ในที่สุดต้นแบบที่ถูกเปิดตัวงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2010 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็กลายเป็นความจริงจนได้ เมื่อโอเปิลเผยโฉมรุ่นขายจริงของแอสตรา มาดสปอร์ตที่จะถูกส่งมาประกบกับโฟล์คสวาเกน ซิร็อคโค่อออกมาแล้ว โดยใช้ชื่อต่อท้ายว่า GTC และเริ่มทำตลาดในยุโรปปลายปีนี้
|
งานนี้เรียกได้ว่าเป็นการปรับไลน์อัพของแอสตราใหม่กันเลยทีเดียว เพราะตัวถังนี้จะไม่มีรุ่นแฮทช์แบ็ก 3 ประตูทำตลาดเหมือนกับที่ผ่านมา แต่จะมีแค่รุ่น 5 ประตูและสเตชันแวกอนเท่านั้น เพราะว่าตัวถังแบบ 3 ประตูถูกอัพเกรดความสปอร์ตและเปลี่ยนกลุ่มตลาดใหม่ โดยหันไปชิงยอดขายกับกลุ่มสปอร์ตคอมแพ็กต์แทน แง่พื้นฐานของตัวรถก็ถือว่าเป็นการแชร์รายละเอียดทางวิศวกรรมรวมถึงงานออกแบบร่วมกับแอสตรา โดยใช้รูปลักษณ์ของตัวถังด้านหน้าจนถึงเสากระจกบังลมหน้า รวมถึงแผงมาตรวัดและแผงหน้าปัดร่วมกัน แต่ก็มีการแต่งเติมเสริมหล่อให้กับรูปลักษณ์ด้านหน้าด้วยกันชนหน้าแบบใหม่ ขณะที่ด้านท้ายออกแบบใหม่ เน้นความสวยและสปอร์ตในแบบคูเป้ท้ายตัด
|
สำหรับรายละเอียดทางด้านมิติตัวถังถือว่ามีการปรับเปลี่ยนจากรุ่น 5 ประตู โดยมีความสูงลุดลง 15 มิลลิเมตร ขณะที่ระยะฐานล้อถูกเพิ่มขึ้นจาก 2,685 มาเป็น 2,695 มิลลิเมตร เพิ่มความกว้างช่วงล้อหน้าและหลังเป็น 1,584 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 40 มิลลิเมตร) และ 1,588 มิลลิเมตร (+30 มิลลิเมตร) เพื่อการทรงตัวและการยึดเกาะที่ดีขึ้น และเสริมความหล่อด้วยล้อแม็กขนาด 17-20 นิ้วขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องยนต์ ทางเลือกของเครื่องยนต์ถือว่ามีความหลากหลาย และไม่ได้เน้นไปที่ความเร้าใจในการขับขี่เพียงอย่างเดียว เรียกว่าถ้าอยากแรงก็มี แต่ถ้าต้องการแค่ความโฉบเฉี่ยวของตัวถังแต่เครื่องยนต์ต้องประหยัดน้ำมัน…อันนี้ก็มีให้เลือกเช่นกัน
|
|
รุ่นเบนซินเป็นขุมพลัง 1,400 ซีซี เทอร์โบ ที่มี 2 ทางเลือก คือ 120 และ 140 แรงม้า พร้อมกับติดตั้งระบบ Auto Start/Stop ซึ่งจะดับเครื่องยนต์เองโดยอัตโนมัติเมื่อจอดติดอยู่กับที่ เพื่อช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมัน และลดการคายไอเสีย ส่วนรุ่นท็อปของเบนซินเป็นตัวแรง 180 แรงม้าจากเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี เทอร์โบ ที่ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และมีความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับรุ่นเทอร์โบดีเซลเป็นหน้าที่ของขุมพลัง 2.0 CDTi มีกำลังสูงสุด 165 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และติดตั้งระบบ Auto Start/Stop มาให้ด้วย รุ่นนี้มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 8.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมความประหยัดในระดับ 20 กิโลเมตร/ลิตร ดังนั้นน้ำมัน 1 ถัง 56 ลิตร สามารถแล่นทำระยะทางได้มากกว่า 1,000 กิโลเมตรกันเลยทีเดียว
|
โอเปิลจะนำความสปอร์ตรุ่นนี้ออกจัดแสดงครั้งแรกในงาน FOS หรือ Festival of Speed ที่ Goodwood ประเทศอังกฤษ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคมนี้ โดยจะมีขายในอังกฤษด้วยแบรนด์วอกซ์ฮอลล์เหมือนกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของโอเปิล ส่วนราคาเริ่มต้นในแดนผู้ดีอยู่ที่ 18,945 ปอนด์ หรือ 947,000 บาท
|
รายการที่เกี่ยวข้อง: รถยนต์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น