8 เดือนตลาดรถโตกว่า 20%

ข่าวในประเทศ - ยักษ์ใหญ่โตโยต้าประกาศยอดขายรถยนต์ทุกยี่ห้อ 8 เดือน 583,958 คัน เพิ่มขึ้น 19.6% เหตุค่ายรถญี่ปุ่นได้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเร่งส่งมอบรถค้างจองให้เร็วขึ้น

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนสิงหาคม 2554 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 79,043 คัน เพิ่มขึ้น 20.3% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 35,545 คัน เพิ่มขึ้น 26.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 43,498 คัน เพิ่มขึ้น 15.7% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 37,309 คัน เพิ่มขึ้น 14.8%

ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม มีปริมาณการขาย 79,043 คัน เพิ่มขึ้น 20.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 35,545 คัน เพิ่มขึ้น 26.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีปริมาณการขาย 43,498 คัน เพิ่มขึ้น 15.7% เป็นผลจากค่ายรถญี่ปุ่นซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 85% ได้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเร่งส่งมอบรถค้างจองให้เร็วขึ้น อย่างไรก็ดีรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งแนะนำเข้าสู่ตลาดและรถยนต์รุ่นยอดนิยม ยังคงมียอดค้างจองอยู่เป็นจำนวนมาก

ทางด้านตลาดรถยนต์สะสม 8 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 583,958 คัน เพิ่มขึ้น 19.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 24.3% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น16.1% เป็นผลมาจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ กำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในเกณฑ์ดีสะท้อนจากราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงขยายตัว อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ และการขยายตัวของสินเชื่อทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

คาดว่าตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากการเพิ่มกำลังการผลิตของค่ายรถญี่ปุ่น ความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่ และมาตรการลดภาษีรถยนต์คันแรกที่มีผลบังคับใช้ทันที แต่ทั้งนี้ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศอาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ได้

ยอดจำหน่ายรถยนต์รวม
ยี่ห้อสิงหาคม 54สิงหาคม 53มกราคม-สิงหาคม 54มกราคม-สิงหาคม 53
โตโยต้า32,10827,008216,404197,959
อีซูซุ13,10411,595105,14493,848
ฮอนด้า7,35910,00460,87972,051
มิตซูบิชิ6,5803,22147,06123,006
นิสสัน6,0035,02048,70832,598
มาสด้า3,9002,90027,86322,829
ฮีโน่8688856,9746,043
ซูซูกิ6874795,9943,461
มิตซูบิชิ-ฟูโซ่5927466449
ซูบารุ10811177
นิสสัน-ดีเซล230102454
รวมรถญี่ปุ่น70,68061,177519,706452,775
เชฟโรเลต3,0901,59221,02612,128
ฟอร์ด2,67686620,5145,564
โปรตอน5033764,4004,060
ฮุนได4152533,1601,835
ทาทา3793833,7603,265
บีเอ็มดับเบิลยู3392372,4351,848
เบนซ์2934473,0973,161
ดีเอฟเอ็ม172601,057400
วอลโว่141651,193766
เกีย7032535374
โฟล์คสวาเกน5354494427
วูหลิง5033313245
เปอโยต์13510949
แดวู023628
ยี่ห้ออื่นๆ1691422,1231,163
รวมทั้งหมด79,04365,724583,958488,088


ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่ง
ยี่ห้อสิงหาคม 54สิงหาคม 53มกราคม-สิงหาคม 54มกราคม-สิงหาคม 53
โตโยต้า15,75611,142104,91484,377
ฮอนด้า6,9909,11956,77865,736
นิสสัน4,2542,62032,26517,456
มาสด้า2,9492,26221,21319,169
มิตซูบิชิ6076475,5525,081
ซูซูกิ3702703,0331,403
ซูบารุ869860
รวมรถญี่ปุ่น30,93426,066223,853193,282
ฟอร์ด1,81729014,4701,200
เชฟโรเลต1,57554910,8965,051
โปรตอน5033764,4004,060
เบนซ์2594222,9543,006
บีเอ็มดับเบิลยู2052021,9231,622
วอลโว่5445476420
เกีย4330320241
ฮุนได1609518
โฟล์คสวาเกน1422183225
เปอโยต์13510941
ยี่ห้ออื่นๆ1121111,6531,007
รวมทั้งหมด35,54528,118261,332210,173


ยอดจำหน่ายรถกระบะ 1 ตัน
ยี่ห้อสิงหาคม 54สิงหาคม 53มกราคม-สิงหาคม 54มกราคม-สิงหาคม 53
โตโยต้า14,32814,592100,187101,425
อีซูซุ12,19410,68896,16187,325
มิตซูบิชิ5,9732,57441,50817,924
นิสสัน1,7062,36516,03214,826
เชฟโรเลต9997267,3474,593
มาสด้า9506336,6373,614
ฟอร์ด8155295,7004,026
ทาทา3443833,6023,265
รวมทั้งหมด37,30932,490277,174236,998

ทาทา’ฮึดสู้ส่งปิกอัพ-เก๋งเล็ก ใหม่ลุยตลาด

กลับมาอีกครั้งแล้ว สำหรับข่าวสารวงการรถยนต์ นำข่าวรถยนต์จากค่าย Tata มาฝาก พี่ๆ น้องๆ กันบ้างครับ
ซึ่งล่าสุดทาง Thaicarlover.com ได้ข่าวมาว่า

ค่ายรถแดนภารตะ “ทาทา” ดิ้นหนีตายอุตลุด ไม่เพียง 4 ค่ายยักษ์ใหญ่จ่อคิวเปิดตัวปิกอัพโฉมใหม่ถล่มตลาด ยังเจอสถานการณ์ความไม่แน่นอนของปริมาณก๊าซซีเอ็นจี และนโยบายปรับราคาเพิ่มของรัฐบาลใหม่ ทำให้ยอดขายปิกอัพ “ทาทา ซีนอน ไจแอนต์ ซีเอ็นจี” (Tata Xenon Giant CNG) ชะลอตัวแรง จนต้องปรับกลยุทธ์หนีตาย เตรียมหันมาเน้นเครื่องดีเซลคอมมอนเรลมากขึ้น

นอกจากนี้ Tata ยังเตรียมเปิดตัวปิกอัพรุ่นใหม่ “ทาทา ซีนอน แม็กซ์ แค็บ” (Tata Xenon Max Cab) เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ด้วยการจับรุ่นมีแค็บมาใส่กระบะพื้นเรียบ เพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มเถ้าแก่มากขึ้น เพราะสามารถบรรทุกของได้มากกว่า แต่เคาะราคาเท่ากับรุ่นมีแค็บธรรมดา

Tata Xenon

Tata Xenon

ขณะที่เก๋งเล็กยังยืนยันเดินหน้านำเข้าซิตี้คาร์ “ทาทา นาโน” มาทำตลาด ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 ปลายปีนี้ เคาะราคาแบบเต็มกลืน 2.75 แสนบาท โดยปรับสเปกและอุปกรณ์มาตรฐานให้เหมาะสมกับลูกค้าชาวไทย เล็งเจาะกลุ่มสิงห์นักบิดสองล้อที่ต้องการขยับขึ้นมาใช้เก๋งคันแรก ฉีกหนีอีโค คาร์ที่กำลังเข้าสู่โหมดแข่งเดือดเร็วๆ นี้

Tata Xenon Max Cab

Tata Xenon Max Cab

ใกล้จะเข้าโค้งสุดท้ายของปี 2554 สัญญาณปี่กลองในเวทีตลาดรถยนต์ไทย โดยเฉพาะกลุ่มปิกอัพบ่งบอกว่ากำลังจะเปิดฉากฟาดฟันกันแล้ว เห็นได้จากการเปิดโรงงานเครื่องยนต์ดีเซลมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็มในประเทศไทย เพื่อติดตั้งในปิกอัพ “เชฟโรเลต โคโลราโด” โฉมใหม่ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายเดือนกันยายน หรือต้นตุลาคมนี้

Tata Nano

Tata Nano

เช่นเดียวกับ “อีซูซุ ดีแมคซ์” โฉมใหม่ ที่มีข่าวลือสะพัดจะมาเขย่าตลาดช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะที่ “ฟอร์ด เรนเจอร์” ใหม่ จะเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการ วันที่ 28 กันยายนที่จะถึงนี้ และหลังจากนั้นคงจะมีการแนะนำสู่ตลาดในอีกไม่นาน และแน่นอน “มาสด้า บีที-50” ใหม่ ที่ผลิตจากโรงงานเดียวกัน จะมีการผลิตในเวลาไล่ๆ กัน แม้จะเปิดตัวขายเป็นทางการต้นปีหน้าก็ตาม

อย่าพลาดติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถใหม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ

ถกลงตัว! ลิสซิ่งขายรถได้ก่อน 5 ปี หากผู้ซื้อเบี้ยวผ่อน

ฟอร์ด เฟียสต้า


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


สรรพสามิตไฟเขียวให้ลิสซิ่งขายรถที่ยึดจากผู้ซื้อเบี้ยวผ่อนต่อได้ก่อน 5 ปี แต่หากขายรถได้ต้องคืนรัฐบาล 1 แสน ด้าน รมว.พาณิชย์ ปัดตอบรถคันแรกผิดหลัก WTO หรือไม่ โบ้ยให้ถามขุนคลังแทน

หลังจาก ครม.เห็นชอบนโยบายคืนภาษีรถคันแรก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้ ก็ทำให้ทางสมาคมผู้ประกอบการเช่าซื้อ หรือ ลิสซิ่ง ออกมาแสดงความเป็นห่วงทันทีว่า หากผู้ซื้อรถได้รับเงินภาษีคืนแล้วใน 1 ปี อาจจะไม่ชำระหนี้ต่อ และยอมให้รถถูกยึดแทน และถึงกระนั้น ทางลิสซิ่งก็ไม่สามารถนำรถไปขายต่อได้ เพราะติดสัญญาห้ามโอนเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งด้วยข้อสัญญานี้ทำให้ลิสซิ่งมีความเสี่ยงที่จะต้องแบกรับภาระหนี้เสียไว้เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว ล่าสุด ทางลิสซิ่งได้เข้าประชุมหารือถึงทางออกของปัญหากับกรมสรรพสามิตแล้ว และได้ข้อสรุปร่วมกันว่า กรมสรรพสามิตจะอนุญาตให้ลิสซิ่งโอนรถให้กับผู้อื่นได้ โดยไม่ต้องรอให้ถึง 5 ปีตามสัญญา หากผู้ซื้อรถผิดนัดชำระหนี้ตามข้อกำหนด 3 เดือน ไฟแนนซ์จะสามารถเจรจาตามยึดรถคืนได้ทันที และเมื่อลิสซิ่งนำรถยนต์ไปขายต่อขายได้ราคาเท่าใดแล้ว ให้นำมาหักภาระหนี้ และส่งเงินคืนรัฐบาล 100,000 บาท ทั้งนี้ ระหว่างที่ขอคืนเงินชดเชยประชาชนต้องทำสัญญากับกรมสรรพสามิตด้วยว่า หากผิดนัดชำระหนี้ต้องคืนเงินชดเชยกับรัฐบาล

ขณะเดียวกัน นอกจากปัญหาเรื่องการผิดนัดชำระหนี้รถคันแรกแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่หลายฝ่ายยังเป็นกังวลอยู่ก็คือ นโยบายรถคันแรกอาจขัดต่อกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) เรื่องการกีดกันทางการค้า เนื่องจากรัฐบาลกำหนดหลักเกณฑ์การซื้อรถคันแรกว่า ต้องเป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิคืนภาษี

เกี่ยวกับประเด็นนี้ นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ทางกรมกำลังจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวเสนอต่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ โดยอาจปรับถ้อยคำของนโยบาย เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก ซึ่งแม้ว่านโยบายรถคันแรกนี้จะไม่ผิดกติกาขององค์การการค้าโลก และเป็นการส่งเสริมให้คนไทยบริโภคสินค้าในประเทศที่ทุกประเทศสามารถทำได้ แต่ต้องใช้วิธีการที่จะไม่เป็นการขัดผลประโยชน์ของต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า นโยบายรถคันแรกผิดต่อหลักเกณฑ์ขององค์การการค้าโลกหรือไม่ โดยระบุว่าให้ไปสอบถามจากนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง แทน


รถคันแรกป่วน 3 ค่ายยักษ์ เจอลูกค้าชะลอจอง

นโยบายรถคันแรกป่วน คลังคุยลีสซิ่ง แก้ปมทิ้งรถ 3 ค่ายยักษ์ เจอลูกค้าชะลอจอง รอใช้สิทธิ์

จากการสำรวจศูนย์จำหน่ายรถยนต์ที่เข้าข่ายโครงการรถคันแรกของรัฐบาล ของสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. และได้สอบถามถึงการใช้สิทธิ์รับใบจองรถคันแรกตามนโยบายรัฐบาล อย่างศูนย์รถยนต์นิสสัน หลายสาขาพบว่า มีรถที่เข้าข่ายโครงการรถคันแรกคือ นิสสัน รุ่นมาร์ช มีลูกค้าสนใจเข้ามาดูและจองก่อนวันที่ 16 กันยายน 54 แต่หลังจากนโยบายดังกล่าวถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชน ทำให้ลูกค้าต่างทยอยโทรศัพท์มาขอเลื่อนการจองออกไปหลายรายด้วยกัน ซึ่งทางสาขาก็ไม่กังวล เพราะเป็นนโยบายที่ต้องการส่งเสริมคนมีรถยนต์คันแรก แต่ก็ถือว่ากระทบ เพราะลูกค้าที่หาได้ แต่ละรายก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ซึ่งรถรุ่นนี้เป็นรถอีโคคาร์ และได้คืนเงินน้อยกว่าอีโคคาร์ของค่ายอื่น ๆ อาจทำให้ลูกค้าตัดสินใจไปซื้อยี่ห้ออื่น บริษัทอื่นได้ แต่ทั้งนี้คาดว่า วันเสาร์ที่ 17 กันยายน 54 จะทราบเงื่อนไขและขั้นตอนทั้งหมด เนื่องจากผู้จัดการจะต้องไปประชุมเพื่อปรับความเข้าใจในการขายรถยนต์ให้ตรงกับนโยบาย และเข้าใจตรงกัน รวมถึงทำความเข้าใจให้ลูกค้าได้ตรงกันด้วย

ขณะที่ฝ่ายขายของศูนย์รถยนต์มาสด้าแห่งหนึ่ง กล่าวว่า รถคันแรกก็กระทบเหมือนกัน มีลูกค้าในมืออยู่หลายรายที่มาดูรถ และขอจอง แต่ต่อมาพอมีนโยบายรถคันแรกให้ใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 16 กันยายน คือวันนี้เป็นวันแรกที่ได้รับสิทธิ์ หากผ่านไฟแนนซ์และได้เงินคืนจะได้ในอัตราที่สูง กรณีลูกค้าบางรายขอเงินมัดจำคืน แล้วได้พยายามชี้แจงว่า จะไม่ได้เงินมัดจำคืน แต่ลูกค้าก็ยืนยันว่า เงินมัดจำกับจำนวนเงินที่ได้คืนจากการซื้อก็ถือว่าคุ้ม แต่ทางศูนย์ก็คืนเงินมัดจำให้ ซึ่งก็ต้องรอดูวันนี้ ที่กระทรวงการคลังได้หารือกับกลุ่มไฟแนนซ์ ว่า จะมีทางออกกรณีลูกค้าซื้อรถคันแรกเพื่อหวังเงินแสน จะมีผลออกมาว่าอย่างไร การวางเงินมัดจำจะยึดที่ 20 % หรือ 25 % โดยไม่ต้องค้ำประกัน หรือจะดาวน์รถราคา 5 % แล้วจะลดความเสี่ยงที่ลูกค้ารับเงินคืน แล้วไม่ส่งต่ออย่างไร

