กลายเป็นมหาวิปโยคของคนไทยจำนวนมากไปแล้วกับเหตุการณ์น้ำท่วม ที่ทำให้หลายคนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องคอยเฝ้าระวังน้ำและยังต้องขนข้าวของที่สำคัญให้พื้นจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ไม่พ้นรถยนต์ปัจจัยที่ 5 ของชีวิตการเดินทางของคนสมัยนี้ แนวคิดที่ว่าเอารถไปฝากจอดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหนีภัยน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น ถือเป็นคำแนะนำหนึ่งที่ดี และเราหลายคนก็มักจะพูดต่อๆ กัน ทว่าการจอดรถทิ้งแบบรีบร้อนด้วยใจที่ว้าวุ้นเกี่ยวกับน้ำท่วมนั้นก็อาจจะนำมาซึ่งความสูญเสียที่อาจจะไม่คาดคิด โดยเฉพาะเมื่อเรานำรถหนีน้ำไปจอดตามสถานที่ต่างๆ เป็นระยะเวลานานๆ ก็อาจจะนำมาสู่การตกเป็นเหยื่อของการโจรกรรมรถยนต์ ที่คุณอาจจะเจอแจ็คพอทรับเคราะห์ซ้ำก็เป็นไปได้ การจอดรถยนต์ในลักษณะนี้ เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ ไม่ว่าจะกับการเกิดภัยพิบัติหรือความสะดวกสบายในการเดินทาง ที่เรามักจะเรียกกันว่า "การจอดรถระยะยาว" ทว่า การจอดรถแบบนี้ย่อมมีความเสี่ยงยิ่งเรื่องการโจรกรรมรถยนต์นั้นอยู่ใกล้นิดเดียว แต่อย่างกังวลจนวิตกไป เพราะสามารถป้องกันได้ 1.ศึกษาเรื่องที่จอดให้ดี ก่อนที่คุณจะไปจอดรถที่ใดก็ ข้อแรกที่สำคัญคงไม่พ้นการศึกษารายละเอียด ของลักษณะที่จอด เช่นเป็นลักษณะ อย่างไร มีการคุ้มครองรถเราจากระบบรักษาความปลอดภัยหรือไม่ ล้วนเป็นการป้องกันภัยที่ดีข้อหนึ่ง ตามปกติแล้ว ลานจอดรถะยะยาวนั้นมักจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ไม่ใช่อาคารทึบ และมักต้องมีการตรวจตราจากหน่วยรักษาความปลอดภัยเป็นประจำ 2.เก็บของมีค่าออกจากรถ เมื่อเลือกสถานที่ได้แล้ว ก่อนนำรถไปจอด ให้เก็บของมีค่าต่างๆออกจากรถให้เกลี้ยง โดยเฉพาะสำเนาทะเบียนรถ และ เอกสารประกันภัยนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการช่วยป้องกันกรณีรถหาย เพราะตามปกติ หากคุณต้องขับผ่านด่านตรวจของทางเจ้าหน้าที่ สิ่งที่เขาขอดูคือสำเนาทะเบียนรถ และในกรณีถ้ารถคุณหายไปจริงๆ สำเนาทะเบียนและเล่มประกันนี่แหละที่จะช่วยอ้างสิทธิในรถของคุณได้ 3.จอดรถในจุดสนใจ เมื่อจัดการเรื่องของมีค่าเรียบร้อยก็ได้เวลานำรถไปจอด ในการจอดรถระยะยาวนั้น ให้จำไว้ว่า ควรจอดรถในจุดที่เป็นที่สนใจ หรือได้รับการตรวจตราบ่อย ยิ่งเป็นที่ ซึ่งคนผ่านไปมาก็ยิ่งดี เช่นกัน พยายามหลีกเลี่ยงการจอดในพื้นที่ห่างไกลจุดอับต่างๆ และหากคุณเทพพอจะสังเกตเห็นกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้ๆ ได้นั้นก็ยิ่งดี เพราะเหมือนมียาวเฝ้า 24 ช.ม. ทำให้มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น 4.ดึงเบรคมือล็อคเกียร์-พวงมาลัย ช่วยประวิงเวลาโจร หลังจากได้ที่จอดรถตามที่คิดว่าสมควรแล้ว เราก็ต้องมีทริคเล็กน้อยในการจอดรถ ตามปกติแล้ว ปัจจุบันโดยเฉพาะรถเกียร์อัตโนมัติ เราหลายคนมักจะไม่ดึงเบรคมือเพราะเกียร์นั้นล็อคเองอยู่แล้ว ทว่า ในการจอดรถระยะยาวนั้น เราอยากให้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ในการประวิงเวลาผู้ไม่หวังดี ตั้งแต่ดึงเบรคมือ ใส่ระบบป้องกันการขโมยรถยนต์ต่างๆ ที่ติดมาใช้ให้คุ้มค่าใส่เสียให้เรียบร้อย โดยเฉพาะในรถเกียร์ธรรมดานั้น เมื่อดับเครื่องแล้วให้ล็อคเกียร์ โดยการผลักเกียร์ไปตำแหน่งเกียร์ 1 และหลังจากนั้นให้ทำการหมุนพวงมาลัย ซ้ายหรือขวา จนเข้าล็อค ดัง กึ๊ก! ถือเป็นการล็อคจังหวะหมุน ซึ่งตามปกติ ถ้าไม่ใช้กุญแจบิดสตาร์ท พวงมาลัยก็จะไม่ปลดล็อค ก็พอจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย 5.ล็อครถ-ตรวจสอบให้ดี เรื่องนี้สำคัญ เมื่อจัดการทุกอย่างแล้ว ก็ได้เวลาจากลา สิ่งสำคัญที่สุดคือ หลายคนมักจะไม่ตรวจสอบล็อครถให้ดี แต่นั่นถือเป็นเรื่องที่เราไม่อาจจะประมาทได้ โดยเฉพาะเมื่อเราจะต้องทิ้งรถไว้ต่างถิ่น หรือที่ๆ เราไม่คุ้นเคย ดังนั้น เมื่อลงจากรถแล้วตรวจสอบให้ดี แน่ใจว่าล็อคแล้ว ใช้มือขยับประตูดู ตรวจสอบสภาวะการทำงาน อย่าดูแค่ไฟกระพริบเท่านั้น 6 กลับมาหารถบ้าง แม้ข้อแนะนำเราจะช่วยให้รถคุณนั้นสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ แต่ข้อที่ไม่ควรละเลยอีกเรื่องนั้น ก็คือการแวะเวียนมาตรวจสอบรถบ้าง หากมีโอกาส อย่ามัวสู้กับน้ำจนลืม เพราะ การที่เราทิ้งรถหลายวันนั้น ย่อมเป็นที่สังเกตของมิจฉาชีพ แต่กลับกันถ้าคุณหมั่นมาหยิบจับที่รถ ก็ทำให้โจรไม่กล้า เพราะรู้ว่าเรามาตรวจสอบบ่อยครั้ง ทั้ง 6 ข้อนี้ น่าจะช่วยให้คุณและรถผ่านช่วงเวลาเลวร้ายของมหันตภัยน้ำท่วมนี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะถึงแม้รัฐหรือหน่วยงานต่างๆ จะอนุญาตให้นำรถไปจอดได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ความเสี่ยงในเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับการนำรถของคุณไปฝากจอดนั้นเขาไม่ได้รับผิดชอบ ฉะนั้นป้องกันด้วยตัวเอง น่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด
โจรกรรมรถยนต์ ..ภัยร้ายใกล้ตัวเมื่อจอดรถหนีน้ำท่วม
ป้ายกำกับ:
รถยนต์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น