ตัว คือสุนัขชื่อ ทาโร่ และ จิโร่ (タロ・ジロ)

05. วันแห่งแกงกะหรี่ (カレーの日 : Curry No Hi)

ตรงกับวันที่ 22 มกราคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา รณรงค์ให้คนทำและรับประทานแกงกะหรี่


06. วันแห่งการปวดหัว (頭痛の日 : Zutsuu No Hi)

ตรงกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ไม่ให้คนทำอะไรมากเกินไปจนปวดหัว


07.วันแห่งชาเขียว (抹茶の日 : Maccha No Hi)

ตรงกับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนดื่มชาเขียวเพื่อสุขภาพ


08. วันแห่งนามสกุล (苗字の日 : Myouji No Hi)

ตรง กับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นที่ระลึกสำหรับการเริ่มใช้นามสกุลเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ปีเมจิที่ 8


09. วันวาเลนไทน์ (バレンティンディー : Valentine's Day) และ วันแห่งชอกโกแล็ต (チョコレートの日 : Chocolate No Hi)

ตรง กับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่สืบทอดมาจากต่างประเทศ ที่หนุ่มสาวจะให้ของขวัญแก่กันเพื่อแสดงความรัก สำหรับในญี่ปุ่น เป็นวันที่ผู้หญิงจะให้ชอกโกแล็ตแก่ผู้ชายเพื่อแสดงความรัก ซึ่งแพร่หลายขึ้นมาจากการโฆษณาของบริษัทผลิตชอกโกแล็ตของญี่ปุ่น สมาคมชอกโกแล็ตและโกโก้ (チョコレート・ココア協会) จึงบัญญัติวันนี้ขึ้นมาเป็นวันแห่งชอกโกแล็ตด้วย

10. วันแห่งแมว (猫の日 : Neko No Hi)

ตรง กับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เนื่องจากแมวที่ญี่ปุ่นร้องว่า ニャー、ニャー、ニャー ขึ้นต้นด้วยคันจิที่เหมือนกับเลข 2 ด้วยกัน 3 อัน วางเรียงกันได้เป็น 222 ซึ่งแปลงเป็นวันที่ได้วันที่ 2/22


11. วันแห่งบันไดเลื่อน (エスカレータの日 : Escalator No Hi)

ตรง กับวันที่ 9 มีนาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันแรกที่มีการใช้บันไดเลื่อนขึ้นที่ห้างมิตสึโกชิ (三越) สาขา นิฮงบาชิ (日本橋) ในวันที่ 9 มีนาคม ปีไทโช ที่ 3


12. วันสีขาว (ホワイトディー : White Day)และวันแห่งลูกกวาด (キャンディの日 : Candy No Hi)

ตรง กับวันที่ 14 มีนาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่มีคู่กับวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันที่ผู้ชายให้ของตอบแทนแก่ผู้หญิงที่ให้ชอกโกแล็ตกับตนในวันวาเลน ไทน์ โดยสิ่งของที่ให้จะต้องเป็นสีขาว ทางสมาคมลูกกวาดแห่งประเทศญี่ปุ่น (全国飴菓子工業協同組合) ต้องการรณรงค์ให้คนให้สิ่งของเป็นลูกกวาด จึงตั้งวันนี้เป็นวันแห่งลูกกวาด (キャンディの日)

13. วันแห่งซากุระ (さくらの日 : Sakura No Hi)

ตรง กับวันที่ 27 มีนาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : สมาคมซากุระแห่งประเทศญี่ปุ่น (日本さくらの会) ตั้งวันนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับการบานของดอกซากุระ ที่โดยเฉลี่ยจะบานเต็มที่ในวันนี้มากที่สุด


14. วันแห่งกระเทย (オカマの日 : อ่านว่า Okama No Hi)

ตรง กับวันที่ 4 เมษายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่อยู่ระหว่างกลางของวันเทศกาลลูกท้อ (桃の節句 : Momo No Sekku) เป็นวันสำหรับเด็กผู้หญิง ซึ่งคือวันที่ 3 มีนาคม (3/3) และวันเทศกาลเด็กผู้ชาย (端午の節句 : Tango No Sekku) ซึ่งคือวันที่ 5 พฤษภาคม (5/5) จึงตั้งวันที่อยู่กึ่งกลางนั่นคือวันที่ 4 เมษายน (4/4) เป็นวันสำหรับคนครึ่งหญิงครึ่งชาย นั่นคือกระเทย (คำว่า Okama แปลว่า กระเทย)


15. วันแห่งเซนต์จอร์ดี้ (サン・ジョルディの日 : St.Jordi's Day)

ตรง กับวันที่ 23 เมษายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่ผู้ชายให้ดอกกุหลาบแก่ผู้หญิง และผู้หญิงให้หนังสือเป็นของขวัญแก่ผู้ชาย ซึ่งเกิดขึ้นจากความเคลื่อนไหวของวงการสิ่งพิมพ์เมื่อปี 1987 โดยมีที่มาจากประเพณีของประเทศสเปน ในย่านบาร์เซโลน่า เพื่อต้องการชื่นชมนักรบเทพผู้ปกป้องเมืองชื่อ เซนต์ จอร์ดี้ ด้วยประเพณีที่ผู้ชายให้ดอกกุหลาบแก่ผู้หญิง และผู้หญิงให้ของแก่ผู้ชาย


16. วันแห่งขยะ (ゴミの日 : Gomi No Hi)

ตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนทิ้งขยะโดยแยกชนิดของขยะอย่างถูกต้อง


17. วันแห่งนาโกย่า (名古屋の日 : Nagoya No Hi)

ตรง กับวันที่ 8 พฤษภาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : ที่ทำการเมืองนาโกย่าตั้งวันนี้ขึ้นมาเมื่อปี เฮเซ ที่ 8 เป็นช่วงเทศกาลนาโกย่า (名古屋祭り)


18. วันแห่งการท่องเที่ยว (旅の日 : Tabi No Hi)

ตรงกับวันที่ 16 พฤษภาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น


19. วันแห่งรูปถ่าย (写真の日 : Shashin No Hi)

ตรง กับวันที่ 1 มิถุนายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : สมาคมรูปถ่ายแห่งประเทศญี่ปุ่น (日本写真協会) ตั้งวันนี้ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการถ่ายรูป


20. วันแห่งนม (ミルクの日 : Milk No Hi)

ตรงกับวันที่ 9 มิถุนายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนดื่มนม

21. วันแห่งอุด้ง (うどんの日 : Udon No Hi)

ตรงกับวันที่ 2 กรกฏาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนรับประทานอุด้ง

22. วันแห่งเรือเหาะตีลังกา (ジェットコースターの日 : Jet Coaster No Hi)

ตรง กับวันที่ 9 กรกฏาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันแรกที่มีเรือเหาะตีลังกาติดตั้งในสวนสนุกที่ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม ปีโชวะที่ 30


23. วันแห่งแฮมเบอร์เกอร์ (ハンバーガーの日 : Hamberger No Hi)

ตรง กับวันที่ 20 กรกฏาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : 20 กรกฏาคม ปีโชวะที่ 46 เป็นวันแรกที่มีร้าน แมคโดนัล เปิดขึ้นในญี่ปุ่น ที่ชั้นหนึ่งของห้างมิทสึโกชิ (三越) ในย่านกินซ่า


24. วันแห่งหมากรุกญี่ปุ่น (マージャンの日 : Majyan No Hi)

ตรงกับวันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนเล่นหมากรุกญี่ปุ่น (麻雀)


25. วันแห่งคนอ้วน (デブの日 : Debu No Hi)

ตรงกับวันที่ 8 สิงหาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันที่ระลึกสำหรับคนอ้วน


26. วันแห่งเนื้อย่าง (焼肉の日 : Yakiniku No Hi)

ตรง กับวันที่ 29 สิงหาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนทานเนื้อย่าง ตั้งโดยสมาคมเนื้อย่างแห่งประเทศญี่ปุ่น (全国焼肉協会)


27. วันแห่งผัก (野菜の日 : Yasai No Hi)

ตรงกับวันที่ 31 สิงหาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนทานผัก

28. วันเกิดโดราเอม่อน (ドラえもんの誕生日 : Doraemon No Tanjyoubi)

ตรง กับวันที่ 3 กันยายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เป็นวันแรกที่การ์ตูนเรื่องโดราเอม่อนถูกเขียนขึ้นมาเมื่อวันที่ 3 กันยายน ปีโชวะที่ 45


29. September Valentine's Day (セプテンバーバレンタイン)
ตรง กับวันที่ 14 กันยายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : วันครบครึ่งปีพอดีหลังจากวัน White Day (14 มีนาคม) ซึ่งหากผู้ชายถูกผู้หญิงที่ตนตกลงยอมรับความรักแล้วเลิกในวันนี้ ก็จะถือว่าไม่เป็นอะไร

30. วันแห่งเหล้าญี่ปุ่น (日本酒の日 : Nihonshu No Hi)
ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : รณรงค์ให้คนดื่มเหล้าญี่ปุ่น


31. วันแห่งสุนัข (犬の日 : Inu No Hi)

ตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : ส่งเสริมให้คนรักและระลึกถึงสุนัข

32. วันแห่งอพาร์ตเม้นท์ (アパートの日 : Apartment No Hi)

ตรง กับวันที่ 6 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : 6 พฤศจิกายน ปีเมจิที่ 43 เป็นวันแรกที่มีอพาร์ตเม้นท์ตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ในย่านอุเอโนะ (上野) ในโตเกียว


33. วันป๊อกกี้และปริทซ์ (ポッキー&プリッツの日 : Pocky&PRETZ No Hi)

ตรง กับวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : กูลิโกะ บริษัทผลิต ป๊อกกี้และปริทซ์ ตั้งวันป๊อกกี้และปริทซ์ ขึ้นมาเมื่อ ปีเฮเซที่ 11 เดือน 11 วันที่ 11 หากนำวันและเดือนและปี มาเขียนเรียงติดกัน ก็จะได้เป็น 111111 ซึ่งเหมือนกับแท่งป๊อกกี้และปริทซ์ 6 แท่ง ในโฆษณาของป๊อกกี้เอง ก็มีการโชว์แท่งป๊อกกี้ 4 แท่งในมือของพรีเซนเตอร์ด้วย (เพราะว่าปีเฮเซที่ 11 เลยมาแล้ว) จุดประสงค์ที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา คงไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการส่งเสริมการขายป๊อกกี้ มีการจัดแคมเปญต่างๆเกี่ยวกับป๊อกกี้และปริทซ์ในวันที่11/11 ของทุกๆปีด้วย


34. วันแห่งโรงแรม (ホテルの日 : Hotel No Hi)

ตรง กับวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : 20 พฤศจิกายน ปีเมจิที่ 23 เป็นวันแรกที่ Teikoku Hotel (帝国ホテル) โรงแรมแห่งแรกในญี่ปุ่นเปิดให้ใช้บริการ


35. วันแห่งไก่ทอด (フライドチキンの日 : Fried Chicken No Hi)

ตรง กับวันที่ 21 พฤศจิกายน ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : 21 พฤศจิกายน ปีโชวะที่ 45 เป็นวันแรกที่มีร้านไก่ทอด เคนตักกี้ เปิดในญี่ปุ่น ที่นาโกย่า

36. วันแห่งโซบะ (そばの日 : Soba No Hi)

ตรง กับวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี สาเหตุที่ตั้งวันนี้ขึ้นมา : เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมีประเพณีการทานโซบะข้ามปี (年越しそば : Toshikoshi Soba) จึงบัญญัติวันนี้ขึ้นเป็นวันรณรงค์การทานโซบะ

ผัดปลากะพงกับเกี้ยมไฉ่

ส่วนผสม
- ปลากะพง 1 ตัว

- เกี้ยมไฉ่ 2 กระป๋อง

- กระเทียม 8 กลีบ

- แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ

- เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ

- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

- น้ำมันพืช
วิธีทำ
1. ปลากะพงล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาๆ

2. ตั้งกระทะพอน้ำมันร้อนได้ที่ ใส่ปลาลงทอดให้สุก หั่นเกี้ยมไฉ่เป็นเส้นๆ ใส่กระทะ

3. เติมเต้าเจี้ยว เติมน้ำสะอาดครึ่งถ้วยพอเดือดแล้วผสมแป้งมันกับน้ำเท่าๆ กัน คนๆ แล้วเทใส่กระทะ เหยาะซีอิ๊วขาวผัดให้ทั่วๆ อย่าผัดแรง เนื้อปลาจะเละ

4. ผัดให้ทั่วๆ แล้วตักใส่จาน โรยพริกไทยป่นก่อนเสิร์ฟ

นาทีนี้ต้องปากสีเบจ !



สีลิปสติกใหม่ๆ มีมากมายจนเลือกไม่ถูก แต่ถ้าอยากได้สีที่เข้าได้กับทุกชุดทุกโอกาส ขอให้ลองเลือกโทนสีเบจดูสักครั้ง แล้วคุณอาจได้ลิปสติกสีโปรดสีใหม่โดยไม่รู้ตัว

Glamorous Beige

• หากผิวหน้าแห้งกร้าน ควรใช้รองพื้นชนิดครีมที่ผสมสารบำรุง เกลี่ยจากกึ่งกลางใบหน้ากระจายออกด้านข้าง

• ไล้อายแชโดว์สีชมพูอ่อนผสมประกายคริสตัลให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นไล้อายแชโดว์สีเทาบริเวณกระบอกตา

เพื่อให้ดวงตาดูกลมโต

• ทาลิปสติกสีน้ำตาลอมชมพูบางๆ ให้ทั่วเรียวปาก เพื่อให้พื้นสีริมฝีปากดูชมพูระเรื่อ

• ปิดท้ายด้วยการทาลิปสติกสีเบจอมชมพูทับอีกครั้ง เรียวปากจะดูอิ่มเอิบมีเสน่ห์


T I P . . ถ้า ต้องทาลิปสติกแบบผสมสี ไม่ควรใช้วิธีทาจากแท่งลิปสติกโดยตรง สีพื้นที่ทาไว้จะปนกับสีของลิปสติกแท่งนั้น แนะนำให้ใช้ก้านคอตต้อนบัดปาดเนื้อลิปสติกออกมาจากแท่งก่อนทาจะดีกว่า









ที่มา ... สุดสัปดาห์

กฎ 12 ข้อในการใช้ปากและมือใน SEX



กฎทอง 12 ข้อ ของการใช้ปากในเชิง SEX ( จุมพิตและORAL)

1. ทำความสะอาดภายในช่องปากให้สะอาดและมีกลิ่นหอมก่อนปฏิบัติการ ทุก ครั้ง ที่สำคัญ คือควรใช้น้ำยาบ้วนปากจะดีกว่าการแปรงฟัน เพราะการแปรงฟันอาจจะทำให้เกิดแผลภาย ในช่องปาก ซึ่งเป็นช่อง ทางของการติดเชื่อได้

