“ระบบควบคุมการทรงตัว“ ...ตัวช่วยน้องใหม่มั่นใจได้มากขึ้น

หากพูดถึงการขับขี่รถยนต์แล้วพวกเราหลายคนไม่มีใครที่อยากจะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพียงเพราะการประมาท ตามอย่างที่เขาว่า "เราทุกคนรักตัวกลัวตาย" นั่นจึงเป็นที่มาของระบบความปลอดภัย ที่ได้ถูกใส่ใจพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทุกยุคทุกสมัย

ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่อย่างมากมายในรถยนต์รุ่นใหม่ที่เราหลายคนแทบไม่เคยได้ใช้เลยนั้น ล้วนเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์วันนี้ที่ทำให้มั่นใจได้ยิ่งขึ้นในการขับขี่ตั้งแต่การเบรคที่มีการป้องกันล้อล็อค ABS ไปจนถึง ถุงลมนิรภัย ไม่เว้นกระทั่งโครงสร้างของรถที่ออกแบบให้ซับแรงกระแทกมากขึ้น แต่วันนี้ระบบควบคุมการทรงตัวกำลังเป็นอีกหนึ่งที่ค่อยๆย่างกลายเข้ามาในรถยนต์รุ่นใหม่

พวกเราหลายคนไม่เคยรู้จักระบบควบคุมการทรงตัวกันมาก่อน แต่ความจริงแล้วระบบ Electronic Stability Control หรือย่อสั้นๆ ว่า ESC ที่ชื่อแปรเปลี่ยนไปตามค่ายรถยนต์ต่างๆ นั้นถูกนำมาติดตั้งในรถยนต์รุ่นใหม่มากมายหลายรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มซีดานกลางที่มีแทบทุกรุ่นที่วางจำหน่าย

หน้าที่ของระบบควบคุมการทรงตัวนั้น มันมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนที่ของรถเมื่อเกิดอาการลื่นไถล โดยระบบจะทำการสั่งเครื่องยนต์ให้ลดการทำงาน พร้อมกับส่งแรงดันเบรคไปยังล้อต่างๆ เพื่อทำให้สามารถควบคุมอาการที่ไม่พึงประสงค์เช่น UnderSteer (หน้าดื้อ) หรือ Oversteer (ท้ายปัด) ทำให้รถสามารถควบคุมในเวลาที่คับขัน และสามารถลดภาวะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

ระบบ ESC นั้นแนะนำครั้งแรกในช่วงปี 1995 โดย Mercedes Benz ใส่มันมาในรถรุ่น S-Class ในช่วงนั้น ตามด้วย BMW และ Volvo ที่แนะนำในปี 1998 ในรุ่น Volvo S80 ส่วนด้านค่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ไม่น้อยหน้า เมื่อ Toyota ติดตั้งระบบแบบเดียวกันใน Toyota crown Majesta ตั้งแต่เมื่อปี 1995 ก่อนที่อีก 9 ปีให้หลังจะใช้ชื่อว่า VDIM

ในบ้านเรานั้นระบบ ESC เริ่มมีการแนะนำอย่างแพร่หลายมากขึ้นในรถยนต์ใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทั้งในคอมแพ็คคาร์และซีดานกลาง ที่วางจำหน่ายมากมายในตลาด ในขณะที่ระบบนี้ยังลงมาไม่ถึงรถรุ่นระดับร่างเหมือนในต่างประเทศ แต่จากการศึกษาล่าสุดในสหรัฐนั้นก็แสดงให้เห็นว่าระบบ ESC สามารถช่วยลดภาวะการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่า 18 % เลยทีเดียว หลังจากที่เริ่มมีการแนะนำในรถยนต์หลายๆรุ่น ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

เมื่อไม่นานมานี้สำนักงานคณะกรรมการความปลอดภัยทางถนนหลวงของสหรัฐหรือ NHTSA ได้มีการศึกษาโดยนำสถิติการเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่ช่วงปี 1997-2009 มาศึกษาและพบว่าระบบควบคุมการทรงตัวสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุในภาพรวมได้มากถึง 6 เปอร์เซ็นต์จากเดิม โดยในกลุ่มรถนั่งสามารถช่วยได้ถึง 23 % ในกลุ่มรถเชิงพาณิชย์สามารถทำได้ถึง 20% ทำให้สามารถชี้ชัดว่าระบบควบคุมการทรงตัวเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้หน่วยงานในสหรัฐได้มีการบังคับค่ายรถยนต์ให้ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัวเอาไว้ในรถทุกรุ่นที่จะวางจำหน่ายที่จะวางจำหน่ายในปีหน้า ส่วนบ้านเรานั้นแม้จะยังไม่มีหน่วยงานที่มารับบทบาทผู้ดูแลประชาชนที่ใช้รถกันอย่างจริงจัง แต่ระบบควบคุมการทรงตัวนั้นเป็นหนึ่งในระบบสำคัญที่สามารถป้องกันก่อนเกิดการชนได้