สะกดจิตบำบัด ศาสตร์ใหม่รักษาโรคอ้วน


ลดความอ้วน

สะกดจิตบำบัด ศาสตร์ใหม่รักษาโรคอ้วน (ไทยโพสต์)

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "การสะกดจิตบำบัด" หรือการใช้เทคนิคทางจิตวิทยา ผสมผสานกับเทคนิคทางภาษาศาสตร์ มาช่วยจัดโปรแกรมการทำงานใหม่ให้กับจิตใต้สำนึกของมนุษย์ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ต้องการให้หมดไป และหนึ่งในนั้นคือการใช้การสะกดจิตบำบัด เพื่อรักษา "โรคอ้วน" ซึ่งเป็นโรคที่มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารของมนุษย์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ และการบำบัดด้วยศาสตร์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยา หรือพึ่งเครื่องมือทางการแพทย์แต่อย่างใด แต่ใช้หลักของความเชื่อนั่นเอง

นางสาวสิรินทร์ทิพย์ มณีรัตน์ นักสะกดจิตชั้นสูง จากศูนย์ให้คำปรึกษาและการสะกดจิตบำบัด กล่าวว่า การสะกดจิตบำบัดเพื่อช่วยลดความอ้วนนั้น มีหลักการทำงานคือ

1.การล้างข้อมูลที่เป็นด้านลบออกจากจิตใต้สำนึกก่อน โดยการใช้คำสั่งเพื่อช่วยปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วน ขณะเดียวกันผู้เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกอึดอัด หากไม่สามารถรับประทานอาหารที่ตนเองชอบได้ ซึ่งขั้นตอนของบำบัดด้วยวิธีสะกดจิตนั้น อันดับแรกจะเริ่มจากการสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้เข้ารับการบำบัด โดยการพูดเพื่อสร้างจินตนาการให้เกิดความสุข ในขณะไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ทะเล หรือไปเที่ยวต่างประเทศ และได้อาบน้ำอุ่น ๆ เป็นต้น

หลังจากนั้นนักบำบัดจะพูดคุยกับผู้ที่เข้ารับการรักษาในระหว่างที่นอนหลับตา โดยการสร้างจินตนาการว่าการรับประทานอาหารมัน อาหารทอด ขนมหวาน ขนมเค้ก เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพและเป็นสาเหตุของโรคอ้วน ดังนั้นจึงควรงดเลือกรับประทานอาหารเหล่านี้

2.เป็นขั้นตอนการลงโปรแกรมใหม่ให้กับผู้รับการรักษา โดยผู้บำบัดจะพูดแนะนำผู้เข้ารับการรักษาว่า ควรหันไปรับประทานผักผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ หรือสร้างจินตนาการว่าการรับประทานผักและผลไม้นั้นมีรสชาติหวานกรอบอร่อย


ลดความอ้วน


หลังจากนั้นนักบำบัดจะแนะนำผู้เข้ารับการรักษาว่า ควรรับประทานน้ำเพราะนอกจากช่วยแก้กระหาย ยังทำให้ผิวพรรณของคุณเปล่งปลั่งได้ รวมถึงพูดแนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษาออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้ง 30-40 นาที ซึ่งการออกกำลังกายนั้นนักบำบัดกล่าวว่า หากผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องการออกกำลังกาย นักบำบัดก็จะไม่แนะนำให้ทำ เพราะศาสตร์ของการรักษานี้ไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยการบังคับ แต่น้ำหนักอาจลดลงช้า

"พูดง่าย ๆ ว่าเป็นการใส่คำสั่งด้านบวกเข้าไปยังสมอง หรือจิตใต้สำนึกของคนเรา เพื่อให้สมองเกิดการเรียนรู้ข้อมูลใหม่ และเกิดการปฏิบัติตามไม่ว่าจะเป็นการเลิกรับประทานอาหารมัน อาหารทอด มาเป็นการรับประทานผักและผลไม้ ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยทำให้น้ำหนักของผู้เข้ารับการรักษาลดลงได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือเครื่องมือแพทย์แต่อย่างใด และผู้เข้ารับการรักษาก็จะไม่รู้สึกหิวโหยนั่นเอง" นางสาวสิรินทร์ทิพย์ กล่าว

สำหรับระยะเวลาของการบำบัดลดความอ้วนด้วยการสะกดจิตนั้น ใช้เวลาครั้งละประมาณ 45 นาที-1 ชั่วโมง และต้องทำติดต่อกันอย่างน้อย 4 ครั้งจึงจะเห็นผล โดยน้ำหนักจะลดลงประมาณ 2 กิโลกรัม พร้อมกันนี้นักบำบัดกล่าวว่า ไม่ควรเว้นระยะห่างในการบำบัดเกิน 3 วัน ส่วนโปรแกรมด้านบวกที่สร้างขึ้นจะอยู่ในสมองได้นานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังคำแนะนำของนักบำบัดเป็นหลัก แต่ส่วนใหญ่นักบำบัดกล่าวว่าจะอยู่ได้นาน โดยที่ผู้เข้ารับการบำบัดไม่ต้องปฏิบัติตนเป็นพิเศษ แต่ขอให้ปฏิบัติตามวิธีที่นักบำบัดแนะนำ

ส่วนกลุ่มอายุของผู้ที่สามารถเข้ามารับการบำบัดด้วยวิธีนี้ นักบำบัดกล่าวว่า สามารถเข้ารับการบำบัดได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ขอให้สามารถสื่อสารกันรู้เรื่องและเชื่อฟังนักบำบัดได้ อย่างไรก็ตามอาจมียกเว้นในกรณีของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่เด็กกำลังเริ่มที่จะพัฒนาบุคลิกภาพอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องมาเข้ารับการรักษา แต่พ่อแม่สามารถบำบัดได้โดยตนเอง โดยการเลือกอาหารที่เหมาะสม โดยเน้นให้ลูกรับประทานผักและผลไม้ก็สามารถช่วยลดความอ้วนได้.





ขอขอบคุณข้อมูลจาก



0 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม