สวยใสด้วย...น้ำเต้าหู้



น้ำเต้าหู้ อาหารยอดนิยมที่ดื่มกันมาตังแต่อดีต จนเดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็ยังคงเห็นน้ำเต้าหูอยู่ทั่วทุกระแหง ยิ่งเดี๋ยวนี้กระแสอาหารเพื่อสุขภาพกำลังอิน ทำให้ใครหลายคน ต่างหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น

น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ผู้ใหญ่มักบอกให้ดื่มน้ำเต้าหู้กันเยอะ ๆ เพื่อที่จะได้มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส อ่อนเยาว์เสมอจะจริงหรือไม่ เรามาถอดรหัสความงามไปด้วยกันเลยดีกว่า

ในน้ำเต้าหู้มีอะไร

น้ำเต้าหู้นั้นหรือนมถั่วเหลืองนั้นเป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย รวมไปถึงสารอาหารที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ ,บี ,บี 1 ,บี 2 ,บี 6 ,บี 12 ,ไนอาซิน ,เลซิทิน ซึ่งตัวหลังสุดช่วยในการบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ นอกจากนี้สารอาหารที่อยู่ในนมถั่วเหลืองยังช่วยลดไขมันและคอเลสเทอรอลในร่าง กายเราได้อีกด้วย

น้ำเต้าหู้กับสุขภาพ

นมถั่วเหลืองให้พลังงานได้มากพอ ๆ กับนมวัว แม้ปริมาณโปรตีน วิตามินและเกลือแร่อื่น ๆ อาจได้ไม่เท่ากับนมวัว แต่ข้อดีที่สำคัญคือ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เพราะ ไขมันในนมถั่วเหลือง เป็นไขมันไม่อิ่มตัวมีมากถึง 63% ไขมันอิ่มตัว 15 % ไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเดี่ยวอีก 24 % และยังมี linoleic acid กรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย นอกเหนือจากคุณค่าในแง่ของพลังงานแล้ว ในนมถั่วเหลืองยังมีสารอาหารอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี ที่มีในปริมาณที่สูง วิตามินอี มีส่วนสำคัญที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลเนื้อเยื่อร่างกายให้เป็นปกติ ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง และยังช่วยชะลอความแก่อีกด้วย ...เพราะฉะนั้น ถ้าใครทานนมถั่วเหลืองมาก ๆ ก็มีสิทธิแก่ช้า แถมยังได้ผิวพรรณที่สดใสอยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วย

ประโยชน์ ของน้ำเต้าหู้ ไม่ได้มีเพียงแค่ทำให้ผิวพรรณ สดใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ หรือทำให้แก่ช้าเท่านั้น แต่ด้วยคุณสมบัติที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แฝงมากับวิตามินในนมถั่ว เหลือง ยังช่วยป้องการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูก สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ และริดสีดวงด้วย

ข้อจำกัดของน้ำเต้าหู้

ข้อจำกัดนี้ไม่ได้เป็นการกำจัดปริมาณการทาน แต่เป็นข้อจำกัดที่มีอยู่ในตัวเอง ธรรมชาติของสารอาหารที่มาจากพืชย่อมมีปริมาณที่น้อย แต่เราสามารถทานให้มากและทานให้หลากหลายชนิดได้ นมถั่วเหลืองก็เช่นกัน เนื่องจากมีปริมาณแคลเซียมน้อย จึงจำเป็นต้องรับประทานควบคู่ไปกับอาหารชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น ปลาทอดกรอบที่ทานได้ทั้งกระดูก ผักใบเขียวอื่น ๆ อย่างคะน้า ขึ้นฉ่าย กวางตุ้ง นอกจากนี้เราสามารถทานน้ำเต้าหู้ร่วมกับธัญพืชอื่น ๆ อย่างลูกเดือย สาคู หรือถั่วแดง จะทำให้ได้รับสารอาหารที่เพิ่มมากขึ้น

น้ำเต้าหู้กับผู้หญิง

น้ำเต้าหู้ดีกับสุขภาพโดยเฉพาะกับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทอง หากมีการรับประทานน้ำเต้าหู้อยู่เสมอจะช่วยลดอาการต่าง ๆ ของหญิงวัยหมดประจำเดือนไม่ว่าจะเป็นร้อนวูบวาบ ช่องคลอดแห้ง ไขมันสูง อารมณ์ไม่ปกติ ในน้ำเต้าหู้จะมีสารเคมีสำคัญตัวหนึ่ง คือ ไอโซฟลาโวน ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ประโยชน์ของสารตัวนี้สามารถลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านม โรคกระดูกพรุน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ส่วนคุณผู้หญิงที่ไม่อยู่ในช่วงวัยทองก็ได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน เพราะจะช่วยปรับฮอร์โมนของผู้หญิงให้สมดุลได้เช่นเดียวกับยาคุมกำเนิด


เห็นคุณประโยชน์ของน้ำเต้าหู้ที่มีมากขนาดนี้ ไม่หามาทานคงไม่ได้แล้วหล่ะ และช่วงนี้อยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีอุดมไปด้วยสารอาหารที่มี ประโยชน์อย่างน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองนี่แหละค่ะ



















ที่มา ... Never-Age.com

..ข้าวต้มปลาเก๋า..

เช้าๆ รีบๆ ได้ข้าวต้มที่อร่อยและครบคุณค่าก่อนออกจากบ้านซักถ้วยล่ะก็ คุณพ่อและคุณลูกมีพลังทำภารกิจได้ตลอดวันแน่ๆ

ข้าวต้มปลาเก๋า

เนื้อปลาเก๋า 200 กรัม

ข้าวสวย 1 ถ้วย

น้ำสต๊อกไก่ 2 ถ้วย

ซีอิ้วขาว 1-2 ช้อนชา

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

ข่าแก่ป่น 1/2 ช้อนชา

กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา

ขึ้นช่ายซอยหยาบ 1 ต้น

พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา

พริกชี้ฟ้าดองน้ำส้มสายชูและเต้าเจี้ยว

วิธีทำ...

ต้มข้าวสวยกับน้ำสต๊อกไก่ในหม้อด้วยไฟปานกลางจนเดือนด้วยไฟแรงจนสุก ตักใส่ถ้วยข้าวต้มโรยตังฉ่าย ข่าป่น กระเทียมเจียว ขึ้นฉ่าย และพริกไทยป่น เสริฟร้อนๆ กับพริกชี้ฟ้าดองและเต้าเจี้ยวบด (1 คนรับปะทาน)

ทัวร์ชมฟาร์มมุกที่ "เกาะนาคาน้อย"

"เกาะนาคาน้อย" เป็นเกาะเล็กๆที่เริ่มมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวและการเลี้ยงมุก โดยเกาะนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะภูเก็ต อยู่ในเขตตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต



"เกาะนาคาน้อย"

เกาะนาคาน้อย เป็นเกาะที่มีพื้นที่ 50 ไร่ และมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในปัจจุบันเป็นเกาะส่วนบุคคลถือครอง โดยคุณทินกร หิรัญพฤกษ์ ซึ่งนักท่องเที่ยว จะเข้าชมนั้นต้องติดต่อขออนุญาตเข้าชมผ่านทางเจ้าของ หรือเจ้าหน้าที่บนเกาะ



"เกาะนาคาน้อย"

เนื่องจากว่า เกาะนาคาน้อย เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงด้านการเลี้ยงมุก นักท่องเที่ยวสามารถซื้อทัวร์ชมฟาร์มมุก ดูการสาธิตวิธีเลี้ยงมุก ตลอดจนมีร้านขายมุก และร้านอาหารทะเลไว้บริการ นอกจากนี้แล้วบนเกาะยังมีชายหาดที่สามารถพักผ่อนว่ายน้ำได้ การเดินทางสามารถไปได้ตลอดปี โดยเช่าเรือจากอ่าวปอ

ข้อมูลโดย : กรมการท่องเที่ยว

เมืองลอยน้ำอาจช่วยรับมืออุทกภัยในอนาคต




ผลงานการออกแบบเมืองลอยน้ำ Floating ecopolis หรือ Lilypad อาจเป็นการรับมืออุทกภัยที่จะเกิดขึ้นทั่วโลกในอนาคต

เมือง ลอยน้ำ Floating ecopolis หรือ Lilypad เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ แวงซองต์ แคเลอโบต์ สถาปนิกชาวเบลเยี่ยม ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงใบบัวขนาดใหญ่ของ Amazonia Victoria Regia ที่คอยรองรับน้ำฝนและฟอกน้ำให้สะอาด หากสร้างสำเร็จเมืองแห่งนี้จะกลายเป็นที่อาศัยของคนได้ถึง 50,000 คน โดยในเมืองจะใช้แต่พลังงานจากธรรมชาติ เช่น แสงอาทิตย์, ลม, น้ำ และความร้อน ที่จะทำให้มลพิษเป็นศูนย์ ส่วนสิ่งปฏิกูลและขยะทั้งหมดจะถูกนำมารีไซเคิล ซึ่ง Lilypad สามารถลอยอยู่เหนือบริเวณแผ่นดินเดิมที่ถูกจม หรือล่องไปในมหาสมุทรก็ได้

ด้าน แคเลอโบต์ เจ้าของผลงานผู้เคยคว้ารางวัลจากงานสถาปัตย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาก มาย เผยว่าหลายประเทศหมดเงินนับพันล้านในการสร้างเขื่อนหรือที่กั้นน้ำให้ใหญ่ ขึ้นหรือแข็งแรงขึ้น แต่ Lilypad เป็นการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติโดยการเลียนแบบธรรมชาติ จะเป็นการรับมืออุทกภัยที่จะเกิดขึ้นทั่วโลกในอนาคตได้อย่างถาวร






ทั้ง นี้ในอนาคตมีการคาดการณ์กันว่าภูเขาน้ำแข็งทางขั้วโลกที่กำลังละลาย เพราะภาวะโลกร้อน จะทำให้ปริมาณน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 ฟุต ซึ่งจะส่งผลกระทบในหลายเมืองทั่วโลก โดยประเทศที่เตรียบรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวอยู่เสมอได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ดินแดนที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ซึ่งในเมืองเวสต์ มาเซนวาล ได้มีการสร้างบ้านริมน้ำที่สามารถยกตัวขึ้นตามระดับน้ำที่เปลี่ยนแปลงอย่าง อิสระ

ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญของ DeltaSync หน่วยงานที่ดูแลการสร้างชุมชนลอยน้ำในเนเธอร์แลนด์ เผยว่าการสร้างที่อาศัยบนพื้นดินกำลังจะกลายเป็นอดีต ในวันข้างหน้าแนวคิดการสร้างชุมชนบนพื้นที่ที่ยืดหยุนไปกับสภาวะที่เปลี่ยน แปลงตามธรรมชาติ จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการรับมือกับปัญหาอุทกภัยในอนาคต





ที่มา
http://news.thaipbs.or.th/

เวลาไหนที่ผู้ชายไม่อยากให้ผู้หญิงอยู่ใกล้



คุณผู้หญิงดูไว้นะ จริงๆ ต้องบอกไว้ก่อนว่า ผู้ชายที่เป็นชายแท้ ไม่ใช่ตุ๊ด เขาก็อยากให้ผู้หญิงอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลานั่นแหละ แต่ถ้าจะคาดคั้นเอาคำตอบละก็ มีหลายช่วงเวลาเลยล่ะ

กำลังตั้งใจทำงาน

การทำงานทุกอย่างเราต้องใช้สมาธิ ไม่สามารถทะเลาะกับแฟนได้ ยิ่งช่วงเวลาทำงาน หรือก่อนมาทำงาน เพราะเราจะเครียดและไม่มีอารมณ์ทำงาน สำหรับบางคนที่เจอมาเยอะ เขาจะสร้างกำแพงไว้เลยว่า เวลาทำงานเขาอยากอยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นคุณควรจะเข้าใจเขา

เวลาเล่นเกม

งงสิ เกมมันสำคัญกว่าฉันหรือไงยะ ผู้ชายบางคนสามารถนั่งเล่นเกมได้ 4-5 ชั่วโมง ติดต่อกันโดยไม่ทำอะไรเลย บางคนเป็น 10 ชั่วโมง ก็มี (นี่ก็เป็นหนึ่งสาเหตุของการเลิกกันกับแฟน หลายคู่แล้ว) มันสนุกยังไงน่ะเหรอ จริงๆ แล้วผู้ชายเป็นเพศที่ชอบเอาชนะ นอกจากสาวๆ คนอื่นที่เราอยากเอาชนะแล้ว ศัตรูตัวดีอีกอย่างก็คือเกมนี่แหละ ลองมองโลกในแง่ดี ยังไง ติดเกมก็ดีกว่าติดหญิงนะจ๊ะ

เวลาดูบอล

อย่าได้มาเข้าใกล้เชียว ถ้าคุณดูบอลไม่เป็น มันจะเกิดการทะเลาะกันอย่างแน่นอน เพราะคนที่ดูบอลไม่เป็น มองเข้าไปในจอทีวีก็เห็นแต่จอเขียวๆ มีผู้ชายวิ่งไปวิ่งมา สนุกตรงไหนเนี่ย อันทีมที่แพ้ก็ก็เป็นอีกทีม แล้วทำไปแฟนฉันต้องสนใจมันหันมาคุยกันสัก 10 นาทีก็ไม่ได้ เพราะจะบอกให้ ก็เหมือนเวลาสาวๆ ไปดูหนังในโรงนั่นแหละ อยากให้มีคนมาชวนคุย หรือชวนไปห้องน้ำหรือเปล่าล่ะ

ขณะกำลังมีเรื่องชกต่อย

เพราะผู้ชายร้อยทั้งร้อย เวลามีเรื่องต้องสู้เสมอ เวลามีเรื่องอดรีนาลินจะพุ่งปรี๊ดเหมือนรถไฟเหาะ พร้อมสู้ตลอดเวลาแต่สาวข้างกายมักพูดว่า อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ ยอมๆ เขาไปเถอะ รีบกลับเถอะ (จากประสบการณ์ตรง) จะบ้าหรือไงเธอ ก็บอกแล้วไงว่ามันเหมือนรถไฟเหาะ ถ้ามีคนมาห้ามเธอไม่ให้กรี๊ด อย่าร้อง อย่าเสียวนะ จะทำได้ไหม

เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนผู้ชาย (ล้วน)

เพราะอะไรเหรอ เรื่องนี้ผู้ชายเขารู้กัน ก็เพราะเกะกะนะซิครับ ไหนจะเวลาคุยเรื่องผู้ชาย มันมีความลับบางอย่างที่แฟนฟังไม่ได้ (เรารู้นะว่าสาวๆ ก็มีเหมือนกัน 55 ) มันโม้กันไม่ถนัด หรือถ้าจะขุดเอาวีรกรรมเด็ดในอดีตมาพูด สาวๆก็รับไม่ได้อีก ไม่ต้องมาอ่ะ ดีแล้ว บางทีเราก็อยากแอบไปเหล่สาว จีบสาว อะไรกันบ้าง ไม่ได้นอกใจนะ แต่ขอซ้อมมือบ้าง เช็คเรทติ้งบ้าง

เวลาร้องไห้

ในโลกนี้ไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากให้ผู้หญิงมาเห็นน้ำตาของเขาหรอก เพราะน้ำตาหมายถึงความอ่อนแอ ไม่มีใครอยากให้ชาวบ้านรู้หรอกว่าอ่อนแอ เพราะฉะนั้นเวลาแอบเห็นหนุ่มของตัวเองร้องไห้ ก็ให้เวลาเขาสักแป๊บ เออ เรามีข้อสังเกตให้นะ ผู้ชายที่เวลาดูหนังเกาหลีแล้วร้องไห้เนี่ย ว่ากันว่าเป็นผู้ชายโรแมนติกมา ลองไปจับผิดดู























ที่มา ... daradaily.com

ปภ. เตือนอุบัติภัยจากไฟฟ้า .. ภัยร้ายคร่าชีวิตช่วงน้ำท่วม




ปภ. เตือนอุบัติภัยจากไฟฟ้า .. ภัยร้ายคร่าชีวิตช่วงน้ำท่วม ( กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนอุบัติภัยจากไฟฟ้าเป็นสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตในช่วงน้ำท่วม พร้อมแนะผู้ประสบภัย หากน้ำท่วมบ้านให้รีบตัดกระแสไฟฟ้า พร้อมย้ายสวิตซ์ไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าให้อยู่สูงกว่าระดับ น้ำท่วมถึง ห้ามใช้และสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในขณะที่ตัวเปียกชื้น ยืนบนพื้นที่ชื้นแฉะหรือตัวแช่อยู่ในน้ำ ตลอดจนหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำและพายเรือเข้าใกล้แนวเสาไฟฟ้า เพราะหากมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล จะทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า อุบัติภัยจากไฟฟ้าเป็นสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตในช่วงน้ำท่วม เนื่องจากความประมาทและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม จึงมองข้ามอันตรายใกล้ตัว ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุดเสียหายจากน้ำท่วมขัง การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ในขณะที่ร่างกายเปียกชื้นหรือยืนอยู่บนพื้นที่ชื้นแฉะ รวมทั้งการเข้าไปอยู่ใกล้บริเวณที่ไม่ตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อเกิดน้ำท่วมขัง

เพื่อความปลอดภัย ขอแนะวิธีป้องกันอุปกรณ์จากไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วม ดังนี้

กรณีน้ำท่วมบ้าน หากเป็นบ้านชั้นเดียว ให้รีบตัดกระแสไฟฟ้า โดยยกสะพานไฟขึ้น ย้ายสวิตซ์ไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นที่สูง ห่างจากระดับที่น้ำท่วมถึง พร้อมงดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด

หากบ้าน 2 ชั้น ให้ดำเนินการแยกวงจรไฟฟ้าชั้นบนและชั้นล่างของบ้าน เพื่อปลดตัดกระแสไฟฟ้าบริเวณชั้นล่างของบ้าน และให้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ชั้นบนของบ้านเท่านั้น

ห้ามใช้และสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในขณะที่ตัวเปียกชื้น ยืนบนพื้นที่ชื้นแฉะหรือตัวแช่อยู่ในน้ำ

ห้ามนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมมาใช้งานเด็ดขาด

ทั้งนี้ ให้เพิ่มความระมัดระวังการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่บริเวณที่ชื้นแฉะเป็นพิเศษ เช่น ปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น เพราะหากมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล จะทำให้ได้รับอันตรายได้

หากไม่มีความรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ห้ามซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยตนเอง เพราะอาจเกิดข้อผิดพลาดทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิตได้

ก่อนนำอุปกรณ์ไฟฟ้ามาใช้งาน ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้า อยู่ในสภาพปลอดภัย เมื่อเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วพบสิ่งผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็นไหม้ มีเสียงดังมาจากเครื่อง เป็นต้น ให้หยุดใช้งานในทันที พร้อมนำไปให้ช่างผู้ชำนาญการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพปลอดภัย

นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า กรณีพบเห็นเสาไฟฟ้าทรุด ล้ม หรือสายไฟฟ้าขาด ต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้า ห้ามเข้าใกล้และสัมผัสถูกสายไฟฟ้า หรือวัสดุที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ดังกล่าวอย่างเด็ดขาด เพราะอาจได้รับอันตรายจากไฟฟ้าดูด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาดำเนินการแก้ไขโดยด่วน ที่สำคัญ ในช่วงน้ำท่วม ขอให้ผู้ประสบภัยหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำและพายเรือเข้าใกล้แนวเสาไฟฟ้า เพราะหากมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลหรือยังไม่ได้ตัดกระแสไฟฟ้า จะทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต








ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปากเกร็ด-บางบัวทอง อ่วม! น้ำสูงเกือบ 40 ซม.




ปากเกร็ด-บางบัวทองอ่วมน้ำสูงเกือบ 40 ซ.ม. (ไอเอ็นเอ็น)


ที่บริเวณปากเกร็ด-บางบัวทอง ยังอ่วม ระดับน้ำสูงเกือบ 40 ซ.ม. เขื่อนคันดินกั้นน้ำ พังหลายจุด เจ้าหน้าที่เร่งกู้แล้ว

วันนี้ (12 ตุลาคม 2554) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นนทบุรี ว่า ตอนนี้พื้นที่ ที่ประสบภัยพิบัติหนัก 2 อำเถอ จาก 6 อำเภอ ใน จ.นนทุบรี คือ อ.ปากเกร็ด และ อ.บางบัวทอง ซึ่งใน อ.ปากเกร็ดนั้น พื้นที่ที่หนักสุด คือ เกาะเกร็ด ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ส่วนพื้นที่เสี่ยงอยู่บริเวณซอยวัดกู้ ที่เขื่อนคันดินกั้นน้ำได้พังทะลายลงหลายจุด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมซ่อมอุดรอยรั่วต่อเนื่อง ส่วนที่วัดกลางเกร็ด คันกั้นนำก็พังลงเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ได้ซ่อมแล้วเสร็จแล้ว

สำหรับ อ.บางบัวทอง ที่ตลาดสดบางบังทองนั้น จมน้ำหมดแล้ว ระดับน้ำสูงเกือบ 40 ซ.ม. ส่วนที่ ร.พ.บางบัวทองได้มีการการอยพยคนป่วย และเจ้าหน้าที่ออกไปแล้ว นอกจากนี้ จุดเสี่ยงอีกจุด คือ บริเวณถนนสาย 345 ปทุมธานี-บางบัวทอง ตรงทางเข้าวัดสะพานสูง ที่ขณะนี้น้ำท่วมบนถนนสูงกว่า 40 ซ.ม. แล้ว รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้แล้ว

น้ำท่วมบางบัวทอง

รพ.บางบัวทองย้ายที่บริการผู้ป่วยนอก


โรงพยาบาลบางบัวทอง ย้ายสถานที่ให้บริการผู้ป่วยนอก ไปที่ศูนย์บริการสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ทำการกู้ซ่อมแซมแนวเขื่อนที่แตกอย่างเร่งด่วน

หลังจากที่แนวเขื่อนกระสอบทราย ภายในชุมชนพัฒนาเทศบาล 6 หลังโรงพยาบาลบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เกิดพัง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน จำนวนกว่า 150 หลังคาเรือน รวมถึงบริเวณโรงพยาบาลบางบัวทองนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางบัวทอง รวมทั้งกำลังทหารและชาวบ้าน เร่งซ่อมแซมแนวเขื่อน

นายประพุทธ ลีลาพฤทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางบัวทอง กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลจึงทำการย้ายสถานที่ให้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน ไปที่ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองบางบัวทอง ส่วนผู้ป่วยในบางส่วนยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งถ้ามีผู้ป่วยรายใด ที่มีอาการสาหัส เราก็จะประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัด ย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยที่รักษาอยู่ภายในโรงพยาบาลทั้งหมด 15 ราย จากเมื่อวานทั้งหมด 24 ราย โดยมีการย้ายผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จำนวน 2 ราย และสถาบันบำราศนราดูร จำนวน 1 ราย และบางส่วนได้กลับบ้าน ในส่วนของแนวกระสอบทรายได้ประสานงานจากหน่วยงานต่างๆ เร่งทำการซ่อมแซม แต่เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดำเนินการได้ล่าช้า

น้ำท่วมบางบัวทอง


น้ำท่วมบางบัวทอง น้ำสูงเกือบ 40 เซนติเมตร

สถานการณ์น้ำท่วม ที่่โรงพยาบาลบางบัวทอง วันนี้ (12 ตุลาคม) ทางโรงพยาบาลได้มีการการอยพยคนป่วย และเจ้าหน้าที่ออกไปแล้ว นอกจากนี้ จุดเสี่ยงอีกจุด คือ บริเวณถนนสาย 345 ปทุมธานี-บางบัวทอง ตรงทางเข้าวัดสะพานสูง ที่ขณะนี้น้ำท่วมบนถนนสูงกว่า 40 เซนติเมตรแล้ว รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้แล้ว





ท่าน้ำนนท์ น่าห่วง ฝนถล่มซ้ำ-น้ำสูงเข้าขั้นวิกฤติ











เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก คุณWitsanu Nunthakitpinyo

ท่าน้ำนนท์ เข้าขั้นวิกฤติ น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก หลังฝนถล่มซ้ำอีก ทางด้านเจ้าหน้าที่ก่อกระสอบทรายสูงกว่า 2 เมตร ป้องกันน้ำทะลักแล้ว

วันนี้ (12 ตุลาคม 2554) สถานการณ์น้ำท่วมที่บริเวณท่าน้ำนนท์ เทศบาลนครนนทบุรี จ.นนทบุรี ขณะนี้ระดับเพิ่มสูงขั้นอย่างรวดเร็ว โป๊ะท่าน้ำลอยขึ้นจนเกือบสุดเสายึดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลได้นำกระสอบทรายก่อเป็นกำแพงกั้นน้ำสูงประมาณ 2 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้ามา

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 1 ตัว คอยสูบน้ำออกตลอดเวลา พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น หน่วยดับเพลิงเทศบาลนครนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน และบรรเทาสาสาธารณภัย คอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 11.50 น. ได้เกิดฝนตกหนักถล่มซ้ำอีกครั้ง ทำให้กระแสน้ำน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเชี่ยวกราก เรือโดยสารที่ต้องข้ามฟากไปยังฝั่งบางบัวทองต้องใช้ความระมัดระวังในการควบคุมเรือเป็นอย่างมาก ส่วนเรือด่วนเจ้าพระยานั้นยังเปิดบริการตามปกติ แต่ต้องบังคับเรือให้ช้าลงกว่าเดิม เพื่อลดความแรงของน้ำที่จะพัดเข้าบ้านเรือนประชาชน



[3 ตุลาคม] กรมชลฯ โต้ข่าวลือน้ำท่วมเกาะเกร็ดสูงเท่าปี 2538

เกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด




กรมชลฯ ชี้ปีนี้น้ำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ คาดปทุม-นนท์ท่วมหนัก เกาะเกร็ดอาจท่วมถึงยอด หากน้ำไหลผ่านเจ้าพระยาเกิน 4,500 ลบ.ม. เผยขณะนี้น้ำไหลผ่านเขื่อนที่ 3,616 ลบ.ม.

วานนี้ (30 กันยายน) นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า หลังจากที่เกิดฝนตกหนักในภาคเหนือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงมากกว่า 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ซึ่งถือว่าสถานการณ์อยู่ในระดับวิกฤตแล้ว และน้ำทั้งหมดจะมาถึงเขื่อนภูมิพลในอีก 5 วันข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลก็วิกฤตอยู่แล้ว ไม่สามารถรับน้ำเหนือที่จะไหลบ่ามาได้อีกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจึงต้องเร่งระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อความปลอดภัยของเขื่อน ซึ่งการระบายน้ำเช่นนี้ จะทำให้ปริมาณน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้นในระดับ 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งสูงที่สุดในประวัติการณ์ของประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม รองอธิบดีกรมชลประทานยังคาดด้วยว่า น้ำทั้งหมดน่าจะเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานครประมาณวันที่ 15 ตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งหากไม่สามารถจัดการบริหารน้ำได้ คาดว่า จังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

โดยเฉพาะที่จังหวัดนนทบุรี ระดับน้ำอาจจะท่วมสูงเกือบถึงยอดเจดีย์เกาะเกร็ด ทุบสถิติปี 2538 ก็เป็นได้ ขณะที่กรุงเทพฯ ก็อยู่ในสถานการณ์ที่น่าห่วง เพราะต้องเร่งระบายน้ำในช่วงที่น้ำทะเลจะหนุนสูงที่สุดในรอบปี คือวันที่ 28-31 ตุลาคมนี้ ซึ่งทางกรมชลประทานจะแถลงข่าวแจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัยทุกวัน เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวรับมือ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อเช้าวันนี้ (1 ตุลาคม) กรมชลประทานได้ออกมาชี้แจงถึงข่าวดังกล่าวว่า การที่สถานการณ์น้ำในเกาะเกร็ดจะสูงเท่าปี พ.ศ.2538 จะต้องมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท 4,500 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที แต่ในข้อเท็จจริงขณะนี้มีปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ประมาณ 3,616 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ข่าวดังกล่าวจึงยังไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ประชาชน สามารถติดตามสถานการณ์น้ำ จากกรมชลประทานได้ ตลอด 24 ชั่วโมง ทางสายด่วน 1460 กด 2

ขณะที่สถานการณ์น้ำบริเวณเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (1 ตุลาคม) ปริมาณน้ำได้เพิ่มมากขึ้นจนท่วมถนน ทำให้ร้านค้าที่ตั้งอยู่สองข้างต้องปิดร้าน เมื่อนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวจึงไม่เดินทางมาเที่ยวเกาะเกร็ด โดยนายวิศิษฐ์ พวงเพชร นายอำเภอปากเกร็ด กล่าว ขณะนี้ระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 2.62 ม. ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยจุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอยู่ที่ ต.เกาะเกร็ด และปีนี้ถือว่าระดับน้ำสูงมาก แม้แต่ในเขตเทศบาลที่ไม่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมมาปีนี้ก็ยังเจอสภาวะน้ำท่วม



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

Rotary ยังไม่ตาย Mazda เผยกำลังพัฒนาในแบบ Skyactiv technology

เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาหากใครจะยังพอจำได้อยู่บ้างนั้น ถึงข่าวคราวของโครงการพัฒนาสปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ของค่ายรถยนต์ Mazda ที่แม้ตอนนี้ค่ายรถยนต์รายนี้จะพุ่งเป้าที่การผลักดันเครื่องยนต์รุ่นใหม่ในนนาม Sky Activ Technology ออกสู่ตลาด แต่คำถามที่คาใจหลายคนก้ไม่สปอร์ตรุ่นใหม่ ที่จะยังคงเอกลักษณ์เดิมหรือไม่

เครื่องยนต์โรตารี่นั้นนับว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของรถยนต์จากค่ายรถ Mazda โดยเฉพาะรถสปอร์ตตระกูล RX ที่คบหามันตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ด้วยเอกลักษณ์เครื่องหมัดหนักรอบจัด ที่พร้อมพุ่งทะยานทุกเมื่อ ทำให้ถูกใจขาซิ่งหลายคนมากมายทั่วโลก

การออกมาเปิดเผยเมื่อก่อนหน้านี้ของ Mazda ที่มีการระบุเกี่ยวกับเครื่องยนต์ Rotary ว่าอาจจะไม่ใช่หัวใจในการขับเคลื่อนของสปอร์ตคาร์รุ่นต่อไป แต่ล่าสุดนั้นดูเหมือนมันจะไม่ใช่อย่างงั้น เมื่อมีการโพสผ่าน Tweeter โดยในข้อความดังกล่าวที่ถูกโพสเป็นภาษาญี่ปุ่นนั้น สามารถแปลความได้ว่า

"เราขอขอบคุณการสนับสนุน RX-8 และเครื่องยนต์โรตารี่ ขอบคุณ มาก เรารู้สึกทราบซึ้งเป็นอย่างมาก และด้วย Mazda เราได้บรรลุการพัฒนาเทคโนโลยี skyactiv และเรากำลังพัฒนาเครื่องยนต์โรตารี่รุ่นต่อไป โดยเราหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนเหมือนเคย"

การส่งสัญญาณเรื่องการเตรียมพร้อมสำหหรับ Mazda RX-9 ใหม่ มีขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ Mazda เปิดเผย MAZDA RX-8 Spirit R คล้ายกับที่เคยเปิดจำหน่ายรุ่นพิเศษในตอนรถรุ่น RX-7 ซึ่งหมายถึงการเตรียมหยุดสายการผลิตรถยนต์สปอร์ตพันธุ์แรงอย่างเป็นทางการเพื่อเปิดทางให้รถรุ่นใหม่ แต่ที่น่าสนใจคือ โรตารี่ในแบบ Sky Active จะเป็นยังไง อันนี้คงต้องติดตามกัน

วิธีป้องกันน้ำท่วมเข้าบ้านอย่างได้ผล-ไม่ใช้กระสอบทราย

ข่าวน้ำท่วม

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์, คุณ ทองกาญจนา

น้ำทะลัก! คันกั้นน้ำแตก! ตลิ่งพัง! น้ำจ่อท่วม ...เวลานี้คงจะต้องติดตามข่าวสารอุทกภัยกันนาทีต่อนาที เพราะสถานการณ์น้ำดูจะเลวร้ายขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับใคร ที่บ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม มวลน้ำยังมาไม่ถึง แต่ส่อเค้าหรือเริ่มมีน้ำส่งสัญญาณมาบ้างแล้วนั้น คงจะนิ่งนอนใจไม่ได้อีกต่อไป เพราะถ้าช้า...ไม่แน่ว่า บ้านของเราอาจจมน้ำภายในพริบตา!!!

สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้สำหรับผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัย นอกจากการเตรียมอาหาร และเก็บข้าวของเตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อแล้ว หากยังพอมีเวลาเราสามารถป้องกันน้ำท่วมบ้านได้ ซึ่งวันนี้เรามีวิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล จากคุณ ทองกาญจนา ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์น้ำท่วมบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ และอีกแนวคิดดี ๆ ในการป้องกันน้ำท่วมบ้านโดยไม่ใช้กระสอบทรายจาก คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ มาบอกต่อกันจ้า...


วิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล by คุณทองกาญจนา

เตรียมการก่อน

ประสบการณ์ จากน้ำท่วมเมื่อครั้งที่แล้ว พบว่าถึงแม้จะกั้นกระสอบทรายไว้ที่ประตูรั้ว แต่ก็ไม่สามารถกั้นน้ำเข้าบ้านได้ เพราะ (1) บริเวณสนามหญ้าและลานอิฐบล็อกภายในบริเวณบ้านจะมีน้ำปุดทะลุพื้นดินขึ้นมา (2) กระสอบทรายไม่มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอ เมื่อถูกคลื่นที่เกิดจากรถยนต์วิ่งฝ่าเข้ามาในถนนที่น้ำท่วม จะมีแรงดันมหาศาลทำให้กำแพงกระสอบทรายพัง และน้ำไหลเข้าบริเวณบ้านได้ในที่สุด

จากประสบการณ์ดังกล่าวผมได้เตรียมการไว้หลังจากน้ำลดครั้งที่แล้ว ดังนี้

(1) ปรับปรุงพื้นรอบ ๆ บริเวณบ้านใหม่ โดยทำพื้นให้เรียบและเทพื้นด้วยคอนกรีตซีแพ็คลงไปจนเต็มชิดรั้วทุกด้าน

(2) ทำบานเหล็กสำหรับกั้นน้ำพร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง โดยทำกรอบรางเหล็กสำหรับสวม ติดถาวรไว้ที่ประตูรั้วบ้านทั้งซ้ายและขวา ส่วนบานเหล็กและเสาค้ำยันถอดออกได้ เพื่อให้สามารถใช้ประตูบ้านได้ในยามปกติ

(3) ซื้อเครื่องสูบน้ำชนิดแช่ขนาดเล็กที่เรียกว่า ไดรโว่ ราคาประมาณ 1,500-2,000 บาท เครื่องสูบน้ำชนิดนี้จะขาดตลาดทันทีที่เกิดน้ำท่วม จึงต้องซื้อเก็บไว้ล่วงหน้า แล้วก็ไม่ลืมสายไฟพร้อมปลั๊กที่จะใช้ต่อพ่วงมาจากตัวบ้านจนถึงประตูรั้ว

(4) ดินน้ำมันจำนวนหนึ่ง ใช้สำหรับอุดในช่องว่างที่ประกอบบานเหล็กกั้นน้ำเข้ากับประตูรั้วบ้าน

น้ำมาแล้ว

เสียง ประกาศเตือนภัยจาก อบต. ตั้งแต่เช้า แจ้งว่าน้ำคงจะเข้าท่วมหมู่บ้านในช่วงบ่าย ขอให้ประชาชนเตรียมป้องกันทรัพย์สินของตนเอง ผมนำรถยนต์ออกจากบ้านไปจอดไว้ยังที่ปลอดภัยนอกหมู่บ้าน กลับเข้ามาก็เริ่มติดตั้งบานเหล็กเข้ากับประตูรั้วบ้าน ติดตั้งเสาค้ำยัน ใช้ดินน้ำมันอุดตามรอยต่อระหว่างบานกับกรอบรางเหล็ก นำเครื่องสูบน้ำไดรโว่มาวางไว้ใกล้ประตูรั้วในตำแหน่งที่คาดว่าน้ำจะซึมเข้า มาและท่วมขังอยู่ ต่อสายไฟพร้อมใช้งาน แล้วรอน้ำที่กำลังเริ่มไหลเข้ามาในหมู่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ

เวลา ประมาณ 16.00 น. น้ำท่วมถนนภายในหมู่บ้านทุกถนนแล้ว มีน้ำซึมผ่านบานเหล็กที่ประตูรั้วเข้ามาในบ้านของผมปริมาณหนึ่ง แต่เมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำก็สามารถควบคุมระดับน้ำไม่ให้สูงจนเกิดความเสีย หายได้ เมื่อน้ำในถนนลดลง ผมไม่ต้องลำบากในการทำความสะอาดบริเวณบ้าน ที่มีดินโคลนตกค้างจากน้ำท่วมขัง เหมือนน้ำท่วมเมื่อครั้งก่อนอีกแล้ว

ภาพบรรยากาศ

ติดตั้งบานเหล็กเข้ากับเสาประตูรั้วบ้าน พร้อมติดตั้งเสาค้ำยัน

ข่าวน้ำท่วม

เข้า-ออก จากบ้านต้องใช้เก้าอี้บันไดตัวนี้ สังเกตระดับน้ำภายนอกบ้านเริ่มสูงมากแล้ว

ข่าวน้ำท่วม

ขณะที่ถนนด้าน นอกระดับน้ำสูงถึง 60 ซม. แต่ภายในบ้านมีน้ำรั่วซึมเข้ามาเพียงเท่านี้ และเมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำ น้ำก็จะแห้งภายใน 5 นาที

ข่าวน้ำท่วม

ลุยน้ำออกไปถ่ายจากนอกบ้านเข้ามา สภาพประตูกั้นน้ำจะมีลักษณะนี้

ข่าวน้ำท่วม

บ้านข้าง ๆ ก็ติดตั้งบานประตูกั้นน้ำเช่นเดียวกัน

ข่าวน้ำท่วม

อีกภาพหนึ่ง

ข่าวน้ำท่วม

หวัง ว่าบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่มีบ้านในหมู่บ้านจัดสรร ที่น้ำเคยท่วมแล้ว จะได้เป็นแนวทางในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับบ้านแสนรักในครั้ง ต่อไปได้บ้างตามสมควรครับ


วิธีป้องกันน้ำเข้าบ้านง่าย ๆ แบบไม่ใช้กระสอบทราย by คุณอนันต์


จากวิกฤติน้ำท่วมอย่างร้ายแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยปีนี้ สร้างความสูญเสียให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และหลังจากที่มีข่าวมาว่า หลายเขื่อนรองรับน้ำอย่างเต็มพิกัดแล้ว ประกอบกับสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ก็คงทำให้คนในพื้นที่เฝ้าระวังต่าง ๆ รวมถึงคนในกรุงเทพฯ ล้วนตื่นตัว และไม่รอช้าที่จะเตรียมรับมือเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันเหตุน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ด้วยเหตุนี้ ของที่สำคัญในการป้องกันน้ำท่วมอย่าง "กระสอบทราย" รวมถึงอิฐบล็อกต่าง ๆ จึงขาดตลาด แต่เพื่อน ๆ ก็ไม่ต้องหนักใจไป เพราะในวันนี้เรามีวิธีป้องกันน้ำเข้าบ้าน แนวคิดดี ๆ จากคุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ที่จะใช้วัสดุง่าย ๆ ในการป้องกันน้ำท่วม แบบไม่ต้องใช้กระสอบทราย มาแนะนำกันค่ะ













จำนวนการดูหน้าเว็บรวม