2. ก่อนปฏิบัติการไม่ควรทานอาหารที่มีกลิ่น หรือรสจัด เพราะแม้จะ ทำความสะอาดช่องปากแล้ว แต่กลิ่นอาจจะ ออกมาจากระบบทางเดิน อาหารได้

3. โกนหนวดให้เรียบเกลี้ยง หรือไม่ก็ปล่อยให้ยาวไปเลย เพราะ หนวดหรือเคราที่เพิ่งจะงอกใหม่ๆ เป็นตอสั้นๆ จะทิ่มแทงเนื้ออ่อนๆ ฝ่ายตรงข้ามให้เจ็บปวดได้

4. หากมีอาการฟันผุ หรือโรคเกี่ยวกับเหงือกและฟันควรรักษาให้หาย เพราะอาการของโรคในช่องปาก นอกจาก จะให้กลิ่นและ รสที่น่ารังเกียจแล้ว ยังเป็นการแพร่และรับเชื้อได้อย่างดีอีกด้วย

5. เม้มปากแรงๆ สัก 3-5 ครั้ง ก่อนปฏิบัติการ เพื่อเป็นการกระตุ้น ประสาทและกล้ามเนื่อบริเวณที่เกี่ยวข้อง

6. อย่าปล่อยให้ริมผีปากแห้งผาก ควรเลียริมผีปาก 1-2 ครั้ง ก่อน ปฏิบัติการ เพื่อให้ริมฝีปากนิ่มและชุ่มชื่น

7. ฝึกการห่อลิ้นในรูปแบบต่างๆ ให้คล่อง เช่น การแผ่ลิ้นแล้วคว้าน หรือการเกร็งลิ้นเป็นแท่งกลมและฉก อย่าลืม ว่าปากและลิ้นทำงาน ได้หลายรูปแบบทั้ง ดูด-เล็ม-เม้ม-ขย้ำ-ขบ-กัด-เลีย-ขยี้ ฯลฯ

8. ที่ห้ามเด็ดขาด คือ การ “ เป่า” ลมขาออกจากปอด (คาร์บอนไดอ๊อกไซด์) เข้าไปในร่างกายของฝ่ายตรงข้าม

9. ตรวจฟันปลอมให้แน่นหนา ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุอันไม่พึงปรารถนา ถ้าจำเป็นควรถอดฟันปลอมออกเก็บ ก่อน ปฏิบัติการทุกครั้ง

10. อย่าอมอะไรไว้ในปาก บางคนชอบอมลูกอมรสชาติต่างๆ หรือ ลูกอมเม็นทอลไว้ในปาก นัยว่าเพื่อเพิ่มรส ชาติซาบซ่า...มันไม่คุ้ม กับอุบัติเหตุลูกอมติดคอตายหรอก

11. เตรียมผ้าเช็คหน้า หรือกระดาษหอมไว้ใกล้มือ เพื่อใช้ในกรณี “ น้ำจิ้ม” หก หรือ “ น้ำแกง” มีมากเกินไป

12. อย่าลืมว่าปากมีไว้ “ ส่งเสียง” ได้ด้วย ฉะนั้นอย่าลืมออกเสียงทำงาน “ อื้มๆ – อ้ำๆ” เพื่อสร้างความรู้สึกดีให้ แก่ฝ่ายตรงข้าม

กฎทอง 12 ข้อของการใช้มือในเชิง SEX

1. ทำความสะอาดมือและเล็บให้สะอาด คงไม่มีสาวคนไหนพิศวาสหนุ่มมือสกปรกเล็บดำปี๋

2. ตัดเล็บให้สั้นๆ และตะไบเล็บอย่าให้คม การไว้เล็บยาวอาจจะทำให้ทั้งคุณและฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บได้

3. ฝ่ายมือที่หยาบกร้านอาจสร้างความระคายเคืองจนหมดอารมณ์มากกว่าที่จะกระต้นอารมณ์ ดังนั้นควรทาโลชั่น บ้าง เพื่อให้ผิวบริเวณฝ่ามือนุ่มขึ้น

4. จำไว้ว่า “ จุดที่ไวต่อความรู้สึกทางเพศ” ของฝ่ายตรงข้ามมีทั่วร่าง พยายามใช้มือทั้ง 2 ข้าง ให้เกิดประโยชน์ สูงสุด โดยโจมตีพร้อม ๆ กันมากกว่า 1 จุดในเวลาเดียวกัน

5. ระหว่างโจมตีด้วยมือ จับสังเกตอาการของเธอให้ดีในบางจุด เธออาจจะเจ็บหรือจักกะจี้.. ไม่ควรไปแตะต้อง

6. ใช้ความนุ่มนวลและความหนักแน่นให้ถูกจังหวะและจำให้แม่นว่าความรุนแรง เช่น บีบแรง บี้แรง รังแต่จะทำให้ หมดอารมณ์มากกว่าเกิดอารมณ์

7. ถ้าหากมือคุณ “ เย็น” เกินไป จะเป็นเพราะอุณหภูมิในห้องหรือจะเป็น เพราะความตื่นเต้นของคุณเองก็ตาม...ถู มือให้อบอุ่นก่อนเริ่มปฏิบัติการจะช่วยได้มาก

8. ถ้าคุณสวมแหวน หรือนาฬิกาข้อมือที่มีส่วนแหลมคม ควรถอดออกก่อน

9. ควรคำนึงถึง “ ลีลา” ที่ดูดีด้วยนะ อย่าให้การใช้มือของคุณออกมาในลักษณะเก้งก้าง หรือมือไม่พันกันมั่วไป หมด

10. เทคนิคเกี่ยวกับการใช้มือและนิ้วมีหลายอย่าง เช่น ลูบ คลำ ขยำ ขยี้ เคล้น คลึง นวด นาบ เกา ฯลฯ ควรฝึก และปฏิบัติการให้ได้หลายรูปแบบและคล่องแคล้ว

11. การใช้นิ้วมือแหย่แยงเข้าไปในบางจุด ควรรอให้มีการ “ หล่อลื่น” เสียก่อน อย่าฝืนแหย่ไปในความแห้งผาก แทนที่จะกระตุ้นอารมณ์ เหตุการณ์อาจเป็นตรงกันข้าม

12. ล้างมือให้สะอาดทันทีหลังปฏิบัติการ ถ้าคุณไม่อยากเป็นโรคผิวหนัง เช่น หิด กลกา ฯลฯ และคุณคงไม่อยาก ให้ “ กลิ่น” ติดมือจนคนอื่นจับได้








"วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร" วัดโบราณคู่เมืองเชียงใหม่



"วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร"

"วัดเจดีย์ หลวงวรวิหาร" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ โดยวัดนั้นตั้งอยู่ที่ถนนพระปกเกล้า วัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่พอดี ประดิษฐานเจดีย์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมากษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ.1913-1954)

ต่อมาพระยาติโลกราชโปรดให้ช่างขยายเจดีย์ให้สูงและกว้างกว่าเดิม แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานระหว่าง พ.ศ.2011-2091 นานถึง 80 ปี ต่อมาในสมัยพระนางจิระประภา ได้เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ. 2088 ทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลง ปัจจุบันเจดีย์มีความสูงคงเหลือ 40.8 เมตร ฐานกว้างด้านละ 60 เมตร

วิหารหลวงของวัดนี้เจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2471 หน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิมได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุด ของภาคเหนือ

ในวัดเจีย์หลวงนี้ยังมี เสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง สร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1839 ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็กๆ เสาอินทขิลนี้สร้างด้วยไม้ซุงต้นใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน ทุกปีในวันแรม 12 ค่ำเดือน 8 (เหนือ) หรือประมาณเดือนพฤษภาคมจะมีงานเรียกว่า เข้าอินทขิล เป็นการฉลองหลักเมือง

ข้อมูลโดย : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่)

เปิดตัวแวน14 ที่นั่ง Nissan NV3500 HD 2012

กลับมาพบกันอีกครั้งกับข่าวสารวงการยานยนต์ วันนี้ทาง Thaicarlover.com มีข่าวรถยนต์ใหม่จากค่ายรถยนต์ Nissan มาฝากเพื่อนๆ กันครับ

ถ้าพูดถึง Nissan NV หลายๆ คนคงนึกถึงรถขนาดเล็กๆ ที่มีการทำตลาดในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อน แต่วันนี้ Nissan NV3500 HD Passenger Van รุ่นใหม่ล่าสุด ได้มาพร้อมโฉมใหม่ ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 14 คน และสามารถปรับรูปแบบที่นั่งภายในได้มากถึง 324 แบบ ซึ่งผู้โดยสารสามารถปรับตำแหน่งเบาะนั่งแถว 2 และ 3 หรือถอดออกได้ ในขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 4 ซึ่งพับเก็บได้ในอัตรา 50:50 สามารถถอดออกได้บางส่วน หรือทั้งหมดได้เช่นกัน

Nissan NV 2012

Nissan NV 2012

ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ออฟฟิศเคลื่อนที่ๆ มีแหล่งจ่ายไฟขนาด 120 โวลท์ มาพร้อมบานประตูที่สามารถเปิดกว้างได้มากเป็นพิเศษ ประตูท้ายเปิดปิดแบบตู้กับข้าวในอัตรา 50:50 ไฟส่องสว่างส่วนตัวในที่นั่งแถวที่ 2, 3 และ 4

นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายเช่น ระบบนำทาง ระบบโทรศัพท์แบบ Bluetooth กล้องมองหลังที่ช่วยทำให้สามารถจอดรถขนาดใหญ่นี้ได้สะดวกมากขึ้น

ด้านข้าง Nissan NV 2012

ด้านข้าง Nissan NV 2012

ส่วนขุมพลังของ NV3500 HD รุ่นปี 2012 นี้ มี 2 รุ่นให้เลือกคือ เครื่องยนต์ V6 4.0 ลิตร 261 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 381 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ V8 317 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 522 นิวตันเมตร โดยทั้งสองรุ่นเครื่องยนต์ถูกขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ heavy duty 5 สปีด โดยรุ่นเครื่องยนต์ V6 มี 2 รุ่นย่อยคือ S และ SV ในขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ V8 มีเพียงรุ่นเดียวคือ SL

โดย Nissan จะเริ่มจำหน่าย NV โฉมใหม่นี้ในสหรัฐอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2012 ที่จะถึงนี้

ภายใน Nissan NV 2012

ภายใน Nissan NV 2012

สุดท้ายนี้เว็บ Thaicarlover.com อยากให้เพื่อนๆ ช่วยเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ประสบปัญหาอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หรือกำลังเตรียมการรับมือกับน้ำท่วม และน้ำท่วมรถ ด้วยครับ และถ้าเพื่อนๆ สามารถช่วยเหลือสิ่งใดได้ก็ขอให้ช่วยเหลือตามกำลังความสามารถครับ

สำหรับแฟนๆ นิสสัน ในบ้านเราอาจจะต้องรอลุ้นว่าจะมีอะไรเด็ดๆ มาเปิดตัวที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้ หรืองานมอเตอร์โชว์ 2012 (Motor Show 2012) ในต้นปีหน้าหรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ Nissan ต้องติดตามกันต่อไปครับ

ข้าวหน้าเนื้อใจเสือ

ข้าวหน้าเนื้อใจเสือ

ส่วนผสม
1.เนื้อวัวสไลด์(หรืออาจจะเป็นเนื้อหมูก็ได้) 1 ถ้วย
2.น้ำตาล 2 ช้อนชา
3.ซอสหอยนางรมแม็กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ
4.ซอสปรุงอาหารแม็กกี้ 1/2 ช้อนโต๊ะ
5.งาคั่วบุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ
6.ต้นหอมหั่นฝอย 1 ช้อนชา
7.น้ำสต็อก 5+5+5 1 ถ้วย
8.น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
9.ข้าวหอมมะลิร้อนๆ 1 ถ้วย

วิธีทำ
หมักเนื้อวัวสไลด์ด้วยซอสปรุงอาหารแม็กกี้ และ ซอสหอยนางรมแม็กกี้ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอกระทะร้อนใส่เนื้อสไลด์ ผัดพอสุก ใส่งาบุบ ใส่น้ำสต็อก 5+5+5 ปรุงรสด้วยซอยหอยนางรมแม็กกี้ และน้ำตาล ปล่อยให้เดือดอีกครั้ง ตักราดบนข้าวสวย โรยด้วยต้นหอม ยกเสิร์ฟได้


ตามติดความอร่อยแบบมีสไตล์อย่างนี้ได้ที่www.goodfoodgoodlife.in.th

เลียบย่านบางขุนพรหม-บางลำพู เดินเท้าดูวัดวังเก่าแก่ในเมืองกรุง

โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

พระศรีอริยเมตไตรย วัดอินทร์
ย่านบางลำพูที่วันนี้น้ำปิ่มตลิ่งและมีไหลล้นมาท่วมบ้างในบ้างพื้นที่ตามน้ำทะเลหนุน เป็นสถานที่ที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะฉันทำงานอยู่แถวนี้ แต่ในย่านติดๆกันอย่างบางขุนพรหม ฉันกลับไม่ค่อยได้ไปเดินซอกแซกเลย แต่หลังจากที่ "พี่นัท-จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา" ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์คนเดิมชวนฉันไปเดินเล่นย่านบางขุนพรหมบางลำพู ในกิจกรรมสรรพ์สารศิลป์ เมื่อไม่นานมานี้ ฉันในฐานะคนย่านนี้รีบตกปากรับคำในทันที

สำหรับสถานที่แรกในทริปเดินเท้านี้ พวกเราไปเจอกันที่วัดอินทร์ หรือ “วัดอินทรวิหาร” สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายประมาณ พ.ศ.2295 เดิมชื่อวัดไร่พริก แต่มาเปลี่ยนเมื่อสมัยรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯพระราชทานที่ดินในตำบลบางขุนพรหมให้เป็นที่ตั้งบ้านเรือนของครอบครัวเชลยชาวเวียงจันทน์ เจ้าอินทร์ผู้เป็นน้าชายของเจ้าน้อยเขียวพระสนมเอก ได้บูรณะพระอารามขึ้นและนิมนต์เจ้าคุณพระอริญญิก พระสงฆ์ชาวเวียงจันทร์ที่อพยพมาด้วยกันขึ้นปกครองวัด ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดอินทร์” ตามนามผู้บูรณะ ต่อมามีการบูรณะอีกครั้งหนึ่ง ผู้บูรณะคือ เจ้าอินทวงศ์ พระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพ

อุโบสถทรงไทยแบบอยุธยาของวัดอินทร์
ภายในวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสำคัญคือ พระพุทธรูปหลวงพ่อโต หรือ “พระศรีอริยเมตไตรย” ได้ริเริ่มสร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรขนาดใหญ่ สูงถึง 16 วา กว้าง 5 วา 2 ศอก ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนทรงบาตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย และบนยอดเกศประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้เราได้กราบไหว้กันด้วย

ส่วนอุโบสถมีลักษณะเป็นทรงไทยแบบอยุธยา ประดับและปูพื้นด้วยหินอ่อนและหินแกรนิต ช่อฟ้าใบระกาหน้าบัน ซุ้มเสมา เป็นงานฝีมือปูนปั้นแบบอยุธยา ประดับกระจกดูแล้วงดงามมากทีเดียว ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยอยุธยา และอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดคือจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องชีวประวัติของหลวงพ่อโตเอาไว้

พระประธานสมัยอยุธยาภายในอุโบสถวัดอินทร์
จากวัดอินทร์ ฉันเดินข้ามถนนมายัง “วังบางขุนพรหม” อัครสถานในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ผู้ประทานกำเนิดวังบางขุนพรหมแห่งนี้โดยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้รวบรวมจัดซื้อที่ดินสร้างพระราชทานเป็นที่ประทับของเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ พระราชโอรส เมื่อปีพ.ศ.2442 ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากยุคบาโรกและรอกโกโกที่ดูแล้วรู้สึกถึงลวดลายที่โดดเด่นงดงามยิ่งนัก

ในอดีตวังแห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานสโมสรสันนิบาต ต้อนรับแขกเมือง เป็นที่จัดงานสังสรรค์ของพระบรมวงศานุวงศ์ และเป็นสถานที่ให้ครูชาวต่างชาติใช้จัดสอนวิชาต่างๆให้กับพระธิดาและเจ้านายฝ่ายในของวังอื่นๆ จนเรียกกันติดปากว่า “บางขุนพรหมยูนิเวอร์ซิตี้”

สถาปัตยกรรมของวังบางขุนพรหม
แต่มาภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯต้องลี้ภัยไปประทับ ณ เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย วังบางขุนพรหมได้แปลงมาใช้เป็นสถานที่ราชการหลายแห่งด้วยกัน จนเมื่อปี 2488 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เช่าวังบางขุนพรหมเป็นที่ทำการธนาคาร และเคยใช้เป็นที่ตั้งสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทยที่เรียกว่า สถานีโทรทัศน์ ไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหม มาในปัจจุบันได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย

สำหรับพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย วังบางขุนพรหม โดยปกติแล้วการจะเข้าชมภายในจะต้องทำหนังสือขออนุญาตผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ แต่ในช่วงนี้เปิดให้เข้าชมได้โดยไม่ต้องทำหนังสือขออนุญาตในวันจันทร์และอังคาร ในเวลาราชการ โดยเฉพาะวันอังคารจะมีการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับประวัติ ในเวลา 10.30-11.00 ใครที่สนใจก็อย่ารอช้า มาชมกันได้เลย

พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย วังบางขุนพรหม
ใกล้ๆกับวังบางขุนพรหมนั้น ก็เป็นที่ตั้งของ “วังเทวะเวสม์” ซึ่งเป็นวังที่รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯสร้างพระราชทานสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เมื่อ พ.ศ.2457 ตัวตำหนักใหญ่วังเทวะเวสม์ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ เป็นอาคารแบบยุโรป 3 ชั้น ศิลปะแบบนีโอคลาสสิค ส่วนอาคารย่อย 7 หลัง ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน แต่ปัจจุบันอาคารเหลือเพียง 2 หลังเท่านั้น

พิพิธภัณฑ์ฯวังเทวะเวสม์
หลังจากที่กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการสิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ.2466 กระทรวงสาธารณสุขซื้อวังเทวะเวสม์และใช้เป็นที่ตั้งกระทรวง ต่อมาเมื่อกระทรวงสาธารณสุขย้ายไปอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี และธนาคารแห่งประเทศไทยได้ซื้อที่ทั้งหมดไว้ และได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงวิธีอนุรักษ์โบราณสถานวังบางขุนพรหมและวังเทวะเวสม์ในเชิงวิชาการด้านสถาปัตยกรรม ดังเช่นในปัจจุบัน

เมื่อชม 2 วังอันทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมกันแล้ว พวกเราเดินเลียบถนนสามเสนมายังสามเสนซอย 5 ต่อไปยัง “วัดสามพระยาวรวิหาร” วัดเก่าแก่ในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยหลวงวิสุทธิ์โยธามาตย์ (ตรุษ) ขุนนางเชื้อสายมอญ พร้อมด้วยวงศาคณาญาติได้ร่วมใจกันยกที่ดินพร้อมทั้งบ้านเรือนของขุนพรหม (สารท) ผู้เป็นน้องชาย อุทิศถวายเป็นวัดเพื่อเป็นผลบุญและเป็นอนุสรณ์แก่ ขุนพรหม ซึ่งเสียชีวิตด้วยไข้ป่า วัดนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดบางขุนพรหม"

พระอุโบสถแบบจีน วัดสามพระยา
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่3 วัดบางขุนพรหมชำรุดทรุดโทรมลง พระยาราชสุภาวดี (ขุนทอง) พระยาราชนิกุล (ทองคำ) และพระยาเทพอรชุน (ทองห่อ) ซึ่งเป็นบุตรของน้องสาวคนสุดท้อง (พวา) ของหลวงวิสุทธิโยธามาตย์ (ตรุษ) และขุนพรหม (สารท) จึงพร้อมใจกันปฏิสังขรณ์วัดจนสำเร็จบริบูรณ์ แล้วน้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 3 และพระองค์ได้โปรดเกล้าฯ รับเป็นพระอารามหลวง พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า "วัดสามพระยาวรวิหาร"

พระพุทธเกสร พระประธานภายในอุโบสถวัดสามพระยา
พระอุโบสถของวัดก่ออิฐถือปูน หลังคาซ้อน 2 ชั้น มุงกระเบื้องลอนเคลือบสีแบบจีน หน้าบันไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ภายในประดิษฐานพระประธานนามว่า "พระพุทธเกสร" เป็นพระพุทธรูปปิดทองปางสมาธิ นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกได้แก่ พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ปางอุ้มบาตร หรือหลวงพ่อนั่ง และพระพุทธไสยาสน์ หรือหลวงพ่อนอน ที่เป็นที่นับถือของชาวบ้านในละแวกนี้ด้วย

พระนอนวัดสามพระยามีพุทธลักษณะยิ้มดูอ่อนโยน
จากวัดสามพระยา พวกเราเดินต่อไปตามถนนสามเสนผ่านแยกบางลำพูตรงไปยังตรอกมัสยิดจักรพงษ์ เพื่อไปยัง “มัสยิดจักรพงษ์” หรือ “สุเหร่าวัดตองปุ” เป็นศาสนสถานของชาวไทยมุสลิมในย่านบางลำพู สร้างขึ้นโดยชาวเมืองปัตตานีที่ถูกกวาดต้อนมาในสมัยรัชกาลที่ 1

มาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เชลยที่มีความสามารถทางด้านการทำทองจะถูกส่งตัวมาทำงานในย่านนี้ ทำให้ชุมชนมัสยิดจักรพงษ์มีความสามารถในเรื่องการทำทองสืบต่อกันมา แต่ปัจจุบันในชุมชนไม่มีการทำทองแล้ว เนื่องจากการทำทองทำได้ยากและเสียเวลาทำให้ไม่มีผู้ใดสืบทอดการทำทองต่อไป

มัสยิดจักรพงษ์ สร้างโดยชาวปัตตานี
เปลี่ยนอารมณ์เข้ามัสยิดไปแล้วก็กลับมาปิดท้ายทริปนี้ที่ “วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร” วัดที่มีชื่อเป็นมงคลยิ่งวัดนี้สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดกลางนา มาในสมัยรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนเป็นวัดตองปุ เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ สงครามท่าดินแดงและสามสบ และสงครามที่ป่าซาง นครลำปาง

พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ พระประธานวัดชนะสงคราม
เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาททรงปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้แล้วถวายเป็นพระอารามหลวง รัชกาลที่ 1 ก็ได้โปรดเกล้าฯพระราชทานนามให้ใหม่ว่า“วัดชนะสงคราม” เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงมีชัยชนะต่อพม่าในการรบทั้ง 3 ครั้ง

พระอุโบสถมีขนาดใหญ่ลักษณะเป็นโรงโถง หน้าบันมีช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ แกะสลักเป็นรูปซุ้มประตูมีนารายณ์ทรงครุฑ ซุ้มประตูเป็นรูปปั้นลายกนก บานประตูจำหลักลายกนกลงรักปิดทองประดับกระจก ด้านในมีภาพจิตรกรรมเขียนสีอันงดงาม สำหรับพระประธานภายในพระอุโบสถนามว่า “พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชษฐ์” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย

พระอุโบสถแบบไทยขนาดใหญ่ วัดชนะสงคราม
เมื่อกราบไหว้ขอพรปิดท้ายและชมความงามของฝีมือสกุลช่างวังหน้ากันแล้ว ก็เป็นอันจบทริปเดินเท้าเลาะเลียบย่านบางขุนพรหม-บางลำพู ซึ่งช่วงนี้สถานการณ์ในย่านนี้แม้จะไม่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วม แต่ก็ถือว่ายังเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา แต่ถ้าหากว่าเหตุการณ์น้ำท่วมผ่านพ้น บริเวณนี้ถือเป็นอีกหนึ่งย่านประวัติศาสตร์ที่มากไปด้วยสิ่งชวนชมและของกินอร่อยๆ ซึ่งผู้สนใจสามารถหาวันหยุดมาเดินเที่ยวกันได้แบบไม่รู้เบื่อ

ที่มา http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000145272

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม