ไอเดีย ของตกแต่งบ้าน น่ารักๆ ชุดโคมไฟ Floor Lamp Family


ผิวคล้ำแดด แต่งหน้าอย่างไรดี



Q : อยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ทำยังไงดีคะ พอดีเพิ่งกลับมาจากทะเล ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยชอบทาครีมกันแดด เลยทำให้ผิวคล้ำลง พอจะกลับมาแต่งหน้าอีกครั้ง ปรากฎว่าพวกบรรดาเครื่องสำอางที่มีอยู่ อย่างเช่นพวกแป้งพัฟ รองพื้น พอทาไปแล้วรู้สึกเลยว่าสีไม่เข้ากับผิวหน้าอย่างรุนแรง ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ทราบว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาได้อย่างไรบ้างคะ



A: ผิวที่โดนแดดมาแบบนี้ แนะนำว่าช่วงนี้ควรจะบำรุงผิวพรรณเป็นพิเศษมากขึ้นกว่าเดิม ในส่วนของเรื่องการแต่งหน้า แป้งที่เรามีอยู่ สามารถใช้ได้ แต่แนะนำว่าช่วงนี้ควรใช้แป้งฝุ่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า รองพื้นควรงดใช้ไปก่อน ไม่อย่างนั้นผิวหน้าเราจะขาวเว่อร์จนเกินไป เวลาที่เราไปตากแดดผิวก็จะเสียและแห้ง ซึ่งผิวประเภทนี้จะไม่ค่อยรับเครื่องสำอางอยู่แล้ว ทาอะไรไปอาจจะไม่ค่อยติด ทางที่ดีที่สุดตอนนี้ ควรเน้นการบำรุงผิวให้ฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม และใช้แป้งฝุ่น ส่วนเรื่องรองพื้นช่วงนี้แนะนำให้ตัดออกไปได้เลยคะ ต่ถ้าไม่มั่นใจ ก็อาจจะใช้คอนซีลเลอร์แต้มบริเวณที่อยากปกปิดก็พอแล้วคะ















ที่มา ... chicministry

10 เทคนิค กระชับสัมพันธ์ใน 5 นาที



ใคร ที่คิดว่าชีวิตหลังแต่งงานจะหมดความซาบซ่านในหัวใจล่ะก็ ฟังทางนี้ค่ะ เพราะเรามี 10 วิธีที่ใช้เวลาแค่ 5 นาทีต่อวัน ก็ช่วยกระชับสัมพันธ์รักในครอบครัวให้แนบแน่นได้

ส่งอีเมล์หากัน
นี่คือวิธีการหนึ่งที่เร็วที่จะบอกความรู้สึกต่อคนรักได้ว่าคุณพอใจสิ่งใด เช่น ขอบคุณที่ช่วยเอาขยะไปทิ้ง มันช่วยเบาแรงฉันได้เยอะเลยค่ะ เป็นต้น

บอกรักกันผ่านมือถือ โทรหากันหรือส่ง voice mail ว่า ฉันรักคุณ หรือ ฉันคิดถึงคุณ เป็นความกุ๊กกิ๊กเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจทำให้เราอมยิ้มได้ทั้งวันเลยล่ะ

ติดโน้ต...เพิ่มความใส่ใจ อย่าลืมติดกระดาษโน้ตอวยพรการทำงานที่กระเป๋าเอกสารของสามีก่อนออกจากบ้าน รับรองว่าจะทำให้เขามีแรงทำงานเพื่อครอบครัวไปอีกนานเลยล่ะ

สร้างความหวานให้เช้าวันใหม่ ลองสร้างความสวีท ด้วยการตื่นมาชงกาแฟหรือทำอาหารเช้าที่คุณถนัดมากเป็นพิเศษให้คนรักของคุณทาน เป็นการเริ่มวันใหม่ที่ดีมากๆ ค่ะ

กินอาหารกลางวันด้วยกัน หากคุณว่างลองทำอาหารกลางวันอร่อย ๆ ไปเซอร์ไพรซ์ เขาในที่ทำงานเขาด้วยตัวคุณเองสิคะ และถ้ารู้ว่าสามีกำลังเครียด ลองโทร.ชวนเขาไปร้านอาหารโปรด สั่งอะไรอร่อย ๆ กินกัน เท่านี้ความเครียดก็เปลี่ยนเป็นความสุขแล้วค่ะ

แบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน คุณสามารถช่วยแบ่งเบาภาระให้กันได้ เช่น การทำงานบ้านซึ่งอาจเป็นหน้าที่ของภรรยา แต่คุณสามีก็สามารถช่วยแบ่งเบาได้ เช่น การซักผ้า หรือทำธุระเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เพียงแค่บอกว่า "ฉันจะทำแทนให้เอง" แค่นี้ก็พอค่ะ

ส่งข้อความถึงกัน หลังจากที่คนรักของคนออกจากบ้าน ก็อย่าลืมเพิ่มความหวาน และแสดงความห่วงใยที่มีต่อเขาด้วยข้อความ "คิดถึงนะ" หรือ "เทคแคร์นะ" สักนิดนะคะ

ให้ของขวัญพิเศษ หาซื้อของที่เขาอยากได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรือตรงกับช่วงเทศกาลพิเศษอะไร แล้ววันธรรมดา ๆ ก็จะกลายเป็นวันพิเศษค่ะ

ส่ง E-Card ให้กัน โดยจะส่งแบบตลก โรแมนติก หรือแนวไหนก็ได้ แต่บอกด้วยว่าคุณอยากจะบอกอะไรกับคนรักของคุณ และมันจะพิเศษสุด ๆ หากคุณพูดถึงความทรงจำเก่า ๆ เช่น ตอนจีบกันใหม่

บอกรักทุกครั้งที่เจอหน้า บอกรักกันบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องน่ารำคาญหรอกค่ะ กลับจะทำให้ทั้งคู่มีความสุขและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ฟัง









ที่มา ... รักลูก

ท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์บน "เกาะพิทักษ์"



กาะ พิทักษ์ เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ห่างฝั่งเพียง 1 กิโลเมตร มีหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านกระจายอยู่รอบเกาะ ที่ราบบนเกาะมีไม่มากนัก บ้านเรือนบางส่วนจึงปลูกอยู่เหนือน้ำ นอก จากทำประมงแล้ว ชาวบ้านปลูกมะพร้าวเป็นรายได้หลักอีกทางหนึ่ง

อีกทั้งการทำประมงแบบพื้นบ้าน ด้วยเครื่องมือหาปลาแบบพื้นถิ่น และชาวบ้านร่วมมือกันรักษาสภาพแวดล้อมของชุมชนและแหล่งทำมาหากิน จึงทำให้ท้องทะเลบริเวณเกาะ พิทักษ์ยังคงความอุดมสมบูรณ์ การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์บนเกาะพิทักษ์จึงเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน การเข้าใจการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกันระหว่างคนกับธรรมชาติ

นอกจากนี้แล้ว นักท่องเที่ยวอาจได้ออกเรือประมงกับชาวบ้านเพื่อไปตกปลาหมึกในยามกลางคืน หรือไปดำน้ำดูหอยมือเสือที่หาดูได้ยากในแหล่งอื่น รวมทั้งอาจศึกษาวิธีการ ทำน้ำมันมะพร้าวจากชาวบ้าน

ข้อมูลท่องเที่ยว - ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร - จาก อ.หลังสวน ใช้ทางหลวงหมายเลข 4002 ประมาณ 8 กม.ถึงปากน้ำหลังสวน แล้วใช้ทางเลียบทะเล สายปากน้ำหลัง สวน-ปากน้ำตะโก ไปราว 12 กม.จนถึงบ้านท้องครก มีทางแยกขวามือเข้าไปอีกประมาณ 200 ม.ถึงหัวแหลมท้องทรายจากนั้นเช่าเรือไปยังเกาะพิทักษ์หรือถ้าเป็นช่วงนน้ำลง สันทรายจะโผล่จนเดินไปถึงเกาะพิทักษ์ได้

ข้อมูลโดย : โครงการ 7greens - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เว็บไซต์ : http://7greens.tourismthailand.org/

“ปลาหมึกแดดเดียว” เคี้ยวหนึบถึงใจ

โดย : กุ๊กเล็ก

ถ้าหากถามว่าเมนูเด็ดจากปลาหมึกนั้นมีอะไรบ้าง สิ่งที่ตอบได้อย่างแรกก็คือ ปลาหมึกย่าง ที่จะได้รสชาติความสดอร่อยของปลาหมึก รวมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บที่อร่อยโดนใจ แต่ถ้าเบื่อเมนูนี้แล้ว ก็จะนำไปต้มยำทำแกงได้อีกหลายเมนู อย่างในมื้อนี้ที่ “กุ๊กเล็ก” ก็มีเมนูอร่อยเด็ดจาปาหมึกมาให้ลองทำกันดู นั่นก็คือ“ปลาหมึกแดดเดียว”

ส่วนผสมมีดังนี้
ปลาหมึกกล้วยตัวใหญ่ ประมาณ 1-1 1/2 กิโลกรัม
น้ำปลาอย่างดี 5 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนชา
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ เริ่มจากนำปลาหมึกมาล้างให้สะอาด ลอกหนังออก แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้น ผสมน้ำปลาและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี นำปลาหมึกลงไปหมักกับน้ำปลาและน้ำตาลในกล่อง หรือกะละมังใบใหญ่หน่อย จะได้ไม่ต้องซ้อนตัวปลาหมึก ทำให้ปลาหมึกเค็มเท่ากันทั่วทั้งตัว หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง หรือจะหมักทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ จากนั้นนำมาตากแดดจนปลาหมึกหมาด (ถ้าแดดแรงก็ตากประมาณ 2-3 ชั่วโมง) พอได้ที่แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพอร้อนแล้วใส่ปลาหมึกลงทอดพอเหลือง แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ยกขึ้นเสิร์ฟได้เลย

ฮุนไดมุ่งเพิ่มรถหลากรุ่น เปิด‘เอลันตรา’ชิงซี-คาร์

ข่าวในประเทศ - ค่ายกิมจิ “ฮุนได” เปิดเกมรุกก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ในการฟื้นแบรนด์ในไทย เตรียมนำเข้าเก๋งซี-คาร์ “ฮุนได เอลันตรา โฉมใหม่”มาทำตลาด 14 พ.ย.นี้ เปิดตัวขายเครื่องยนต์ 1800 ซีซี 148 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ติดตั้งออปชั่นเพียบ ลุ้นบริษัทแม่หนุนราคาเริ่มต้นไม่เกินล้านบาท เผยเหตุต้องนำเก๋งคอมแพ็กต์รุ่นดังกล่าว มาทำตลาดแทนเก๋งซับคอมแพ็กต์รุ่น “แอคเซนต์” ที่เคยวางแผนไว้ปลายปีนี้ เพราะมีความพร้อมและเหมาะสมมากกว่าแล้ว ยังไม่เจอพิษรถคันแรกด้วย แต่ย้ำมุ่งมั่นเพิ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายทางเลือก เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคให้ครอบคลุม ตั้งเป้าจะเปิดรถโมเดลใหม่ทุกๆ ปี ดังนั้นจะเป็นรถยนต์รุ่นแอคเซนต์ และ “ไอ10” หรือรุ่นอื่นๆ จึงยังมีโอกาสอยู่ในแผนทำตลาดต่อไป ขณะเดียวกันยังเน้นสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะบริการก่อนและหลังการขาย ตั้งเป้าภายในปี 2555 เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการครบ 30 แห่ง รองรับการเติบโตต่อเนื่อง หลังจากกวาดยอดขายชนหลัก 1 หมื่นคันสำเร็จ

ครบรอบ 4 ปี ของการเข้ามาฟื้นแบรนด์ “ฮุนได” ในไทย ภายใต้การดูแลของกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้งรายใหญ่ “โซจิทสึ” โดยรวมตัวเลขยอดขาย 10,000 คัน นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินงาน นับว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เพราะหากมองการล้มลุกคลุกคลานในช่วงปีแรกๆ แต่ฮุนไดในประเทศไทยก็ไม่ยอมแพ้ พยายามค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ยังพอมีช่องว่าง และได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทย ที่สุด “ฮุนได เอช1” ก็มาช่วยพลิกฟื้นสำเร็จ พร้อมกับสร้างภาพลักษณ์และเพิ่มความมั่นใจในแบรนด์สินค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนก้าวสู่ปีที่ 5 และต่อๆ ไป ฮุนไดในประเทศไทยยังคงมุ่งมั่น ที่จะสร้างความพึงพอใจและเพิ่มทางเลือกหลากหลาย ให้กับผู้บริโภคในไทยต่อเนื่อง พร้อมกับการเติบโตอย่างมั่งคงต่อไป

โดยนโยบายของฮุนได มอเตอร์ ในประเทศไทย ยังคงที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทางเลือกหลากหลาย เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด และยังจะเป็นการเพิ่มโอกาสการขายให้กับฮุนไดในไทย ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม ดังนั้นทุกๆ ปีจะมีการนำรถยนต์ฮุนไดรุ่นใหม่ๆ มาทำตลาดต่อเนื่อง ด้วยการมองโอกาสทางการตลาดและความพร้อมเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กกลุ่มบี-คาร์ หรือซับคอมแพ็กต์ เก๋งคอมแพ็กต์ (ซี-คาร์) รวมถึงรถยนต์เฉพาะกลุ่มก็ตาม

ทั้งนี้ในช่วงก่อนสิ้นปี 2554 ฮุนไดเตรียมจะนำเข้ารถรุ่นใหม่ “ฮุนได เอลันตรา” (Hyundai Elantra) เข้ามาทำตลาดในไทย เป็นเก่งในตลาดคอมแพ็กต์คาร์ กลุ่มเดียวกับโตโยต้า อัลติส และฮอนด้า ซีวิค โดยเอลันตรานับเป็นโมเดลหลักของฮุนได มอเตอร์ มายาวนานกว่า 20 ปี และเคยเป็นหนึ่งในรถที่เข้ามาทำตลาดไทยยุคแรก สมัยกลุ่มพระนครยนตรการ หรือพีเอ็นเอ(PNA) ซึ่งการนำเอลันตราเข้ามาทำตลาดในไทยใหม่อีกครั้ง มีกำหนดเปิดตัววันที่ 14 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้
การเปิดตัวฮุนได เอลันตรา เป็นการปรับแผนจากที่เคยวางไว้ เพราะเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ในการนำคณะสื่อมวลชนไทยไปเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ของฮุนไดที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการประกาศจะนำเข้าเก๋งซับคอมแพ็กต์ “ฮุนได แอคเซนต์” (Hyundai Accent) มาทำตลาดในไทยช่วงปลายปีนี้ แต่ที่สุดหวยกลับมาออกที่รุ่นเอลันตราแทน
จากรายงานของฮุนไดในประเทศไทยระบุว่า รุ่นแอคเซนต์การผลิตยังไม่พร้อมที่จะส่งมาไทย และทั่วโลกก็มีความต้องการมาก ซึ่งอาจจะทำให้การทำตลาดสะดุดได้ ยิ่งปัจจุบันกลุ่มซับคอมแพ็กต์ในไทยแข่งขันรุนแรง และรถที่ผลิตในประเทศยังได้รับสิทธิประโยชน์โครงการรถคันแรกอีก ทำให้ราคาลดลงเป็นแสนบาท เหตุนี้จากการพิจารณาของบริษัทแม่และฮุนไดในไทย เห็นว่าคอมแพ็กต์คาร์รุ่นเอลันตรา มีความพร้อมและเหมาะสมในช่วงนี้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าที่จะส่งมาทำตลาด รวมถึงโอกาสทางการตลาดด้วย

ส่วนเป้าหมายทางการตลาด ฮุนได เอลันตรา ไม่ได้มุ่งหวังจะมาแข่งขันกับเก๋งคอมแพ็กต์คาร์ในไทยโดยตรง เพราะเอลันตรานำเข้าสำเร็จรูป(CBU) จากเกาหลีใต้ทั้งคัน ขณะที่คู่แข่งล้วนประกอบในประเทศ ทำให้เสียเปรียบทางราคาอยู่แล้ว แต่ฮุนไดจะพยายามทำราคารุ่นเริ่มต้นไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ที่ชื่นชอบเก๋งคอมแพ็กต์ในแบบของฮุนได ที่มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวและดิบกว่า ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกใหม่ของลูกค้าที่ชื่นชอบความแตกต่าง

สำหรับฮุนได เอลันตรา ที่นำเข้ามาทำตลาดเป็นโฉมใหม่ หรือเจนเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อช่วงครึ่งหลังของปี 2553 ที่ผ่านมา โดยรุ่นที่จะนำเข้ามาทำตลาดในไทย จะมีเพียงเฉพาะรุ่น 1.8 ลิตร แบบซีดาน 4 ประตู คาดว่าจะทำตลาด 3-4 รุ่นย่อย ซึ่งราคาที่เสนอบริษัทแม่ไป รุ่นเริ่มต้นไม่เกิน 1 ล้านบาท และหากเป็นไปตามคาด น่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 400-500 คันต่อปี


ฮุนได เอลันตรา โฉมใหม่ หรือในตลาดประเทศเกาหลีเรียกว่า “อะวันเต้” (Avante) ได้รับอิทธิพลมาจากรุ่นพี่รถยนต์รุ่นโซนาตาใหม่อย่างชัดเจน โดยการออกแบบเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว ซึ่งฮุนไดเรียกสไตล์การออกแบบนี้ว่า Fluidic Sculpture ซึ่งมิติตัวถังในส่วนของความยาว และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น แต่ลดความสูง และคงความกว้างเท่าเดิม ทำให้รถมีความโฉบเฉี่ยวสปอร์ต และแม้จะเป็นรถซีดาน 4 ประตู แต่กลับดูเหมือนกับรถสปอร์ตคูเป้มากทีเดียว

ภายในห้องโดยสารออกแบบโฉบเฉี่ยวสปอร์ตไม่แพ้ภายนอก พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่รุ่นล่างไปจนถึงรุ่นท็อป ระบบเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ และสามารถเชื่อมต่อกับ USB และ AUX รองรับเครื่องเล่นต่างๆ รวมถึงบลูทูธ และยังมีระบบนำทางแบบเรียลไทม์ พร้อมกล้องมองหลังอีกด้วย เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัยมาครบเช่นกัน

เอลันตราใหม่วางเครื่องยนต์รหัส Gamma แบบไดเร็กต์อินเจกชั่น หรือ GDI ทั้งแบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1600 ซีซี 140 แรงม้า แต่ที่นำเข้ามาทำตลาดเป็นรุ่น 1800 ซีซี 148 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ


ในส่วนของเก๋งเล็ก “ฮุนได ไอ10” ที่วางแผนจะนำเข้ามาทำตลาด และต้องเจอโรคเลื่อนมาเรื่อย ซึ่งปีนี้ก็ยังไม่มีแผนที่จะนำเข้ามาทำตลาดแต่อย่างใด เรื่องนี้ฮุนไดในประเทศไทยยืนยันที่จะมุ่งมั่นทำตลาดรถรุ่นนี้ เพียงแต่โรงงานที่มาเลเซียเพิ่งขึ้นไลน์ผลิตโฉมใหม่ จึงยังไม่มีความพร้อมที่จะส่งออก แต่ย้ำนโยบายของฮุนไดในการเปิดตัวรถโมเดลใหม่ในไทยต่อเนื่อง อย่างเช่นที่ได้ปรับให้นำเข้ารุ่นเอลันตรามาทำตลาดแทน ส่วนรุ่นต่อไปจะเป็นรถยนต์รุ่นไอ10 หรือแอคเซนต์ก่อน ขึ้นอยู่กับความพร้อมและเหมาะสม โดยในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 ต้นปีหน้า จะมีการนำรถรุ่นใหม่มาเปิดตัวแน่นอน


นอกจากการนโยบายเน้นเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้ว ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 5 ฮุนไดในประเทศไทย ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย จึงได้ฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค รวมถึงแผนที่จะขยายโชว์รูมและศูนย์บริการเป็น 30 แห่งใน 2555 จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 20 แห่ง ทำให้สามารถบริการครอบคลุมลูกค้าได้ทั่วประเทศ


ล่าสุดฮุนไดในประเทศไทย ได้เปิดให้บริการโครงการ “Hyundai Quick Service” เอาใจลูกค้าที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ในการเข้าใช้บริการตรวจเช็คและบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น โดยใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที ครอบคลุมถึงการตรวจเช็คชิ้นส่วนต่างๆ ที่จำเป็น ทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ อาทิเช่น การตรวจเช็คตามระยะทาง 10,000, 20,000, 50,000 และ 70,000 กิโลเมตร รวมถึงการตรวจเช็ควิเคราะห์ข้อบกพร่องของเครื่องยนต์ ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้า ที่สามารถนำรถฮุนไดเข้ามาใช้บริการตรวจเช็คสภาพ แม้ในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเริ่มต้น ณ ศูนย์บริการนำร่อง 2 แห่ง คือ ที่ฮุนไดรัชโยธิน และฮุนไดรัตนาธิเบศร์

ฝนถล่มกรุง น้ำท่วมขังหลายจุด

ฝนถล่มกรุง น้ำท่วมขังหลายจุด
ฝนถล่มกรุง น้ำท่วมขังหลายจุด

ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กทม. เผย ฝนถล่มกรุง ส่งผลน้ำท่วมขังในหลายจุด อาทิ ถนนรัชดาภิเษก ในช่วงหน้าธนาคารกรุงเทพ และหน้าห้างโรบินสัน

ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร รายงานเมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีกลุ่มฝนเบากระจายตัวทั่วพื้นที่ กทม. และมีแนวโน้มลดลง เคลื่อนตัวเข้าไปทาง จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ ระดับน้ำในคลองต่างๆ ของ กทม.อยู่ในภาวะปกติ ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา อยู่ที่ระดับ 1.58 เมตร ซึ่งต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.92 ม. และที่ปากคลองตลาด ที่ระดับ 2.00 เมตร ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.80 เมตร ที่บางเขนใหม่ อยู่ที่ระดับ 2.36 เมตร ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.64 เมตร

นอกจากนี้จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงค่ำที่ผ่านมา ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในหลายจุดของ กทม. อาทิ ถนนรัชดาภิเษก ในช่วงหน้าธนาคารกรุงเทพ และหน้าห้างโรบินสัน ถนนงามวงศ์วาน แยกพงษ์เพชร ถนนพระราม 6 ตลาดประแจจีน และที่ถนนลาดพร้าว แยกลาดพร้าว

ตลุย!!"เนินคาโฮเกีย"ชมปิระมิดโบราณแห่งรัฐอิลลินอยส์

สหรัฐอเมริกา (America) อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใหญ่ของ ทวีปอเมริกาเหนือ โดยมีมลรัฐอลาสกาอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ แคนาดา และ มีมลรัฐฮาวายอยู่ทางตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก มี "กรุงวอชิงตัน ดี.ซี." (Washington, D.C.) เป็นเมืองหลวง และมี "มหานครนิวยอร์ก" (New York City) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ...


"เนินคาโฮเกีย"

หากคุณมุ่งหน้าไปยัง รัฐอิลลินอยส์ (Illinois) รัฐตั้งอยู่ทางตอนกลางของสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าหลายๆคนคงต้องนึกถึง ชิคาโก (Chicago) เมืองที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เมือง แห่งลม" (Windy City นั่นเอง

"เนินคาโฮเกีย" อีกหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงของเซนต์แคลร์ (St. Clair County) แห่งมลรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามแห่ง "แหล่งประวัติศาสตร์แห่งรัฐเนินคาโฮเกีย" (Cahokia Mounds State Historic Site) โดย องค์การยูเนสโกยังยกให้ เนินคาโฮเกียเป็นมรดกโลกในปี 1982

เนินคาโฮเกีย เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์วของชาติ ตั้งอยู่ที่ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือของเซนต์หลุยส์ (St Louis) มลรัฐมิสซูรี (Missouri) จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยุคพรี-โคลัมเบียนที่ใหญ่ ที่สุดทางเหนือของเม็กซิโก



"พื้นที่โดยรอบเนินคาโฮเกีย"

นอกจากนี้แล้ว เนินคาโฮเกีย ยังได้รับการยอมรับว่าเป็น ปิระมิดโบราณแห่งคาโฮเกีย ซึ่งในอดีตถูกรายล้อมด้วยหมู่บ้านเล็ก ๆ และหมู่บ้านรอบนอกจำนวนมาก โดยโบราณสถาน เด่นในแหล่งนี้ได้แก่ มังค์ส มาวนด์ (Monks Mound) เนินดินก่อนประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา ครอบคลุมพื้นที่ 5 เฮคแตร์ และสูงถึง 30 เมตร

ในปัจจุบัน เนินคาโฮเกีย ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวติศาสตร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แน่นอนว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มีโอกาสมาเยือนรัฐอิลลินอยส์ ก็ ต้องไม่พลาดมาเยือนเนินคาโฮเกียด้วยเช่นกัน...

Image By Flickr / Adventurer Dustin Holmes

หลากไอเดียตกแต่งห้องเล็กให้ดูกว้างขึ้น




หลากไอเดียตกแต่งห้องเล็กให้ดูกว้างขึ้น (Lisa)

เราสามารถทำให้ห้องเล็กๆ ดูโปร่งโล่งสบายตาน่าอยู่ได้เหมือนกัน ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ เพื่อปรับให้ห้องดูเหมือนมีเนื้อที่มากกว่าเดิม โดยที่คุณไม่ต้องทุบผนังหรือต่อเติมห้องใหม่เลย

1. สีขาวโทนสว่าง สีเบสิกอย่างสีขาวหรือสีงาช้างช่วยในเรื่องของการปรับห้องให้ดูกว้างได้เสมอ โดยเน้นการตกแต่งให้โปร่งสบายในห้องนั่งเล่น แล้วเลือกเฟอร์นิเจอร์สีอ่อน และโต๊ะที่ไม่ใหญ่เทอะทะและเพิ่มพรมสีอ่อนข้าไป ก็จะทำให้เราสามารถกวาดสายตาออกไปได้ไกลยิ่งขึ้น





2. พรางตาด้วยกระจก วางกระจกตั้งพื้นหรือแขวนกระจกไว้บนผนัง ก็จะช่วยสร้างภาพลวงตาให้ห้องดูลึกขึ้น หากใช้กระจกบานใหญ่ก็จะทำให้ดูเหมือนมีห้องเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนห้องน้ำ หากก่อบล็อกแก้วให้แสงภายนอกส่องลอดเข้ามา แล้วติดกระจกทับแนวของบล็อกแก้ว ก็จะทำให้ดูสบายตายิ่งขึ้น






3. ใช้พื้นที่ให้คุ้ม คุณสามารถใช้พื้นที่ห้องให้เกิดประโยชน์ด้วยการทำชั้นวางของ โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะรับแขกหรือโซฟาที่มีช่องใส่ของหรือลิ้นชักก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น





4. เพิ่มแสงและมุมมอง การติดหน้าต่างจะช่วยให้ห้องเล็กๆ ดูกว้างขึ้นได้ แม้ว่าในห้องจะมีหน้าต่างเพียงบานเดียว แต่เมื่อคุณเปิดให้แสงสว่างเข้ามาก็จะทำให้ห้องของคุณดูกว้างขึ้น






5. ถอยห่างจากผนัง อีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่ห่างจากผนังห้อง แต่ถ้าจัดให้อยู่กลางห้องได้ก็ยิ่งดีเพื่อทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ซึ่งบริเวณที่ว่างระหว่างผนังห้องกับเฟอร์นิเจอร์จะทำให้ห้องดูลึกกว่าเดิม






6. มองมุมสูง เพดานสูงจะช่วยเพิ่มขนาดของห้องในแนวดิ่ง และช่วยให้ห้องดูโล่งยิ่งขึ้น ซึ่งการติดภาพหรือของตกแต่งบนผนังสูงๆ ก็จะช่วยยกระดับสายตาของผู้มองให้สูงขึ้นจนทำให้ดูเหมือนกับว่าห้องนั้นใหญ่กว่าความเป็นจริง





7. ใช้ประโยชน์จากผนังห้อง หากห้องนอนของคุณไม่มีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะข้างเตียง ให้นำแผ่นไม้มายืดติดกับผนัง เพื่อทำเป็นชั้นวางของแทนดูสิ





8. ผนังห้องลายทาง การทาสีผนังห้องหรือติดวอลเปเปอร์ลายขวางนั้นช่วยเพิ่มขนาดความกว้างของห้องได้ โดยคุณสามารถทำได้ด้วย การวัดความสูงของผนังแล้วแบ่งออกเป็นส่วนๆ ให้พอดีกับผนังห้อง จากนั้น ใช้เทปกาวแปะเป็นแนวไว้ แล้วลงสีที่ชอบก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย




9. ช่องว่างบนผนัง เมื่อคุณเจาะช่องบนผนังที่เชื่อมระหว่างสองห้องเข้าด้วยกัน ก็เหมือนกับว่าคุณได้เพิ่มหน้าต่างให้สายตาได้ลอดผ่านออกไป ก็จะทำให้รู้สึกสะดวกสบาย และลดความอืดอัดลงได้

10. สีสดสะดุดตา ไม่จำเป็นต้องใช้เพียงสีโทนสว่างทาผนังห้องเล็กเท่านั้น แต่คุณสามารถใช้สีอื่นๆ แทนได้ และเพื่อไม่ให้ห้องดูมืด ให้เพิ่มลูกเล่นโดยการแขวนภาพที่ผนัง แล้วติดตั้งสปอดไลต์ส่องไปยังภาพทุกภาพเพื่อกระจายแสงไปยังผนังด้านข้าง ก็จะทำให้เรารู้สึกว่าพื้นที่ตรงกลางห้องนั้นกว้างขึ้นได้





Tip: เฟอร์นิเจอร์ขนาดกะทัดรัด เช่น โกระจกที่เป็นขาตั้งโลหะ เมื่อนำไปวางที่โถงทางเดิน แล้ววางแจกันดอกไม้หรือโคมไฟไว้บนโต๊ะ ก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้ ซึ่งโต๊ะกระจกที่โปร่งแสงจะไม่ทำให้ห้องดูทึบและช่วยกระจายแสงให้บริเวณนั้น ดูสว่างขึ้น



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ซุปเกี้ยมอี๋พลังผัก เมนูวัย 10 เดือนขึ้นไป

อาหารเด็ก - ซุปเกี้ยมอี๋

(ซุปเกี้ยมอี๋พลังผัก) เมนูวัย 10 เดือนขึ้นไป
(รักลูก)

ส่วนผสม

เส้นเกี้ยมอี๋ต้มสุก 1 ถ้วย

มะเขือเทศหั่นชิ้นเล็ก ½ ถ้วย

แครอตสับ ½ ถ้วย

บวบหั่นชิ้นเล็ก ½ ถ้วย

เนื้อปลาช่อนต้มยีละเอียด ½ ถ้วย

วิธีทำ

1.ต้มเนื้อปลาในหม้อน้ำเดือด

2.ใส่แครอต บวบและมะเขือเทศ ลงต้มด้วยจนสุกนิ่ม

3.จากนั้นใส่เส้นเกี้ยมอี๋ คนให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมสุกนิ่ม ยกเสิร์ฟได้ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 28 ฉบับที่ 334 พฤศจิกายน 2553

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม