ขยายร่างให้ ฮอนด้า ฟิต ซัตเทิล

หลังจากโดนเลื่อนการเปิดตัวเพราะเกิดเหตุภัยพิบัติสึนามิ ที่ญี่ปุ่นเมื่อเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ฮอนด้าเผยโฉมรุ่นอเนกประสงค์ของฟิต หรือแจ๊ซออกมาแล้ว โดยจะทำตลาดภายใต้ชื่อ “ฟิต ชัตเทิล” พร้อมกับสวมรายละเอียดทางวิศวกรรมที่ยกชุดมาจากฟิตรุ่นธรรมดา ซึ่งหมายความว่าจะมีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1,500 ซีซีแบบธรรมดา และตัวประหยัดน้ำมันแบบไฮบริด ฟิต ชัตเทิล เป็นการขยายตัวถังเพื่อเสริมทางเลือกให้กับฟิต โดยมากับตัวถังแบบสเตชันแวกอน เพื่อรองรับกับลูกค้าที่ต้องการความอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งฟิตรุ่นที่แล้วฮอนด้าก็เคยมีทางเลือกในลักษณะนี้ทำตลาดด้วยเช่นกัน แต่ใช้ชื่อว่า “แอร์เวฟ”

สำหรับรุ่นนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นการเล่นง่ายๆ สักนิด ไม่เหมือนกับฟรีดที่ใช้แค่พื้นฐานทางวิศวกรรม แต่ออกแบบตัวถังใหม่หมด นั่นเป็นเพราะฟิต ชัตเทิลเป็นแค่ขยายตัวถังด้านท้าย โดยที่ตัวถังด้านหน้าจนถึงประตูคู่หลังใช้ร่วมกับฟิต แฮทช์แบ็ก 5 ประตู และจากด้านท้ายที่ต่อเพิ่มเติมขึ้นมาทำให้ตัวรถมีพื้นที่ในการเก็บสัมภาระด้านท้ายทั้งด้านบนและใต้พื้นรถอยู่ในระดับ 590 ลิตร หรือ 517 ลิตรเมื่อนับเฉพาะพื้นที่ด้านบน ขณะที่ตัวถังมีความยาวเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 4,410 มิลลิเมตร กว้าง 1,595 มิลลิเมตร สูง 1,540 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,500 มิลลิเมตร แน่นอนว่าเมื่อเปิดประตูออกและสัมผัสกับบรรยากาศที่อยู่ภายในก็จะพบกับชุดมาตรวัดและแผงหน้าปัดแบบเดียวกับของฟิต แฮทช์แบ็ก เพียงแต่มีการตกแต่งและเลือกใช้วัสดุใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่าง ส่วนเบาะนั่งหลังก็ยังพกความอเนกประสงค์เหมือนกับรุ่นแฮทช์แบ็กมาด้วยซึ่งก็รวมถึง Tall Mode ที่สามารถพับตัวเบาะนั่งขึ้นมาในการบรรทุกสัมภาระที่มีความสูง อีกทั้งพนักพิงหลังสามารถแยกพับได้ทั้งแบบ 60-40 และพับลงทั้งหมด

ส่วนของทางเลือกเครื่องยนต์ก็มีให้สัมผัสเหมือนกับฟิตรุ่นธรรมดา ทั้งขุมพลังรหัส L15A แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC 1,500 ซีซีของตัวถังแฮทช์แบ็ก มีกำลังอยู่ที่ 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที เลือกจับคู่ได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ หรือ CVT มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และ 4 ล้อ รุ่นไฮบริดกับเครื่องยนต์รหัส LDA-MF6 แบบ 4 สูบ 1,300 ซีซี i-VTEC 88 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.3 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 14 แรงม้า ที่ 1,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 8 กก.-ม. ที่ 1,600 รอบ/นาที มากับเกียร์ CVT และมีขายแค่ขับล้อหน้าเท่านั้น

เรื่องความประหยัดน้ำมันไม่ต้องเป็นห่วง เพราะถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวถังใหญ่ขึ้นจากรุ่นแฮทช์แบ็ก แต่ตัวเลขความประหยัดยังเชื่อมั่นได้เหมือนเดิม โดยรุ่นไฮบริดมีระดับความประหยัดตามโหมดการทดสอบ 10-15 ของรัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ที่ 30 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่น 1,500 ซีซีก็อยู่ที่ 20 กิโลเมตร/ลิตร ในญี่ปุ่นเริ่มทำตลาดแล้ว ส่วนราคาขายอยู่ระหว่าง 1,610,000-1,935,000 ล้านเยน หรือ 627,000-754,000 บาท ส่วนบ้านเราถ้าอยากสัมผัสคงต้องพึ่งทางผู้นำเข้ารายย่อย ส่วนราคาบวกกับภาษีแล้ว ก็เปลี่ยนจากหน่วยเยนมาเป็นบาท น่าจะเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับราคาที่จะต้องจ่าย

เปิดตัว SUV พันธุ์ดุ… Ford Expedition 2012

กลับมาอีกครั้งกับข่าวสารแวดวงยานยนต์เกี่ยวกับรถอเนกประสงค์ ซึ่งคราวนี้เราจะมาพูดถึง SUV จากค่าย Ford กันบ้างครับ
ซึ่งล่าสุดทาง Thaicarlover.com ได้ข่าวมาว่า

Ford ได้เปิดตัวรถยนต์ Ford Expedition 2012 ใหม่ ที่มาในดีไซน์ที่ก้าวล้ำ หรูหรา สง่างาม พร้อมพลังประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่าที่เคย ด้วยพลังเครื่องยนต์ V8 SOHC ขนาด 4.6 ลิตร 232 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ และเครื่องยนต์ V8 SOHC ขนาด 5.4 ลิตร 260 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ

Ford Expedition 2012-01

โดยงานนี้ Ford Expedition 2012 ได้ถูกออกแบบปรับแต่งโครงสร้างทั้งภายใน และภายนอกใหม่ ให้ดูโฉบเฉี่ยว มีสไตล์มากขึ้น มาพร้อมกับสมรรถนะและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในทุกเส้นทางการขับขี่เลยทีเดียว

Ford Expedition 2012-02

ด้านภายในห้องโดยสาร ฟอร์ด เอ็กซ์เพดิชั่น 2012 สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่กว้างขึ้น หรูหราขึ้น พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายภายในอย่างครบครัน ด้วยเทคโนโลยีเครื่องเล่น CD ที่สามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยีได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น iPod USB หรือ Bluetooth

Ford Expedition 2012-03

ส่วนราคา ฟอร์ด เอ็กซ์เพดิชั่น 2012 จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,380,000 บาทครับ ซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยโดนใจ ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน รุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ก็สามารถดูดี เท่กว่าใครไปพร้อมๆ กับฟอร์ดใหม่คันงามนี้ได้

สำหรับแฟนๆ Ford ในบ้านเราคงต้องรอลุ้นว่า Ford Expedition 2012 จะเข้ามาอวดโฉมที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้หรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ ฟอร์ด คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

อย่าพลาดติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถใหม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ

เปิดตัวกระบะจากฮอนด้า… Honda Ridgeline 2012

กลับมาอีกครั้งแล้ว สำหรับข่าวสารวงการรถยนต์ คราวนี้เอาใจคนชอบรถกระบะนำข่าวเด็ดๆ จากค่าย Honda มาฝากพี่ๆ น้องๆ กันครับ
ซึ่งล่าสุดทาง Thaicarlover.com ได้ข่าวมาว่า

Honda ได้เปิดตัวรถยนต์ Honda Ridgeline 2012 สุดยอดกระบะพลังแรง บรรทุกถึงใจ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าใหม่หนึ่งเดียวจากฮอนด้า ที่ส่งพลังแรง พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบรรทุกสินค้า เคลื่อนย้ายสิ่งของ ก็ง่ายดาย ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ SOHC VTEC V-6 24 วาล์ว ขนาด 3.5 ลิตร 250 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมที่นั่งโดยสารมากถึง 5 ที่นั่ง รวมที่นั่งคนขับ ที่ทันสมัยทั้งภายในและภายนอก ดุดันเร้าใจในทุกการเดินทาง

Honda Ridgeline 2012-01

นอกจากนี้ ฮอนด้า ริดจ์ไลน์ 2012 ใหม่ ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานภายในห้องโดยสารที่ทันสมัย เชื่อมต่อได้ง่าย ด้วย Bluetooth iPod และ Navigation สุดล้ำ ที่ให้คุณรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินไปกับทุกการเดินทาง

Honda Ridgeline 2012-02

สำหรับ ราคา ฮอนด้า ริดจ์ไลน์ 2012 ใหมนี้จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,108,820 บาทครับ

Honda Ridgeline 2012-03

สำหรับบ้านเราอาจจะไม่คุ้นกับกระบะจากค่ายรถยนต์ฮอนด้าซักเท่าไหร่ ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าฮอนด้าจะนำกระบะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราหรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ ฮอนด้าคงต้องติดตามกันต่อไปครับ

อย่าพลาดติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถใหม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ

Morgan รถโฉมคลาสสิก แบบฉบับสุภาพบุรุษอังกฤษ

เปลี่ยนความชื่นชอบส่วนตัวมาเป็นธุรกิจ พิสิทธิ์ คุณานันทกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณค่า คอร์ปอเรชั่น เซ็นต์สัญญาเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรถยนต์ “มอร์แกน” รถโฉมคลาสสิก แบบฉบับสุภาพบุรุษอังกฤษ เปิดตัวให้จับจองอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ พร้อมเดินหน้าสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการ “คุณค่า” บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ด้วยมูลค่าลงทุน 200 ล้านบาท วางแผนแล้วเสร็จต้นปี 2555

คุณพิสิทธิ์ เปิดเผยว่า “หากสังเกตจะรู้ว่าสินค้าที่คุณค่า คอร์ปอเรชั่น เป็นตัวแทนจำหน่ายนั้น เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวของผมและพัฒนาต่อยอดความคิดและความเป็นไปได้ใน เชิงธุรกิจ เพียงแต่ความเป็นไปได้ของผมไม่ใช่แบบที่คนอื่นๆ เขาทำกัน คนอื่นๆ อาจจะต้องการให้สินค้าของตัวเองมียอดขายสูงๆ คนส่วนใหญ่สามารถซื้อหาและเข้าถึงได้ ซึ่งไม่ใช่แนวคิดในแบบของผม เพราะหากเป็นเช่นนั้นผมคงเลือกเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่สามารถเข้าถึงคน ส่วนมากไปแล้ว”

“และที่ต้องเป็น “มอร์แกน” เพราะผมเชื่อว่ามีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ อย่างรถมอร์แกนทุกๆ คัน โรงงานผลิตมอร์แกนจะมีการบันทึกข้อมูลตลอดทั้งกระบวนการผลิตและรวบรวมข้อมูล ดังกล่าวส่งให้แก่ลูกค้า สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความประณีตและใส่ใจที่ทำให้เจ้าของรถได้สัมผัส ถึงคุณค่าของรถยนต์มอร์แกนได้อย่างลึกซึ้ง และเป็นความแตกต่างที่ตลาดรถปัจจุบันแทบจะไม่มีให้เห็น” คุณพิสิทธิ์ กล่าว

สำหรับ “มอร์แกน” ที่นำมาเปิดตัวในประเทศไทย ประกอบด้วยรุ่น MORGAN4/4 และ MORGAN4/4 Sportเครื่องยนต์ 1600 ซีซี ราคาเริ่มต้นที่ 4,200,000 และ 4,500,000 บาท รุ่น MORGAN Plus4 และ MORGAN Plus4 Sport เครื่องยนต์ 2000 ซีซี ราคาเริ่มต้นที่ 4,600,000 และ 4,850,000 ล้านบาท ตามด้วยรุ่น MORGAN Roadster และ MORGAN Roadster Sport เครื่องยนต์ 3000 ซีซี V6 ราคาเริ่มต้นที่ 6,300,000 และ 6,550,000 บาท ตามลำดับ

และที่พิเศษสุดๆ คือ ลูกค้าสามารถสั่งผลิตรถมอร์แกนให้ตรงใจ โดยสามารถเลือกสี ที่มีให้เลือกถึง 40,000 เฉดสี เบาะหนังกว่า 100 สี และหน้าปัด 24 เฉดสี ระยะเวลาผลิตรวมส่งมอบประมาณ 3-6 เดือน

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือทดลองขับรถได้ที่ คุณชมภูนุช พิรัญเจริญ ผู้จัดการฝ่ายขาย โทรศัพท์ 086-023-3546 (จ.-ศ. เวลา 9.00-17.00 น.)