ทั้งนี้ เดิมที ฝ่ายขายเข้าใจว่า จะยึดวันจดทะเบียน แต่เพราะรัฐบาลไม่ชัดเจนก่อนหน้านี้ ทำให้ลูกค้ามาดูรถที่ชอบและตัดสินใจจอง แต่ปรากฏว่า เริ่มวันรับใบจองวันนี้เป็นวันแรก ลูกค้าที่จองก่อนหน้านี้ ก็เริ่มทยอยโทรศัพท์มาขอเลิกการจองหลายราย


สรรพสามิต ยันคืนภาษีให้ผู้ซื้อรถคันแรกผ่านไฟแนนซ์

จากการที่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง ได้เข้าร่วมหารือร่วมกับผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมาคมเช่าซื้อรถยนต์ สมาคมวินาศภัย เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการคืนภาษีสำหรับรถยนต์คันแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา

นายบุญทรง ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมสรรพสามิตกำลังจัดทำระบบและขั้นตอนการคืนเงิน โดยจะแจ้งภาษีรถยนต์ในแต่ละรุ่นให้กับประชาชนรับทราบ รวมไปถึงขั้นตอนการคืนเงิน และคำร้องคืนเงิน ในเว็บไซต์กรรมสรรพสามิต (www.excise.go.th) ภายในวันนี้ (16 กันยายน) ซึ่งผู้ที่จะได้รับสิทธิ์คืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกจะต้องมีการจองซื้อรถยนต์หลังจากวันที่ 16 กันยายน เป็นต้นไป และถ้าหากจองซื้อก่อนหน้าวันดังกล่าวก็จะไม่ได้รับสิทธิ์

ทั้งนี้ ในช่วงปิดโครงการวันที่ 31 ธันวาคม 2555 รถที่จะใช้สิทธิ์นั้น จะต้องมีการจดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อย จึงจะสามารถขอใช้สิทธิ์ได้ และไม่ยึดใบจอง ส่วนกรณีของผู้จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมานั้น จะต้องมีการตรวจสอบในแนวทางอื่น ๆ ร่วมด้วยว่า ผู้ที่ขอใช้สิทธิ์นั้นเป็นผู้ที่มีรถคันแรกจริงหรือไม่ ส่วนการการคืนเงินภาษีนั้น จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี

รมช.คลัง ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการคืนภาษีให้กับผู้ผ่อนไฟแนนซ์นั้น ทางรัฐบาลยืนยันว่า จะคืนภาษีให้กับผู้ซื้อรถอย่างแน่นอน แต่ถ้ารถดังกล่าวผู้เช่าไม่สามารถผ่อนจนหมดได้ ก็ต้องถูกยึดรถ ทางบริษัทไฟแนนซ์ก็ต้องช่วยตามทวงภาษีคืนจากผู้ซื้อให้ได้ แต่ถ้าเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ทางรัฐบาลจะตามทวงคืนเอง ส่วนรถดังกล่าวทางกรมสรรพสามิตจะพิจารณาถึงการคืนสิทธิ์ในการห้ามโอนต่อไฟแนนซ์เพื่อนำไปซื้อขายต่อได้

อย่างไรก็ตาม การเงินคืนเป็นการหน้าที่ของกรมสรรพสามิตที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งตนยอมรับว่า การคืนภาษีในครั้งนี้ จะไม่มีกลไกตามภาษีคืน และไม่มีการปรับเงินเพิ่มเหมือนกับการไม่จ่ายภาษีให้กรมสรรพากร แต่ทางรัฐบาลจะใช้กฎหมายแพ่งเพื่อฟ้องเรียกเงินคืนเป็นราย ๆ ไป

ขณะที่ นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงเรื่องใบจองก่อนวันที่ 16 กันยายนว่า ผู้ซื้อต้องหารือกับตัวแทนจำหน่าย หรือบริษัท ในการคืนใบจอง และจองซื้อใหม่ เพื่อให้เข้าเงื่อนไขของทางภาษี ซึ่งทางฮอนด้าพร้อมที่จะคืนเงินจองในส่วนที่จองไปก่อนให้เสมอ


ดาวน์โหลดข้อมูลการคืนเงินรถยนต์คันแรก (Excel File)

รถยนต์นั่ง คลิกที่นี่

รถยนต์นั่งที่มีกระบะ(Double Cab) คลิกที่นี่

รถยนต์กระบะ(Pick Up) คลิกที่นี่



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ค่ายรถแห่สนอง “รถคันแรก“ ช๊อค! อีโค่คาร์คืนสูงสุด 90000 บาท

เป็นประเด็นร้อนท่ามกลางกระแสข่าวในช่วงนี้ สำหรับนโยบาย "รถคันแรก" ที่ให้สิทธิ์ผู้ที่มทีอายุตั้งแต่ 21 ปี ได้มีสิทธิเป็นเจ้าของรถยนต์ตามต้องการทั้งในกลุ่มซิตี้คาร์และกระบะ โดยมีเงื่อนไขราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท และเริ่มแล้ววันนี้ทั่วประเทศ

กระแสที่ได้รับการตอบรับดีจากประชาชนผ่านการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา แต่นี่ถือเป็นนาทีทองสำหรับค่ายรถยนต์หลายเจ้าที่ต่างออกมาหน้าชื่นตาบานกันทั่วหน้า ตั้งแต่รายใหญ่จนถึงรายย่อย ที่ส่งซิกเคลื่อนไหวตั้งแต่วันแรกที่เคาะนโยบาย

ค่ายแรกที่ออกตัวแรงตั้งแต่วันแรกที่นโยบายเป็นรูปธรรมมากขึ้นนั้นดูทีท่าจะไม่พ้นค่ายรถยนต์ Mazda ที่ออกมาตอบรับกระแสรถยนต์คันแรก โดยนางสาว สุรีย์ทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลล์(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถยนต์ มาสด้า 2 เสียภาษีสรรพสามิตรในอัตรา 25% และสามารถได้ภาษีคืนสูงสุด 100,000 บาท ทั้งรุ่น 4 และ 5 ประตู ซึ่งยังให้ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อมดอกเบี้ยต่ำสุด 2.4 % ต่อปี และในโอกาสนี้ก็มอบฟรีค่าบำรุงรักษานาน 2 ปี ส่วนมาสด้า BT50 ก็เข้าข่ายเช่นกัน และพร้อมกันนี้ ทางบริษัทมอบโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าที่นำรถเก่ามาแลกรถใหม่ให้สูงสุด 15,000 บาท และยังมาพร้อมดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งด้วย

"โครงการนี้ทำให้ตลาดรถยนต์กลุ่ม 1.5 ลิตรหอมหวนมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร หรืออีโค่คาร์เองคงต้องชั่งใจเพิ่ม เนื่องจากกลุ่มบีคาร์นั้นจะได้รับอัตราคืนเงินตามโครงการนี้สูงกว่า ในขณะที่กลุ่มกระบะนั้นราคาอาจจะสูงแต่เมื่อคำนวนเงินที่จะได้คืนอาจจะได้แค่ 3-4 หมื่นเท่านั้น"

เครือ General Motor ที่มีแม่ทัพใหญ่ นาย มาร์ติน แอฟเฟิล ออกมาตอบรับนโยบายนี้เช่นกัน โดย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ออกแถลงการณ์ว่า โครงการนี้จะช่วยให้ผู้ซื้อที่กำลังตัดสินใจสามารถซื้อรถได้ง่ายขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทนั้นมี chevrolet Aveo และ Chevrolet Colorado รวมถึงรุ่นใหม่ที่กำลังจะออกวางจำหน่ายในเร็วๆนี้เข้าข่ายตามโครงการ

