1. พูดปดถึงเรื่องสาวๆที่เค้าเกี่ยวข้อง โธ่ เรื่องเนี้ยะหนุ่มๆจะพลาดได้ไง
หากพวกคุณเพิ่งเริ่มชอบพอกัน และฝ่ายหญิงอยากได้คำตอบเกี่ยวกับสาวๆที่เค้ามีใจอยู่ตอนนี้ ราวๆว่า สเปกหรือสไตล์ของผู้หญิงในดวงใจของเขาเป็นอย่างไร? แถมอยากรู้ด้วยว่า ทำไมเค้าถึงได้เลิกกับแฟนเก่าซะล่ะ อะไรเงียะ เผื่อ ว่าที่แฟนใหม่ ของเค้าจะได้ไม่เดินซ้ำรอยเดิมไง แต่ แต้ แต่ ถ้าให้ เค้าตอบจากใจล่ะก็ เค้าคงอยากบอกว่า “แฟนเก่าของผมเรอะ รับรองน่ารักกว่าคุณแน่”
ขืนตอบงี้ก็จริงใจเกินไปดิ่ เหตุนี้เค้าถึงต้องตอแหลไปก่อนไงว่า “สเปกของผู้หญิงในดวงใจผมน่ะ ก็คือคุณไงล่ะ” แม้สิ่งที่สาวได้ยินจะไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไหร่ ก็เหอะว้า แถมตอบหยั่งงี้รู้เลยว่าเค้าพยายามจะปากหมาน เอ้ย...ปากหวานน่ะสิ แต่ประโยคลักษณะ “ไม้เลื้อย” พวกเนียะ ทำให้หนุ่มๆเอาตัวรอด และทำให้ สาวๆเป็นปลื้มมานักต่อนักแล้ว หากหนุ่มรายใดเข้าใจพูดป้อยอหญิงถือว่ามีพรสวรรค์ แต่เห็นที ชายคนนี้จะเป็น “พรจากนรก” ที่อเวจีส่งมาให้สาวเจ้าซะมากกว่ามั้ง
2. ขี้จุ๊เพื่อสร้างภาพให้ตัวเอง นี่ก็ถนัดอีกและ โอ้ มารยาร้อยเล่มเกวียนของสาวๆ คงจะมีไม่เท่ามารยาร้อยแปด ดัดจริตของหนุ่มๆซะแล้วแฮะ
หนุ่มประเภทนี้ไม่ค่อยสร้างประโยชน์ให้ใครได้ หรอก นอกจากโกยประโยชน์เข้า พกเข้าห่อให้ตัวเอง แถมยังชอบฝอยให้หญิงฟังว่าตัวเองดีหยั่งโง้น ดีหยั่งงี้ทุ้กวั้นทุกวันซะด้วย เช่น “ผมเคยช่วยพาเพื่อนที่เล่นฟุตบอลด้วยกันไปส่งโรงพยาบาลและยังต้องจ่ายค่ารักษาให้มันด้วยนะ เพราะตอนนั้นเล่นเตะบอลกันอยู่ดีๆ มันก็ดันหกล้มขาเดี้ยงไปซะได้” โอ้โฮเฮะ ช่างเป็นคนดีผิดมนุษย์มนา เอ้ย...ดีจนเหลือเชื่อ นะยะ นี่ยังไม่นับหนุ่มที่เป็นเด็กเลี้ยงแกะ ขยันโม้ซะเป็นตุเป็นตะได้หน้าตาเฉยเพื่อให้สาวๆหลงคารมก็มีเป็นกะตั้ก หยั่งงี้ยิ่งกว่าเป็นเซลส์แมนขายตัวเองให้สาวๆรุมทึ้งซะอีก แล้วผู้หญิงที่อะโนเนะก็บ้าเชื่อเค้าเข้าไปได้ซะด้วยสิ นี่ถ้ารู้ความจริงว่าถูกเค้าแหล คงจับไข้หัวโกร๋นแหงเลย
3. พูดปดโดยอ้างกับแฟนว่า มีงานยุ้งยุ่งน่ะซี
แต่ที่แท้ นัดแนะกับเพื่อนๆ ว่าจะไปกินดื่มดวดกันในผับก็ได้ หรือไปบาร์เปลื้องผ้าซะเลยด้วยซ้ำ ซึ่งการอ้างเรื่องงานว่าไม่มีเวลาไปมาหาสู่แฟนสาวในบางเวลาน่ะ ใช้ได้ผลกับผู้หญิงทุกทีแหละ ถึงไงหล่อนก็เกรงใจฝ่ายชายในเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะหญิงอยากให้แฟนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานก็เงียะ แม้ไอ้เรื่องที่อ้างทำงานดึกดื่นน่ะ เธอจะไม่ เคยเห็นเค้าได้โอทีเลยสักแดง แถมยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นซะอีก เอ๊ะเป็นงี้ชวนสงสัยดิ่ หาเรื่องเลยดีมะ...แต่รอว่าจะมีทีเด็ดอะไรต่อดีฝ่า
4. พูดปดว่ามีงานทำหรูเลิศ แต่ที่แท้ตกงานก็มี
บางทีไม่ได้บอกว่าเป็นงานหรูเลิศสะแมนแตนหรอก บอกแค่มีงานทำเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ยังดีกว่าบอกตรงๆกับสาวที่เค้าจีบใช่มะว่ากำลังวิจัยฝุ่นและตกงานอยู่ เพราะเศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบทุกวันนี้ ใครอยากมีแฟนตกงานฟะ ขืนเป็นแฟนกันไปก็เป็นห่วงคล้องคอ หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้น ฝ่ายชายอาจปล่อยให้ฝ่ายหญิงหาเลี้ยงไปซะเลยไม่ยิ่งแย่กว่าเรอะ ยุคนี้ควรช่วยกัน ทำมาหากินสิยะ สาวๆจึงมักหาแฟนซึ่งเป็นที่พึ่งของหล่อนได้มากกว่า ไม่ใช่มองหาปิศาจมาสูบเลือดสูบเนื้อ น่ะเว้ย
5. พูดปดตอนเวลาไม่รับสายที่สาวเจ้าโทร.มา
เช่นตอนนั้นอาจยังป้อสาวอีกคนนึงอยู่ แต่ดันมีโทรศัพท์ของเจ้าหล่อนตัวจริงเข้ามาแทรกนี่สิ แล้ว “หนุ่มหลายใจ” ที่ไหนอยากรับสายวะ เพราะเดี๋ยวทั้งตัวจริงและตัวปลอมก็รู้หมดน่ะสิว่า เค้ามีแฟนแล้ว หรือเค้ายังจีบสาวอื่นด้วย แต่สังเกตนะตอนเค้าโกหกเนี่ย ถ้าแสดงละครไม่เก่งจริง มีสิทธิ์ทำให้เค้าเองนั่นแหละจะงงๆกับคำถามและคำตอบจนพูดจาสับสน หรือพูดไม่รู้เรื่อง เอาก็ได้ เออแน่ะ ถ้าไม่อยากปากสั่น, เหงื่อแตกแถมคิดมาก ก็อย่าโกหกกันดี้ ผู้หญิงน่ะไม่อยากสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวหนุ่มๆ ด้วยเรื่องที่เค้าปั้นน้ำเป็นตัวหรอกนะ
leelacheewit
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น