ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ถ้า กล่าวถึงรถยนต์กลุ่มที่ดูเหมือนจะมีการแข่งขันมากที่สุดในตลาดและเป็นกระแส ที่มาแรงมากในปีนี้ ยิ่งมีเหตุการณ์ภับพิบัติน้ำท่วมเกิดขึ้น "รถกระบะ" ก็เป็นรถยนต์ประเภทที่หลายคนนึกหาอยากมาครอบครอง ยิ่งรถในปัจจุบันนั้นมีความแกร่งแรงกว่ารถยนต์นั่งหลายๆ รุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ในตลาด มิหนำซ้ำการใช้งานก็หลากหลาย ภาษี ก็ไม่แพง ความประหยัดน้ำมันก็เป็นเลิศในเกณฑ์ที่ดีรับได้ ด้วยขุมพลังดีเซลทนทรหด มันก็ไม่น่าแปลกใจนัก มราบ้านเราเป็นตลาดอันดับที่ 2 ของโลกในรถกลุ่มนี้
ตั้งแต่กลางปีจนถึงถึงปลายปีที่ผ่านมานั้น "รถกระบะ" มีการแข่งขันกันอย่างสูง โดยเฉพาะค่ายมวยรองที่ถือโอกาสสร้างแบรนด์ให้รู้จักมากยิ่งขึ้น หลังจากเหตุสึนามิ ที่หนึ่งในนั้นคือค่ายรถยนต์ Ford ที่หลายคนเฝ้ารอหลังจากค่ายนี้เตรียมนำรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ท่พัฒนาในประเทศ ออสเตรเลียมาวางจำหน่ายในไทย และแม้จะยังไม่มีการเปิดตัวบ่งราคาออกมาอย่างเป็นทาการ แต่ก็มีหลายคนสนใจจนการรถยนต์ตลาดค่ายนี้มั่นใมจมากว่า Ford Ranger ใหม่จะต้องได้รับกระแสตอบรับดีแน่นอน
ช่วงต้นสัปดาหืที่ผ่านมานั้น ford ได้เชื้อเชิญเราให้ไปสัมผัสกระบะใหม่ New! Ford Ranger ก่อนใครที่จังหวัดเชียงราย โดยเลือกเอาขุนเขาทางลาดชัดตลอดจนเส้นทางออฟโรด จัดเต็มไว้ให้อย่างมากมาย ครบครัน ที่เราจะได้มีโอกาสท้าพิสูจน์กระบะที่ได้รับความสนใจมากที่สุด รวมถึง เมื่อมันออกวางตลาดในรุ่นท๊อปนั้นจะเป็นรถที่อาจจะมีราคาทุบสถิติกระบะ รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยชั้นนำ และแรงม้าที่สั่งได้ไม่แพ้น้องๆรถสปอร์ตเลยทีเดียว
ภายนอกพันธู์ดุ บึกบึ้มจัดเต็มสไตล์อเมริกาแท้
ที่ผ่านมาเราอาจจะมีการติดตามข่าวสาร New! Ford Ranger ใหม่กันมาอย่างต่อเนื่องจากต่างประเทศที่รถรุ่นนี้กำลังและบางประเทศได้ เริ่มวางจำหน่ายไปแล้ว และจากภาพในหลายๆมุมมองรวมถึงวีดีโอคลิปต่างๆที่เราสรรหามาให้ชมกันอย่างต่อ เนื่อง แต่ทุกอย่างตามคำภาษิตไทยที่ว่า "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นนั้น" ดูจะจริง และมันสิ่งที่ทำให้เราประทับใจ
ก่อนอื่นลืมทุกอย่างที่คุณเคยรู้มาเกี่ยวกับรถกระบะเสียให้หมด เพราะ New! Ford Ranger นั้น น่าจะเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของค่ายรถยนต์ Ford ที่ปลุกปั้นกันในประเทศออสเตรเลีย และออกแบบเพื่อวางจำหน่ายทั่วโลก ด้วยสไตล์ที่ถอดแบบมาจากกระบะชั้นนำ Ford F-150 ที่ขายดีอันดับ 1 ในอเมริกัน ติดต่อกันมาหลายปี และบัดนี้ถูกถ่ายสู่กระบะรุ่นน้อง
