3 กลยุทธ์ ‘Makeover’ ปรับการแต่งตัวให้ดูดี น่ามอง (สุขกายสบายใจ)
เรื่อง : สุธารัชฎ์ รัตนารามิก
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้เวลานานมากที่หน้ากระจก เปลี่ยนเสื้อผ้าหลายรอบเพราะรู้สึกว่าใส่ชุดนี้แล้วดูอ้วน แต่งอย่างนี้แล้วดูต้นขาใหญ่ และถึงแม้ว่าจะลองจับชุดนี้มาคู่กับชุดนั้นแล้วก็ยังดูไปกันคนละทิศละทางอีก สุดท้ายก็เลยต้องลงเอยกับชุดเดิม ๆ อย่างเช่น เสื้อยืดตัวเดิม กับยีนส์ตัวเก่ง หรือชุดกระโปรงตัวเก่งที่เราคุ้นเคย เรามีข้อแนะนำ 3 กลยุทธ์ดี ๆ ที่จะมาช่วยปรับวิธีแต่งตัวเดิม ๆ ของคุณให้ดูดีพร้อมเป็นตัวของตัวเองยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ 1 โดดเด่นด้วยสีเสื้อที่เหมาะกับสีผิว
กลยุทธ์นี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการแต่งตัว เพราะสีสันคืออาวุธชั้นดีที่ช่วยส่งเสริมให้การแต่งกายของเรามีความน่าสนใจ โดยเฉพาะสีสันที่เหมาะกับสีผิวของตัวเอง คำแนะนำข้างล่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกสีเสื้อผ้าให้เข้ากับสีผิวได้ดียิ่งขึ้น
กลุ่มสีผิวฤดูหนาว หมายถึง คนที่ผิวสีซีด สีเหลือง หรือขาวเหลือง คนสีผิวกลุ่มนี้จะดูดีในเสื้อสีเข้ม เช่น สีดำ สีน้ำเงินเข้ม สีแดง สีชมพูเข้ม เพราะจะช่วยขับสีสีผิวให้ดูผิวผ่องยิ่งขึ้น แต่สีเสื้อที่ไม่เหมาะกับสีผิวคือ สีขาว สีชมพูอ่อน สีเหลือง และสีฟ้าอ่อน และสีเสื้อที่ทำให้สีผิวยิ่งดูซีดคือ สีเบจ (สีน้ำตาลอ่อน) สีส้ม และสีทอง เพราะสีผิวคุณจะดูกลืนไปกับชุด
กลุ่มสีผิวฤดูร้อน หมายถึง คนที่มีผิวสีขาวใส และสีขาวอมชมพู คนสีผิวกลุ่มนี้จะดูดีในเสื้อผ้าโทนน้ำเงิน สีชมพูอ่อน สีม่วงซีด เช่น สีดอกลาเวนเดอร์ สีม่วงแดง สีลูกพลัม และสีเหลืองซีด แต่สีเสื้อที่ไม่เหมาะคือ สีสะท้อนแสง และสีเอิร์ธโทน (Earth tone) เช่น สีดำ และสีส้ม
กลุ่มสีผิวฤดูใบไม้ร่วง หมายถึง คนที่มีสีผิวโทนน้ำตาล คนสีผิวกลุ่มนี้จะดูดีในเสื้อผ้าสีโทนอบอุ่น เช่น สีน้ำตาลอ่อน สีเบจ สีผลมะกอก สีส้ม สีทอง สีเทาเข้ม และสีน้ำตาลเข้ม แต่สีเสื้อที่ไม่เหมาะคือ สีดำ สีขาว และสีโทนน้ำตาลอ่อน เพราะจะทำสีผิวดูกลมกลืนไปกับสีเสื้อผ้า
กลุ่มสีผิวฤดูใบไม้ผลิ หมายถึงคนที่ผิวสีแทน (สีพีช) หรือสีเนื้อ (ขาวอมส้ม) คนสีผิวกลุ่มนี้จะดูดีในเสื้อผ้าโทนสีซีด และสีอ่อนๆ เช่น สีส้มพีช สีน้ำตาลอ่อน สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลทอง สีฟ้าน้ำทะเล สีเนื้อ สีเขียวอ่อน สีแดงเข้ม สีฟ้า และสีแสด ซึ่งเป็นสีที่ไม่ได้อยู่ในโทนมืดเข้มจนเกินไป แต่สีเสื้อที่ไม่เหมาะคือสีดำ และสีขาว ซึ่งเป็นสีที่ตัดกับสีผิว
กลยุทธ์ 2 ช่วงตัวผอมเพรียวขึ้น
กลยุทธ์นี้เอาใจสาว ๆ ที่อยากดูผอมเพรียวแบบไม่ต้องอดอาหารใด ๆ สิ่งสำคัญของโจทย์นี้อยู่ที่เราต้องนึกภาพให้ออกว่าเมื่อเราแต่งกายอย่างนี้แล้ว ภาพลักษณ์โดยรวมจะเป็นอย่างไร หากใครที่ยังนึกภาพไม่ออกให้ลองทำตามคำแนะนำข้างล่างนี้
1.เลือกใส่สีเดียวกันทั้งชุด หรือสีใกล้เคียง หลีกเลี่ยงการแมทช์สีท่อนบนกับท่อนล่างคนละสีกัน เพราะจะทำให้ดูเหมือนคุณโดนแยกส่วน ที่มองแล้วเหมือนแต่งตัวไปคนละทิศละทาง
2.ยืนพื้นสีโทนเข้มไว้ก่อน เพราะจะทำให้คุณดูตัวเล็กกว่าเสื้อผ้า หากสวมเสื้อสีโทนสว่างจะทำให้ดูเหมือนตัวคุณใหญ่เกินออกมาจากเสื้อผ้า
3.เลือกใส่ไซส์ใหญ่กว่านิดหน่อย ควรเลือกสวมเสื้อผ้าแบบพอดีตัว หรือใหญ่กว่าตัวนิดหน่อยได้ แต่ไม่ใช่ใหญ่โคร่ง หรือเล็กกว่าจนรัดตัว การเลือกไซส์เสื้อที่ถูกต้องกับขนาดตัวไม่ใช่แค่ทำให้เราดูดี แต่ยังช่วยเรื่องบุคลิกภาพอีกด้วย เพราะคุณจะได้ไม่ต้องมานั่งจับนั่งดึงกังวลกับชุดมากนัก
4.ใส่ใจในเนื้อผ้า ควรเลือกผ้าที่ปล่อยสบาย ๆ ไม่แนบสนิทกับลำตัว เช่น ผ้าฝ้าย และหลีกเลี่ยงเนื้อผ้า เช่น ผ้าสักหลาด ผ้ากำมะหยี่ ผ้าขนสัตว์ หรือเนื้อผ้าทิ้งตัว เพราะผ้าเหล่านี้จะทำให้เราดูตัวหนาขึ้น และยังเผยให้เห็นส่วนเกินได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
กลยุทธ์ 3 ช่วงก้นและเรียวขาเพรียวขึ้น
กลยุทธ์นี้จะช่วยอำพรางจุดบกพร่องช่วงขาของสาว ๆ ให้ดูขายาวเรียวขึ้น และยังช่วยให้คล่องตัวไปกับกิจกรรมที่ทำด้วย คำแนะนำข้างล่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกลักษณะของยีนส์ให้เหมาะกับรูปร่างได้ดียิ่งขึ้น
1.ยีนส์สีเข้ม (Blue jeans) เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรมีไว้ในตู้อย่างน้อยหนึ่งตัว เพราะสีเข้มจะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น นับว่าเป็นสีสากลที่เข้าได้กับเสื้อผ้าทุกรูปแบบ เหมาะกับคนที่มีต้นขาใหญ่และมีก้น แต่ยีนส์ฟอกสี (Stonewashed jeans) เหมาะกับคนที่รูปร่างเล็ก ต้นขาเล็กเดนิมสีดำ น้ำเงิน หรือคราม เหล่านี้เมื่อนำมาฟอกแล้วจะเกิดลวดลาย ช่วยพรางตาดูหุ่นเพรียวขึ้น
2.ยีนส์ขากระบอก (Boot cut jeans) นับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะมันเข้าได้กับทุกรูปร่าง ทรงของมันไม่เทอะทะหรือเล็กคับจนเกินไป อีกทั้งยังเสริมสไตล์การแต่งตัวยิ่งขึ้น สำหรับสาวตัวเล็กจะช่วยพรางให้ดูขายาว
3.ยีนส์ขาบาน (Flared jeans) ถ้าคุณเป็นคนช่วงลำตัวสั้นควรเลือกยีนส์ขาบาน ช่วยดึงดูดความสนใจและพรางตาให้ดูช่วงตัวยาวขึ้นด้วย
4.สกินนียีนส์ (Skinny jeans) หากคุณต้องการความคล่องตัว หรือต้องการเปิดเผยสัดส่วนให้ชัดเจนขึ้น สกินนียีนส์จะช่วยเน้นช่วงก้นและต้นขา ทำให้ดูมีทรวดทรงมากขึ้น โดยเฉพาะสกินนียีนส์ที่มีกระเป๋าก้นยาวจะทำให้ดูก้นยกกระชับกลมกลึงขึ้น
คำแนะนำในการเลือกซื้อยีนส์
1.ควรเลือกซื้อยีนส์ที่มีค่าเส้นใยสังเคราะห์ตั้งแต่ 1% ถึง 4% เพื่อยีนส์จะได้ไม่ยืดจนเสียทรงไป
2.เลือกยีนส์ที่เข้ารูปก้นของเรา และรองรับกับทุกท่วงท่า เช่น การโน้มตัว ก้มตัว นั่งลงเต็มก้น นั่งยอง ๆ หรือการเคลื่อนไหวตัวเพื่อหยิบจับสิ่งของ
3.ควรลองยีนส์ก่อนซื้อ เพื่อเช็คขนาดความยาวขา ความพอดีของเอวและสะโพก และความยืดหยุ่นที่มากน้อยของยีนส์ ยีนส์ที่พอดีกับขนาดตัวคุณในวันที่ลอง อาจไม่ใช่ไซส์จริงก็ได้ เพราะน้ำหนักตัวสามารถขึ้นลงตลอดเวลา และไม่ควรเลือกยีนส์ที่ใหญ่เผื่ออ้วน หรือเลือกยีนส์เล็กเผื่อผอม ควรเลือกสวมแล้วทำท่วงท่าต่าง ๆ ได้อย่างสบาย ๆ ดีที่สุด
4.สียีนส์จะซีดลงหากซักมากครั้ง ดังนั้นจึงควรกลับด้านยีนส์ และซักในน้ำเย็นเพื่อช่วยคงความเข้มของสีให้ยาวนานขึ้น
5.ยีนส์ขาม้วน (Boyfriend jeans) ถ้าคุณเป็นสาวตัวเล็ก หรือสาวที่สูงไม่ถึง 160 เซนติเมตร (ตั้งแต่ 155 ลงไป) ก็ได้เปรียบกว่าใครทั้งหมดเพราะเข้ากันดีกับยีนส์ประเภทนี้ ยีนส์ขาม้วนจะช่วยเปลี่ยนสไตล์ดูเด็กลงสบาย ๆ กระฉับกระเฉง
กลยุทธ์การ Makeover ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงเทคนิคเล็กน้อยช่วยอำพรางสายตาให้เราดูดีขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะเลือกสวมใส่อะไรก็ยึดหลักความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้ก่อน เพราะหากคุณเลือกสวมใส่เครื่องแต่งกายที่เหมาะกับตัวเองแล้ว ก็จะช่วยเรียกความมั่นใจในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และเมื่อคุณไม่กังวลใจกับเสื้อผ้าการแต่งกายแล้วบุคลิกภาพที่สะท้อนออกมาย่อมดูดีไปด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
3 กลยุทธ์ Makeover ปรับการแต่งตัวให้ดูดี น่ามอง
ป้ายกำกับ:
แฟชั่น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น