แกร่งและทน พร้อมบุกตะลุยจริงๆ สำหรับปิกอัพยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งของเมืองไทย Toyota Hilux Vigo Champ เพราะ
ช่วงวิกฤตน้ำท่วม เหลือบเห็นวิ่งกันเกลื่อนถนน
ทั้งรถของผู้บริโภคที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่นานและรถที่ทางค่ายโตโยต้า
มอเตอร์ ประเทศไทย ส่งมาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ
โดยเฉพาะรุ่นยกสูงขับเคลื่อนสองล้อ Toyota Hilux Vigo Champ Prerunner 3,0 ลิตร 4 ประตู ระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งทีมข่าวนำมาทดสอบ รูปร่างหน้าตาดูไฉไล ปรับระบบช่วงล่างใหม่ พร้อมเพิ่มความทันสมัย เติมความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร บนเส้นทาง (กทม.-พัทยา-กทม.) ระยะทางกว่า 300 กม.
ขับสนุกและประหยัดขึ้น
โจทย์หลักในวัดสมรรถนะ Hilux Vigo Champ Prerunner รุ่นนี้ ทีมข่าวมุ่งพิสูจน์จุดเด่นของรถให้สอดคล้องกับสิ่งที่โตโยต้าเน้นย้ำเป็น พิเศษคือ "แรงควบประหยัดและความสะดวกสบายในการนั่งโดยสาร" ด้วยน้ำมัน 76 ลิตร (เต็มถัง)
โดยการขับใช้งานในพื้นที่กรุงเทพฯ กว่า 150 กม. และบนเส้นทางระหว่างจังหวัด (กทม.-พัทยา-กทม.) ระยะทางกว่า 300 กม.ขับขี่ภายใต้สภาพการจราจรจริง แต่ความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนด พร้อมทั้งขับใช้งานทั่วไปวิ่งจนไฟน้ำมันเตือน
เครื่องยนต์ดีเซล 1KD -FTV ขนาด 3.0 ลิตร VN Turbo ให้กำลังสูงสุด 163
แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 343 นิวตัน-เมตรที่
1,400-3,200 รอบต่อนาที ต้องยอมรับว่า ยังเปี่ยมสมรรถนะเช่นเดิม
ทั้งแรงและตอบสนองฉับไว แต่ที่พิเศษขึ้นคือ
วิศวกรโตโยต้าได้พัฒนาใหม่ให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
การขับขี่ภายในกรุงเทพฯ แม้จะเป็นรถที่สูงใหญ่ แต่ก็ให้ความคล่องตัวดี โดยเฉพาะอุปกรณ์กล้องมองหลัง ที่ส่งสัญญาณภาพมายังจอมอนิเตอร์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจในการถอดจอด ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยกว่า 11 กม.ต่อลิตร (ดูจากจอแสดงข้อมูลการขับขี่)
การขับขี่ระหว่างจังหวัด Hilux Vigo Champ Prerunner ยังให้ความฉับไวจัดจ้านเช่นเดิม สามารถเติมความเร็วและเรียกความแรงของกำลังออกมาใช้งานได้ตั้งแต่รอบต่ำ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างจัดว่า นุ่มนวลคล้ายรถเก๋ง ถือว่าสมราคาคุย แต่หากขับขี่บนทางออนโรดด้วยความเร็วไม่เกิน 110 กม. โดยส่วนตัวชอบรุ่นเดิมมากกว่า เนื่องจากหากขับใส่โค้งแรงๆ หรือขึ้นคอสะพานสูงๆ จะออกอาการโยนตัวมากกว่า ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยอมรับว่า ประหยัดขึ้น มาตรวัดจอแสดงข้อมูลขับขี่โชว์ตัวเลข 14กม.ต่อลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 110 กม. ซึ่งเป็นผลมาจากที่วิศวกรนำเอาระบบไดมอนต์ เทค มาติดตั้งในเครื่องยนต์
นอกจากนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ความประหยัดของรถมากขึ้น ทีมข่าวได้ขับทดสอบต่อ โดยวิ่งจนไฟน้ำมันเตือน ปรากฏว่า Hilux Vigo Champ Prerunner 3,0 ลิตร 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด วิ่งได้เกือบ 740 กม. วิ่งได้ไกลกว่ารุ่นก่อนกว่า 100 กม.
มาดเท่-ภายในแจ่ม ดีไซน์สไตล์รถเก๋ง
รูปลักษณ์ตัวรถมาพร้อมกระจังหน้า ไฟหน้า กันชนและไฟตัดหมอกใหม่ เรียกว่าไม่เหลือเค้าเดิม โดยไฟหน้าแบบฮาโลเจน มัลติรีเฟลกเตอร์ กันชนหน้าแบบ 3 มิติที่ด้านหน้าตัวรถ ฝากระโปรงมีเหลี่ยมสัน ด้านหลังเปลี่ยนไฟท้ายใหม่เสริมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และโป่งล้อดีไซน์มาใหม่
ภายในห้องโดยสารถูกปรับแต่งและเปลี่ยนแปลงหลายจุด
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันควบคุมระบบเครื่องเสียงและเปิดดูข้อมูลที่จอแสดงผล
ดิจิตอล มาตรวัดเรืองแสง เบาะนั่งเลื่อนเข้าออกปรับสูงต่ำได้
ระบบเครื่องเสียงใหม่มาพร้อมจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว
เรียกว่าดีไซน์โดยรวมหรูหรา
และถูกออกแบบใหม่เอื้อประโยชน์ต่อการขับขี่และนั่งโดยสารจริงๆ
สรุป
ด้วยสนนราคาค่าตัว 896,000 บาท กับความแรงที่มาพร้อมความประหยัด เปี่ยมสมรรถนะ และให้ความสะดวกสบายต่อการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ทั้งขับขี่เพื่อการใช้งานทั่วไป และขับเที่ยวในวันพิเศษ Hilux Vigo Champ Prerunner ให้ความลงตัวจริงๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.ecareasy.com
โดยเฉพาะรุ่นยกสูงขับเคลื่อนสองล้อ Toyota Hilux Vigo Champ Prerunner 3,0 ลิตร 4 ประตู ระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งทีมข่าวนำมาทดสอบ รูปร่างหน้าตาดูไฉไล ปรับระบบช่วงล่างใหม่ พร้อมเพิ่มความทันสมัย เติมความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร บนเส้นทาง (กทม.-พัทยา-กทม.) ระยะทางกว่า 300 กม.
โจทย์หลักในวัดสมรรถนะ Hilux Vigo Champ Prerunner รุ่นนี้ ทีมข่าวมุ่งพิสูจน์จุดเด่นของรถให้สอดคล้องกับสิ่งที่โตโยต้าเน้นย้ำเป็น พิเศษคือ "แรงควบประหยัดและความสะดวกสบายในการนั่งโดยสาร" ด้วยน้ำมัน 76 ลิตร (เต็มถัง)
โดยการขับใช้งานในพื้นที่กรุงเทพฯ กว่า 150 กม. และบนเส้นทางระหว่างจังหวัด (กทม.-พัทยา-กทม.) ระยะทางกว่า 300 กม.ขับขี่ภายใต้สภาพการจราจรจริง แต่ความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนด พร้อมทั้งขับใช้งานทั่วไปวิ่งจนไฟน้ำมันเตือน
การขับขี่ภายในกรุงเทพฯ แม้จะเป็นรถที่สูงใหญ่ แต่ก็ให้ความคล่องตัวดี โดยเฉพาะอุปกรณ์กล้องมองหลัง ที่ส่งสัญญาณภาพมายังจอมอนิเตอร์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจในการถอดจอด ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยกว่า 11 กม.ต่อลิตร (ดูจากจอแสดงข้อมูลการขับขี่)
การขับขี่ระหว่างจังหวัด Hilux Vigo Champ Prerunner ยังให้ความฉับไวจัดจ้านเช่นเดิม สามารถเติมความเร็วและเรียกความแรงของกำลังออกมาใช้งานได้ตั้งแต่รอบต่ำ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างจัดว่า นุ่มนวลคล้ายรถเก๋ง ถือว่าสมราคาคุย แต่หากขับขี่บนทางออนโรดด้วยความเร็วไม่เกิน 110 กม. โดยส่วนตัวชอบรุ่นเดิมมากกว่า เนื่องจากหากขับใส่โค้งแรงๆ หรือขึ้นคอสะพานสูงๆ จะออกอาการโยนตัวมากกว่า ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยอมรับว่า ประหยัดขึ้น มาตรวัดจอแสดงข้อมูลขับขี่โชว์ตัวเลข 14กม.ต่อลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 110 กม. ซึ่งเป็นผลมาจากที่วิศวกรนำเอาระบบไดมอนต์ เทค มาติดตั้งในเครื่องยนต์
นอกจากนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ความประหยัดของรถมากขึ้น ทีมข่าวได้ขับทดสอบต่อ โดยวิ่งจนไฟน้ำมันเตือน ปรากฏว่า Hilux Vigo Champ Prerunner 3,0 ลิตร 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด วิ่งได้เกือบ 740 กม. วิ่งได้ไกลกว่ารุ่นก่อนกว่า 100 กม.
มาดเท่-ภายในแจ่ม ดีไซน์สไตล์รถเก๋ง
รูปลักษณ์ตัวรถมาพร้อมกระจังหน้า ไฟหน้า กันชนและไฟตัดหมอกใหม่ เรียกว่าไม่เหลือเค้าเดิม โดยไฟหน้าแบบฮาโลเจน มัลติรีเฟลกเตอร์ กันชนหน้าแบบ 3 มิติที่ด้านหน้าตัวรถ ฝากระโปรงมีเหลี่ยมสัน ด้านหลังเปลี่ยนไฟท้ายใหม่เสริมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และโป่งล้อดีไซน์มาใหม่
สรุป
ด้วยสนนราคาค่าตัว 896,000 บาท กับความแรงที่มาพร้อมความประหยัด เปี่ยมสมรรถนะ และให้ความสะดวกสบายต่อการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ทั้งขับขี่เพื่อการใช้งานทั่วไป และขับเที่ยวในวันพิเศษ Hilux Vigo Champ Prerunner ให้ความลงตัวจริงๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.ecareasy.com