"ด้วยกรอบเวลาและเงื่อนไขของนโยบาย กลุ่ม GM มองว่าอาจจะไม่ช่วยบรรลุตามวัตถุประสงค์ เนื่องจากความซับซ้อนในการดำเนินการ และเสนอให้กิดนโยบายนำรถเก่ามาแลกซื้อรถคัน ใหม่ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายๆ ประเทศ โดยผู้บริโภคจะได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากภาครัฐ เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้บริโภคเป็นเจ้าของรถคุณภาพดีได้ง่ายขึ้น นโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน อีกทั้งยังเป็นการควบคุมมลภาวะอันเกิดจากการที่รถเก่าปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์อีกด้วย"

ด้าน นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยเกี่ยวนโยบาย "รถคันแรก" ว่า น่ายินดีที่ที่รัฐบาลตัดสินใจดำเนินนโยบายตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดไม่วุ่นวายเนื่องจากอาจทำให้คนชะลอการซื้อขาย และยังเป็นการกระตุ้นตลาดให้เกิดการซื้อด้วย

ทั้งนี้ตามแนวทางโครงการ "รถคันแรก" ที่จะมีการคืนภาษีสรรพสามิตรให้กับผู้ซื้อที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวนั้น จากการตรวจสอบการเก็บภาษีในรถยนต์ประเภทต่างๆที่ออกมาเป็นแนวนโยบาย พบว่า ปัจจุบันรถยนต์ที่มีเก็บเงินภาษีสรรพสามิตรมากที่สุด เป็นรถนั่งขนาดเล็กไม่เกิน 1500 ซีซี ที่มีราคาตั้งแต่ 5-7 แสนบาท เรียกเก็บที่ 25% แต่จะได้รับเงินคืนสุงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท รองลงมาเป็นกลุ่มรถอีโค่คาร์ที่มีราคาตั้งแต่ 3.8 -5.42 แสนบาท เรียกเก็บที่ 17 % โดยจากการคำนวนราคาสุงสุดในตลาดพบว่า มีโอกาสได้รับเงินสูงสุดที่ 90,000 บาท

สำหรับกลุ่มกระบะนั้น กลับพบว่ามีการเสียภาษีสรรพสามิตรต่ำกว่าที่ 3 % และรุ่น 4 ประตูมีการเรียกเก็บที่ 12% ซึ่งเมื่อคำนวนเงินที่จะได้รับคืนนั้นจะอยุ่ที่ประมาณ 20,000 - 60,000 บาทเท่านั้น

นาย ชลิต ศิลป์ศรีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดเผยหลังหารือร่วมกับนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เกี่ยวกับนโยบายรถคันแรก โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า หากมีการผิดนัดชำระ 3 เดือนติดต่อกัน บริษัททางการเงินจะมีหนังสือทวงถามหนี้ไปให้กับผู้เช่าซื้อ หากยังไม่มีการชำระหนี้ บริษัทไฟแนนซ์ก็สามารถยึดรถได้ทันที


Ford Fiesta 1.4 ลิตร สามารถเข้าโครงการรถคันแรกได้

หลังจากนั้นบริษัทไฟแนนซ์จะต้องยื่นเอกสารหลักฐานการผิดนัดชำระมายังกรมสรรพสามิตเพื่อทำการผ่อนปรนให้สามารถโอนรถยนต์ได้ต่อไป โดยในกรณีที่รถคันดังกล่าวถือครองเกิน 1 ปี แต่ไม่ครบ 5 ปี ในส่วนเงินที่ได้ตามโครงการนี้ทางกรมสรรพากรต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง แต่หากรถคันดังกล่าวขายทอดตลาดและมีเงินเหลทอก้จะตกเป็นของสรรพากรเช่นกัน

ในส่วนเงื่อนไขการเช่าซื้อ นายชลิต เปิดเผยว่า ปกติแล้วการเช่าซื้อมีการกำหนดเงินดาวน์ 20-25% จากราคารถยนต์คันดังกล่าว แต่จะมีการเพิ่มเงินส่วนนี้หรือไม่ ให้เป็นการตัดสินใจของแต่ละสภาบันการเงินต่อไป

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม