ASUS Eee Pad Transformer

แท็บเล็ตที่เต็มไปด้วยความยืดหยุ่นหลากหลาย ทั้ง CPU ที่มีความแรงในะดับ Dual-core NVIDIA Tegra 2 ความเร็ว 1 GHz พร้อมระบบปฎิบัติการ Android Honeycomb และความสามารถอันหลากหลายทั้ง การเล่นเกมส์, เล่นเน็ต, ฟังเพลง หรือดูหนังระดับ HD มีคีย์บอร์ดเสริมที่ช่วยให้คุณสามารถพิมพ์ข้อความได้อย่า่งง่ายดายไม่แพ้ คอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป ...

ASUS Eee Pad Transformer เป็นแท็บเล็ตที่มากับคีย์บอร์ดแยกที่สามารถใช้เชื่อมต่อเข้ากันได้ทันที ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอย่างดี มีทั้งความแข็งแรงและทนทาน วัดขนาดได้ความยาว 271 กว้าง 171 หนา 13 มิลลิเมตร น้ำหนักเฉพาะแท็บเล็ตหนัก 681 กรัม แต่ถ้าต่อเข้ากับคีย์บอร์ดจะหนัก 1,321 กรัม

ด้าน หน้าของแท็บเล็ตเป็นจอแสดงผลระบบสัมผัส ความละเอียด 1232 x 800 พิกเซล กว้าง 10.1 นิ้ว ถัดขึ้นไปเป็นกล้ิองหน้าความละเอียด 1 ล้านพิกเซล

ฝั่งซ้ายเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง, ปรับระดับเสียง และลำโพงเสียงฝั่งซ้าย

ฝั่งขวาเป็นช่องต่อขนาด 3.5 มิลลิเมตร, mini HDMI, ช่องใส่การ์ด microSD และลำโพงเสียงฝั่งขวา

ด้าน หลังเป็นผิวลายขรุขระเพื่อความกระชัับไม่ลื่นระหว่างจับเครื่อง ส่วนบนเป็นกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล และซ่อนแบตเตอรี่ไว้ด้านใน

ด้านล่างมีฐานเพื่อต่อเข้ากับส่วนคีย์บอร์ด

คีย์บอร์ด ออกแบบมาได้แข็งแรงไม่แพ้ตัวแท็บเล็ต ส่วนบนเป็นที่ล็อคแท็บเล็ตพร้อมปุ่มสไลด์สำหรับล็อค/ปลดล็อคเครื่อง ถัดลงมาเป็นคีย์บอร์ดสกรีนภาษาอังกฤษ แต่สามารถพิมพ์ไทยได้ด้วยวิธีพิมพ์สัมผัส (หรือสามารถซื้อสติ๊กเกอร์ภาษาไทยมาแปะได้) ด้านล่างมีแถบ Trackpad สามารถใช้งานแทนเม้าส์ได้

นอก จากจะใช้พิมพ์ข้อความแล้วยังมีความสามารถอื่นๆ ทั้งแบตเตอรี่สำรองที่ซ่อนอยู่ตัวคีย์บอร์ด, ช่องต่อที่ชาร์จแบตเตอรี่, ช่องใส่การ์ด SD Host 2 ช่อง สามารถใช้ต่อได้ทั้ง แฟลชไดร์ฟ, เม้าส์ หรือแอร์การ์ด

เมื่อต่อแท็บเล็ตเข้ากับคีย์บอร์ด ที่แท็บเล็ตจะแสดงไอคอน Docking connected เพื่อแสดงว่าได้มีการเชื่อมต่อเกิดขึ้น

อุปกรณ์ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์

• แท็บเล็ตพกพา ASUS Eee Pad Transformer
• คีย์บอร์ดแยก
• สาย USB
• เต้าต่อแบตเตอรี่รูปแบบ USB
• สายต่อ Micro-USB
• คู่มือการใช้งานพร้อมใบรับประกัน

การใช้งานคีย์บอร์ดเบื้องต้น

ความ พิเศษของ ASUS Eee Pad Transformer ที่โดดเด่นกว่าตัวอื่นๆ คือคีย์บอร์ดแยกที่คุณสามารถนำมาเชื่อมต่อเข้ากับตัวแท็บเล็ตเพื่อเพิ่มความ สะดวกสบายในการใช้งาน

แม้ ทั่วไปวิธีการเรียงอักษรอาจจะเหมือนกับคีย์บอร์ดทั่วไป แต่คีย์บอร์ดของ ASUS Eee Pad Transformer มีความพิเศษอยู่ที่ ด้านบนจะมีปุ่มลัดสำหรับการใช้งานบน Android Honeycomb ประกอบไปด้วย

1. ปุ่มย้อนกลับ
2. เปิด/ปิด Wi-Fi
3. เปิด/ปิด Bluetooth
4. เปิด/ปิด การใช้งาน Trackpad
5. ลดระดับความสว่าง
6. เพิ่มระดับความสว่าง
7. ปรับระดับความสว่างอัตโนมัติ
8. จับภาพหน้าจอ
9. ปุ่มลัดเข้าหน้าเพจ
10. ปุ่มลัดเข้าตั้งค่า
11. เล่นไฟล์ก่อนหน้า
12. เล่น/พักไฟล์
13. เล่นไฟล์ถัดไป
14. ปิดเสียง
15. ลดระดับความเสียง
16. เพิ่มระดับความเสียง
17. ล็อคหน้าจอ

ใต้คีย์บอร์ดเป็นส่วนของ Trackpad ใช้สำหรับควบคุมเคอร์เซอร์บนหน้าจอ

ด้าน ข้างของคีย์บอร์ดเป็นส่วนของช่องเชื่อมต่อต่างๆ ได้แก่ ช่องต่อที่ชาร์จแบตเตอรี่, ช่องต่อการ์ด SD และ ช่องต่อ USB Host 2 ช่องสำหรับการเชื่อมต่อ USB สามารถใช้งานได้ทั้งต่อกับ เม้าส์, แฟลชไดร์ฟ หรือ ต่อกับ Aircard ได้โดยตรง

รูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอหลัก

การแสดงผลของ ASUS Eee Pad Transformer เป็นการแสดงผลของ Android 3.2.1 Honeycomb ที่จะแบ่งหน้าแสดงผลออกเป็น 5 หน้าหลัก

แถบด้านบนของ Android Honeycomb จะมีปุ่มสำหรับเข้าฟังก์ชั่นอย่างเร็วได้แก่ ค้นหาจาก Google, ค้นหาด้วยเสียง, แอพทั้งหมด

ปุ่ม + ที่มุมขวาบนจะแสดงรายการหน้าทั้งหมดพร้อมการตั้งค่าหน้าจอต่างๆ ได้แก่

• Widgets : เพิ่ม Widgets รูปแบบต่างๆ ของหน้าจอหลัก

• App Shortcut : เพิ่มไอคอนแอพพลิเคชั่นที่จอแสดงผลหลัก

• Wallpaper : เปลื่ยนภาพพื้นหลังจาก คลังภาพ, Live Wallpaper และภาพพื้นหลังที่กำหนดไว้

• More : เพิ่มทางลัดอื่นๆ เช่น Bookmark, รายชื่อ, Playlist รายการ GPS เป็นต้น

ส่วน ด้านล่างได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, โฮม, แสดงฟังก์ชั่นที่พึ่งใช้งาน, แสดงการเชื่อมต่อคีย์บอร์ด, SD การ์ด, แจ้งเตือนทั่วไป, นาฬิกา, และการตั้งค่าทั่วไป

อินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์

การ เล่นอินเทอร์เน็ตของ ASUS Eee Pad Transformer นอกจากจะมีคีย์บอร์ด และเม้าส์ที่ช่วย ให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ยังรองรับการใช้งาน HTML หรือ Flash Player ได้ไม่แพ้โน้ตบุ๊คทั่วๆ ไป สำหรับการเชื่อมต่อ ASUS Eee Pad Transformer ทำได้ 2 ช่องทางคือทาง Wi-Fi, ทาง Aircard ผ่านการต่อ USB Host

สำหรับ เวลาพิมพ์ข้อความหรือเว็บไซด์ด้านบนจะใช้ทำการค้นหา หน้าเว็บที่ต้องการแล้วยังสามารถ เลือกข้อความ, ตัด, คัดลอก และแชร์ข้อความออกทางระบบที่กำหนดไว้

คลังภาพและวิดีโอ

ภาพ และวิดีโอจะเก็บอยู่ในเมนูคลังภาพโดยแบ่งออกตามโฟลเดอร์ ที่เราตั้งไว้ เมื่อเลือกภาพที่ต้องการแล้วเราสามารถตั้งภาพให้เล่นสไลด์โชว์, แชร์ไฟล์ภาพผ่านระบบที่ตั้งไว้, ลบรูป, ดูรายละเอียดภาพ, ตัด/หมุนภาพ และตั้งรูปเป็น Wallpaper

ในส่วนวิดีโอ ASUS Eee Pad Transformer สามารถเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียด HD 720p

เครื่องเล่นเพลง

เครื่อง เล่นเพลงจะแบ่งประเภทของการรับฟังเพลงออกเป็น 5 รูปแบบได้แก่ เพลงที่เพิ่งเพิ่มมา, อัลบั้ม, ศิลปิน, เพลง, รายการเพลง, และแบ่งตามประเภท

เมื่อ เลือกเพลงแล้วจะแสดง ชื่อเพลง, ศิลปิน, อัลบั้ม ปกอัลบั้มที่กึ่งกลาง แถบแสดงเวลาพร้อมระยะเวลาของเพลง ปุ่มตั้งการเล่นสุ่ม, แถบควบคุมเครื่องเล่นเพลง (เล่นก่อนหน้า, เล่น/พัก, เล่นถัดไป) ด้านบนมีไอคอนแว่นขยายสำหรับการค้นหาเพลงโดยใส่ชื่อ และแถบตั้งค่าเพื่อตั้งเพลงเป็นรายการเพลง หรือดูเพลงอื่นๆ จากศิลปินที่กำลังเล่นเพลงอยู่

กล้องถ่ายรูป

กล้อง ของ ASUS Eee Pad Transformer แบ่งออกเป็น 2 ตัว คือกล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 1 ล้านพิกเซล พร้อมใช้งานเป็นเว็บแคมในตัว โดยสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ของกล้องได้ดังนี้

คุณสมบัติในการถ่ายภาพนิ่ง

• ขนาดภาพถ่าย ปรับความละเอียดได้ : 2592 x 1944, 2048 x 1536, 1600 x 1200, 1024 x 768, 640 x 480 พิกเซล
  - กล้องหน้าความละเอียด 1024 x 768, 640 x 480 พิกเซล
• ซูมดิจิตอล 8 เท่า (8x Digital zoom)
• คุณภาพ : ปกติ, ดี, ดีมาก
• เอฟเฟ็กต์ : Mono, Sepia, Nagative
• สมดุลแสงสีขาว : อัตโนมัติ, Incandescent, Fluorescent, Daylight
• แนบพิกัด GPS ลงบนภาพถ่าย : เปิด, ปิด

คุณสมบัติในการบันทึกวีดีโอ

• ความละเอียด
  - HD : 1280 x 720 พิกเซล รูปแบบไฟล์ 3GP ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
  - VGA : 640 x 480 พิกเซล รูปแบบไฟล์ 3GP ความเร็ว 15 เฟรมต่อวินาที
• กล้องหน้าความละเอียด
  - VGA : 640 x 480 พิกเซล รูปแบบไฟล์ 3GP ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
  - CIF : 352 x 288 พิกเซล รูปแบบไฟล์ 3GP ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
• คุณภาพ : ปกติ, ดี, ดีมาก
• เอฟเฟ็กต์ : Mono, Sepia, Nagative
• สมดุลแสงสีขาว : อัตโนมัติ, Incandescent, Fluorescent, Daylight
• โหมด Time lapse interval บันทึกภาพทุกๆ 1, 1.5, 2, 2.5, 3, 5, 10 วินาที

เปิดตัวต้นแบบ สวย ดุ!! Nissan Juke-R

กลับมาพบกันอีกครั้งกับข่าวสารวงการยานยนต์ วันนี้ทาง Thaicarlover.com มีข่าวรถยนต์ใหม่จากค่ายรถยนต์ Nissan มาฝากเพื่อนๆ กันครับ

กระบวนการในการพัฒนารถต้นแบบเสร็จสิ้นแล้วสำหรับ Nissan Juke-R ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก GT-R หลังจากที่ไอเดียของ Nissan Europe (พัฒนาร่วมกับ RML) ได้รับการตอบรับจากบริษัทฯ แม่ในการผลิตรถรุ่นพิเศษนี้ออกมาเพียง 2 คัน คือ รุ่นพวงมาลัยซ้าย และพวงมาลัยขวา ด้วยตัวถังสีดำด้านที่มาพร้อมแอโรพาร์ตในดีไซน์ที่นำมาจาก GT-R เช่นกัน ซึ่งได้แก่ กันชนหน้าที่ขยายความกว้างมากขึ้นมาพร้อมช่องไอดีขนาดใหญ่ สเกิร์ตข้างสไตล์โหด กันชนหลังที่ดูโดดเด่นด้วยดิฟฟิวเซอร์ ปีกหลัง เพิ่มความสปอร์ตด้วยคิ้วล้อที่ครอบอยู่บนล้ออัลลอย RAYS ขนาด 20 นิ้วที่่ใช้กับ GT-R ด้วยเช่นกัน

Nissan Juke-R Concept

ส่วนภายในห้องโดยสารได้รับการปรับเปลี่ยนด้วยการถอดเบาะนั่งด้านหลังออกไป แล้วแทนที่ด้วยกรงนิรภัยตามสเปครถแข่ง เบาะนั่งคู่หน้าเป็นสไตล์เรซซิ่ง พวงมาลัย แป้นเหยียบ มาตรวัด และจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว เป็นอย่างเดียวกันกับที่ใช้ใน GT-R

ด้านหลัง Nissan Juke-R Concept

แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของรถรุ่นนี้ก็คือ การใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ไบเทอร์โบ V6 3.8 ลิตร ขนาด 480 แรงม้าที่ใช้กับ GT-R รวมถึงระบบขับเคลื่อน AWD กล่องเกียร์ และระบบกันสะเทือน ที่ได้รับการโมดิฟายด์ให้เหมาะสมกับสภาพของรถ เสียดายที่ Nissan ยังไม่ยอมเปิดเผยในเรื่องตัวเลขด้านสมรรถนะที่ได้ นอกจากนั้นยังเผยว่าบริษัทฯ จะทำการทดสอบ Juke-R ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

ภายใน Nissan Juke-R Concept

สุดท้ายนี้เว็บ Thaicarlover.com อยากให้เพื่อนๆ ร่วมเป็นกำลังใจให้ชาวไทยทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ หรือกำลังเตรียมการรับมือกับน้ำท่วม และน้ำท่วมรถ ให้สามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกันครับ และถ้าเพื่อนๆ สามารถช่วยเหลือสิ่งใดได้ก็ขอให้ช่วยเหลือตามกำลังความสามารถครับ

สำหรับแฟนๆ นิสสัน ในบ้านเราอาจจะต้องรอลุ้นว่าจะมีอะไรเด็ดๆ มาเปิดตัวที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2011 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้ หรืองานมอเตอร์โชว์ 2012 (Motor Show 2012) ในต้นปีหน้าหรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ Nissan ต้องติดตามกันต่อไปครับ

ฟอร์ด เอสเคป : ชื่อเดิมเคียงคู่ตลาดเอสยูวี

ช่วงปลายปีนี้นอกจากการเปิดตัวของฮอนด้า CR-V ใหม่แล้ว ตลาดเอสยูวีแบบคอมแพกต์ก็ยังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดไม่แพ้ตลาดปิกอัพในบ้านเรา เมื่อฟอร์ดส่งทางเลือกใหม่ล่าสุดออกมาประชัน และข่าวที่ว่าจะยกเลิกชื่อเอสเคปและใช้ชื่อใหม่ในการทำตลาดก็ไม่เป็นจริงแต่อย่างใด ภาพที่เห็นอยู่นี้คือผลผลิตล่าสุดจากฟอร์ด กับเอสเคปใหม่ ซึ่งเป็นโมเดลเชนจ์ที่เข้ามาทดแทนรุ่นปัจจุบันซึ่งยืดเยื้อขายกันมาตั้งแต่ปี 2001 โดยในเรื่องชื่อรุ่นสำหรับขายในตอนนี้มีการคอนเฟิร์ม 100% แล้วว่าฟอร์ดจะใช้ชื่อเอสเคปเหมือนเดิม แต่เฉพาะตลาดอเมริกาหนือ ส่วนตลาดโลกจะเปลี่ยนมาเป็นคูกา (Kuga)

แน่นอนว่านี่จะยังยึดแนวคิด One Ford เหมือนกับโฟกัสและเฟียสตา โดยเป็นโมเดลเดียวที่มีขายทั่วโลกไม่เหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา ซึ่งในตอนแรกฟอร์ดทำท่าว่าจะขายเอสเคปแบบโฉมเดียวทั่วโลก แต่พอมาถึงช่วงเวลาที่ควรจะเปลี่ยนโฉม กลับมีเฉพาะตลาดยุโรปเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงด้วยการเปิดตัวรุ่นคูก้าออกมาเมื่อปี 2007 ขณะที่ตลาดส่วนอื่นของโลก รวมถึงอเมริกาเหนือก็ยังขายเอสเคปแบบไมเนอร์เชนจ์กันต่อไป สำหรับในรุ่นใหม่นี้ฟอร์ดก็เลยจับรวมกัน และมีแค่ชื่อรุ่นเท่านั้นที่ต่างกันไปตามแต่ละตลาดในโลก

รูปลักษณ์ภายนอกได้รับอิทธิพลในการออกแบบมาจากต้นแบบรุ่นเวอร์เทร็กที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2011 และผสมผสานกับกลิ่นอายและสไตล์ในการออกแบบที่ยกมาจากโฟกัสรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งในตลาดเมืองไทยยังไม่เปิดตัวสักที ขณะที่เครื่องยนต์เท่าที่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้ ยังเป็นสเปกสำหรับตลาดอเมริกาหนือ ใช้ขุมพลังเบนซินเป็นหลัก เริ่มจาก 4 สูบ 1600 ซีซี แต่ติดตั้งเทอร์โบตามแนวคิด EcoBoost รีดกำลังออกมาได้ 173 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 24.4 กก.-ม.

ตามด้วย 2000 ซีซี เทอร์โบ 237 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 34.5 กก.-ม. มีพละกำลังและความแข็งแกร่งของแชสซีส์มากพอที่จะฉุกลากสัมภาระติดล้อที่มีน้ำหนักระดับ 3,500 ปอนด์ได้อย่างสบายๆ ส่วนใครที่อยากขับเครื่องยนต์หายใจเองก็มีรุ่น 2500 ซีซี 4 สูบ ที่มีกำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. ขณะที่ตลาดยุโรปคงมีเครื่องยนต์ดีเซลให้สัมผัสตามระเบียบ ทางด้านระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา และอัตโนมัติที่มีจำนวนจังหวะเท่ากันที่ 6 จังหวะ และมีรุ่นขับเคลื่อนให้เลือกทั้งแบบล้อหน้า หรือ 4 ล้อตลอดเวลา ส่วนใครที่สนใจอดใจรอกันหน่อย เพราะการทำตลาดจะเริ่มขึ้นในปีหน้า