สิ่งที่ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นของ New! Ford Ranger ใหม่นั้น เป็นเรื่องของขนาดของตัวถังที่มีการเปลี่ยนแปลงขยายไซส์เพิ่มมากขึ้นเห็นได้ ชัดเจน ด้วยความยาวกว่า 5,359 ม.ม และกว้าง 1,850 ม.ม. ที่ต้องยอมรับว่ามันมีขนาดบิ๊กไซส์มาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่ายรถยนต์รายอื่นๆ ที่จำหน่ายอยู่ในตลาดปัจจุบัน
โฉมลักษณ์ที่ถูกนิยามว่า "ความแข็งแกร่งแห่งศตวรรษที่21" เป็นการตอกย้ำถึงจุดยืนของ New! Ford Ranger ที่ตั้งใจผสมผสานความดุดันฉบับกระบะอเมริกันมาควบรวมให้เข้ากับความทันสมัย ให้ลงตัว เริ่มตั้งแต่โครงสร้างตัวถัง ที่มีระยะยื่นหน้าสั้นให้ความคล่องตัว ลงตัวกับการออกแบบทางด้านหน้าที่นำหลักการอากาศพลศาสตร์เข้ามาใช้ ที่เน้นความลาดเอียงของพื้นที่ด้านหน้าที่จะเป็นจุดปะทะลมอันดับแรงของรถ ให้ความลาดเอียงไปยังส่วนต่างๆ แต่ก็ยังไม่ลืมความสวยงามของตัวรถ ที่ลงตัวในแบบดูภูมิฐานกับกระจังหน้าโครเมี่ยม 3 แถบ เอกลักษณ์ของค่าย Ford
ใบหน้าที่ดูดีถูกเก็บรายละเอียดให้มากที่สุดในเรื่องของสมรรถนะไปพร้อม กัน ด้วยการให้ความลื่นไหลของอากาศมากจนปิดจ๊อบเรื่องค่าสัมประสิทธิเสียดทาน เพียง 0.399 Cd เก็บรายละเอีบทุกอณู ตั้งแต่กระจังหน้าฝากระโปรง โป่งล้อที่ล้อกันมาได้อย่างลงเนียนเรียบให้ความลู่ลม ซึ่งมีส่วนสำคัญในเรื่องสมรรถนะการประหยัดน้ำมันและอัตราเร่ง แต่ยังไม่ทิ้งการออกแบบที่เน้นหลักทางวิศวกรรมมากเกินไป ด้วยความหล่อเหลาและเนียบ ทั้งกันชนหน้าที่แข็งแกร่งดุดัน โป่งล้อขึ้นรูปและลงตัวกับฝากระโปรงหน้าที่โหนกนูนขึ้น มาจนถึงเสา A ของรถที่ลาดเอียงช่วยส่งลมไปด้านหลังได้ง่าย
ด้านข้าง New! Ford ranger ใหม่ลงตัวกับการออกแบบที่ใช้สูตรใหม่เน้นความไม่สมมาตรของบอดี้รถ ที่ทำให้ช่วงตัวรถในส่วนที่เป็นเหล็กมีพื้นที่กว้างขึ้นในอัตรา 60 :40 โดยประมาณ ช่วยตอกน้ำความแข็งแกร่งตัวรถ และยังทำให้ผู้โดยสารภายในรู้สึกปลอดภัย แต่ไม่อึดอัด ผสานกับเส้นสายความลู่ลมยังย้ำมาถึง ด้านข้างแต่ไม่ลืมความแข็งแกร่งที่ขมวดไว้อย่างลงตัว และกระบะท้ายนั้นถูกทำให้สอดรับเข้ากับตัวรถวางให้ชิดตัวหัวเก๋งมากที่สุด เพื่อลดการศูนย์เสียการปะทะของลมในจุดต่างๆ แล้วลงตัวด้วยฝาท้ายที่ออกแบบให้มี Lip Spoiler ฝังในตั้งแต่กำเนิด ลดลมหมุ่นที่บั้นท้ายได้พอตัว
กระบะท้ายที่ดูธรรมดานี้ก็ให้ความไม่ธรรมดาด้วยการตอบสนองพื้นที่บรรทุก ขนาดใหญ่ถึง 1.82 ล.บ.ม.(ซิงเกิ้ลแค๊ป) 1.45 ล.บ.ม. (โอเพ่นแค๊ป) และ 1.21 ลบ.ม. (ดับเบิ้ลแค๊ป)มาพร้อมขอบกระบะสูงเพิ่มอำนาจการบรรทุก และในรถทุกรุ่นยังมี Bull Bar และ Sport Bar ติดมาให้ได้กลมกลืน โดยในส่วนของรุ่น Wild Trak แต่งพิเศษที่ลงกับ Roof Rail Sport Bar และให้ความดุดันกับกรอบกระจังหน้าและกันชนหน้ารวมกันชนหลังสีเทารมควัน
ห้องโดยสารสุดเลิศทันสมัยนั่งสบายไม่ต่างจากเก๋ง
เมื่อเปิดประตูขึ้นมาในห้องโดยสาร New! Ford Ranger ใหม่นั้นให้ความประทับใจที่ลงตัวจากด้านนอก ถูกส่งต่อเข้ามายังภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะความดุดันและทันสมัย ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เริ่มจากการออกแบบที่ใช้การตบแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสีเทาดำ เน้นความคมเข้มชัดเจนในรายละเอียดทุกอย่าง มีให้เห็นตั้งแต่คอนโซลหน้าที่ดูทันสมัยเรียบง่ายและยังให้อารมณ์ความแข็ง แกร่งมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
เบาะนั่งทุกรุ่นมาพร้อมทรวดทรงสปอร์ตตั้งแต่เกิด ตรงหน้าคนขับมีพวงมาลัย 4 ก้าน พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูล อัจฉริยแสดงได้หลายแบบตามความต้องการของผู้ขับขี่ ส่วนหลัก ๆนั้น โดยเฉพาะวัดรอบเครื่องยนต์ และ ความเร็วนั้น ทำให้มีขนาดใหญ่ชัดเจน ใช้ตัวหนังสือที่ดูทันสมัย ที่เป็นหน้าจอแบบเรืองแสง แม้จะเป็นรุ่นธรรมดา จัดให้เต็มๆมาจากโรงงาน ให้อารมณ์ที่รู้สึก New! Ford Ranger นั้นมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ในตรงกลางของคอนโซลหน้านั้น เป็นที่อยู่ของฟังชั่นการทำงานต่างๆ ที่ครบครันทั้งวิทยุ CD ในรุ่นบนๆนั้นยังให้การเชื่อมต่อ Blue Tooth และการสั่งงานด้วยเสียง เหมือนที่เราเคยเจอใน ford fiesta มาแล้ว ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศที่จัดวางได้ลงตัว ต่อตามด้วยคันเกียร์ที่ดูเล็กมองแล้วทันสมัย ถ้าเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ นั้น จะใช้ระบบบิดปรับการทำงาน ใช้งานง่าย แต่อาจจะไม่ถูกใจคนที่ชอบความดิบสักเท่าไร
การตบแต่งห้องโดยสารนั้นนอกจากความแข็งแกร่งและทันสมัยที่เสริมให้ห้อง โดยสารไม่ดูทึบเกินไปด้วยสีเทา ที่ใส่เข้ามาตามรายละเอียดต่างๆ ทั้งจาก คอนโซลหน้า คอนโซลกลาง มาจนถึงแผงประตูทางด้านข้าง แต่สิ่งที่แฝงในห้องโดยสาร New! Ford Ranger ใหม่ยังมีความอรรถประโยชน์ที่วิศวกรตั้งใจใส่มาให้ได้ลงตัว หลายอย่าง โดยเฉพาะใครที่เป็นลูกแม่เก็บชอบเปลี่ยนรถเป็นบ้านคงถูกใจ ตั้งแต่ช่องเก็บของใต้คอนโซลหน้าที่สามารถยัด คอมพิวเตอร์แล๊ปท็อปขนาด 15 นิ้วได้พอดี ตรงกลางมีที่วางโทรศัพท์มือถือหรือ เครื่องเล่นพกพา ไปจนที่วางขวดน้ำ ตามจุดต่างๆที่ลงตัว
ถ้ายังจำตั้งแต่เราพูดถึงภายนอกได้ ที่เอ่ยว่า New! Ford ranger ใหม่นั้น มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องวิถีการออกแบบของรถใหม่ ด้วยการใส่พื้นที่เหล็กมากกว่า กระจกและมันทำให้ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องโดยสารนั้น รู้สึกถึงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน ดูแล้วรู้สึกปลอดภัย ยิ่งพีอาร์สาวสวยจากเอเจนซี่ ตัวเล็กประมาณ 162 ซ.ม. ผอมบาง คู่ขาตุ๊กตาหน้ารถในทริปนี้ ดูแล้วทำให้รู้ทันทีว่า New! Ford Ranger ใหญ่โตอลังการมาก ทำให้นึกถึงว่า ถ้าจะมีสาวคนไหนซื้อเจ้า New! Ford Ranger ไปขับ เธอคงจะมีภาพลักษณ์สุดดุ ที่ผู้ชายอย่างผมคงจะต้องอ้าปากค้างว่า ขับมาได้อย่างไร
ทริปนี้ที่เราได้มาสัมผัส New! Ford Ranger นั้นทางค่าย Blue Oval ได้นำรถรุ่น 4 ประตู Crew Cab มาให้เราได้ขับกันอย่างเต็มที่ และเมื่อพูดถึงรถยนต์นั่ง 4 ประตู เราก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ด้านหน้าที่กว้างสบาย แต่ผู้โดยสารด้านหลังจะอึดอัดหรือไม่ แต่คำถามข้อนี้ก็ถูกตอบโจทย์ไปแล้วตั้งแต่ต้น โดย Project Launch Manager ของ New! Ford ranger คุณ James Henderson ได้ ทดลองให้พวกเราดูว่า แม้เขาจะสูง 180 เซนติเมตร มีขาที่ยาวและช่วงกายที่ใหญ่แบบฝรั่งจ๋า แต่ New! Ford Ranger ใหม่ นั้น ยังสามารถตอบโจทย์การนั่งได้ ที่ บอกว่า รถคันนี้เหมือน 3 ใน 1 คือ เอาข้อดีของ Toyota hilux หรือ Vigo ทางด้าน shoulder room และ การเอนของเบาะหลังเล็กน้อย ข้อดีเรื่องระยะวางขา Leg room จาก Nissan Navara เมื่อมารวมกับพื้นที่เหนือศีรษะของ Ford ก็ทำให้ Ford Ranger มีพื้นที่ห้องโดยสารดีที่สุดในตลาด แม้คนขับจะขายาวถอยเบาะหลังจนสุดก็ตาม
สมรรถนะเหลือเชื่อเครื่อง 2.2 ลิตร ที่ไม่ควรมองข้าม
ในที่สุดหลังจากฟังบรรยายกันมานานจนรากแทบงอก Ford ก็พร้อมที่จะพาเราไปสัมผัสประสบการณ์ของ New! Ford Ranger ใหม่ ที่ได้ตระเตรียมรถเอาไว้หลายคัน โดยอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า งานนี้เป็นรถรุ่น 4 ประตูทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติและธรรมดา 6 สปีด ในขณะที่ตัวท๊อป 3.2 ลิตร มีเพียง 2 คัน ทำให้อาจจะยังไม่สามารถตอบเรื่องการขับขี่ในรุ่นใหญ่ได้
ทีมงาน Sanook! Auto นั้น ได้รับคัดเลือกให้ไปขับ New! Ford Ranger รุ่น 2.2 ลิตรพร้อมเกียร์อัตโนมัติ และทันทีที่ได้เวลาเตรียมออกเดินทาง เราก็บิดกุญแจสตาร์ทขุมพลังใต้ฝากระโปรง ที่ทำเอาเรางงในความเงียบทำให้รู้สึกถึงความเป็นรถเก๋งมากกว่ากระบะ เสียงเครื่องที่เดินเรียบนิ่งเนียนในรอบเดินเบานั้นทำให้ห้องโดยสารนั้น เงียบ พอสมควร จนต้องเอื้อมือไปเปิดเสียงเพลงจากวิทยุ ที่ ford จัดเพลงนอกขาแดนซ์มาให้สนุกสุดเหวี่ยงในอารมณ์ลองเร่งเสียงนิดเพื่อฟังความ ตึ๊บของเครื่องเสียงนั้น ก็ทำได้ดีหนักแน่นแต่อย่าคาดหวังว่ามันจะดีมากในระดับที่สามารถไปโชว์พาโคโย ตี้ขึ้นมาโยกบนรถได้
หลังจากตระเตรียมเสร็จสรรพขบวนเราก็เริ่มออกเดินทางจาก โรงแรม Le Meridian เชียงรายสู่ท้องถนนในจังหวัด คันเกียร์ที่เรามองเล็กนั้น แต่เมื่อเริ่มใช้งานจริง มันกลับง่ายยิ่งกว่า และที่สำคัญยังมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการไม่เเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ถ้า คุณไม่เหยียบเบรค ทำให้หลายคนที่ชอบใช้วิธีลัดอาจจะไม่ชอบใจ โดยเฉพาะจาก P ไป R N D แต่นับว่ามีประโยชน์พอสมควร ในเรื่องของความไม่ประมาท ยิ่งขับในเขตเมือง
เมื่อรถเคลื่อนตัว อัตรา Walking speed ของ New! Ford Ranger ใหม่นั้นทำได้ดีเกินคาด แรงบิดของเครื่อง 2.2 ลิตร สามารถพารถเคลื่อนตัวช้าได้ แต่จะดียิ่งขึ้นถ้าสับไปยังโหมดเกียร์ธรรมดา ที่ให้เลือกเล่นที่ด้านขวาของตำแหน่ง D รถก็จะมีอัตราความเร็วเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าใช้ได้ดีทีเดียว
เรามีโอกาสเล่น walking speed อยู่ไม่นานก็เริ่มเข้าสู่ถนนใหญ่ในเมืองของตัวจังหวัดเชียงราย ซึ่งแม้จะเป็นวันจันทร์ยามบ่าย แต่การจราจรก็ยังเยอะพอตัว เพียงแค่ไม่คับคั่ง Ford Ranger นั้นก็ตอบการเดินทางในความเร็วต่ำ ด้วยการตอบสนองที่ฝ่าเท้าทันใต กับกำลังลังแรงบิด 375 นวตันเมตร ที่ปรับให้เป็น flat Torque เรียกได้ดีตั้งแต่ 1500-2500 ให้แรงม้าสูงสุด 150 ตัว แต่ขับในเมืองนี้ การตอบสนองที่ดี เป็นเรื่องที่สำคัญ และแม้จะบึกบึนถึกแบบกระบะทรงอเมริกันแท้ๆ แต่ มันก็คล่องแคล่วว่องไว้อย่างไม่น่าเชื่อ กดเป็นมาไม่ต้องพูดอย่างอื่น และการเซทแรงบิดในรอบใช้งานนั้นมีข้อดีที่ทำให้คนไม่ติดนิสัยลากรอบ ซึ่งทำให้อัตราการสึกหรอนั้นสูงไปด้วย
ช่วงที่อยู่ในเมืองนั้น เราคิดไว้ล่วงหน้าว่าการขับกระบะบิ๊กไซส์นั้นน่าจะทำให้เรารู้สึกอึดอัด แต่มันกลับกลายเป็นว่ารถคันนี้คล่องตัวมากกว่าที่เห็น ส่วนหนึ่งมาจากระยะยื่นหน้าที่สั้นทำให้รถมีความคล่องที่ดีพอสมควร การเปลี่ยนเลนรวดเร็วหรือซอกแซกนั้นทำได้ไม่เลวสำหรับกระบะที่ยาวถึง 5.3 เมตร ยิ่งรวมกับอัตราเร่งจากเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ลงตัว ก็ถือว่าครบครันเลยทีเดียว
เราใช้เวลาสักพักกับการจราจรในเมืองเชียงราย และ New! Ford Ranger ใหม่ ก็แสดงศักยภาพได้น่าประทับใจ พอสมควร ก่อนที่จะต่อเนื่องไปยังนอกเมืองเชียงรายเพื่อทดสอบย่านความเร็วสูง ที่อัดกันเต็มที่ใส่ไม่ยั่ง โดยผมทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 165 ก.ม./ช.ม. ในระหว่างขับขบวน แต่เมื่อลองลดความเร็วมาขับแบบปถุชนบ้าง ที่ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงยอดฮิตเรื่องประหยัดน้ำมันนั้นก็อยู่ที่ 1500 รอบต่อนาทีเท่านั้น ส่วนใครที่เร็วหน่อยให้เหมาะกับการเดินทาง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะเห็นรอบเครื่องแถวๆ 2100 รอบต่อนาที และในการขับเร็วนั้นเครื่องยนต์บล็อกเล็กนี้ยังตอบสนองได้ดี ทุกจังหวะไม่มีขาดเลยแม้แต่น้อย ยิ่
หลังจากเดินทางพื้นราบกันมาพอสมควร ford ก็เริ่มจัดเส้นทางเขาให้เราพิสูจน์สมรรถนะเครื่อง 2.2 ลิตร กันอย่างเต็มพิกัดความแรง และเส้นทางสุดโหดไปยังแม่สรวยนี้ก็อาจจะพาหลายคนคย่อนได้ แต่ไม่ใช่กับเครื่องยนต์ของ New! Ford Ranger ที่ให้กำลังตอบสนองทันท่วงทีเรียกเป็นมาตลอด ถามหาน้องม้าเมื่อไรก็มากันแบบไว้ใจได้ แม้จะขึ้นเขาชันบนถนนหลวงก็ยังลอยตัววิ่งฉิว เร่งแซงได้ประทับใจ
บททดสอบจริงของกระบะแกร่ง ได้เวลาตะลุย
สิ่งอื่นๆนอกจากเครื่องยนต์ที่เราอาจจะยังไม่ได้พูด ถึงไปเกี่ยวกับ New! Ford Ranger ใหม่นั้น ก็คงไม่พ้นระบบช่วงล่างที่ถูกปรับแต่งมาอย่างดี ความสะเทือนในห้องโดยสารแข็งกระด้างโหดดิบ แบบกระบะ ถูกขลับให้มีความเป็นเก๋งด้วยช่วงล่างที่ฟิตเปรี๊ยะหนึบแน่น ตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะในย่านความเร็วสูงนั้นไว้วางใจ ไม่ว่าจะโค้งก็ตาม สามารถเข้าด้วยความเร็วสูง โดยไม่มีการโคลง จะเจอก็แต่แรงเหวี่ยงของโค้งเท่าน้น ที่มาต้อนรับความระทึกกัน
ตอนนี้เราเดินทางมาถึงช่วงของความมันส์ในแบบขาลุย ที่จะขึ้นสู่ดอยช้างเพื่อรับบบรรยากาศป่าเขาลำเนาไพรเล็กน้อย โดยในช่วงเราได้เปลี่ยนรถมาขับ New! Ford Ranger 2.2 L A/T แต่เป็นตัวขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่น Wild Trak ซึ่งเหมาะเส้นทางลุยๆมากกว่า
ในเจ้าตัว Wild Trak นี้สิ่งที่แตกต่างนั้ นจะเป็นการตบแต่ง ทั้งภายนอกและภายในที่ดูสปอร์ตดุดันมากยิ่งขึ้น ภายนอกนั้นให้ความโหดดิบ กับกระจังหน้า และกันชนหน้าหลัง รมดำ ทำให้รถดูถึกขึ้นไปอีก บนหลังคามี Roof Rail และ Sport Bar ที่กระบะเพิ่มความลู่ลมยิ่งขึ้นขึ้น เช่นเดียวกับในห้องโดยสาร ที่มีการตบแต่งเดินด้ายสไตล์รถซิ่งแบบ ดำส้ม ให้ความสปอร์ตยิ่งขึ้น และแต่งเติมออพชั่น Cruise Control เข้ามา เพิ่มความสะดวกสบายเพิ่มเติมด้วย
สิ่งต่างๆที่เพิ่มเข้ามานั้นย่อมหมายถึงราคาที่เพิ่มเข้ามาด้วย แต่ใน Wild Trak นั้นให้อารมณ์สปอร์ตที่ลงตัวแต่ทุกอย่างยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความอรรถประโยชน์ความสบาย และเราก็ล้อหมุนเดินทางต่อขึ้นดอยช้างกัน
เส้นทางขึ้นสู่ดอยช้างนี้เป็นเส้นทางถนนสองเลน ต้อนเราเข้าสู่ขุนเขาอ้อมกอดของธรรมชาติ โดยในสภาวะอากาศที่ขับขี่นั้นปลอดโปร่งออกแนวแดดร้อน แต่เราก็อยุู่ในช่วงอุณหภูมิที่ 26 องศาเซลเซียส โดยประมาณ และขบวนเขาเราก็วิ่งผ่านขุนเขา ซึ่ง New! Ranger Wildtrak ก็แสดงสมรรถนะในเรื่องช่วงล่างอย่างต่อเนื่องของเรนเจอร์ใหม่ ที่้หนึบแน่น เข้าโค้งดี โดยไม่ต้องตัดโค้งให้ลำบาก ไม่ว่าจะโค้งความเร็วต่ำ-สูง หรือมาแบบม้วนพับผ้าก็ผ่านสบาย เช่นเดียวกับสภาพหลุม-บ่อของถนนก็สะเทือนเหล็กแต่ไม่แข็งกระด้างให้ความเป็น รถนั่งมากกว่า
ระหว่างการเดินทางนั้น บ่อยครั้งที่เราเจอทางขึ้นชัน ซึ่งทำให้เราต้องไล่ลงมายังตำแหน่งเกียร์ 2 และลองไต่ แต่ความชันนี้ก็เริ่มพาเครื่อง 2.2 ลิตร ออกมาอาการเล็กๆ จนเราลืมสับเกียร์ไปบ้าง เมื่อรอบเครื่องตกลงน้อยกว่า 1500 รอบ ต่อนาที ผลที่ตามมาก็คือเครื่องยนต์ไร้กำลังห้อยลงไปทันตาเห็น ซึ่งในกรณีที่ทดสอบด้วยรถเปล่า พร้อมผมและพีอาร์สาวนี้ ถือว่ายังพอรับไหว เพียงสับเกียร์ลงไปตำแหน่งเกียร์ 1 และนับ 1-5 /10 ตามแต่เนินชัน ก็จะกลับมาทะยานโลดแล่นไปได้อีกครั้ง แต่เรายังนึกถึงเวลา ที่มีผู้โดยสารเต็มคันบวกสัมภาระ หรือบรรทุกหนัก อันนี้ก็น่าคิดเหมือนกัน
ได้เวลาลุยป่าทางออฟโรดกับ 2.2 ลิตร
หลังผ่านทางเขาวนเวียนงงงวยมาได้พร้อมกับความมึนๆหัว เล็กๆ ทั้งคนขับและคนนั่งที่พายิ้มๆว่า เป็นเหมือนกันเลย เราก็มาซดกาแฟดอยช้าง ก่อนออกเดินทางกันต่อไปเพื่อลงเขาไปยังที่พักจุดเริ่มต้นกัน
ในช่วงนี้เส้นทางนั้นถูกวางให้ตัดลงเขาด้วยการผ่านป่าอันเขียวขจีที่ตัด ออกไปยังแถววัดร่องขุ่นได้ และก็ไม่ใช่รถทุกคันจะสามารถผ่านไปได้ เพราะ ต้องเผชิญกับเส้นทางสุดโหดระดับพาอาหารกลางวันหนีออกทางปากได้ ทั้ง ออฟโรด และทางลูกรัง ที่ยังไม่นับรวมการผ่านกระแสน้ำของฝายน้ำล้นสั้นที่พาระทึกได้และเท่าที่ ผ่านมีแต่รถของชาวบ้านเท่านั้นที่จะใช้เส้นทางนี้
เส้นทางสุดโหดต้อนรับเรากับความโหดในระดับที่ค่อนข้างหินเหมือนกัน แต่โชคดีที่เราใช้รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเลยเป็นโอกาสใช้ระบบขับ 4 ตั้งแต่เริ่มขึ้นมา ในตอนแรกเราใช้เกียร์ 4 H เพื่อกระจายกำลังเครื่องยนต์ไปยังเพลาหน้า ซึ่งตำแหน่งที่ปรับระบบการขับเคลื่อนนั้นก็เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนหมุนเรียง กันไป 2 H-4H และ 4L
ในเกียร์ขับ 4 นี้อีกครั้งที่เราปล่อยWalking speedและมันก็ยังไปได้ดี ไม่ต้องแตะคันเร่งอุปสรรค อย่างหลุมลึกๆ ก็ง่ายดาย ขอแค่ถือพวงมาลัยให้มั่นก็เพียงพอ เส้นทางขุรขระนี้ค่อนจะยาวและเราก็ไต่กันไปเรื่อง จนมาถึงช่วงเนินชันสูงนั้น ก็ปรับตำแหน่งไปยัง 4L เพื่อใช้ความสามารถเต็มที่ในการไต่ขึ้นไป ในทางฝุ่นและรถนั้นก็ตอบสนองได้ดี แม้เนินชันนั้นจะต้องเร่งช่วยบ้างแต่แค่ 1500 รอบ ซึ่งเป็นรอบเริ่มต้นของแรงบิดจากเทอร์โบก็สามารถฝ่าฝันอุปสรรคมาได้ ก่อนที่เราจะเข้าสู่ช่วงทางฝุ่นที่เรากลับมายัง 4H เพื่ออัดกันเต็มๆดูการเสียบอาการของรถ แต่การส่งกำลังลงสองเพลานี้ ก็ทำให้รถยิ่งสเถียรมากขึ้นกว่าเดิม และยังเข้าโค้งหนึบแม้จะปกคลุมด้วยดินแดงที่ต่อไปยังอนุสาวรีย์ ...ไม่ใช่! ใครว่าทางลูกรังต่างหาก
ในที่สุดเราก็มาถึงช่วงของการลงเขาที่งานนี้เหมือนมีคนแกล้งเอาน้ำมาโรย จนลื่นปรื้ดๆ แต่มันอาจจะเป็นความชื้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ford ได้บอกว่าพวกเขาสามาาถเอาตัว 3.2 ลิตรลงเขาแบบไม่ต้องแตะเบรคได้ และด้วยความห้าวเลยทำเช่นกันใน Wildtrak ลองทำแบบในวีดีโอที่บอกว่า เขาตำแหน่งเกียร์ 2 และ ไปกันเลย ผลคือสามารถทำได้จริง แต่ในวีดีโอเข้าใช้ระบบ Hill Decent ซึ่งช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ แต่เราลองใช้ 4L เพื่อกระจายแรงบิดและน้ำหนักลงแต่ละล้อ ทว่าสุดท้ายก็ได้เบรค เพราะคันหน้าเบรค ก่อนที่เราจะลงไปลุยน้ำระดับมิดล้อประมาณ 60 เซนติเมตร แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี และมันพิสูจน์ความแกร่งของ New! Ford Ranger ว่ามันคือตัวจริงเรื่องลุย
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เราและ New! Ford Ranger ที่ไม่นับพีอาร์สาวแสนสวยเราได้ควงกันไปพบบททดสอบรถกระบะอเมริกันคันนี้ แต่ต้องยอมรับว่า New! Ford ranger ใหม่มีดีกรีที่ลงตัวสมรรถนะที่ดี ทั้งความสบายและความสมบุกสมบันที่ผสมได้อย่างลงตัว จนการตลาดถึงกับเอ่ยปากว่า New! Ford Ranger ก็ไม่ต่างอะไรจาก Jame Bond 007 ที่หล่อเนี๊ยบ แต่ยังสู้งานและทันสมัยไปพร้อมๆกัน
ตารางคะแนนผลการทดสอบ New! ford Ranger
คะแนนการทดสอบโดยรวม 93 คะแนน
| หัวข้อ | คะแนนเต็ม (25) | คำติชมและข้อเสนอแนะ |
| รูปลักษณ์ภายนอก | 25 | ภายนอกแข็งแกร่งบึกบึนถอดแบบจากรุ่นพี่ถูกใจเรามากถึงมากที่สุด เมื่อิเทียบกับกระบะเก่า มันใหญ่กว่าเห็นๆและชัดเจนมาก เมื่อรวมการออกแบบที่ทันสมัยดูดีลงตัว ใส่ใจในรายละเอียด โดยเฉพาะรุ่น wildtrak ก็ไม่ต้องสงสัยเลยในเรื่องนี้ |
| ภายในห้องโดยสาร | 23 | ภายในทำได้ดีและทันสมัยมาก ที่สำคัญสอดรับภายนอกที่แข็งแกร่ง มันก็ลงตัวดีมากพอตัว แต่เรื่องหนึ่งที่ฟอร์ดไม่เคยเปลี่ยนคือต้องงอมือกดกระจกไฟฟ้า ขอทีเถอะ รู้สึกว่าต้องทำท่าไก่ย่างทุกทีที่กดกระจก |
| สมรรถนะเครื่องยนต์และความประหยัด | 23 | เรื่องเครื่องยนต์นั้นทำได้ดีลงตัวมากมาย 2.2 ลิตรดีเซลไม่ธรรมดาจริง แต่เรายังไม่มีโอกาสลองตัว 3.2 ลิตร แต่ถามเรื่องความประหยัดนั้นจากข้อมูลที่มีคือ 13.2 กิโลเมตรต่อลิตรโดยเฉลี่ย ซึ่ง ก็ตรงกับที่เราขับ เพราะตลอดเส้นทางทดสอบน้ำมันลดไปเฉลี่ยครึ่งล็อกขีดแรก ของถัง 80 ลิตร ผลคือประมาณตัวเลขเดียวกันกับที่กล่าวมา แต่มีติเรื่องการใช้ Flat torque ที่มีข้อดี เรื่องการเรียกง่ายใช้ดี แต่พอเหี่ยวแล้วเหี่ยวเลย ซึ่งเราอยากจะทดสอบสภาพบรรทุกจริงมากกว่า แต่มันไม่ได้หมายความว่าเครื่องบล็อกเล็กไม่ดีนะ อย่าเข้าใจผิด |
| ระบบกันสะเทิอนและเทคโนโลยี | 22 | เป็นที่น่าเสียดายว่าเทคโนโลยีที่นำมาเสนอส่วนใหญ่ดันไปอยู่ในรุ่น 3.2 ลิตรเกือบหมด แต่กับกระบะนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อรุ่นท๊อปไปขับเหมือนที่อาจจะเคยทำได้ใน fiesta ซึ่งสิ่งที่ ford พยายามดันลูกค้าขึ้นไปนั้น คงจะไม่ได้ผล แต่ก็เข้าใจในเรื่องของการตลาดที่อยากนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถ้าเอามันลงมาในรุ่นเล็กบ้างก็จะดีไม่น้อย แต่เท่าเห็นมีหลากอุปกรณ์มาตรฐานที่ี รวมถึงความปลอดภัยด้วย เพียงแต่ฝากไปคิดสักเล็กน้อยเป็นการบ้าน ส่วนเรื่องของช่วงล่างเซทดีแล้ว ทำได้ดีทุกเส้นทาง วางใจได้ในการขับขี่ |
เรื่องโดย ณัฐ ยศ ชูบรรจง
ภาพโดย Ford Thailand
ขอบคุณ Ford Thailnd ที่เอื้อเฟื้อการเดินทางไปทดสอบรถยนต์ในครั้งนี้มา ณ ที่นี้ ด้วยครับ
sanook.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น